เหรียญพระแท่นศิลาอาสน์ รุ่นแรก (เหรียญเสมา) จังหวัดอุตรดิตถ์ สภาพสวย ผิวเดิมๆ มาแล้วจ้า-jorawis - webpra

เว็บ-พระ ประมูลพระเครื่อง ร้านค้าพระเครื่องออนไลน์

jorawis

มีพระกรุยอดนิยมหลากหลายสภาพ ให้เลือกชม

เน้นพระแท้ ดูง่าย รับประกันความแท้ตามสากลนิยม มีให้เลือกชมทั้งพระเนื้อดิน ชิน ผง
แทบทุกองค์ได้รับการตรวจสอบจากผู้เชียวชาญ โดยมีรางวัลจากการผ่านงานประกวดมาตรฐาน
หรือ

ผ่านการออกใบรับรองพระแท้ จากสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย
ที่สามารถยืนยันถึงความแท้และความถูกต้องของข้อมูล
ที่เกี่ยวกับองค์พระได้เป็นอย่างดี
ส่วนใหญ่เป็นพระกรุพระเก่ายอดนิยม

หลายองค์เป็นพระในตำนาน หาชมได้ยากในปัจจุบัน
บางองค์ไม่มีแม้แต่รูปให้ผ่านสายตา

ส่วนบางองค์มีให้เห็นแค่เฉพาะภาพในหนังสือพระเครื่องมาตรฐานสูงบางเล่มเท่านั้น

สนใจเชิญติดต่อกันเข้ามาได้
ยินดีต้อนรับด้วยความเป็นกันเองทุกท่านทุกสายเลยจ้า

มีพระยอดนิยมมากมายให้เลือกชม เน้นพระแท้ดูง่ายโดยเฉพาะพระกรุ พระเก่า ประกันความแท้ตามมาตรฐานสากลนิยม

หมวด เหรียญปั๊ม ก่อนปี 2520

เหรียญพระแท่นศิลาอาสน์ รุ่นแรก (เหรียญเสมา) จังหวัดอุตรดิตถ์ สภาพสวย ผิวเดิมๆ มาแล้วจ้า

เหรียญพระแท่นศิลาอาสน์ รุ่นแรก (เหรียญเสมา) จังหวัดอุตรดิตถ์ สภาพสวย ผิวเดิมๆ มาแล้วจ้า - 3

เหรียญพระแท่นศิลาอาสน์ รุ่นแรก (เหรียญเสมา) จังหวัดอุตรดิตถ์ สภาพสวย ผิวเดิมๆ มาแล้วจ้า - 4

เหรียญพระแท่นศิลาอาสน์ รุ่นแรก (เหรียญเสมา) จังหวัดอุตรดิตถ์ สภาพสวย ผิวเดิมๆ มาแล้วจ้า - 5

ชื่อร้านค้า	jorawis - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า	jorawis (99)
ชื่อพระเครื่อง	เหรียญพระแท่นศิลาอาสน์ รุ่นแรก (เหรียญเสมา) จังหวัดอุตรดิตถ์ สภาพสวย ผิวเดิมๆ มาแล้วจ้า
อายุพระเครื่อง	91 ปี
หมวดพระ	เหรียญปั๊ม ก่อนปี 2520
ราคาเช่า	-
เบอร์โทรติดต่อ	(ไม่แสดงเบอร์ เนื่องจากรายการนี้ไม่ได้ปล่อยเช่า)
อีเมล์ติดต่อ	Jorawis@gmail.com
สถานะ
Facebook	Share
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่	พฤ. - 05 มิ.ย. 2557 - 12:12.47
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ	ส. - 20 เม.ย. 2567 - 14:54.50

