พระหลวงพ่อโต กรุวัดบางกระทิง อยุธยา -ตลับเงินตลับทอง - webpra

เว็บ-พระ ประมูลพระเครื่อง ร้านค้าพระเครื่องออนไลน์

ตลับเงินตลับทอง

สิ้นลม สมบัติ ไม่ติดกาย ของดีมากมาย จะคู่กาย ผู้มีบารมีสืบต่อไป nongbluestar**081-6391688**

หมวด พระกรุ เนื้อดิน - เนื้อผง

พระหลวงพ่อโต กรุวัดบางกระทิง อยุธยา

ชื่อร้านค้า	ตลับเงินตลับทอง - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า	nongbluestar (23)
ชื่อพระเครื่อง	พระหลวงพ่อโต กรุวัดบางกระทิง อยุธยา
อายุพระเครื่อง	-
หมวดพระ	พระกรุ เนื้อดิน - เนื้อผง
ราคาเช่า	-
เบอร์โทรติดต่อ	(ไม่แสดงเบอร์ เนื่องจากรายการนี้ไม่ได้ปล่อยเช่า)
อีเมล์ติดต่อ	nongbluestar@yahoo.com
LINE	(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
สถานะ
Facebook	Share
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่	อา. - 14 ต.ค. 2561 - 15:32.34
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ	พฤ. - 27 ธ.ค. 2561 - 20:32.52

รายละเอียด
พระหลวงพ่อโตเป็นพระเนื้อดินเผา มีทั้งชนิดเนื้อละเอียดและเนื้อค่อนข้างหยาบ รวมทั้งมีพระเนื้อชินด้วย มีสัณฐานเป็นรูปสามเหลี่ยม องค์พระประทับนั่งขัดสมาธิราบ บนฐานบัวคว่ำบัวหงาย มีทั้งปางสมาธิ และ ปางมารวิชัย องค์พระคมชัดนูนเด่น พระพักตร์ใหญ่ และมักปรากฏรายละเอียดต่างๆ บนพระพักตร์อย่างครบถ้วน รวมทั้งเส้นสังฆาฏิ ด้านหลังองค์พระ ส่วนใหญ่มีรอยปาด ที่เรียกกันว่า "รอยกาบหมาก" พระหลวงพ่อโต กรุวัดบางกระทิง เป็นพระที่มีจำนวนสร้างมาก คาดว่าน่าจะเท่ากับ พระธรรมขันธ์ คือ ๘๔,๐๐๐ องค์ หรือมากกว่านั้น ทำให้พบเห็นโดยทั่วไป ในส่วนพระเนื้อดิน นับเป็นเนื้อดินที่เป็นเอกลักษณ์ของเมืองอยุธยา พุทธศิลป์ เป็นฝีมือของช่างสมัยอยุธยา อายุกว่า ๔๐๐ ปี ทางวัดเปิดกรุอย่างเป็นการ เมื่อปี ๒๔๘๑ ขณะรื้อโบสถ์เก่า เพื่อจะสร้างหลังใหม่ จึงได้พบพระหลวงพ่อโต บรรจุอยู่ใต้ฐานพระประธาน และ ขณะที่กำลังขุดหลุมนำลูกนิมิตเก่าขึ้นนั้นก็ ได้พบพระหลวงพ่อโตอยู่ในหลุมลูกนิมิตอีกจำนวนหนึ่ง และยังพบแม่พิมพ์พระหลวงพ่อโตด้วย หลังจากนั้น