หมวด หลวงปู่บุญ – หลวงปู่เพิ่ม – หลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้ว
พระกลีบบัวหลวงปู่บุญ ปี 2470 เนื้อเมฆพัด พร้อมบัตรรับรอง เลี่ยมทองสั่งทำยกซู้ม สวยกริบ เชิญชมครับ
ชื่อร้านค้า | นิว พระเครื่อง - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า) |
---|---|
ชื่อเจ้าของร้านค้า | |
ชื่อพระเครื่อง | พระกลีบบัวหลวงปู่บุญ ปี 2470 เนื้อเมฆพัด พร้อมบัตรรับรอง เลี่ยมทองสั่งทำยกซู้ม สวยกริบ เชิญชมครับ |
อายุพระเครื่อง | 97 ปี |
หมวดพระ | หลวงปู่บุญ – หลวงปู่เพิ่ม – หลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้ว |
ราคาเช่า | - |
เบอร์โทรติดต่อ | 081-927-3528 Line ID : namchai_k |
อีเมล์ติดต่อ | new-amulet@hotmail.com WeChat ID : New_Amulet_TH |
LINE |
(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
|
สถานะ | |
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ | จ. - 14 ต.ค. 2562 - 17:31.16 |
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ | ศ. - 28 เม.ย. 2566 - 13:19.31 |
รายละเอียด | |
---|---|
พระกลีบบัว เนื้อเมฆพัด หลังยันต์ หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว จ.นครปฐม จัดสร้างขึ้นในช่วงปี พ.ศ. 2440- 2477 (พบเจอของแท้น้อยมาก ยิ่งสภาพสมบูรณ์แบบนี้แทบไม่ต้องไปหาที่ไหน) เลี่ยมทองยกซุ้มสั่งทำหนาปึ๊ก อย่างสวย จากร้านดังย่านเยาวราช (ห่วงตอกโค๊ตประจำร้าน) มีขนาดสูง 3.3 x 2.4 ซ.ม. (วัดรวมกรอบทองคำที่เลี่ยมแล้ว) มาพร้อมบัตรรับรองพระเครื่องเพื่อยืนยันความแท้และไม่มีหักซ่อมใดๆทั้งสิ้น องค์พระสภาพสวยสมบูรณ์คมชัดทั้งรัศมีด้านหน้า และยันต์ด้านหลัง ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานของร้าน นิว พระเครื่องคือนอกจะแท้แล้ว ยังต้องสวยสมบูรณ์หมดจรดอีกด้วย ท่ามกลางพระเก๊เกลื่อนสนามที่ระบาดอยู่ทั่วไปในเวลานี้ครับ ‘หลวงปู่บุญ ขันธโชติ’ เป็นหนึ่งในอดีตเจ้าอาวาส ที่มีชื่อเสียงโด่งดังและเป็นที่เคารพเลื่อมใสมากรูปหนึ่งของจังหวัดนครปฐม วัตถุมงคลของท่านล้วนทรงพุทธานุภาพและเป็นที่นิยมสะสมของชาวนครปฐมและจังหวัดใกล้เคียง รวมถึงแวดวงนักนิยมสะสมพระเครื่องและเหรียญคณาจารย์และพุทธศาสนิกชนทั่วประเทศ พระพุทธวิถีนายก หรือ หลวงปู่บุญ ขันธโชติ เป็นชาวกระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร เกิดเมื่อปี พ.ศ.2391 ศึกษาร่ำเรียนอักขระสมัยเบื้องต้นกับ พระปลัดทอง วัดคงคาราม (วัดกลางบางแก้ว) พออายุได้ 15 ปี จึงบรรพชาเป็นสามเณร อายุ 22 ปี อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ พัทธสีมาวัดกลางบางแก้ว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม โดยมี พระปลัดปาน วัดพิไทยทาราม (วัดตุ๊กตา) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระปลัดทอง เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และ พระอธิการทรัพย์ วัดงิ้วราย เป็นพระอนุศาสนาจารย์ ตั้งใจศึกษาพระปริยัติธรรมและพุทธาคมจนแตกฉานเชี่ยวชาญ ในปี พ.