หนุมาน แกะจากไม้ ลงสีฝุ่น อีกชิ้นที่ศิลป์งามอลังการ-jorawis - webpra

เว็บ-พระ ประมูลพระเครื่อง ร้านค้าพระเครื่องออนไลน์

jorawis

มีพระกรุยอดนิยมหลากหลายสภาพ ให้เลือกชม

เน้นพระแท้ ดูง่าย รับประกันความแท้ตามสากลนิยม มีให้เลือกชมทั้งพระเนื้อดิน ชิน ผง
แทบทุกองค์ได้รับการตรวจสอบจากผู้เชียวชาญ โดยมีรางวัลจากการผ่านงานประกวดมาตรฐาน
หรือ

ผ่านการออกใบรับรองพระแท้ จากสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย
ที่สามารถยืนยันถึงความแท้และความถูกต้องของข้อมูล
ที่เกี่ยวกับองค์พระได้เป็นอย่างดี
ส่วนใหญ่เป็นพระกรุพระเก่ายอดนิยม

หลายองค์เป็นพระในตำนาน หาชมได้ยากในปัจจุบัน
บางองค์ไม่มีแม้แต่รูปให้ผ่านสายตา

ส่วนบางองค์มีให้เห็นแค่เฉพาะภาพในหนังสือพระเครื่องมาตรฐานสูงบางเล่มเท่านั้น

สนใจเชิญติดต่อกันเข้ามาได้
ยินดีต้อนรับด้วยความเป็นกันเองทุกท่านทุกสายเลยจ้า

มีพระยอดนิยมมากมายให้เลือกชม เน้นพระแท้ดูง่ายโดยเฉพาะพระกรุ พระเก่า ประกันความแท้ตามมาตรฐานสากลนิยม

หมวด เครื่องรางของขลัง

หนุมาน แกะจากไม้ ลงสีฝุ่น อีกชิ้นที่ศิลป์งามอลังการ

ชื่อร้านค้า	jorawis - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า	jorawis (99)
ชื่อพระเครื่อง	หนุมาน แกะจากไม้ ลงสีฝุ่น อีกชิ้นที่ศิลป์งามอลังการ
อายุพระเครื่อง	-
หมวดพระ	เครื่องรางของขลัง
ราคาเช่า	-
เบอร์โทรติดต่อ	(ไม่แสดงเบอร์ เนื่องจากรายการนี้ไม่ได้ปล่อยเช่า)
อีเมล์ติดต่อ	Jorawis@gmail.com
สถานะ
Facebook	Share
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่	พฤ. - 15 พ.ย. 2555 - 22:27.28
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ	ส. - 06 ม.ค. 2567 - 13:45.19

