พระกรุวัดสัมพันธวงศ์ (วัดเกาะ) ปางประทานพร เนื้อชินเงิน กรุงเทพฯ (มีบัตรรับรอง)-ลภัส พระเครื่อง - webpra
VIP
***รับประกันความแท้ เก๊คืนเต็ม*** คัดเฉพาะพระแท้ให้ท่านพิจารณา สนใจราคาพิเศษโทรเลย 097-245-3619

หมวด พระกรุ เนื้อชิน

พระกรุวัดสัมพันธวงศ์ (วัดเกาะ) ปางประทานพร เนื้อชินเงิน กรุงเทพฯ (มีบัตรรับรอง)

พระกรุวัดสัมพันธวงศ์ (วัดเกาะ) ปางประทานพร เนื้อชินเงิน กรุงเทพฯ (มีบัตรรับรอง) - 1พระกรุวัดสัมพันธวงศ์ (วัดเกาะ) ปางประทานพร เนื้อชินเงิน กรุงเทพฯ (มีบัตรรับรอง) - 2พระกรุวัดสัมพันธวงศ์ (วัดเกาะ) ปางประทานพร เนื้อชินเงิน กรุงเทพฯ (มีบัตรรับรอง) - 3พระกรุวัดสัมพันธวงศ์ (วัดเกาะ) ปางประทานพร เนื้อชินเงิน กรุงเทพฯ (มีบัตรรับรอง) - 4
ชื่อร้านค้า ลภัส พระเครื่อง - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า
Lapas (13)
ชื่อพระเครื่อง พระกรุวัดสัมพันธวงศ์ (วัดเกาะ) ปางประทานพร เนื้อชินเงิน กรุงเทพฯ (มีบัตรรับรอง)
อายุพระเครื่อง -
หมวดพระ พระกรุ เนื้อชิน
ราคาเช่า 1,200 บาท
เบอร์โทรติดต่อ 097-245-3619
อีเมล์ติดต่อ lapasamulet@gmail.com
สถานะ พร้อมเช่า
Facebook
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ ศ. - 20 ส.ค. 2564 - 20:32.25
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ จ. - 12 ก.พ. 2567 - 14:02.51
รายละเอียด
พระกรุวัดสัมพันธวงศ์ (วัดเกาะ) ปางประทานพร เนื้อชินเงิน กรุงเทพฯ (มีบัตรรับรอง)

พระกรุวัดเกาะ

ดังกล่าวไว้ข้างต้น วัดสัมพันธวงศ์ หรือ วัดเกาะ เป็นวัดเก่าแก่ที่มีมาแต่ก่อนกรุงรัตนโกสินทร์เป็นราชธานี ทางวัดได้พบพระกรุหลายครั้งด้วยกัน

พระกรุที่ค้นพบนี้ ไม่ปรากฏหลักฐานชัดเจนว่าใครเป็นผู้สร้างไว้แต่เมื่อไหร เพียงแต่สันนิษฐานว่า น่าจะสร้างขึ้นพร้อมกับการสร้างโบสถ์ วิหาร และกำแพงรอบโบสถ์วิหาร เพราะได้พบพระกรุมีอยู่ที่ซุ้มระหว่างโบสถ์กับวิหารเก่า ซุ้มประตูกำแพงรอบโบสถ์ วิหาร และพบท้ายสุดที่ฐานพระประธาน การค้นพบในอดีตมี ๓ ครั้ง คือ

ครั้งที่ ๑ ซุ้มทางเดินติดต่อกันระหว่างโบสถ์กับวิหารเก่าพังลง ปราฏว่ามีพระเครื่องชนิดนี้ ตกกระจัดกระจายอยู่ทั่ว ทางวัดจึงได้รวบรวมสร้างเจดีย์บรรจุไว้ในระหว่างโบสถ์กับวิหาร และแจกให้ต้องการออกไปบ้าง

ครั้งที่ ๒ ซุ้มประตูกำแพงโบสถ์วิหาร ด้านทิศตะวันตกพังลงปรากฏว่า มีพระเครื่องชนิดเดียวกันนี้ ตอนแรกไม่มีใครสนใจมากนัก เกิดแตกตื่นเล่าลือกันมาก เนื่องจากทหารเรือเอาไปทดลองยิงดูที่บางนาปรากฏว่ายิงไม่ออก จึงเป็นที่แสวงหากันมากในช่วงนั้น

