หมวด เครื่องรางของขลัง
ตะกรุดมหากาฬ7นิ้วหลวงพ่อโม
ชื่อร้านค้า | หมอเมืองขอน - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า) |
---|---|
ชื่อเจ้าของร้านค้า | |
ชื่อพระเครื่อง | ตะกรุดมหากาฬ7นิ้วหลวงพ่อโม |
อายุพระเครื่อง | - |
หมวดพระ | เครื่องรางของขลัง |
ราคาเช่า | 35,000 บาท |
เบอร์โทรติดต่อ | 0909857494 |
อีเมล์ติดต่อ | more_maung_khon@hotmail.co.th |
LINE |
(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
|
สถานะ | |
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ | จ. - 24 ส.ค. 2563 - 21:03.22 |
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ | จ. - 24 ส.ค. 2563 - 21:03.22 |
รายละเอียด | |
---|---|
โทร0909857494 7นิ้ว ม้วน 5 รอบตัดสอบนอกใน ครบตามตำรา เทพเจ้า ห้วยกรด เมืองน้ำตาลโตนดหวาน “รูปกูไม่ต้องเสกก็ขลังรูปกูดีทั้งนั้น” หลวงพ่อโม วัดจันทนาราม ห้วยกรด ชัยนาท ผู้สร้างตำนานตะกรุดมหากาฬ 7 นิ้ว ที่เรื่องลือทั่วทุกสารทิศ ตั้งแต่เหนือจรดใต้ <<<<<ปฐมเหตุที่ทำให้รู้จักเทพเจ้าแห่งห้วยกรด>>>>> /// คนรู้จักที่ชัยนาท ห้วยกรด เคยเล่าให้ฟังว่าสมัยก่อนมีโจรมาขโมยวัวเจ้าของออกตามหาวัวเพราะรักวัวตัวนั้นมากโดยไม่กลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองครับ ไปด้วยกันสองคน ซึ่งทั้ง 2 ท่านนั้นมีเครื่องรางของหลวงพ่อโมอยู่ชิ้นเดียวนั้นคือมีด และได้แบ่งกันโดยคนหนึ่งถือฝัก อีกคน หนึ่งถือมีด เมื่อตามไปจนถึงโจรปรากฏว่าโจรมาด้วยกันหลายคน และได้ยิงปืนเข้าใส่เจ้าของวัวทั้ง 2 คน ปานห่าฝน แต่ปรากฎว่าลุกกะสุนไม่โดนเจ้าของวัวแม้แต่เม็ดเดียว จนโจรเห็นท่าไม่ดีจึงปล่อยวัวและรีบหนีกัน สำหรับประสบการณ์ตะกรุดท่านเรื่องมหาอุดคงกะพันเล่าให้ฟังกันไม่จบไม่สิ้นครับ /// ........ตะกรุดดอกนี้ที่มาดีครับเป็นของคนห้วยกรด เป็นมรดกตกทอดกันมา เจ้าของเป็นคนข้างวัดรุ่นปู่รับมาตอนไปทำบุญที่วัด หลวงพ่อโมท่านถามว่ามีลูกชายกี่คนแล้วท่านก็ให้มาครับ ก็เลยตกทอดกันมา ............ 'หลวงพ่อโม ธัมมรักขิโต' อดีตเจ้าอาวาสวัดจันทนาราม ต.ห้วยกรด อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท เป็นอดีตเกจิเรืองนามรูปหนึ่งของชัยนาท เกิดในสกุลคงเจริญ เมื่อปีมะเมีย ปี 2413 ณ บ้านบางยายอ้น ต.ห้วยกรด อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท ช่วงวัยเยาว์อาศัยอยู่กับญาติ และบรรพชาเป็นสามเณรเมื่ออายุ 8 ขวบ กระทั่งอายุครบ 20 ปี เข้าพิธีอุปสมบทที่วัดใหม่บำเพ็ญบุญ มีหลวงพ่อเถื่อน เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อพระสมุห์คง เป็นพระกรรมวาจาจารย์, หลวงพ่อโต วัดวิหารทอง เจ้าคณะแขวงอำเภอบ้านเชี่ยน เป็นพระอนุสาวนาจารย์ (บางท่านว่า พระอาจารย์นวม วัดกลาง เป็นพระอนุ สาวนาจารย์) ได้รับฉายา ธัมมรักขิโต หลังบวชแล้วศึกษาเล่าเรียนทั้งวิชาภาษาไทย บาลี และพระธรรมวินัย รวมทั้งภาษาขอม เรียนกัมมัฏฐานและวิชาอาคมจากหลวงพ่อเถื่อน หลวงพ่อคง และหลวงพ่อม่วง ซึ่งล้วนเป็นพระเกจิอาจารย์ที่ชาวบ้านห้วยกรดให้ความเคารพนับถืออย่างยิ่ง โดยอยู่จำพรรษาที่วัดใหม่บำเพ็ญบุญได้ประมาณ 10 พรรษา จากนั้นไปศึกษาวิชาอาคมเพิ่มเติมจากหลวงพ่อโต วัดวิหารทอง ต่อมา หลวงพ่อคงพาไปฝากเป็นศิษย์พระครูวิมลคุณากร (หลวงปู่ศุข เกสโร) วัดปากคลองมะขามเฒ่า อ.