รายละเอียด
หนุมานไม้แกะอีกชิ้นนี้ เป็นอีกหนึ่งที่อยู่บนหิ้งพระที่บ้านมานานแล้วจ้า เป็นรูปหนุมานกำลังแผลงฤทธิ์ยุดพญานาค ขนาดบูชา ที่ฐานกว้างประมาณ 3 นิ้ว ความสูงนับจากฐานถึงปลายปากพญานาคประมาณ 4 นิ้ว หน้าของหนุมานมีลักษณะเช่นเดียวกับชิ้นแรกที่มักเรียกว่า "หน้าโขน" เนื่องจากแกะหน้าแบบทรงเครื่องเหมือนเศียรหนุมานที่ใช้สำหรับสวมเวลาแสดงโขน สันนิษฐานว่าน่าจะแกะจากไม้โพธิ์ ชิ้นเดียวกันทั้งหนุมาณและพญานาค ด้วยฝีมือระดับชั้นครูู ดูเข้มขลังอลังการ ลงสีฝุน ชาดและทอง มีรอยต่อซ่อมเล็กน้อยที่ส่วนปลายหางต่อส่วนพื้นของฐาน ประมาณจากความเก่าของไม้ที่เบามาก เนื่องจากแห้งสนิทและความเก่าของสีฝุ่น น่าจะมีอายุประมาณ 60-70 ปีเป็นอย่างน้อย แต่ไม่อาจยืนยันได้ว่าเกจิคณาจารย์ท่านใดเป็นผู้สร้าง ลองชมกันดูนะ ชิ้นนี้ไม่ได้ออกให้เช่าบูชา ขอลงโชว์เป็นวิทยาทานอย่างเดียวจริง ๆ อ้อ!!! พระคาถาที่ลงไว้ในภาพเป็นพระคาถา "หัวใจหนุมาน" สะกดแบบเดิมตามตำรับของหลวงพ่อกวย ชุตินฺธโร วัดโฆสิตาราม ชัยนาทจ้า หนุมาน เป็นตัวละครเอกที่เด่นที่สุดตัวหนึ่งในบรรดาลิงระดับผู้ช่วยพระเอกของเรื่องรามเกียรติ์ เป็นลิงเผือกที่มีฤทธิ์มากเมื่อสำแดงฤทธิ์จะมี 4 พักตร์ 8 กร นอกจากนี้ ยังมีลักษณะประจำกายอื่นๆ อีก เช่น สวมกุณฑล มีขนเพชร มีเขี้ยวเป็นแก้ว และ หาวเป็นดาวเป็นเดือน สามารถสำแดงเดชต่างๆ ได้หลายประการ เช่น การขยายร่างกายให้ใหญ่โต การยืดหางให้ยาว เป็นต้น นอกจากนี้ หนุมานยังได้ชื่อว่าเป็นอมตะ คือ ไม่มีวันตาย เนื่องจากเป็นบุตรของพระพาย (ลม) กับนางสวาหะ ด้วยเหตุนี้ เมื่อหนุมานมีอันตรายถึงตายแล้ว เพียงแค่มีลมพัดมา หนุมานก็จะฟื้นคืนชีพขึ้นมาใหม่ ด้วยอำนาจของพระพายผู้เป็นบิดา ด้วยบุคคลิกของหนุมานเป็นตัวแทนของชายหนุ่มทั่วไป คือ รูปงาม มีนิสัยเจ้าชู้ และ มีภรรยามาก ดังเช่น เมื่อได้นางบุษมาลี เป็นภรรยาคนแรก ต่อมาก็มีนางเบญกาย ธิดาของพิเภก มีบุตรกับหนุมานคือ อสุรผัด ถัดมาก็เป็นสุพรรณมัจฉา เป็นนางเงือก ธิดาของทศกัณฐ์ ได้เป็นภรรยาขณะจองถนนข้ามกรุงลงกา ในศึกไมยราพมีบุตรคือ มัจฉานุ ถัดต่อมาอีกจึงได้นางวารินทร์ ขณะตามล่าวิรุญจำบัง นอกจากนี้ยังเคยมีความสัมพันธ์กับนางมณโฑขณะปลอมตัวเป็นทศกัณฐ์ และต่อมาเมื่อครั้งเสแสร้งแปรพักต์ ไปอยู่ฝ่ายทศกัณฐ์ หลังจากศึกอินรชิต ทศกัณฐ์จึง ประทานนางนางสุวรรณกันยุมาที่เคยเป็นภรรยาอินทรชิตให้อีก และเมื่อเสร็จศึกกรุงลงกา พระรามเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น พญาอนุชิตจักรกฤษณ์พิพัฒน์พงศา ให้ไปครองเมืองลพบุรี