หมวด พระเนื้อผง เนื้อดิน เนื้อว่าน หลังปี 2525
ขุนแผนรุ่นแรก หลวงพ่อเที่ยง ตะกรุดเงิน 3 ดอก แยกจากชุดกรรมการใหญ่ วัดพระพุทธบาทเขากระโดง กล่องเดิม
ชื่อร้านค้า | นิว พระเครื่อง - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า) |
---|---|
ชื่อเจ้าของร้านค้า | |
ชื่อพระเครื่อง | ขุนแผนรุ่นแรก หลวงพ่อเที่ยง ตะกรุดเงิน 3 ดอก แยกจากชุดกรรมการใหญ่ วัดพระพุทธบาทเขากระโดง กล่องเดิม |
อายุพระเครื่อง | 9 ปี |
หมวดพระ | พระเนื้อผง เนื้อดิน เนื้อว่าน หลังปี 2525 |
ราคาเช่า | 490 บาท |
เบอร์โทรติดต่อ | 081-927-3528 Line ID : namchai_k |
อีเมล์ติดต่อ | new-amulet@hotmail.com WeChat ID : New_Amulet_TH |
LINE |
(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
|
สถานะ | |
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ | ศ. - 22 ก.ย. 2566 - 21:29.21 |
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ | อา. - 01 ก.ย. 2567 - 09:35.20 |
รายละเอียด | |
---|---|
พระขุนแผนผงพรายกุมารรุ่นแรก บรรจุหัวใจพญาเสือโคร่ง หลวงพ่อเที่ยง ปภังกโร วัดพระพุทธบาทเขากระโดง จ. บุรีรัมย์ ด้านหลังฝังตะกรุดเงิน 3 ดอก (มีเฉพาะชุดกรรมการใหญ่) สภาพสวยสมบูรณ์ พร้อมกล่องเดิมจากวัด พระมวลสารดี พิธีดี เจตนาสร้างดี จัดมาให้สะสมกันราคาเบาหวิวครับ หลวงพ่อเที่ยง (พระครูสัจจานุรักษ์ ปภังกโร) เกิดวันพฤหัสบดี ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 2 ปีมะเส็ง วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2484 บิดาชื่อนาย เสด มารดาชื่อ นางมั่น อารมณ์ บ้านเลขที่ 108 หมู่ที่ 12 ต.เสม็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ หลวงพ่อเที่ยง ปภังกโร เป็นชาวบุรีรัมย์โดยกำเนิด ท่านเรียนจบแค่ประถมปีที่ 4 จากนั้นก็ช่วยพ่อแม่ทำไร่ทำนามาตลอด ช่วงชีวิตในวัยรุ่นไม่ค่อยมีอะไรผาดโผนเท่าไรนัก เพราะเป็นคนขยันทำมาหากินอย่างเดียว กระทั่งอายุ 29 ปี ท่านจึงเข้าอุปสมบทที่วัดอีสาน โดยมีพระเมธีธรรมาภรณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อบุญมา เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และหลวงพ่อจำรัส เป็นพระอนุสาวนาจารย์ อุปสมบทแล้วมาอยู่จำพรรษาที่วัดพระพุทธบาทเขากระโดง หลวงพ่อเที่ยง ศึกษาวิทยาคมและวิปัสสนากรรมฐานอยู่หลายปี จนเชี่ยวชาญเสมอด้วย หลวงพ่อบุญมาทีเดียว ซึ่งได้รับการแนะนำว่า ถ้าจะบรรลุถึงธรรมปฏิบัติที่แท้จริงแล้วจะต้องออกธุดงค์ เพื่อหาความวิเวกฝึกจิตสมาธิให้กล้าแข็ง ท่านจึงออกเดินธุดงค์จาริกหาความวิเวกไปตามป่าดงดิบทั้งไทย พม่า และเขมร วันหนึ่ง ท่านใด้พบกับพระลาวรูปหนึ่งชื่อว่า หลวงมหาตันอ่อน เป็นพระเถระจากเมืองเวียงจันทร์ ซึ่งเชี่ยวชาญในคาถาอาคม ออกธุดงค์มานับสิบ ๆ ปีแล้ว