รายละเอียด
สภาพเหรียญขออธิบายด้วยภาพเลยจ้า ผิวสวยๆ ขนาดกำลังพอเหมาะ ไม่ใหญ่ไม่เล็กจนเกินไป เหรียญบางๆ แต่มีมิติแบบเหรียญนูนต่ำ ตามแบบฉบับของเหรียญปั๊มที่สร้างในช่วงก่อน พ.ศ. 2500 ที่กำลังของเครื่องจักรที่ใช้ปั๊มเหรียญในยุคนั้นยังไม่สูงมาก เหรียญที่สร้างในยุคก่อนปีกึ่งพุทธกาลจึงมักไม่หนามาก แกะบล็อกแบบนูนต่ำ เหรียญนี้จัดว่าผิวสวยสมบูรณ์ขนาดมีผิวไฟแดงเดิม ปรากฏให้เห็นตามซอกมุมในรายละเอียดต่างๆ ของเหรียญ แม้ข้อมูลการจัดสร้างของเหรียญนี้มีน้อยมาก แต่คนพื้นที่ชาวเมืองอุตรดิตถ์เล่นหามานานแล้ว ทั้งยังเชื่อกันว่า น่าจะสร้างไว้ตั้งแต่ประมาณปี พ.ศ. 2472 โดยมีหลวงพ่อเดิม แห่งวัดหนองโพ ผู้สร้างพระรูปหล่อยอดนิยมอันดับต้นในปัจจุบัน และพระอุปปัชฌาย์ฮวบ หรือหลวงพ่อฮวบ แห่ง วัดสามัคยาราม ตำบลบ้านด่าน ภายในพื้นที่อำเภอเมืองจังหวัดอุตรดิตถ์ ยอดพระเกจิอาคมขลังผู้เป็นอาจารย์ของอาจารย์หลวงพ่อไซร้ วัดช่องลม เข้าร่วมพิธีพุทธาภิเษกเหรียญนี้ด้วย ซึ่งในทัศนะของ Jorawis เองนั้น หากเปรียบกับช่วงอายุของหลวงพ่อฮวบที่ชาตะกาลเมื่อ พ.ศ. 2406 จวบจนถึงแก่มรณะกาลเมื่อ เมื่อวันที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2480 ตลอดจนเหรียญรุ่นแรกของท่านที่สร้างไว้เมื่อ พ.ศ.2479 รวมถึงการสอบถามประวัติการสร้างของเหรียญนี้ มาประกอบกันแล้วนั้น ก็พอจะเชื่อได้ว่าเหรียญนี้น่าจะสร้างในช่วงดังกล่าวจริง ส่วนหลวงพ่อเดิมท่านจะจาริกมาเข้าร่วมพิธีพุทธาภิเษกหรือไม่นั้น ไม่ขอยืนยัน แต่หากมองความเชื่อแต่เดิมของบรรดาพระเกจิฯยุคเก่าตลอดจนพุทธศาสนิกชนผู้มีความศรัทธาทั้งหลาย ถึงอานิสงส์สูงสุด ในการเดินทางรอนแรมไปสักการะบูชาพระแท่นศิลาอาสน์ เฉกเช่นเดียวกันกับการเดินทางไปสักการะพระพุทธบาทสระบุรีให้ได้สักครั้งในชีวิต ข้อมูลนี้ก็มีความเป็นไปได้เช่นกัน หรือ แม้ว่า หลวงพ่อเดิมไม่ได้มาเข้าร่วมพิธี แต่ด้วยความศักดิ์สิทธิ์ของพระแท่นศิลาอาสน์ และลำพังเพียงหลวงพ่อฮวบเพียงองค์เดียว ตลอดจนพุทธศิลป์นูนต่ำที่ปรากฏในรายละเอียดของเหรียญนี้ และอายุอานามของเหรียญที่เกินกว่าครึ่งศตวรรษ ก็นับได้ว่าคุ้มค่าอย่างยิ่งในการเก็บสะสม พระแท่นศิลา อาสน์เป็นพุทธเจดีย์ เช่นเดียวกับพระแท่นดงรัง เป็นที่เชื่อกันมาแต่โบราณว่า สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทั้งห้าพระองค์ในภัทรกัปนี้ ได้เสด็จและจะได้เสด็จมาประทับนั่งบนพระแท่นแห่งนี้ เพื่อเจริญภาวนา และได้ประทับยับยั้งในเวลาที่ตรัสรู้แล้ว เพื่อโปรดสัตว์ ซึ่งแสดงว่าพระแท่นศิลาอาสน์นี้ มีประวัติความเป็นมาอย่างต่อเนื่อง ในพระพุทธศาสนามายาวนาน ตัวพระแท่นเป็นศิลาแลง มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาดกว้าง 8 ฟุต ยาวประมาณ 10 ฟุต สูง 3 ฟุต ที่ฐานพระแท่นประดับด้วยลายกลีบบัวโดยรอบ มีพระมณฑปครอบ อยู่ภายในพระวิหารวัดพระแท่นศิลาอาสน์ วัดพระแท่นศิลาอาสน์ ตั้งอยู่บนเนินเขาเต่า ตำบลทุ่งยั้ง อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ ติดกับวัดพระยืนพุทธบาทยุคล ซึ่งตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันออก ซึ่งอยู่บนเนินเขาลูกเดียวกันแต่คนละยอด วัดพระแท่นศิลาอาสน์ เป็นวัดโบราณ ไม่ปรากฎหลักฐานว่าผู้ใดสร้าง และสร้างแต่เมื่อใด ในศิลาจารึกครั้งกรุงสุโขทัยไม่ได้มีข้อความกล่าวถึงพระแท่นศิลาอาสน์ เพิ่งมีปรากฎในหนังสือพระราชพงศาวดาร ในรัชสมัยพระเจ้าบรมโกศ พระองค์ได้เสด็จนมัสการพระแท่นศิลาอาสน์ เมื่อปี พ.