ครั้งที่ ๓ เมื่อได้รับพระบรมราชานุญาตให้รื้อพระอุโบสถ วิหาร และเจดีย์ พบพระเครื่องชนิดเดียวกันอีกที่ฐานพระประธาน ในส่วนที่อยู่ใต้ฐานของพระประธานนั้น เป็นการค้นพบโดยบังเอิญ โดยค้นพบคณะที่สกัดทำการเคลื่อนย้าย ได้พบพระเครื่องเนื้อชินเงินพิมพ์ต่างๆ ๆ บรรจุอยู่ในองค์พระและใต้ฐานพระเป็นจำนวนมากนับเป็นหมื่น ๆ องค์

พระพุทธรูปที่เป็นพระประธานในพระอุโบสถเดิมไม่ปรากฏพระนาม ต่อมา ท่านเจ้าคุณ พระมหารัชชมังคลาจารย์ นิทฺเทสกเถร อดีตเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ รูปที่ ๙ ได้ถวายพระนามว่า "พระพุทธนราสภะทศพล"

บนฐานแท่นชุกชีที่พระพุทธรูปประทับนั่งลดหลั่นกันลงมาเป็น ๓ องค์ มีพระอัครสาวกยืนซ้ายขวา ๒ องค์ พระอัครสาวกนั่งซ้ายขวา ๔ องค์ รวมบนฐานชุกชีมีพระทั้งหมด ๙ องค์

สำหรับพระประธานองค์ใหญ่เป็นพระพุทธรูปทีสร้างด้วยไม้ เป็นซุงคว้านไส้กลวง ภายนอกถือปูนทับ พระพาหาเป็นไม้ทั้งลงรักปิดทอง ปางมารวิชัย หน้าพระเพลากว้าง ๒ ศอก ๑ คืบ ๑๑ นิ้ว สูงแต่ที่ประทับสุดพระรัศมี ๔ ศอก ๒ นิ้วครึ่ง

พระพุทธรูปองค์รองลงมาซึ่งเป็นองค์กลาง ห้าพระเพลากว้าง ๒ ศอก ๕ นิ้ว ปางมาวิชัย ก่ออิฐถือปูน ลงรักปิดทอง องค์ล่าสุดเป็นพระพุทธรูปหล่อด้วยโลหะ หน้าพระเพลากว้าง ๑ ศอก ๕ นิ้ว ใต้ฐานองค์พระโปร่ง มีพระมงกุฎ เครื่องราชูปโภคเบญจราชกกุธภัณฑ์ จำลองเป็นส่วนเล็ก ทำด้วยทองคำ สำหรับพระมงกุฎภายในและบริเวณรอบๆบรรจุพระอังคารของสมเด็จพระสัมพันธวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงพิทักษ์มนตรี ยอดพระมงกุฎบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ๒ องค์ โดยมีผอบเป็นแก้วครอบอีกชั้นหนึ่ง

เดิมที่เดียวทางวัดเองก็ไม่ทราบว่ามีสิ่งต่างๆ และพระองคารบรรจุอยู่ภายใน ต่อมาในวันที่ ๑๐ กันยายน พ.ศ. ๒๕๐๒ หม่อมหลวงต่วนศรี วรวรรณ (หม่อมมารดาของ พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นนราธิปพงษ์ประพันธ์) ผู้เป็นกุลทายาทในสมเด็จเจ้าฟ้า กรมหลวงพิทักษ์มนตรี ผู้สถาปนาวัดนี้ ได้มาบำเพ็ญกุศลฉลองชนมายุครบ ๗ รอบ ที่พระอุโบสถวัดสัมพันธวงศ์

ก่อนที่พระสงฆ์จะเจริญพระพุทธมนต์ หม่อมหลวงต่วนศรี วรวรรณ ได้แจ้งแก่ทางวัดว่าประสงค์จะบำเพ็ญกุศลทักษิณานุปทานกิจ สดับปกรณ์พระอังคารสมเด็จเจ้าฟ้าฯ ผู้ทรงเป็ตนต้นราชสกุลของท่าน โดยให้พนักงานโยงผ้าภูษาโยงไปที่พระพุทธรูปองค์ล่างสุด โดยทานกล่าวยืนยันเป็นแม่นยำว่าพระพุทธรูปองค์นี้ภายในบรรจุพระอังคารของสมเด็จเจ้าฟ้า กรมหลวงพิทักษ์มนตรี ต้นราชสกุล "มนตรีกุล" สำหรับพระอัฐินั้นประดิษฐานอยู่ที่หอพระนาก ในพระบรมมหาราชวัง (ซึ่งแต่เดิมที่เดียวประดิษฐานอยู่ที่วังหน้าจนหอชำรุดรื้อลงในรัชกาลที่ ๕ จึงได้เชิญไปไว้ที่หอพระนาก)

