รูปเหมือนหล่อรุ่นแรก หลวงปู่โส กสฺสโป พ.ศ. 2538 องค์นี้สุดสวยเนือทองคำ สร้างน้อย หาชมยากมาแล้วจ้า-jorawis - webpra
VIP
  • มีพระกรุยอดนิยมหลากหลายสภาพ ให้เลือกชม
    เน้นพระแท้ ดูง่าย รับประกันความแท้ตามสากลนิยม มีให้เลือกชมทั้งพระเนื้อดิน ชิน ผง
    แทบทุกองค์ได้รับการตรวจสอบจากผู้เชียวชาญ โดยมีรางวัลจากการผ่านงานประกวดมาตรฐาน
    หรือ

    ผ่านการออกใบรับรองพระแท้ จากสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย
    ที่สามารถยืนยันถึงความแท้และความถูกต้องของข้อมูล
    ที่เกี่ยวกับองค์พระได้เป็นอย่างดี
  • ส่วนใหญ่เป็นพระกรุพระเก่ายอดนิยม
    หลายองค์เป็นพระในตำนาน หาชมได้ยากในปัจจุบัน
    บางองค์ไม่มีแม้แต่รูปให้ผ่านสายตา

    ส่วนบางองค์มีให้เห็นแค่เฉพาะภาพในหนังสือพระเครื่องมาตรฐานสูงบางเล่มเท่านั้น

    สนใจเชิญติดต่อกันเข้ามาได้
    ยินดีต้อนรับด้วยความเป็นกันเองทุกท่านทุกสายเลยจ้า
  • Page 1
  • Page 2
มีพระยอดนิยมมากมายให้เลือกชม เน้นพระแท้ดูง่ายโดยเฉพาะพระกรุ พระเก่า ประกันความแท้ตามมาตรฐานสากลนิยม

หมวด หลวงปู่มหาสีทน วัดสมศรี- หลวงปู่มหาโส วัดป่าคําแคนเหนือ - หลวงพ่อผาง วัดอุดมคงคาคีรีเขต

รูปเหมือนหล่อรุ่นแรก หลวงปู่โส กสฺสโป พ.ศ. 2538 องค์นี้สุดสวยเนือทองคำ สร้างน้อย หาชมยากมาแล้วจ้า

รูปเหมือนหล่อรุ่นแรก หลวงปู่โส กสฺสโป พ.ศ. 2538 องค์นี้สุดสวยเนือทองคำ สร้างน้อย หาชมยากมาแล้วจ้า - 1รูปเหมือนหล่อรุ่นแรก หลวงปู่โส กสฺสโป พ.ศ. 2538 องค์นี้สุดสวยเนือทองคำ สร้างน้อย หาชมยากมาแล้วจ้า - 2รูปเหมือนหล่อรุ่นแรก หลวงปู่โส กสฺสโป พ.ศ. 2538 องค์นี้สุดสวยเนือทองคำ สร้างน้อย หาชมยากมาแล้วจ้า - 3
ชื่อร้านค้า jorawis - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า
ชื่อพระเครื่อง รูปเหมือนหล่อรุ่นแรก หลวงปู่โส กสฺสโป พ.ศ. 2538 องค์นี้สุดสวยเนือทองคำ สร้างน้อย หาชมยากมาแล้วจ้า
อายุพระเครื่อง 27 ปี
หมวดพระ หลวงปู่มหาสีทน วัดสมศรี- หลวงปู่มหาโส วัดป่าคําแคนเหนือ - หลวงพ่อผาง วัดอุดมคงคาคีรีเขต
ราคาเช่า -
เบอร์โทรติดต่อ (ไม่แสดงเบอร์ เนื่องจากรายการนี้ไม่ได้ปล่อยเช่า)
อีเมล์ติดต่อ Jorawis@gmail.com
สถานะ พระโชว์
Facebook
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ อา. - 28 ส.ค. 2559 - 23:07.40
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ ส. - 16 ธ.ค. 2566 - 13:18.44
รายละเอียด
รูปเหมือนหล่อรุ่นแรก หลวงปู่โส กสฺสโป พ.ศ. 2538 บางท่านและเซียนพื้นที่ส่วนใหญ่ เรียกกันว่า รุ่น "สุริยคราส" ตามที่ปรากฏอยู่บนกล่องใส่พระรุ่นนี้ เนื่องจากเกิดเหตุอัศจรรย์ อันถือเป็นศุภนิมิค อันดี ทีปรากฏการณ์ สุริยคราสเต็มดวง ในวันที่ 28 ตุลาคม 2538 ในระหว่างพิธี

