
หมวด หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง – หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน
พระพุทธแก้วสารพัดนึก(หลวงพ่อดำ)รุ่นแรก หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี

ชื่อร้านค้า | ตลับเงินตลับทอง - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า) |
---|---|
ชื่อเจ้าของร้านค้า | |
ชื่อพระเครื่อง | พระพุทธแก้วสารพัดนึก(หลวงพ่อดำ)รุ่นแรก หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี |
อายุพระเครื่อง | 30 ปี |
หมวดพระ | หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง – หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน |
ราคาเช่า | - |
เบอร์โทรติดต่อ | (ไม่แสดงเบอร์ เนื่องจากรายการนี้ไม่ได้ปล่อยเช่า) |
อีเมล์ติดต่อ | nongbluestar@yahoo.com |
LINE |
(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
|
สถานะ |
![]() |
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ | ส. - 04 ก.ค. 2563 - 14:00.10 |
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ | พฤ. - 01 ธ.ค. 2565 - 07:03.46 |
รายละเอียด | |
---|---|
พระพุทธแก้วสารพัดนึก(หลวงพ่อดำ)รุ่นแรก หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน อ.พรหมบุรี จ..สิงห์บุรี เนื้อสัตตโลหะ ปี 2538 พระพุทธแก้วสารพัดนึกนี้ จุติฤกษ์ วันอาทิตย์ที่ 29 มกราคม พ.ศ.2538 เวลา 8.49 น. ตรงกับวันแรม 14 ค่ำ เดือน 2 ซึ่งเป็นเพชรฤกษ์ จำนวนการสร้างทั้งหมด 3644 องค์ แบ่งเป็น เนื้อทองคำ 5 องค์, เนื้อเงิน 91 องค์, เนื้อนวะโลหะ 97 องค์, เนื้อสัตตะโลหะ 298 องค์ เนื้อทองเหลืองรมดำ 3153 องค์ ใต้ฐานองค์พระ บรรจุผงพุทธคุณ ผสมผงวัดระฆัง และเกศาหลวงพ่อจรัญ ปลุกเสกพร้อมกับพระกริ่งสุทธิญาณมงคล รุ่นแรก ปี2538 เนื้อนวะโลหะ อีกจำนวน 108 องค์ พุทธคุณเด่นในด้านเมตตามหานิยม แคล้วคลาด ปลอดภัย ประวัติการสร้างพระพุทธแก้วสารพัดนึก (หลวงพ่อดำ) โดย เทียนชัย ภู่พิพัฒน์ ในหอประชุม ภาวนา-กรศรีทิพา มีพระพุทธรูปองค์หนึ่ง เป็นพระพุทธรูปเชียงแสน ทรงเครื่องสิงห์สาม ประยุกต์ ทวาราวดีกับลพบุรี ประวัติของหลวงพ่อดำ รัศมีหรือพระเกศเป็นของเก่า ส่วนองค์ของท่านไปอยู่พม่า ในสมัยที่พม่ายกทัพเข้ามาตีไทย พระเกศได้หลุดอยู่บริเวณถ้ำ แถวอำเภอฝาง หลังจากนั้นท่านผู้ช่วยศึกษาธิการอำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ได้มอบให้ ดร.กิ่งแก้ว อัตถากร เมื่อเดือนเมษายน ๒๕๑๔ คราวไปออกค่ายอาสาพัฒนาของวิทยาลัยวิชาการศึกษาพระนคร เพื่อสร้างโรงเรียน บ้านสันป่าข่า กิ่งอำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อ ดร.กิ่งแก้ว ได้รับพระเกศมาแล้ว ได้เกิดความคิดขึ้นว่าจะสร้างพระถวาย จนเวลาได้ล่วงเลยมาได้ ๑๐ ปี ดร.กิ่งแก้ว เห็นว่าเป็นกาลเวลาอันควรแล้ว จึงได้นำมาถวายไว้กับหลวงพ่อจรัญ ต่อมาเมื่อกลางปี พ.ศ.๒๕๒๖ นายบุญถิ่น อัตถากร บิดาของ ดร.