วัด สิงห์ รับการถ่ายทอดสุดยอดวิชาอาคมแขนงต่างๆ ตำรายาสมุนไพรและแพทย์แผนโบราณอยู่นานถึง 5 ปี ระหว่าง ปี 2451-2456 ก่อนกลับมายังวัดใหม่บำเพ็ญบุญ และได้รับการแต่งตั้ง เป็นเจ้าอาวาสสืบแทนหลวงพ่อคงที่มรณภาพ พ.ศ.2457 ญาติของท่านได้ซื้อที่ดินติดกับวัดร้างประมาณ 30 ไร่เศษ สร้างเป็นวัดขึ้นใหม่ ชื่อว่า วัดจันทนาราม ก่อนอาราธนานิมนต์ท่านมาเป็นเจ้าอาวาสรูปแรก จากนั้นท่านได้ร่วมมือกับชาวบ้านพัฒนาวัดจนเจริญขึ้นโดยลำดับ ด้วยเหตุที่บริเวณวัดส่วนหนึ่งมีเนินอิฐปรักหักพัง มีพระพุทธรูปหินชำรุดอยู่องค์หนึ่ง ท่านจึงชักชวนชาวบ้านร่วมกันปฏิสังขรณ์ โดยนำเศียรพระ พุทธรูป ศิลปะอู่ทอง หรืออยุธยายุคต้น ซึ่งมีขนาดใกล้เคียงกันนำมาต่อเข้ากับพระองค์ดังกล่าว และเรียกชื่อตามเนื้อวัตถุที่สร้างว่า "หลวงพ่อหิน" ซึ่งถือว่าเป็นพระพุทธรูปคู่บารมีของหลวงพ่อโม ที่มีความศักดิ์สิทธิ์ ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ในวิหารคู่กับรูปหล่อหลวงพ่อโม ยามว่างจากงานพัฒนาวัด ท่านก็มักเดินทางไปแลกเปลี่ยนความรู้ด้านวิชาอาคมกับสหธรรมิกหลายๆ องค์ เช่น หลวงพ่อปลื้ม วัดสังฆาราม อ.สรรคบุรี หนึ่งในเกจิอาจารย์ดังแห่งเมืองสรรคบุรีที่วงการพระเครื่องรู้จักกันเป็นอย่างดี หลวงพ่อโมเป็นพระที่เคร่งครัดในพระธรรมวินัย สงบสำรวม ถ่อมตน ไม่อวดอ้างและพูดน้อย มีเมตตาธรรม ใครเดือดร้อนหรือมีปัญหาอะไรก็จะอนุเคราะห์ตามสมควรแก่เหตุโดยไม่เลือกชั้นวรรณะ สำหรับวัตถุมงคลที่ได้รับความนิยมที่สุดของหลวงพ่อโมคือ ตะกรุดโทน มีทั้งเนื้อทองเหลืองฝาบาตร ทองเหลืองและทอง แดง ในยุคแรกยังหาแผ่นโลหะได้ยาก ท่านจึงไปขอฝาบาตรพระตามวัดต่างๆ มาตัดเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า แล้วจารยันต์ในตาราง ด้วยเหตุที่ใช้ฝาบาตรทำจึงเรียกว่า "ตะกรุดฝาบาตร" นอกจากตะกรุด ยังมีวัตถุมงคลเครื่อง รางของขลังอื่นๆ อาทิ สิงห์งาแกะ เหรียญรูปเหมือน รูปหล่อขนาดเล็ก รูปถ่าย พัด และสีผึ้ง เป็นต้น วัตถุมงคลของหลวงพ่อโมมีประสบการณ์มากมาย ท่านไม่เคยอาพาธถึงขั้นล้มหมอนนอนเสื่อ เพราะมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงดี แต่กระนั้นท่านก็ไม่พ้นหลักอนิจจังตามธรรมะแห่งพระพุทธองค์ โดยถึงแก่มรณภาพด้วยอาการสงบ เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2502 ภายหลังการมรณภาพของหลวงพ่อโม มีเรื่องน่าอัศจรรย์เกี่ยวกับสรีระหลวงพ่อประการหนึ่งคือ ร่างของท่านไม่เน่าเปื่อย ไม่มีกลิ่นเหม็น ทั้งที่สมัยนั้นยังไม่มีการฉีดยากันศพเน่า คณะศิษย์นำศพใส่โลงไม้ธรรมดาและตั้งไว้บำเพ็ญกุศลนานเกือบปี กระทั่งเมื่อวันที่ 15 มี.ค. 2503 ได้จัดพิธีฌาปนกิจศพอย่างสมเกียรติ |