และพระราชทานนางสนมให้อีกถึง 500 นางอีกด้วย บรรพชนเกจิคณาจารย์รุ่นเก่าทั้งหลายจึงนิยมสร้างเครื่องรางรูปหนุมาน เพื่อไว้ให้ใช้ในทางเข้าเจ้าเข้านาย เด่นในทางเมตตามหานิยม ทั้งในทางมหาอำนาจ และคงกระพันอีกด้วย แต่จะว่าไปแล้วเครื่องรางของขลังในรูป ของ "ลิง"นั้นมีมานานแล้วตั้งแต่สมัยโบราณกว่า 2,500 ปี หลักฐานทางประวัติศาสตร์ทีสามารถยืนยันได้ก็คือมีการขุดพบแผ่นโลหะรูปหน้าลิง ที่น่าจะใช้เป็นเครื่องรางของขลังมาตั้งแต่ยุคเหล็ก ที่บ้านวังหาด ตำบลตลิ่งชัน อำเภอบ้านด่านลานหอย ในจังหวัดสุโขทัย ซึ่งถือเป็นชุมชนถลุงเหล็กยุคแรกเริ่ม และยังเป็นแหล่งต้นน้ำที่ไหลผ่านบริเวณเมืองเก่าลงไปยังลำน้ำยม ที่มีมาก่อนเริ่มต้นประวัติศาสตร์ของกรุงสุโขทัยเสียอีก เครื่องรางของขลัง ของโบราณาจารย์ไทย ไม่ว่าจะเป็นพระเกจิอาจารย์ หรือเกจิอาจารย์ฆราวาส ผู้มีวิชาอาคมขลัง มีความรอบรู้และเชี่ยวชาญชำนาญการในเรื่องไสยศาสตร์เป็นอย่างดี ได้จัดสร้างขึ้นมีความหลากหลาย แต่ละชิ้นงานล้วนเป็นการสร้างขึ้นด้วยฝีมือและทักษะชั้นบรมครูอันล้ำเลิศ ทีละชิ้น โดยไม่ซ้ำกัน นับเป็นงานฝีมือที่เป็นเอกลักษณ์แห่งภูมิปัญญาพื้นบ้านที่สืบทอดต่อกันมาของบรรพชนไทยอย่างแท้จริง เครื่องรางของขลัง อันโด่งดังที่คนไทยรู้จักกันมาช้านานแล้ว มีมากมาย ทั้งตะกรุด ที่สร้างจากวัสดุต่างๆ เบี้ยแก้ ผ้ายันต์ ผ้าประเจียด เสื้อยันต์ ลูกอม เขี้ยวเสือกลวง ไม้ครู มีดหมอ รักยม กุมารทอง ฤาษี ชูชก หุ่นพยนต์ ปลัดขิก น้ำเต้า กะลาตาเดียว ราหูอมจันทร์ หมากทุย เชือกคาดเอว เชือกคาดแขนและ แหวนพิรอด นางกวัก พ่อเฒ่า พ่อแก่ (ฤๅษี) ท้าวเวสสุวรรณ ฯลฯ รวมทั้งเครื่องรางที่แกะเป็นรูปสัตว์ต่างๆ เช่น เสือ สิงห์ ราชสีห์ คชสีห์ ช้าง แพะ จิ้งจก ตุ๊กแก เต่า ปลาตะเพียน วัวธนู ควายธนู จระเข้ งู ฯลฯ รวมถึงเครื่องรางประเภทลิง ทั้งองคค และหนุมาน จึงเป็นลิงชั้นเจ้าเมืองทั้งคู่ ซึ่งเครื่องรางแต่ละประเภทล้วนมีวัตถุประสงค์ในการสร้างและอุปเท่ห์วิธีอาราธนาใช้แตกต่างกันไปในแต่ละสำนัก แม้วิทยาการทางเทคโนโลยีในสมัยนี้จะมีความก้าวหน้าไปมากแล้ว ความเชื่อในเรื่องของ พระเครื่อง วัตถุมงคลและเครื่องรางของขลัง อาจจะลดน้อยลงไป ตามความรู้สึกเชื่อถือและศรัทธาของคนรุ่นใหม่ แต่อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันนี้เครื่องราง ก็ยังเป็นที่สนใจของผู้คนที่มีความเชื่อถือศรัทธาอีกจำนวนไม่น้อย ที่ยังต้องการและเสาะหาสะสมไว้ในครอบครอง อาจมีรายการอื่น ๆ ที่ทำนกำลังค้นหาอยู่เชิญที่นี่เลยจ้า http://www.web-pra.com/Shop/jorawis