รูปเหมือนหล่อรุ่นแรก หลวงปู่โส กสฺสโป ตามประวัติที่ีการบันทึกไว้ มีการจัดสร้างจัดสร้าง หายเนื้อ ต่างขนิดกัน ได้แก่

1. เนื้อทองคำ จัดสร้างจำนวนทั้งสิ้นเพียง 23 องค์ เท่านั้น
2. เนื้อเงิน จัดสร้างจำนวน 150 องค์
3.เนื้อนวโลหะก้นเงิน จัดสร้างจำนวน 100 องค์
4. เนือนวโลหะ จัดสร้างจำนวน 400 องค์
5.เนื้อทองเหลือง จัดสร้างจำนวน 325 องค์
6. เนื้อทองแดงรมดำ จัดสร้างจำนวน 2,000 องค์
.

นอกจากจำวนการจัดสร้างดังกล่าว ยังมี พระรูปเหมือนเนื้อเงินก้นอุดผง พระรูปเหมือนเนื้อนวโลหะก้นอุดผง พระรูปเหมือนเนื้ออัลปาก้าอีกจำนวนหนึ่ง ที่ทางคณะศิษย์จัดสร้าง ไว้ใช้เฉพาะกลุ่ม แม้ไม่ได้ระบุจำนวนที่แน่่ชัด แต่คาดได้ว่าในแต่ละเนื้อโละคงมีจำนวนไม่มากนัก

องค์นี้เป็นพระรูปเหมือนหล่อรุ่นแรก หลวงปู่โส กสฺสโป เช่าจากวัดตั้งแต่ตอนออกใหม่ๆ หนึ่งในจำนวน 23 องค์ สภาพสวยสมบูรณ์ น้ำหนักทองประมาณ 19.8 กรัม สวยแค่ไหน ขอบรรยายด้วยภาพ และที่สำคัญ ซึ่งหากพิจารณาจากจำนวนการจัดสร้างแล้ว หาชมยากแค่ไหนคงไม่ค้องบอกนะ ของดีมีมาไม่บ่อย พลาดแล้วคงต้องนั่เสียดายกันไปอีกนานแสนนาน กว่าจะพบองค์ต่อไป สนใจตืดต่อสอบถามกันเข้ามาได้เลยจ้า

หากชมองค์นี้แล้วยังไม่ถูกใจ ลองดูที่นี่

http://www.web-pra.com/Shop/jorawis

อาจมีบางองค์ที่ท่านกำลังมองหาอยู่ก็ได้จ้า


สำหรับผู้สนใจศึกษาประวัติย่อ ของหลวงปู่พระมหาโส กัสสโป วัดป่าคำแคนเหนือ ในอำเภอมัญจาคีรี จังหวัดขอนแก่น Jorawis ขอคัดลอกข้อมูลจากhttp://board.palungjit.org ที่รวบรวมข้อมูลของคุณสราวุฒิ รูปพรหม มาให้ศีกษากันดังต่อไปนี้จ้า


"หลวงปู่พระมหาโส กัสสโป พระอรหันต์กลางป่าบำเพ็ญสมณะกรรมฐานเป็นนิจ"

**หลวงปู่พระมหาโส กัสสโป นามสกุลเดิม ดีเลิศ เกิดเมื่อวันที่ วันจันทร์ ที่ 8 พ.ย.2458 เวลาตี 2 (ตรงกับวันเพ็ญ เดือน 12 ปีเถาะ)