ศ. 2283 ได้แสดงว่า พระแท่นศิลาอาสน์ได้มีมาก่อนหน้านี้แล้ว จนเป็นที่เคารพสักการะของคนทั่วไปอย่างกว้างขวาง จนพระมหากษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยาเสด็จไปนมัสการ สมเด็จ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ พระบิดาแห่งการประวัติศาตร์ของเมืองไทย ทรงสันนิษฐานว่า พระแท่นศิลาอาสน์ อาจมีมาก่อนแล้วช้านาน ก่อนที่พระเจ้าบรมโกศเสด็จไปบูชา เพราะพระแท่นศิลาอาสน์อยู่ริมเมืองทุ่งยั้งซึ่งตั้งมาแต่ครั้งสมัยสุโขทัย และบางทีชื่อทุ่งยั้งนั้นเอง จะเป็นนิมิตให้เกิดมีพระแท่น เป็นที่พระพุทธเจ้าประทับยับยั้ง เมื่อเสด็จผ่านมาทางนั้น ในทางตำนานมีคติที่เชื่อว่า พระพุทธเจ้าได้เสด็จยังประเทศต่าง ๆ ภายนอกอินเดียด้วยอิทธิฤทธิ์ฌานสมาบัติ และได้ประดิษฐานเจดีย์ หรือตรัสพยากรณ์อะไรไว้ในประเทศเหล่านั้น เป็นคติที่เกิดในลังกาทวีป และประเทศอื่นได้รับเอาไปเชื่อถือด้วย จึงเกิดมีเจดีย์วัตถุและพุทธพยาการณ์ ที่อ้างว่าพระพุทธองค์ได้ทรงประดิษฐานเจดีย์ไว้ มากบ้าง น้อยบ้างทุกประเทศ เฉพาะเมืองไทย มีปรากฎในพงศาวดารโดยลำดับมาว่า พบรอยพระพุทธบาท ณ ไหล่เขาสุวรรณบรรพต เมื่อรัชกาลพระเจ้าทรงธรรม รัชกาลพระเจ้าเสือได้เสด็จไปบูชาพระพุทธฉาย ณ เขาปัถวี และพระเจ้าบรมโกศ เสด็จไปบูชาพระแท่นศิลาอาสน์ ประเพณี ทำบุญไหว้พระแท่นศิลาอาสน์มีมานานหลายชั่วอายุคนแล้ว มีผู้มาสักการะบูชาจากทั่วทุกสารทิศทั้งในเทศกาลและนอกเทศกาลตลอดปี ช่วงงานเทศกาล นมัสการพระแท่นศิลาอาสน์ จะเริ่มขึ้น ณ วันเพ็ญ เดือนสาม อันเป็นวันมาฆบูชา ตั้งแต่ วันขึ้น 8 ค่ำ ถึง วันขึ้น 15 ค่ำ เดือนสาม แต่้ดิมนั้นบรรดาพระภิกษุสงฆ์จะธุดงค์มาปักกลดพักแรมที่บริเวณใกล้วัด รอจนเมื่อถึงวันมาฆบูชา เวลาประมาณ 19.30 น. พระภิกษุสงฆ์จะเข้าไปในพระวิหาร แล้วสวดพระพุทธมนต์ มีพระธรรมจักรกัปปวัตตสูตร เป็นต้น เมื่อเสร็จพิธีแล้ว ก็ออกมาให้ศีลให้พรแก่ผู้ที่มานมัสการพระแท่นศิลาอาสน์ ส่วนรุ่งเช้าของทุกวันในระหว่างเทศกาล บรรดาพระสงฆ์ที่ธุดงค์มานมัสการ พระแท่นศิลาอาสน์ จะเดินทางเข้าไปบิณฑบาตรตามหมู่บ้าน และบรรดาชาวบ้านจะนำอาหารมาถวายที่วัดอีกเป็นจำนวนมาก เมื่อพระฉันอาหารเสร็จแล้ว ชาวบ้านก็จะแบ่งปันอาหารร่วมรับประทานด้วยกัน รวมทั้งผู้ที่เดินทางมานมัสการพระแท่นศิลาอาสน์ด้วย สนใจเสาะหาไว้เป็นมงคลแก่ตัว ติดต่อกันเข้ามาได้จ้า Jorawis รับประกันความแท้เช่นเดิมซึ่งล่าสุด ส่งประกวดงานท้องถิ่นที่จัดขึ้น ณ สนามกีฬาจังหวัดอุตรดิตถ์ (หมอนไม้) เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2557 ที่ผ่านมา ผลก็คือได้ติดโบว์เหลืองอย่างที่เห็นในรูป ถือได้ว่าได้รองแชมป์ในบ้านเลยจ้า พระท้องถิ่น ใครจะรู้ดีกว่าเซียนท้องที่จริงมั๊ยยย นอกจากเหรียญนี้อาจมีพระบางรายการที่ท่านกำลังค้นหาอยู่เชิญที่นี่ได้เลยจ้า http://www.web-pra.com/Shop/jorawis