รายละเอียด

หนุมานไม้แกะอีกชิ้นนี้ เป็นอีกหนึ่งที่อยู่บนหิ้งพระที่บ้านมานานแล้วจ้า เป็นรูปหนุมานกำลังแผลงฤทธิ์ยุดพญานาค ขนาดบูชา ที่ฐานกว้างประมาณ 3 นิ้ว ความสูงนับจากฐานถึงปลายปากพญานาคประมาณ 4 นิ้ว หน้าของหนุมานมีลักษณะเช่นเดียวกับชิ้นแรกที่มักเรียกว่า "หน้าโขน" เนื่องจากแกะหน้าแบบทรงเครื่องเหมือนเศียรหนุมานที่ใช้สำหรับสวมเวลาแสดงโขน สันนิษฐานว่าน่าจะแกะจากไม้โพธิ์ ชิ้นเดียวกันทั้งหนุมาณและพญานาค ด้วยฝีมือระดับชั้นครูู
ดูเข้มขลังอลังการ ลงสีฝุน ชาดและทอง มีรอยต่อซ่อมเล็กน้อยที่ส่วนปลายหางต่อส่วนพื้นของฐาน ประมาณจากความเก่าของไม้ที่เบามาก เนื่องจากแห้งสนิทและความเก่าของสีฝุ่น น่าจะมีอายุประมาณ 60-70 ปีเป็นอย่างน้อย แต่ไม่อาจยืนยันได้ว่าเกจิคณาจารย์ท่านใดเป็นผู้สร้าง ลองชมกันดูนะ ชิ้นนี้ไม่ได้ออกให้เช่าบูชา ขอลงโชว์เป็นวิทยาทานอย่างเดียวจริง ๆ อ้อ!!! พระคาถาที่ลงไว้ในภาพเป็นพระคาถา "หัวใจหนุมาน" สะกดแบบเดิมตามตำรับของหลวงพ่อกวย ชุตินฺธโร วัดโฆสิตาราม ชัยนาทจ้า

หนุมาน เป็นตัวละครเอกที่เด่นที่สุดตัวหนึ่งในบรรดาลิงระดับผู้ช่วยพระเอกของเรื่องรามเกียรติ์ เป็นลิงเผือกที่มีฤทธิ์มากเมื่อสำแดงฤทธิ์จะมี 4 พักตร์ 8 กร นอกจากนี้ ยังมีลักษณะประจำกายอื่นๆ อีก เช่น สวมกุณฑล มีขนเพชร มีเขี้ยวเป็นแก้ว และ หาวเป็นดาวเป็นเดือน สามารถสำแดงเดชต่างๆ ได้หลายประการ เช่น การขยายร่างกายให้ใหญ่โต การยืดหางให้ยาว เป็นต้น นอกจากนี้ หนุมานยังได้ชื่อว่าเป็นอมตะ คือ ไม่มีวันตาย เนื่องจากเป็นบุตรของพระพาย (ลม) กับนางสวาหะ ด้วยเหตุนี้ เมื่อหนุมานมีอันตรายถึงตายแล้ว เพียงแค่มีลมพัดมา หนุมานก็จะฟื้นคืนชีพขึ้นมาใหม่ ด้วยอำนาจของพระพายผู้เป็นบิดา

ด้วยบุคคลิกของหนุมานเป็นตัวแทนของชายหนุ่มทั่วไป คือ รูปงาม มีนิสัยเจ้าชู้ และ มีภรรยามาก ดังเช่น เมื่อได้นางบุษมาลี เป็นภรรยาคนแรก ต่อมาก็มีนางเบญกาย ธิดาของพิเภก มีบุตรกับหนุมานคือ อสุรผัด ถัดมาก็เป็นสุพรรณมัจฉา เป็นนางเงือก ธิดาของทศกัณฐ์ ได้เป็นภรรยาขณะจองถนนข้ามกรุงลงกา ในศึกไมยราพมีบุตรคือ มัจฉานุ ถัดต่อมาอีกจึงได้นางวารินทร์ ขณะตามล่าวิรุญจำบัง นอกจากนี้ยังเคยมีความสัมพันธ์กับนางมณโฑขณะปลอมตัวเป็นทศกัณฐ์ และต่อมาเมื่อครั้งเสแสร้งแปรพักต์ ไปอยู่ฝ่ายทศกัณฐ์ หลังจากศึกอินรชิต ทศกัณฐ์จึง ประทานนางนางสุวรรณกันยุมาที่เคยเป็นภรรยาอินทรชิตให้อีก และเมื่อเสร็จศึกกรุงลงกา พระรามเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น พญาอนุชิตจักรกฤษณ์พิพัฒน์พงศา ให้ไปครองเมืองลพบุรี และพระราชทานนางสนมให้อีกถึง 500 นางอีกด้วย

บรรพชนเกจิคณาจารย์รุ่นเก่าทั้งหลายจึงนิยมสร้างเครื่องรางรูปหนุมาน เพื่อไว้ให้ใช้ในทางเข้าเจ้าเข้านาย เด่นในทางเมตตามหานิยม ทั้งในทางมหาอำนาจ และคงกระพันอีกด้วย