**สถานที่เกิด : เกิดที่ บ้านก่อ ต.หนองไข่นก อ.ม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานี โยมบิดาชื่อ เคน โยมมาดาชื่อ ค้ำ มีอาชีพทำนา ท่านมีพี่น้องร่วมบิดามารดา 9 คน คือ
1.นางพิมพา
2.นางทุมมา
3.นางสีทา
4.นางสีดา
5.นางทองสา
6.หลวงปู่พระมหาโส กัสสโป
7.นายพรหมมา อดีตผู้ใหญ่บ้านบ้านก่อ
8.นางวรรณา
9.นายสง่า ดีเลิส อดีตสหกรณ์อำเภอม่วงสามสิบ

บรรพชา
**ในปี พ.ศ.2477 เมื่อมีอายุ 19 ปี ท่านได้บรรพชาเป็นสามเณรกับหลวงปู่อุปัฌชาย์อ่อน ที่วัดบ้านก่อ(บ้านเกิดท่าน) เป็นการบวชหน้าไฟให้โยมมารดาซึ่งถึงแก่กรรมลง ตั้งใจจะบวชเพียง 3 พรรษา แต่เมื่อได้ศึกษาพระธรรมวินัยอยู่ครบกำหนดแล้ว ก็ธรรมทำความรู้ในพระธรรมวินัยด้านปริยัติแตกฉาก จนสอบได้ นักธรรมตรี นักธรรมโท และนักธรรมเอก ติดต่อกันมาทุกปี จนทำให้มีศรัทธาบวชต่อ

อุปสมบท
**ถึงปี พ.ศ.2478 อายุครบ 20 ปี ท่านได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา โดยมีพระอุปัฌชาอ่อน เป็นพระอุปัฌชาย์ที่วัดบ้านเกิดนั่นเอง และได้จำพรรษาอยู่ที่นั่น

ญัตติเป็นธรรมยุติ
**ล่วงเข้าปี พ.ศ.2480 ท่านได้กราบลาพระอุปัฌชาย์อ่อนออกเดินทางติดตามพระอาจารย์มหาสีทน กาญจโน (ซึ่งเป็นญาติกันด้วย) โดยมีจุดหมายปลายทางที่ จ.อุดรธานี เมื่อเดินทางถึง จ.อุดรธานี หลวงปู่พระมหาสีทนได้นำท่านไปเปลี่ยนยัตติเป็นพระธรรมยุต ในวันที่ 17 ก.ค.2480 ณ วัดโพธิสมภรณ์ อ.เมือง จ.อุดรธานี โดยมี ท่านเจ้าคุณพระเทพกวี (จูม พนฺธุโล) ต่อมาได้เลื่อนสมณศักดิ์เป็น พระธรรมเจดีย์ เป็นพระอุปัฌชาย์ มีพระครูสาสนูปกรณ์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระครูประสาทคณานุกิจ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ เมื่อยัตติแล้วได้จำพรรษาอยู่ที่วัดโพธิสมภรณ์

เป็นมหาเปรียญ
**หลวงปู่พระมหาโส เป็นพระผู้เคร่งครัดในพระธรรมวินัยปฏิบัติตามคำสอนขององค์ศาสดามาโดยตลอด ท่านแสวงธรรมทั้งในด้าน ปฏิยัติ(แสวงหาความรู้) ปฏิบัติ(แสวงธรรมตามคำสอนของพระพุทธเจ้า) ปฏิเวธ(แสวงหาธรรมด้วยปัญญาของตนเองเพื่อแสวงหาวิโมกติสุข) ถึงเวลาต่อมาในพรรษาที่ 12 ท่านก็ได้แตกฉากบาลี จนสอบเปรียญธรรมสนามหลวงเป็น "พระมหา" ได้สำเร็จ และในปีเดียวกันก็ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสที่วัดศรีหมากหญ้า อ.เมือง จ.อุดรฯ ด้วย
**แต่เป็นเจ้าอาวาสอยู่ได้เพียง 4 ปี หลวงปู่มหาโส ก็สละตำแหน่งเจ้าอาวาส และออกธุดงค์ต่อเพื่อแสวงหาสิ่งที่เรียกว่า"พ้นจากวัฏสงสาร"อันเป็นเป้าหมายสูงสุดของพระพุทธศาสนาต่อไป