ศ.2429 ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดกลางบางแก้ว ท่านพัฒนาวัดจนเจริญรุ่งเรือง ปฏิบัติสังฆกิจต่างๆ เพื่อเผยแผ่และสืบทอดพระพุทธศาสนาจนเป็นที่เคารพเลื่อมใสของพุทธศาสนิกชนทั่วไป นอกจากนี้ ท่านยังเป็นพระนักปฏิบัติมุ่งธุดงควัตรและเจริญวิปัสสนากรรมฐาน จนได้รับการยกย่องให้เป็นพระเกจิยอดเยี่ยมแห่งยุครูปหนึ่งทีเดียว แม้ สมเด็จพระสังฆราช (แพ) แห่ง วัดสุทัศนเทพวราราม หรือ ท่านเจ้าคุณพระสุนทรสมาจารย์ (พรหม) วัดกัลยาณมิตร ยังให้ความศรัทธา สมณศักดิ์ของหลวงปู่บุญ ในปี พ.ศ.2431ได้รับการแต่งตั้งเป็นพระกรรมวาจาจารย์ ปี พ.ศ.2442 ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะอำเภอ ปี พ.ศ.2459 เป็นพระอุปัชฌาย์ และได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่พระครูอุตรการบดี และดำรงตำแหน่งเจ้าคณะแขวง ปี พ.ศ.2462 เลื่อนสมณศักดิ์เป็นที่พระครูพุทธวิถีนายก ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการคณะสงฆ์จังหวัดนครปฐม สมุทรสาคร และสุพรรณบุรี สมณศักดิ์สุดท้ายได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ในราชทินนามเดิมที่ พระพุทธวิถีนายก ในปี พ.ศ.2472 ท่านมรณภาพในปี พ.ศ.2478 สิริอายุรวม 89 ปี พรรษาที่ 67 มีเรื่องเล่าขานจากผู้เฒ่าผู้แก่ในย่าน อ.นครชัยศรี ต่อๆกันมาว่า หลวงปู่บุญ ท่านสำเร็จวิชา "สำเร็จธาตุ" เป็นวิชาเดียวกันกับหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท สามารถเสกใบไม้เป็นต่อแตน เสกหัวปีเป็นกระต่าย ให้พิศวงต่อผู้พบเห็นกันมาแล้ว หลวงปู่บุญ แห่งวัดกลางบางแก้ว ก็มีคุณวิเศษไม่แพ้กัน เรื่องมีอยู่ว่า ในปีหนึ่งหลังช่วงประมาณออกพรรษาได้มี พระรูปหนึ่ง ชื่อ "อาจารย์ฮวด วัดดอนมโนราห์" ได้เดินทางมาหาหลวงปู่บุญโดยอ้างว่าอยากให้หลวงปู่บุญแนะทางในเรื่องวิปัสสนาและสอบอารมณ์ จะมาขอพักที่วัดสักเดือน ผ่านไปสองถึงสามวัน ก็แล้วอาจารย์ฮวด ก็ยังไม่ขึ้นไปหาหลวงปู่บุญตามที่เคยแจ้งถึงวัตถุประสงค์ที่มาวัดกลางบางแก้ว วันๆก็เอาแต่คุยอวดอุตริถึงความสามารถของตน ในการลงตะกรุดได้ขลังยิงแทงไม่เข้า มีวิชาผ้ายันต์เมตตา เจอสาวๆจะหลงรัก สามารถล่วงรู้อดีต ปัจจุบัน และอนาคตได้ และยังคุยว่าที่มาวัดกลางบางแก้วนี้เพราะหลวงปู่บุญเชื้อเชิญให้มาช่วยเหลืองานปลุกเสก บนกุฏิอาจารย์ฮวดวันๆ พลุกพล่านไปด้วยพระเณรและฆราวาส ที่เชื่อในคำอวดอ้างของอาจารย์ฮวด วัดดอนมโนราห์ เหตุการณ์ทุกอย่างอยู่ในสายตาหลวงปู่ตลอด วันหนึ่งหลวงปู่บุญได้เรียกเณรคำ ผู้ซึ่งรับหน้าที่อาจารย์ฮวดให้ไปพบที่กุฏิแล้วส่งแผ่นตะกั่วสี่เหลี่ยมให้พร้อมกำชับว่า "เณรช่วยเป็นธุระให้ฉันหน่อยเถอะจ้ะ...