รายละเอียด

สภาพเหรียญขออธิบายด้วยภาพเลยจ้า ผิวสวยๆ ขนาดกำลังพอเหมาะ ไม่ใหญ่ไม่เล็กจนเกินไป เหรียญบางๆ แต่มีมิติแบบเหรียญนูนต่ำ ตามแบบฉบับของเหรียญปั๊มที่สร้างในช่วงก่อน พ.ศ. 2500 ที่กำลังของเครื่องจักรที่ใช้ปั๊มเหรียญในยุคนั้นยังไม่สูงมาก เหรียญที่สร้างในยุคก่อนปีกึ่งพุทธกาลจึงมักไม่หนามาก แกะบล็อกแบบนูนต่ำ เหรียญนี้จัดว่าผิวสวยสมบูรณ์ขนาดมีผิวไฟแดงเดิม ปรากฏให้เห็นตามซอกมุมในรายละเอียดต่างๆ ของเหรียญ

แม้ข้อมูลการจัดสร้างของเหรียญนี้มีน้อยมาก แต่คนพื้นที่ชาวเมืองอุตรดิตถ์เล่นหามานานแล้ว ทั้งยังเชื่อกันว่า น่าจะสร้างไว้ตั้งแต่ประมาณปี พ.ศ. 2472 โดยมีหลวงพ่อเดิม แห่งวัดหนองโพ ผู้สร้างพระรูปหล่อยอดนิยมอันดับต้นในปัจจุบัน และพระอุปปัชฌาย์ฮวบ หรือหลวงพ่อฮวบ แห่ง วัดสามัคยาราม ตำบลบ้านด่าน ภายในพื้นที่อำเภอเมืองจังหวัดอุตรดิตถ์ ยอดพระเกจิอาคมขลังผู้เป็นอาจารย์ของอาจารย์หลวงพ่อไซร้ วัดช่องลม เข้าร่วมพิธีพุทธาภิเษกเหรียญนี้ด้วย ซึ่งในทัศนะของ Jorawis เองนั้น หากเปรียบกับช่วงอายุของหลวงพ่อฮวบที่ชาตะกาลเมื่อ พ.ศ. 2406 จวบจนถึงแก่มรณะกาลเมื่อ เมื่อวันที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2480 ตลอดจนเหรียญรุ่นแรกของท่านที่สร้างไว้เมื่อ พ.ศ.2479 รวมถึงการสอบถามประวัติการสร้างของเหรียญนี้ มาประกอบกันแล้วนั้น ก็พอจะเชื่อได้ว่าเหรียญนี้น่าจะสร้างในช่วงดังกล่าวจริง ส่วนหลวงพ่อเดิมท่านจะจาริกมาเข้าร่วมพิธีพุทธาภิเษกหรือไม่นั้น ไม่ขอยืนยัน แต่หากมองความเชื่อแต่เดิมของบรรดาพระเกจิฯยุคเก่าตลอดจนพุทธศาสนิกชนผู้มีความศรัทธาทั้งหลาย ถึงอานิสงส์สูงสุด ในการเดินทางรอนแรมไปสักการะบูชาพระแท่นศิลาอาสน์ เฉกเช่นเดียวกันกับการเดินทางไปสักการะพระพุทธบาทสระบุรีให้ได้สักครั้งในชีวิต ข้อมูลนี้ก็มีความเป็นไปได้เช่นกัน หรือ แม้ว่า หลวงพ่อเดิมไม่ได้มาเข้าร่วมพิธี แต่ด้วยความศักดิ์สิทธิ์ของพระแท่นศิลาอาสน์ และลำพังเพียงหลวงพ่อฮวบเพียงองค์เดียว ตลอดจนพุทธศิลป์นูนต่ำที่ปรากฏในรายละเอียดของเหรียญนี้ และอายุอานามของเหรียญที่เกินกว่าครึ่งศตวรรษ ก็นับได้ว่าคุ้มค่าอย่างยิ่งในการเก็บสะสม