ประวัติอื่นๆ
**หลวงปู่พระมหาโส กัสสโป เป็นศิษย์สายธรรมหลวงปู่มั่น และเป็นศิษย์ผู้พี่ของหลวงปู่ผาง วัดอุดมคงคาคีรีเขต (ผู้คนส่วนใหญ่จะคิดว่าท่านเป็นศิษย์หรือสหธรรมิกของหลวงปู่ผาง จิตตคุตโต แต่ที่จริงไม่ใช่เพราะถ้านับพรรษาหลวงปู่มหาโสพรรษามากกว่าหลวงปู่ผางถึง 20 ปี เพราะหลวงปู่ผางท่านอุปสมบทตอนอายุ 40 ปีครับ) ในขณะที่ผู้คนรู้จักชื่อเสียงของหลวงปู่ผาง หลวงปู่มหาโสยังคงธุดงธ์แสวงวิเวกอยู่ในป่าอยู่

**ท่านนับเป็นพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบอีกรูปหนึ่งชึ่งผู้คนยังไม่ค่อยรู้จักท่านเท่าใด เพราะปฏิปทาท่านชอบบำเพ็ญหาความสงบทางจิตในป่ามาแต่ไหนแต่ไรแล้ว นับตั้งแต่อายุ 70 ปี หลวงปู่พระมหาโสก็ไม่เคยออกจากวัดป่าคำแคนเหนือสู่งสังคมทางโลกอีกเลยจนถึงปัจจุบัน สมัยก่อนท่านธุดงค์บำเพ็ญเพียรที่หุบเขาต่างๆ เช่น ภูพาน ภูผาแดง ภูเม็งฯลฯ และตั้งสำนักสงฆ์ที่หุบเขาภูเม็ง แต่ด้วยอุบาสกอุบาสิกาที่ไปถือศีลเป็นไข้ป่า ต่อมาเมื่อท่านจึงตัดสินใจย้ายลงมาอยู่ที่เชิงเขาภูเม็งจนถึงปัจจุบันท่านก็ได้มาปักหลักสร้างวัดวัดป่าคีรีวันอรัญเขต (วัดป่าคำแคนเหนือ) ต.คำแคน อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น


**หลวงปู่มหาโส กัสสโป แห่งวัดคำแคนเหนือ อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ไม่เคยพบกับหลวงปู่มั่นโดยตรง แต่ก็มีท่านเจ้าคุณพระธรรมเจดีย์(จูม) วัดป่าโพธิสมภรณ์ จ.อุดรธานี เป็นพระอาจารย์สอนกรรมฐาน และเป็นพระอุปัฌชาย์ผู้ญัติเป็นธรรมยุติให้หลวงปู่ด้วย และท่านก็ยังมีท่านพระอาจารย์มหาสีทน กาญจโน พระวิปัสสนากรรมฐานผู้เป็นเสาหลักใหญ่ของจังหวัดขอนแก่นในขณะนั้น คอยสอนกรรมฐานให้หลวงปู่มหาโส เมื่อครั้งพระอาจารย์สิงห์ ขันตยาคโม พาหมู่คณะพระกรรมฐานมาจำพรรษาเพื่อเผยแผ่ธรรมะในจังหวัดขอนแก่น ระยะประมาณ พ.ศ.2472 -2475 พระอาจารย์มหาสีทน ก็ได้ฝากหลวงปู่มหาโส และ หลวงปู่สิงห์ สุขปัญโญ (พระวิจิตรธรรมภาณี) อดีตเจ้าคณะ จ.อุบลฯ เป็นศิษย์พระอาจารย์สิงห์ด้วย