ช่วยเอาแผ่นตะกั่วนี้ไปให้คุณฮวดลงตะกรุดให้ฉันสักดอกหนึ่งนะ จะเอาไปกันปืน เณรรีบเอาไปตอนนี้เถอะปลอดคนแล้ว ช้าเดี๋ยวจะแน่นกันใหญ่" เณรคำรับแผ่นตะกั่วแล้วรีบตรงไปยังกุฏิ อาจารย์ฮวด ระหว่างทางนึกกระหยิ่มยิ้มย่องว่า ตนเป็นผู้ดูแลต้มน้ำร้อน น้ำชา ให้อาจารย์ฮวดมาตลอดตั้งแต่มาอยู่ที่นี้ แม้แต่หลวงปู่ก็ยังต้องให้อาจารย์ฮวดลงตะกรุดให้ อาจารย์ฮวดเป็นพระใจดีไม่เหมือนหลวงปู่ถึงจะใจดี แต่ก็ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้เพราะเกรงกลัวบารมี เมื่อขึ้นไปบนกุฏิอาจารย์ฮวดนั่งอยู่เพียงองค์เดียว เณรคำได้แจ้งว่า หลวงปู่บูญใช้ให้เอาแผ่นตะกั่วมาให้ลงตะกรุดกั้นปืนไว้ใช้สักหนึ่งดอก อาจารย์ฮวดได้ฟังคำดังนั้นก็นึกกระหยิ่มอยู่ในใจ หันไปหยิบเหล็กจารและยื่นมือออกมารับแผ่นตะกั่วจากเณรคำ พอแผ่นตะกั่วถูกมืออาจารย์ฮวดเท่านั้น เสียงร้องก็ดังขึ้น"โอ๊ย...โอ๊ย...ร้อน..ร้อนเหลือนเกิน" เณรคำอยู่ในอาการตกตลึงในเหตุการณ์เบื้องหน้า พร้อมกับงงแผ่นตะกั่วที่ถือมากับมือก็ไม่เห็นเป็นเช่นที่อาจารย์ฮวดกำลังร้องเสียงหลงอยู่ จึงรีบเข้าไปหมายจะไปดึงแผ่นตะกั่วออกจากมืออาจารย์ฮวดแต่เดชะบุญ ดึงเท่าไหร่ก็ไม่ยอมหลุดกับเหมือนยิ่งติดแน่นเข้าไปอีก อาจารย์ฮวดร้องครวญครางต่อไปอีกจากความรู้สึกตนที่คิดว่าความร้อนมาจากแผ่นตะกั่ว "ร้อน ร้อนจริงๆ ....ไอ้เณรเอาอะไรมาให้กู มือกูพองหมดแล้ว" สักครู่เสียงร้องก็เริ่มเบาลง คะเนว่าความร้อนในแผ่นตะกั่วคงเบาบางลง แต่เหตุใดเล่าแผ่นตะกั่วก็หาได้หลุดจากมืออาจารย์ฮวดไม่ ดังนั้นทั้งสองจึงชักชวนกันไปหาหลวงปู่บุญรีบเร่งตรงไปที่กุฏิหลวงปู่บุญ ก้าวขึ้นบันไดกุฏิพ้นบันไดก็จะเป็นห้องโถง ที่หลวงปู่บุญใช้สำหรับรับแขก เป็นประจำ ทันใดนั้นเอง...! ทั้งอาจารย์ฮวดและเณรคำ ต่างตกใจสุดขีด เมื่อภาพที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้าคือ พญาเสือโคร่งตัวใหญ่มหึมา นั่งจ้องเขม็งดวงตาเปล่งประกายมายังทั้งสอง พร้อมทั้งไม่ได้จ้องอย่างเดียวแต่ลุกกระโจนมายังทั้งสอง ทั้งสองร้องลั่นพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย วิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต กระโดดลงกุฏิจนจีวรปลิวโดยไม่ได้กลัวขาแข้งหัก ปากก็ร้องลั่นว่า"โอีย! ไม่เอาแล้ว เสือ...เสือ" จนพระ เณร ศิาย์วัดกลางบางแก้วพากันงงไปหมดว่าสองคนนั่นเล่นอะไรกัน ศิษย์ผู้รับใช้หลวงปู่ได้รีบเข้าไปดูที่กุฏิหลวงปู่บุญ ก็ไม่พบเสือตัวไหน อย่างที่สองคนนั่นร้องเสียงหลง เห็นแต่หลวงปู่บุญนั่งอยู่องค์เดียวพร้อมทั้งส่งยิ้มให้เสียอีกทั้งยังสั่งว่า "ไปดูคุณฮวดหน่อยซิ เขาว่าจะให้ฉันสอบอารมณ์หลายวันแล้วไม่เห็นขึ้นมา" รับคำเสร็จศิษย์ผู้นั้นก็ตรงไปยังกุฏิอาจารย์ฮวด เห็นทั้งอาจารย์ฮวดและเณรคำ นั่งตัวสั่นงันงก ฝ่ายอาจารย์ฮวดไม่สั่นอย่างเดียวมือก็รีบเก็บข้าวขิงใส่ย่ามหยิบผิดหยิบถูกอย่างรีบเร่ง ไม่สนใจคำเชื้อเชิญของหลวงปู่ผ่านศิษย์ให้ไปสอบอารมณ์ เมื่อจัดข้าวของเสร็จฏ็รีบออกจากวัดไปทันที ทิ้งให้เณรคำยื่นถือแผ่นตะกั่วมองตามหลังไปจนลับตา www.new-amulet.com แพ็คกล่องกระดาษไดคัท พร้อมวัสดุกันกระแทกอย่างดี ส่ง EMS พร้อมประกันภัยสูญหาย ฟรี ทุกรายการครับ |