กิ่งแก้ว ดำริที่จะสร้างองค์พระถวาย จึงได้ขอให้หลวงพ่อเป็นผู้หาแบบสร้างองค์พระเพื่อสวมพระเกศ หลวงพ่อได้นำพระเกศไปปรึกษากับช่างหล่อหลายราย บรรดาช่างก็ไม่สามารถจะบอกได้ว่าเป็นพระเกศ พระอะไร หลวงพ่อจึงได้ถามในกรรมฐาน จึงมีเสียงบอกมาว่า อีกสามวันจะมีคนมาหา คนแรกก็ให้ไป เมื่อครบสามวันแล้ว ปรากฏว่า คุณเทียนชัย ภู่พิพัฒน์ ได้มาหาหลวงพ่อที่วัดอัมพวันเป็นคนแรก หลวงพ่อก็แปลกใจว่า คุณเทียนชัยมีอาชีพทางทำแร่ จะมีความรู้ทางหล่อพระได้อย่างไร แม้กระทั่งช่างหล่อที่มีอาชีพทางด้านนี้ก็ไม่สามารถจะรู้ได้ จึงลองปฏิบัติตามเสียงในกรรมฐานที่บอกไว้ โดยหลวงพ่อได้นำพระเกศให้คุณเทียนชัยดู คุณเทียนชัยก็รับกับหลวงพ่อว่าจะนำไปปรึกษากับพรรคพวกดู ต่อมาประมาณหนึ่งอาทิตย์ คุณเทียนชัยได้กลับไปหาหลวงพ่อที่วัด พร้อมกับรูปสเก๊ตช์พระพุทธรูปเชียงแสนทรงเครื่อง หน้าตักกว้าง ๓๐ นิ้ว ไปให้หลวงพ่อดูพร้อมกับเล่ารายละเอียดให้ฟังว่า ตนได้นำพระเกศนี้ไปให้ จ่าเอก อำนวย แสงวิรุฬ ทหารเรือนอกราชการ ช่างหล่อพระแถวบ้าน ช่างหล่อดู จ่าอำนวย ก็ไม่ทราบว่าเป็นพระเกศพระอะไร จึงได้นำไปปรึกษา นายจำรัส จันทร์รัตนแสงสี ช่างปั้นพระ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันว่ามือชั้นอาจารย์ อาจารย์จำรัสได้นำไปเทียบกับหนังสือภาษาอังกฤษเล่มหนึ่งได้รู้ว่าพระเกศนี้ เป็นพระเกศขององค์พระเชียงแสนทรงเครื่อง จึงได้วาดภาพเหมือนออกมา และบอกว่า พระรุ่นนี้ เป็นพระที่กษัตริย์สร้าง ประชาชนไม่กล้าแตะต้องสิ่งของที่กษัตริย์สร้าง จึงไม่นิยมหรือกล้าสร้างกันในสมัยนั้น จึงพบน้อยมาก หลวงพ่อเห็นภาพสเก๊ตช์แล้วจึงได้ปรึกษากันสร้าง โดยคุณเทียนชัยได้เสนอว่าจะทำการเททองหล่อกันที่วัด หลวงพ่อท่านเกรงว่าจะเป็นที่ครหาว่าวัดจัดพิธีหล่อพระหาเงิน คุณเทียนชัยได้เสนอไปหล่อที่บ้าน นายเกษม นางฮงไล้ ภู่พิพัฒน์ ที่บ้านตลาด ท่าวุ้ง จังหวัดลพบุรี อันเป็นบ้านบิดาของคุณเทียนชัยเอง หลวงพ่อได้ตกลงตามที่คุณเทียนชัยเสนอ โดยได้กำหนดเททองในวันที่ ๑๒ ตุลาคม ๒๕๒๖ ในวันเททองเป็นวันที่มีพายุดีเปรสชั่นเข้าภาคกลาง ฝนยังตกหนัก แต่บริเวณพิธีหล่อกลับไม่มีฝนตก มีแต่ท้องฟ้ามืดครึ้ม เมื่อเททองหล่อเสร็จ ฝนจึงได้ตกลงมาเทใหญ่ แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคในการหล่อ บรรดาผู้มีจิตศรัทธาทั้งจากลูกศิษย์หลวงพ่อและมิใช่ ได้ร่วมใจสละทั้งเงิน ทองคำ นาค ทองแดง ทองเหลือง และเวลาอย่างเต็มใจ โดยเฉพาะโกศอดีตเจ้าเมืองลพบุรี ต้นสกุล “สุจริตจันทร์” มีทองคำพระราชทานผสมอยู่ในโกศหนักแปดบาท ลูกหลายได้สละมาลงเบ้าหลอมเป็นองค์พระแก้วสารพัดนึกหรือหลวงพ่อดำ ส่วนอภินิหารที่เกิดขึ้นกับคุณเทียนชัยเองก็ดี กับผู้มาปฏิบัติธรรม หรือบุคคลอื่น ๆ อีกหลายคน รวมทั้งจ่าอำนวย ช่างหล่อพระองค์นี้ จะขอให้คุณเทียนชัยเป็นผู้เล่า แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า การหล่อพระพุทธรูปแทนองค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรานั้น จะเกิดความศักดิ์สิทธิได้ เจ้าภาพในการหล่อ ผู้ร่วมหล่อก็ดีต้องทำใจให้สะอาดบริสุทธิ์ เสียสละ ปฏิบัติตามรอยพระพุทธองค์ต้องไม่มีกิเลสใด ๆ เข้ามาแฝงไว้นั้นแหละ พระพุทธองค์จะประสาทความศักดิ์สิทธิ์ให้เหมือนหลวงพ่อดำองค์นี้ จากหนังสือประวัติและผลงานของพระคุณภาวนาวิสุทธิ์ พ.ศ. ๒๕๓๐ |
พระเครื่องที่เกี่ยวข้องในร้านค้านี้...










อื่นๆ...
กำหลังโหลด Comments