แต่จะว่าไปแล้วเครื่องรางของขลังในรูป ของ "ลิง"นั้นมีมานานแล้วตั้งแต่สมัยโบราณกว่า 2,500 ปี หลักฐานทางประวัติศาสตร์ทีสามารถยืนยันได้ก็คือมีการขุดพบแผ่นโลหะรูปหน้าลิง ที่น่าจะใช้เป็นเครื่องรางของขลังมาตั้งแต่ยุคเหล็ก ที่บ้านวังหาด ตำบลตลิ่งชัน อำเภอบ้านด่านลานหอย ในจังหวัดสุโขทัย ซึ่งถือเป็นชุมชนถลุงเหล็กยุคแรกเริ่ม และยังเป็นแหล่งต้นน้ำที่ไหลผ่านบริเวณเมืองเก่าลงไปยังลำน้ำยม ที่มีมาก่อนเริ่มต้นประวัติศาสตร์ของกรุงสุโขทัยเสียอีก

เครื่องรางของขลัง ของโบราณาจารย์ไทย ไม่ว่าจะเป็นพระเกจิอาจารย์ หรือเกจิอาจารย์ฆราวาส ผู้มีวิชาอาคมขลัง มีความรอบรู้และเชี่ยวชาญชำนาญการในเรื่องไสยศาสตร์เป็นอย่างดี ได้จัดสร้างขึ้นมีความหลากหลาย แต่ละชิ้นงานล้วนเป็นการสร้างขึ้นด้วยฝีมือและทักษะชั้นบรมครูอันล้ำเลิศ ทีละชิ้น โดยไม่ซ้ำกัน นับเป็นงานฝีมือที่เป็นเอกลักษณ์แห่งภูมิปัญญาพื้นบ้านที่สืบทอดต่อกันมาของบรรพชนไทยอย่างแท้จริง

เครื่องรางของขลัง อันโด่งดังที่คนไทยรู้จักกันมาช้านานแล้ว มีมากมาย ทั้งตะกรุด ที่สร้างจากวัสดุต่างๆ เบี้ยแก้ ผ้ายันต์ ผ้าประเจียด เสื้อยันต์ ลูกอม เขี้ยวเสือกลวง ไม้ครู มีดหมอ รักยม กุมารทอง ฤาษี ชูชก หุ่นพยนต์ ปลัดขิก น้ำเต้า กะลาตาเดียว ราหูอมจันทร์ หมากทุย เชือกคาดเอว เชือกคาดแขนและ แหวนพิรอด นางกวัก พ่อเฒ่า พ่อแก่ (ฤๅษี) ท้าวเวสสุวรรณ ฯลฯ รวมทั้งเครื่องรางที่แกะเป็นรูปสัตว์ต่างๆ เช่น เสือ สิงห์ ราชสีห์ คชสีห์ ช้าง แพะ จิ้งจก ตุ๊กแก เต่า ปลาตะเพียน วัวธนู ควายธนู จระเข้ งู ฯลฯ รวมถึงเครื่องรางประเภทลิง ทั้งองคค และหนุมาน จึงเป็นลิงชั้นเจ้าเมืองทั้งคู่ ซึ่งเครื่องรางแต่ละประเภทล้วนมีวัตถุประสงค์ในการสร้างและอุปเท่ห์วิธีอาราธนาใช้แตกต่างกันไปในแต่ละสำนัก

แม้วิทยาการทางเทคโนโลยีในสมัยนี้จะมีความก้าวหน้าไปมากแล้ว ความเชื่อในเรื่องของ พระเครื่อง วัตถุมงคลและเครื่องรางของขลัง อาจจะลดน้อยลงไป ตามความรู้สึกเชื่อถือและศรัทธาของคนรุ่นใหม่ แต่อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันนี้เครื่องราง ก็ยังเป็นที่สนใจของผู้คนที่มีความเชื่อถือศรัทธาอีกจำนวนไม่น้อย ที่ยังต้องการและเสาะหาสะสมไว้ในครอบครอง

อาจมีรายการอื่น ๆ ที่ทำนกำลังค้นหาอยู่เชิญที่นี่เลยจ้า

http://www.web-pra.com/Shop/jorawis