ทางวัดจึงได้นำพระส่วนหนึ่งออกมาแจกสมนาคุณแก่ชาวบ้าน ที่ร่วมทำบุญสร้างโบสถ์หลังใหม่ ส่วนพระที่เหลือได้นำบรรจุที่ฐานพระประธานในโบสถ์หลังใหม่ต่อไป เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2510 ท่านเจ้าอาวาส พระครูพิสิฐสังฆการ ได้เข้ามารักษาตัวที่กทม. ได้มีคนร้ายเข้ามาลักลอบขุดพระ ที่บริเวณฐานชุกชี ซึ่งเป็นอุโมงค์ลึกลงไป แล้วขนพระเครื่องที่บรรจุไว้ในนั้นออกมาจำนวนหนึ่ง พร้อมกับเอาแม่พิมพ์พระเก่าไปด้วย เมื่อเจ้าอาวาสกลับมา พอถึงตลาดบ้านแพน ท่านได้เห็นคนนำพระหลวงพ่อโตมาวางขายกันเป็นจำนวนมาก พอกลับมาถึงวัดก็พบว่า บริเวณพระอุโบสถหลังเก่าพบร่องรอยที่คนร้ายขุด บริเวณฐานชุกชี จนเสียหาย ต่อมาในวันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ.2510 ทางวัดจึงได้เปิดกรุเป็นทางการอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้ได้พบพระพุทธรูปจำนวนหนึ่ง กับพระหลวงพ่อโตหลายหมื่นองค์ กับพบพระโมคคัลลานะ พระสารีบุตรอย่างละองค์ และพบแผ่นยันต์เนื้อดินเผาเป็นรูปนกกาสักอยู่ในวงกลม ภายนอกเป็นกลีบบัวบานและอักขระขอม พอรุ่งขึ้นก็ขุดต่อ และพบพระหลวงพ่อโตอีก แต่ก็ต้องหยุดเพียงเท่านี้ เนื่องจากเกรง อาจจะทำให้องค์พระประธานเสียหายได้ การขุดทั้งสองวันได้พระหลวงพ่อโต 29 ปี๊บ พระหลวงพ่อโตที่พบมีทั้งปางสมาธิและปางมารวิชัย พระส่วนมากเป็นพระเนื้อดินเผา แต่ที่เป็นพระเนื้อชินก็มีพบบ้างแต่มีจำนวนน้อย นอกจากกรุวัดบางกระทิงแล้ว พระหลวงพ่อโตยังพบตามกรุวัดต่างๆ ทั้งใน จ.พระนครศรีอยุธยา และจังหวัดใกล้เคียง รวมทั้งบางวัดในกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นพระที่นำมาฝากกรุในภายหลังทั้งสิ้น การพิจารณาพิมพ์ทรงพระนั้น สิ่งที่ต้องยึดเป็นหลักในการพิจารณา คือ เนื้อพระ โดยเฉพาะ ความเก่า ที่เกิดขึ้นมาตามธรรมชาติ ซึ่งของปลอมไม่สามารถทำได้เหมือน เพราะเกิดจากการเร่งปฏิกิริยาเคมี หรือการเผาอย่างเร่งรีบ แต่ต้องระวัง เพราะของปลอม ส่วนหนึ่งจะมีจุดตำหนิเหมือนกับพระแท้เป็นอย่างมาก พุทธคุณ เลื่องลือมาอย่างช้านาน ในเรื่อง คงกระพันชาตรี มหาอุด ด้านเมตตามหานิยมก็เป็นเลิศ