ในคราวอัญเชิญพระพุทธรูปจากพระอุโบสถหลังเดิม เพื่อนำขึ้นไปประดิษฐานบนพระอุโบสถหลังใหม่ ได้พบปูชนียวัตถุต่างๆ ดังกล่าวมาข้างต้น จึงนับว่าหม่อมหลวงต่วนศรี วรวรรณ ท่านมีความทรงจำในอดีตเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของต้นสกุลท่านเป็นเยี่ยม แม้จะมีอายุชราถึง ๘๔ พรรษา (ขณะที่มาบำเพ็ญกุศลในวันนั้น

สำหรับแผ่นเงิน แผ่นนาก และแผ่นทองคำ ที่พบรวมอยู่กับพระมงกุฎ ได้จารึกอักษรขอม กล่าวถึงพระสูตร พระอภิธรรมต่างๆ ซึ่งบรรดาของมีค่าเหล่านั้น ทางวัดได้เก็บรักษาได้วเป็นอย่างดี เพื่อที่จะนำเข้าบรรจุไว้ในพระพุทธรูปองค์เดิมที่พบโดยจะได้บำเพ็ญกุศลถวายเป็นกรณีพิเศษ ตามพระประสงค์ของพระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นนราธิปพงษ์ประพันธ์ มีพระประสงค์ในคราวที่พระเทพปัญญามุนี (ปัจจุบันได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ที่ สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ ถาวรเถระ) เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน และคณะได้นำสิ่งต่างๆไปถวายที่วังเพื่อของพระวินิจฉัยในอันที่ปฏิบัติต่อปูชนียวัตถุนั้น ทั้งนี้โดยที่พระวรวงศ์บพิตร เสด็จในกรมฯ ทรงเป็นกุลทายาทผู้สูงศักดิ์ และทรงดำรงตำแหน่งเป็นองค์อุปถัมภ์ของวัดสัมพันธวงศ์มาเป็นเวลาช้านาน

ส่วนพระประธานองค์ใหญ่ ขณะที่สกัดทากรเคลื่อนย้าย ได้พบพระเครื่องเนื้อชินเงินพิมพ์ต่างๆ บรรจุอยู่ในองค์พระและใต้ฐานพระเป็นจำนวนมากนับเป็นหมื่นองค์ พระเครื่องชุดนี้ตามที่ปรากฏหลักฐานจากท่านผู้มีความรูทางโบราณคดีแจ้งว่า พระชุดนี้สร้างในสมัยเดียวกันกับกรุวัดราชบูรณะ และเมื่อสร้างแล้วนำมาบรรจุไว้ตามซุ้มกำแพงแก้วบ้าง ในองค์พระเจดีย์บ้าง ในองค์พระประธานบ้าง

พระกุรุที่บรรจุอยู่ตามซุ้มประตูกำแพงแก้ว และในพระเจดีย์ ทางวัดได้เคยเปิดกรุนำออกแจกจ่ายแก่ประชาชนสมัยสงครามโลกครั้งที่ ๒ อีกครั้งหนึ่ง และนำออกในคราวรื้อซุ้มประตูเมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๔ เป็นครั้งสุดท้าย การนำออกจากซุ้มประตูแต่ละคราวก็เจ้าเป็นซุ้มๆเฉพาะที่ต้องการ ซุ้มไหนยังไม่ได้เจาะก็ให้คงไว้ เหลือมาถึงในคราวสุดท้ายที่ทำการรื้อกำแพงแก้ว

แต่เดิมทางวัดเองก็ไม่ทราบว่ามีพระเครื่องบรรจุอยู่ มาเมื่อวันที่ ๑๕ เมษายน พ.ศ. ๒๕๑๕ ทางวัดได้ดำเนินการอัญเชิญพระประธานจากพระอุโบสถเดินขึ้นสู่พระอุโบสถหลังใหม่มีการสกัดฐานเพื่อสกัดฐานเพื่อใช้รถยกพระประธานขึ้น จึงได้พบพระจำนวนมา มีพิมพ์ต่างๆ คือ

๑. พระทากระดาน เกศบัวตูม (มีทั้งพิมพ์ใหญ่-พิมพ์เล็ก)

๒. พระปางห้ามญาติ ยกพระหัตถ์ซ้ายบ้าง ยกพระหัตถ์ขวาบ้าง

๓. พระปางปรกโพธิ์

๔. พระปางห้ามสมุทร ยกพระหัตถ์ทั้งสองข้าง

๕. พระปางไสยาสน์

๖. พระปางทรงเครื่อง หรือที่นักสะสมพระเรียกว่า พระทรงธิเบต

พระเครื่องทั้งหมด มีชนิดปิดทองก็มี ชนิดอาบปรอทก็มี ทางวัดได้นำออกให้ประชาชนบูชาเพื่อนำทุนทรัพย์สมทบทุนในการสร้างพระอุโบสถหลังใหม่ ตั้งแต่เดือนเมษายน ๒๕๑๕ มีประชาชนสนใจบูชาไปเป็นจำนวนมาก

อภินิหารของพระกรุวัดเกาะ

พระเครื่องเท่าที่ได้พบในสมัยต่างๆ ดังกล่าวข้างต้น ซึ่งผู้เฒ่าผู้แก่สูงอายุเล่าลือกันสืบมาว่า ไปตรงกับเหตุการณ์ของบ้านเมืองในลักษณะต่าง ๆ กัน เช่นครั้งแรกไปตรงกับกรณีพิพาทกับฝรั่งเศสเมืองจันทบุรี ถูกฝรั่งเศสยึดคราวนั้น พระเครื่องวัดเกาะไปมีชื่อเสียงปรากฏ ในหมู่ทหารเรือทางจันทบุรีเป็นส่วนมาก

ครั้งที่สองไปตรงกับสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ทหารเรือเอาไปทดลองยิงที่บางนา ปรากฏว่ายิ่งไม่ออก ก็เล่าลืออภินิหารกันไปต่าง ๆ ถึงสงครามอินโดจีน จนเกิดสงครามโลกครั้งที่สอง ผู้ที่ได้พระเครื่องวัดเกาะไว้ตั้งแต่เมื่อครั้งก่อนนั้น กรุงเทพมหานครถูกโจมตีทางอากาศอย่างหนัก ก็ไม่เคยอพยพหนีไปอยู่ที่อื่นเลย เพราะเชือถือในอภินิหารและความศักดิ์สิทธิ์ของพระเครื่องวัดเกาะ แม้พวกที่ได้รับพระเครื่องชนิดนี้ไปใช้ในสนามรบก็ปลอดภัย แคล้วคลาดไม่เป็นอันตราย โดยเฉพาะอภินิหารทางแคล้วคลาดและป้องกันอัคคีภัย นับว่าเป็นเยี่ยม เท่าที่ปรากฏแก่บุคคลในลักษณะต่าง ๆ กันเช่น

เมื่อวันที่ ๘ พฤษภาคม ๒๕๐๖ เป็นวันวางศิลากฤษ์พระอุโบสถหลังใหม่ที่กำลังก่อสร้างอยู่นี้ ทางวัดได้ทูลอาราธนา เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (ญาโณทยมหาเถระ) วัดสระเกศ มาเป็นประธานสงฆ์และเชิญ ฯพณฯ จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ อดีตนายกรัฐมนตร ีเป็นประธานวางศิลาฤกษ์ เมื่ื่อเสร็จจากพิธีแล้ว ท่านเจ้าคุณ พระมหารัชชมังคลาจารย์ (เทศ นิทเทสสกเถระ) อดีตเจ้าอาวาส ได้มอบพระเครื่องที่ได้จากพระเจดีย์และซุ้มประตู กำแพง โบสถ์ วิหาร ปางต่าง ๆ กัน จำนวน ๙ องค์ เป็นที่ระลึก ซึ่ง ฯพณฯ ได้เล่าให้ท่านเจ้าอาวาสฟังว่า

“พระเครื่องของวัดเกาะพิมพ์แบบนี้ สมัยเป็นนายทหารครั้งสงครามอินโดจีน ได้มาเข้าแถวรับแจกจากางวัด เมื่อนำไปใช้นับว่ามีอภินิหารในทางแคล้วคลาดคุ้มครองดีนัก แม้นเข้าที่คับขันก็สามารถฟันฝ่าอันตรายหนีกระสุนปืนรอดกลับมาได้”

แต่ในครั้งนี้มีน้อย เพราะทางวัดได้พบเฉพาะซุ้มประตูด้านเดียว ยังไม่แพร่หลาย รู้จักกันเฉพาะคนภายในและผู้เคยได้รับแจกไว้คุ้มครองป้องกันตนเท่านั้น

ผู้รวบรวม
พระมหาสำรวย นาควโร
วัดสัมพันธวงศ์
เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ

พระเครื่องที่เกี่ยวข้องในร้านค้านี้...

อื่นๆ...

กำหลังโหลด Comments
Top