พระแท่นศิลา อาสน์เป็นพุทธเจดีย์ เช่นเดียวกับพระแท่นดงรัง เป็นที่เชื่อกันมาแต่โบราณว่า สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทั้งห้าพระองค์ในภัทรกัปนี้ ได้เสด็จและจะได้เสด็จมาประทับนั่งบนพระแท่นแห่งนี้ เพื่อเจริญภาวนา และได้ประทับยับยั้งในเวลาที่ตรัสรู้แล้ว เพื่อโปรดสัตว์ ซึ่งแสดงว่าพระแท่นศิลาอาสน์นี้ มีประวัติความเป็นมาอย่างต่อเนื่อง ในพระพุทธศาสนามายาวนาน ตัวพระแท่นเป็นศิลาแลง มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาดกว้าง 8 ฟุต ยาวประมาณ 10 ฟุต สูง 3 ฟุต ที่ฐานพระแท่นประดับด้วยลายกลีบบัวโดยรอบ มีพระมณฑปครอบ อยู่ภายในพระวิหารวัดพระแท่นศิลาอาสน์

วัดพระแท่นศิลาอาสน์ ตั้งอยู่บนเนินเขาเต่า ตำบลทุ่งยั้ง อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ ติดกับวัดพระยืนพุทธบาทยุคล ซึ่งตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันออก ซึ่งอยู่บนเนินเขาลูกเดียวกันแต่คนละยอด วัดพระแท่นศิลาอาสน์ เป็นวัดโบราณ ไม่ปรากฎหลักฐานว่าผู้ใดสร้าง และสร้างแต่เมื่อใด ในศิลาจารึกครั้งกรุงสุโขทัยไม่ได้มีข้อความกล่าวถึงพระแท่นศิลาอาสน์ เพิ่งมีปรากฎในหนังสือพระราชพงศาวดาร ในรัชสมัยพระเจ้าบรมโกศ พระองค์ได้เสด็จนมัสการพระแท่นศิลาอาสน์ เมื่อปี พ.ศ. 2283 ได้แสดงว่า พระแท่นศิลาอาสน์ได้มีมาก่อนหน้านี้แล้ว จนเป็นที่เคารพสักการะของคนทั่วไปอย่างกว้างขวาง จนพระมหากษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยาเสด็จไปนมัสการ

สมเด็จ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ พระบิดาแห่งการประวัติศาตร์ของเมืองไทย ทรงสันนิษฐานว่า พระแท่นศิลาอาสน์ อาจมีมาก่อนแล้วช้านาน ก่อนที่พระเจ้าบรมโกศเสด็จไปบูชา เพราะพระแท่นศิลาอาสน์อยู่ริมเมืองทุ่งยั้งซึ่งตั้งมาแต่ครั้งสมัยสุโขทัย และบางทีชื่อทุ่งยั้งนั้นเอง จะเป็นนิมิตให้เกิดมีพระแท่น เป็นที่พระพุทธเจ้าประทับยับยั้ง เมื่อเสด็จผ่านมาทางนั้น ในทางตำนานมีคติที่เชื่อว่า พระพุทธเจ้าได้เสด็จยังประเทศต่าง ๆ ภายนอกอินเดียด้วยอิทธิฤทธิ์ฌานสมาบัติ และได้ประดิษฐานเจดีย์ หรือตรัสพยากรณ์อะไรไว้ในประเทศเหล่านั้น เป็นคติที่เกิดในลังกาทวีป และประเทศอื่นได้รับเอาไปเชื่อถือด้วย จึงเกิดมีเจดีย์วัตถุและพุทธพยาการณ์ ที่อ้างว่าพระพุทธองค์ได้ทรงประดิษฐานเจดีย์ไว้ มากบ้าง น้อยบ้างทุกประเทศ เฉพาะเมืองไทย มีปรากฎในพงศาวดารโดยลำดับมาว่า พบรอยพระพุทธบาท ณ ไหล่เขาสุวรรณบรรพต เมื่อรัชกาลพระเจ้าทรงธรรม รัชกาลพระเจ้าเสือได้เสด็จไปบูชาพระพุทธฉาย ณ เขาปัถวี และพระเจ้าบรมโกศ เสด็จไปบูชาพระแท่นศิลาอาสน์