ท่านทั้งสองได้แลกเปลี่ยนวิทยาคม และความรู้ด้านปฏิบัติสมถะสำหรับในด้านคาถาอาคมนั้น พระมหาตันอ่อนก็เปรียบเสมือนครูอีกคนหนึ่งของหลวงพ่อเที่ยง ท่านได้สั่งสอนวิทยาคมต่าง ๆ ให้กับหลวงพ่อเที่ยงอย่างไม่ปิดบัง กระทั่งใก้ลเข้าพรรษา ท่านทั้งสองก็ต้องแยกจากกันเพื่อหาที่พักจำพรรษารับอนิสงส์ตามประเพณี พอออกพรรษา หลวงพ่อเที่ยงก็แบกกลดคู่ชีพธุดงค์มุ่งหน้าสู่เขาพระวิหารเพื่อบำเพ็ญเพียรสร้างสมบารมี ที่เขาพระวิหารนี้ ท่านได้พบกับพระเถระของเขมรระดับเกจิหลายรูปด้วยกัน ได้ฝากตัวเป็นศิษย์รับการถ่ายทอดวิชาการต่าง ๆ อย่างเต็มที่ หลวงพ่อเที่ยงธุดงค์เข้าไปในเขมรพร้อมกับพระอาจารย์อุทัยเพื่อนสหธรรมมิก พบกับพระเกจิอาจารย์ขมังเวทชาวเขมรได้รับความเมตาสั่งสอนถ่ายทอดวิทยาคมต่าง ๆ อย่างไม่ปิดบัง จนสำเร็จอภิญญาทางอิทธิฤทธิ์ หรือสมถกรรมฐานนั่นเอง ท่านรอนแรมธุดงค์อยู่ในป่าเสียมากก่วาจะอยู่ในเมือง พยายามที่จะทำวิปัสสนาธุระให้ได้ และศึกษาความรู้จากพระอาจารย์ต่าง ๆ นั่นเอง เรื่องต่อไปนี้เป็นประสบการณ์ที่เล่าขานบอกต่อกันมา วันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2531 บนยอดเขากระโดง อันเป็นภูเขาไฟที่ดับมานับพัน ๆ ปี อีกทั้งเป็นส่วนหนึ่งของวนอุทยานเขากระโดง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ กลุ่มข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ของจังหวัดสี่ห้านายพร้อมด้วย ชาวบ้านอีกหลายคนใด้ขึ้นไปชุุมนุมกันอยู่ที่นั่น... ชื่อของบรรดาข้าราชการจังหวัดบุรีรัมย์นั้น ท่านขอให้สงวนเอาไว้ด้วยเหตุผลส่วนตัวบางอย่าง แต่ชาวบ้านที่พอจะเปิดเผยใด้ก็มี คุณวรพจน์ ลิ้มพานุกิจ คุณอุทัย ใจชื่น และคุณกลิ่น โนนสังกาศ เป็นชาวตลาดในเมืองบุรีรัมย์ เขามาชุมนุมทำอะไรกัน? การกระทำครั้งนี้ ในตอนแรกต้องการปกปิดเป็นความลับ เพราะไม่อยากให้ใครใด้รู้เห็น แต่หลังจากผ่านการทดลองไปแล้ว ความลับทั้งหลายจึงถูกเปิดเผยขึ้น มีสิ่งหนึ่งแขวนอยู่กับกิ่งไม้ นั่นก็คือ ตะกรุด ดอกหนึ่ง ซึ่งชาวคณะได้นำมาจาก วัดพระพุทธบาทเขากระโดง เป็นของ หลวงพ่อเที่ยง ปภังกโร พระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งดินแดนที่ราบสูง ได้รับจากมือมาก็เอามาลองกันเลย เพื่อที่จะดูว่าแน่จริงสมคำร่ำลือหรือเปล่า........... ใครจะเป็นคนยิง ? เสียงผู้อาวุโสคนหนึ่งในคณะถามขึ้น ข้าราชการสังกัด นปพ. อาสาเป็นผู้ยิงเดินเข้าหาตะกรุดพร้อมด้วยปืนพกกึ่งอัตโนมัติขนาด 11 มม. ในมือ มีเสียงทัดทานของใครคนหนึ่งเตือนมาข้างหลัง.....