รายละเอียด

พระหลวงพ่อโตเป็นพระเนื้อดินเผา มีทั้งชนิดเนื้อละเอียดและเนื้อค่อนข้างหยาบ รวมทั้งมีพระเนื้อชินด้วย มีสัณฐานเป็นรูปสามเหลี่ยม องค์พระประทับนั่งขัดสมาธิราบ บนฐานบัวคว่ำบัวหงาย มีทั้งปางสมาธิ และ ปางมารวิชัย องค์พระคมชัดนูนเด่น พระพักตร์ใหญ่ และมักปรากฏรายละเอียดต่างๆ บนพระพักตร์อย่างครบถ้วน รวมทั้งเส้นสังฆาฏิ ด้านหลังองค์พระ ส่วนใหญ่มีรอยปาด ที่เรียกกันว่า "รอยกาบหมาก"
พระหลวงพ่อโต กรุวัดบางกระทิง เป็นพระที่มีจำนวนสร้างมาก คาดว่าน่าจะเท่ากับ พระธรรมขันธ์ คือ ๘๔,๐๐๐ องค์ หรือมากกว่านั้น ทำให้พบเห็นโดยทั่วไป ในส่วนพระเนื้อดิน นับเป็นเนื้อดินที่เป็นเอกลักษณ์ของเมืองอยุธยา พุทธศิลป์ เป็นฝีมือของช่างสมัยอยุธยา อายุกว่า ๔๐๐ ปี
ทางวัดเปิดกรุอย่างเป็นการ เมื่อปี ๒๔๘๑ ขณะรื้อโบสถ์เก่า เพื่อจะสร้างหลังใหม่ จึงได้พบพระหลวงพ่อโต บรรจุอยู่ใต้ฐานพระประธาน และ ขณะที่กำลังขุดหลุมนำลูกนิมิตเก่าขึ้นนั้นก็ ได้พบพระหลวงพ่อโตอยู่ในหลุมลูกนิมิตอีกจำนวนหนึ่ง
และยังพบแม่พิมพ์พระหลวงพ่อโตด้วย
หลังจากนั้น ทางวัดจึงได้นำพระส่วนหนึ่งออกมาแจกสมนาคุณแก่ชาวบ้าน ที่ร่วมทำบุญสร้างโบสถ์หลังใหม่ ส่วนพระที่เหลือได้นำบรรจุที่ฐานพระประธานในโบสถ์หลังใหม่ต่อไป
เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2510 ท่านเจ้าอาวาส พระครูพิสิฐสังฆการ ได้เข้ามารักษาตัวที่กทม. ได้มีคนร้ายเข้ามาลักลอบขุดพระ ที่บริเวณฐานชุกชี ซึ่งเป็นอุโมงค์ลึกลงไป แล้วขนพระเครื่องที่บรรจุไว้ในนั้นออกมาจำนวนหนึ่ง พร้อมกับเอาแม่พิมพ์พระเก่าไปด้วย
เมื่อเจ้าอาวาสกลับมา พอถึงตลาดบ้านแพน ท่านได้เห็นคนนำพระหลวงพ่อโตมาวางขายกันเป็นจำนวนมาก พอกลับมาถึงวัดก็พบว่า บริเวณพระอุโบสถหลังเก่าพบร่องรอยที่คนร้ายขุด บริเวณฐานชุกชี จนเสียหาย
ต่อมาในวันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ.2510 ทางวัดจึงได้เปิดกรุเป็นทางการอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้ได้พบพระพุทธรูปจำนวนหนึ่ง กับพระหลวงพ่อโตหลายหมื่นองค์ กับพบพระโมคคัลลานะ พระสารีบุตรอย่างละองค์ และพบแผ่นยันต์เนื้อดินเผาเป็นรูปนกกาสักอยู่ในวงกลม ภายนอกเป็นกลีบบัวบานและอักขระขอม พอรุ่งขึ้นก็ขุดต่อ และพบพระหลวงพ่อโตอีก แต่ก็ต้องหยุดเพียงเท่านี้ เนื่องจากเกรง อาจจะทำให้องค์พระประธานเสียหายได้ การขุดทั้งสองวันได้พระหลวงพ่อโต 29 ปี๊บ พระหลวงพ่อโตที่พบมีทั้งปางสมาธิและปางมารวิชัย พระส่วนมากเป็นพระเนื้อดินเผา แต่ที่เป็นพระเนื้อชินก็มีพบบ้างแต่มีจำนวนน้อย
นอกจากกรุวัดบางกระทิงแล้ว พระหลวงพ่อโตยังพบตามกรุวัดต่างๆ ทั้งใน จ.พระนครศรีอยุธยา และจังหวัดใกล้เคียง รวมทั้งบางวัดในกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นพระที่นำมาฝากกรุในภายหลังทั้งสิ้น
การพิจารณาพิมพ์ทรงพระนั้น สิ่งที่ต้องยึดเป็นหลักในการพิจารณา คือ เนื้อพระ โดยเฉพาะ ความเก่า ที่เกิดขึ้นมาตามธรรมชาติ ซึ่งของปลอมไม่สามารถทำได้เหมือน เพราะเกิดจากการเร่งปฏิกิริยาเคมี หรือการเผาอย่างเร่งรีบ แต่ต้องระวัง เพราะของปลอม ส่วนหนึ่งจะมีจุดตำหนิเหมือนกับพระแท้เป็นอย่างมาก

พุทธคุณ เลื่องลือมาอย่างช้านาน ในเรื่อง คงกระพันชาตรี มหาอุด ด้านเมตตามหานิยมก็เป็นเลิศ