ประเพณี ทำบุญไหว้พระแท่นศิลาอาสน์มีมานานหลายชั่วอายุคนแล้ว มีผู้มาสักการะบูชาจากทั่วทุกสารทิศทั้งในเทศกาลและนอกเทศกาลตลอดปี ช่วงงานเทศกาล นมัสการพระแท่นศิลาอาสน์ จะเริ่มขึ้น ณ วันเพ็ญ เดือนสาม อันเป็นวันมาฆบูชา ตั้งแต่ วันขึ้น 8 ค่ำ ถึง วันขึ้น 15 ค่ำ เดือนสาม แต่้ดิมนั้นบรรดาพระภิกษุสงฆ์จะธุดงค์มาปักกลดพักแรมที่บริเวณใกล้วัด รอจนเมื่อถึงวันมาฆบูชา เวลาประมาณ 19.30 น. พระภิกษุสงฆ์จะเข้าไปในพระวิหาร แล้วสวดพระพุทธมนต์ มีพระธรรมจักรกัปปวัตตสูตร เป็นต้น เมื่อเสร็จพิธีแล้ว ก็ออกมาให้ศีลให้พรแก่ผู้ที่มานมัสการพระแท่นศิลาอาสน์ ส่วนรุ่งเช้าของทุกวันในระหว่างเทศกาล บรรดาพระสงฆ์ที่ธุดงค์มานมัสการ พระแท่นศิลาอาสน์ จะเดินทางเข้าไปบิณฑบาตรตามหมู่บ้าน และบรรดาชาวบ้านจะนำอาหารมาถวายที่วัดอีกเป็นจำนวนมาก เมื่อพระฉันอาหารเสร็จแล้ว ชาวบ้านก็จะแบ่งปันอาหารร่วมรับประทานด้วยกัน รวมทั้งผู้ที่เดินทางมานมัสการพระแท่นศิลาอาสน์ด้วย

สนใจเสาะหาไว้เป็นมงคลแก่ตัว ติดต่อกันเข้ามาได้จ้า Jorawis รับประกันความแท้เช่นเดิมซึ่งล่าสุด ส่งประกวดงานท้องถิ่นที่จัดขึ้น ณ สนามกีฬาจังหวัดอุตรดิตถ์ (หมอนไม้) เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2557 ที่ผ่านมา ผลก็คือได้ติดโบว์เหลืองอย่างที่เห็นในรูป ถือได้ว่าได้รองแชมป์ในบ้านเลยจ้า พระท้องถิ่น ใครจะรู้ดีกว่าเซียนท้องที่จริงมั๊ยยย

นอกจากเหรียญนี้อาจมีพระบางรายการที่ท่านกำลังค้นหาอยู่เชิญที่นี่ได้เลยจ้า

http://www.web-pra.com/Shop/jorawis

พระเครื่องที่เกี่ยวข้องในร้านค้านี้...

เหรียญพระยาพิชัยดาบหัก รุ่นแรก ปี13 " บ.ขาด " บล็อกนิยม ลองเข้ามาชมกันได้จ้า

เหรียญเสด็จพ่อเสด็จแม่ สุดยอดเหรียญหายากในตำนานของหลวงพ่อเชย วัดท่าควายจ้า

เหรียญพระยาพิชัยดาบหัก รุ่นแรก ปี13 " บ.เต็ม " แม้ไม่ใช่บล็อกนิยม แต่น่าลองเข้ามาชมกันนะ

เหรียญพระแก้วมรกต พ.ศ. 2475 ผิวงาม ๆ สภาพสวยสมบูรณ์มาแล้วจ้า

เหรียญรุ่นแรก หลวงพ่อหลาบ วัดบางเป้ง พ.ศ.2484 สุดยอดเหรียญหายากอีกเหรียญ ของเมืองชลบุรีมาแล้วจ้า

อื่นๆ...

กำหลังโหลด Comments