เดี๋ยวเถอะมึง ได้รู้ว่าหมู่หรือจ่า หลวงพ่อท่านบอกห้ามลองของนะโว้ย!!! เฮียเงียบเถอะ เขากำลังจะเอาจริงเอาจัง. เสียงห้ามจากอีกคนยืนอยู่ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ การทดลองวัตถุมงคลต่าง ๆ ของหลวงพ่อเที่ยงนั้นเป็น ข้อห้ามอย่างเด็ดขาด เพราะจะนำเอาสิ่งไม่ดีมาสู่ตัวเอง แต่คณะทดลองของขลังนี้ก็ยอมเสี่ยงด้วยความอยากรู้อยากเห็นว่าของที่ได้มานั้นดีจริง เนื่องจากเห็นพิธีการสร้างแล้วน่าทึ่งแปลกพิสดารล้ำลึก ชนิดที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อนเลยนั่นเอง เริ่มตั้งแต่พิธีบวงสรวงเทพารักษ์ และดวงวิญญาณของพญาเสือโคร่ง ซึ่งน่าขนลุกขนพอง หลังจากนั้นก็มีการลงอักขรยันต์ลงบนหนังเสือโคร่ง กว่าจะเสร็จกินเวลานานมาก แล้วมาถึงพิธีปลุกเสกพระคาถากำกับ หัวใจเสือ เป็นอันแล้วเสร็จ ตะกรุดพญาเสือโคร่งมหาอำนาจ ปากกระบอกปืนถูกจ่อห่างจากตะกรุดดอกนั้นประมาณ 2 ฟุต ทุกคนกลั้นลมหายใจอย่างตื่นเต้น เดี๋ยวจะใด้รู้กันว่าของหลวงพ่อนั้นแน่แค่ไหน แต่ก็มีเสียงทักท้วงขึ้นอีก หัวหน้าทีมสั่งให้เปลี่ยนปืนที่จะใช้ยิงเป็นปืนวอลเว่อร์แทน เพราะเก็บกระสุนที่ด้านง่ายกว่าปืนออโต้ ซึ่งจะต้องกระชากลำเลื่อนเพื่อคายกระสุนปืนที่ด้านออกจากรังเพลิงทำให้เสียเวลา เอาล่ะยิงใด้ !! มือปืนกระตุกไกยิงทันที แชะ...แชะ...!! ยิงไม่ออก กระสุนด้าน เฮ้ย ซัดให้หมดโม่ไปเลย !! เสียงหัวหน้าทีมกำกับบท มือปืนจาก นปพ. จึงสับไกรวดเดียว แชะ...แชะ...แชะ...แชะ...!! น่าอัศจรรย์..กระสุนชุดนั้นไม่ลั่นเลยแม้แต่นัดเดียว ! หัวหน้าทีมน้ำเสียงสั่น สั่งให้หันปากกกระบอกปืนไปทางอื่นแล้วลองยิงดู เปรี้ยง...เปรี้ยง...!! ทุกคนตกตะลึงเมื่อเสียงปะทุแตกของกระสุนปืนขนาด .38 ดังกึกก้อก มือปืนยังไม่แน่ใจแหงนลำกล้องขึ้นฟ้าอีกสองนัด มันก็ระเบิดออกมาไม่เหลือ นั่นเป็นการพิสูจน์ที่ทุกคนมั่นใจทันที เมื่อกระสุนนัดที่ 4 สิ้นเสียงลง หัวหน้าทีมปราดเข้าไปเก็บเอาตะกรุดทันที. ตะกรุดดอกนี้ของผมโว้ย แสนหนึ่ง ก็ไม่ขายว่ะ !! เพราะว่าเป็นตะกรุดดอกที่ลองยิงนั่นเอง ทำให้ราคาพุ่งพรวดขึ้นไปตามความหวงแหนของเจ้าของ. เย็นนั้นที่ไปลองตะกรุดกันก็มาที่ร้านอาหารในตัวเมืองบุรีรัมย์ หลังจากที่เข้าไปขอเช่าตะกรุดเอาไว้อีกคนละหลาย ๆ ดอก ความจริงจะเอากันมากกว่านั้น แต่หลวงพ่อบอกว่าเอาไว้ให้คนอื่นเขาบ้างจะได้ทั่วถึง แยกจากร้านเหล้าแล้ว หัวหน้าทีมก็กลับมานอน แล้วคืนนั้นเองสิ่งที่หลวงพ่อเตือนเอาไว้ก็เกิดขึ้น ขณะที่หลับสนิทได้ฝันว่ามี เสือโคร่ง ตัวใหญ่มหึมาตัวหนึ่งเดินเข้ามาในห้อง ตรงเข้าไปหาแล้วกระโดดขึ้นคร่อมร่าง แยกเขี้ยวยิงฟันขาววับ ก่อนจะตะปปกรงเล็บอันแหลมคมเข้าใส่อย่างไม่ปรานีปราศรัย ท่านตกใจร้องเสียงลั่นบ้านจนคนในบ้านตื่นกันหมด มีคนในบ้านพังประตูเข้าไปพบว่าท่านนั่งตัวสั่นงันงกอยู่บนเตียงด้วยใบหน้าซีดขาวเม็ดเหงื่อโซมหน้า. เมื่อสติกลับคืนมา ท่านก็นึกถึงคำสั่งของหลวงพ่อที่ว่า ห้ามลองของเป็นอันขาดเพราะเอาไปลองนั่นเอง ไม่เชื่อคำสั่งจึงทำให้พญาเสือโคร่งโกธร พอรุ่งเช้า ท่านจึงรีบบึ่งรถไปหาหลวงพ่อที่วัด พอเจอหน้าท่าน หลวงพ่อเลยเอ่ยถามว่า ? เจออะไรดีมาหรือ ? ท่านก็เล่าเรื่องทีฝันเห็นเสือโคร่งมาทำร้ายให้ฟัง โดยไม่กล่าวถึงเรื่องที่ไปลองตะกรุดกันเมื่อวานนี้ หลวงพ่อหัวเราะและย้อนถามไปว่า ถามจริง ๆ เถอะ เมื่อวานไปทดลองยิงตะกรุดดูใช่ไหม ? หลวงพ่อรู้ใด้อย่างไรครับ ? ท่านย้อนถามด้วยความแปลกใจ เพราะเรื่องนี้สั่งห้ามเด็ดขาดไม่ให้บอกใคร ฉันสร้างของฉันมาเองแล้วทำไมจะไม่รู้ว่าใครเอาไปทำอะไรที่ใหน ท่านจึงได้สารภาพว่าเอาไปลองยิงกันจริง และยิงไม่ออก ตนเองไม่ใด้ตั้งใจดูแคลนนับถือหลวงพ่อมาก แต่ที่เอาไปลองก็เพื่อจะเอามาเปิดเผยให้ประชาชนทั่วไปทราบกันว่า ของหลวงพ่อดีมากน้อยแค่ไหนเท่านั้น. หลวงพ่อจึงกล่าวเตื่อนว่า การกระทำเช่นนี้ ทำให้วิญญาณพญาเสือโคร่งโกรธมาก ทีหน้าทีหลังอย่าทำอีกเด็ดขาดเก็บตะกรุดเอาไว้ให้ดี เขาจะช่วยเราได้ในยามคับขัน !? ข้าราชการท่านนั้นก็ก้มลงกราบบอกกับหลวงพ่อว่า นับตั้งแต่นี้จะไม่ลองของ ของหลวงพ่ออีก และนับถือสนิทใจแล้วว่า ของหลวงพ่อนั้นเยี่ยมจริง ๆ ข้าราชการท่านนั้น ยังได้พบประสบการณ์รอดชีวิตมาได้อย่างปาฏิหาริย์อีกถึงสองครั้งขณะที่คนอื่นเสียชีวิตหมด ครั้งหนึ่งขณะที่เข้าไปในดงชุมโจร เพื่อรับตัวมือปืนถูกซุ่มยิงเข้ามาในรถปิกอัพ ทุกคนรวมทั้งคนขับตายเกลี้ยง แต่ตัวท่านรอดมาได้โดยไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร มีเพียงรอยกระสุนเป็นจ้ำ ๆ สามสี่แห่งที่ลำตัว. อีกครั้ง รถที่นั่งไปประสานงานกับรถสิบล้อ คนที่นั่งมาด้วยอีกสองคนตายคาที่ ส่วนท่านบาดเจ็บเล็กน้อย แต่กว่าจะเอาตัวออกมาจากซากรถที่พังยับเยิน ต้องเอาเลื่อยมาตัดถ่างเหล็ก ใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมง ถึงเอาตัวออกมาได้ ก่อนหน้าที่ หลวงพ่อเที่ยงจะเป็นที่รู้จักกันทั่วทั้งภาคอีสาน และดังระเบิดขึ้นมาท่านได้สร้างวัสถุมงคลขึ้นมาอย่างหนึ่ง ทำให้ชื่อเสียงของท่านจารึกอยู่ในโสตประสาทของบรรดาผู้ที่แสวงหาเครื่องรางของขลังในด้าน อยู่ยงคงกระพัน นั่นก็คือ...ตะกรุดเกราะเพชร... เมื่อปี พ.ศ. 2522 หลวงพ่อพระอธิการเย็น เจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาทเขากระโดงองค์ที่ 2 ซึ่งสืบทอดตำแหน่งเจ้าอาวาสต่อจาก หลวงพ่อบุญมา ได้มรณภาพลง หลวงพ่อเที่ยง กลับจากธุดงค์ จึงต้องมารับหน้าที่เป็นเจ้าอาวาสปกครองวัดพระพุทธบาทเขากระโดง เป็นองค์ที่ 3 หลวงพ่อเที่ยง ยึดถือแนวปฏิบัติเดิม เคร่งในวิปัสนากรรมฐาน และความสันโดษ ปฏิปทาของท่านเริ่มเป็นที่รู้จักและเลื่อมใสในหมู่ผู้คนชาวบุรีรัมย์ก่อน แล้วบอกกันต่อไป ใครที่มาบุรีรัมย์ก็จะได้รับคำแนะนำให้ไปกราบขอพรเพื่อความเป็นมงคล ผู้คนที่มากราบไหว้แล้วกลับไปเกิดความสบายใจ ก็ทำให้ผู้คนหลั่งไหลกันมาที่วัดพระพุทธบาทเขากระโดงเพิ่มมากขึ้นทุกวัน www.new-amulet.com แพ็คกล่องกระดาษไดคัท พร้อมวัสดุกันกระแทกอย่างดี ส่ง EMS พร้อมประกันภัยสูญหาย ฟรี ทุกรายการครับ |