**หลวงปู่มหาโส นับเป็นพระเถราจารย์ชั้นผู้ใหญ่ของจังหวัดขอนแก่น มีพระฝากตัวเป็นศิษย์ผู้สืบทอดปฏิปทาจากท่านมากมาย เช่น หลวงปู่บุญเพ็ง กัปปโก วัดป่าวิเวกธรรม จซ.ขอนแก่น , เจ้าคุณพระธรรมดิลก (หลวงพ่อสมาน สุเมโธ) เจ้าคณะภาค 9 ธรรมยุติ วัดป่าแสงอรุณ จ.ขอนแก่น , หลวงปู่เขี่ยม โสรโย อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าถ้ำขาม จ.สกลนคร , หลวงพ่อนงค์ ปคุโณ วัดอุดมคงคาคีรีเขต(หลวงปู่ผาง) จ.ขอนแก่น , หลวงปู่สมาน ถาวโร เจ้าคณะ อ.มัญจาคีรี(ธรรมยุต) วัดป่าโนนสำนัก จ.ขอนแก่น ฯลฯ หลวงปู่มหาโสชราภาพมาก ๆ แต่สุขภาพแข็งแรงดี ความจำดีอยู่ และท่านยังปฏิบัติศาสนกิจของท่านอยู่เสมอต้นเสมอปลาย ทั้งการอบรมธรรมะแก่พระเณร อุบาสก อุบาสิกา การพัฒนาวัด การต้อนรับศรัทธาญาติโยมที่มากราบเยี่ยมที่วัด ซึ่งมีมาไม่เคยขาดสายเลยแม้แต่วันเดียว ไม่ว่าจะอยู่ไกลขนาดไหนก็มา ด้วยบารมีแห่งแสงธรรมขององค์หลวงปู่เอง

หลวงปู่โส กสฺสโปละสงขารมรณภาพจากไปอย่างสงบไป เมื่อพุธที่ 17 กุมภาพันธ์ 2559 ตามรายละเอียดในหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2559 พาดหัวข่าวไว้ดังนี้

สิ้น'หลวงปู่โส'เกจิดังอีสาน ลูกศิษย์เศร้า/แห่กราบไหว้
สิ้นพระดัง!! "หลวงปู่โส กัสสโป” พระกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น เกจิดังของภาคอีสาน ละสังขารด้วยวัยชรา สิริอายุ 100 ปี 3 เดือน 8 วัน เก็บสังขารศพจนกว่า สร้างเจดีย์บูรพาจารย์เสร็จ
เมื่อวันที่ 17 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลวงปู่พระมหาโส กัสสโป เป็นศิษย์สายธรรมหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต และ เป็นศิษย์ผู้พี่ของหลวงปู่ผาง วัดอุดมคงคาคีรีเขต พระเกจิดังของภาคอีสานได้ละสังขารแล้ว ที่กุฏิวัดป่าคำแคนเหนือหมู่ 2 ต.คำแคน อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ด้วยอาการชราภาพ เมื่อเวลา12.20น.ของวันที่ 16ก.พ.ที่ผ่านมาสิริอายุ 100ปี 3เดือน 8วัน

โดยศิษยานุศิษย์ได้พากันมากราบไหว้ และขอเช่าวัตถุมงคล ของหลวงปู่โสกัสสโป อย่างเนื่องแน่นพร้อมกับได้มี นายประเสริฐ ลือชาธนานนท์ รองผวจ.ขอนแก่น พร้อมหัวหน้าส่วนราชการพ่อค้า ประชาชน และศิษยานุศิษย์ได้ร่วมเคลื่อนสรีระหลวงปู่โส จากกุฏิของท่านมาที่ศาลาเปรียญกัสสโปนุสรณ์ เพื่อทำพิธีถวายน้ำหลวงอาบศพ

พระสมุห์สุภชัย เทวสุโภ อายุ 37ปี พระอุปฐากหลวงปู่โส กัสสโป เปิดเผยว่าหลังจากทางวัดและลูกศิษย์ ได้จัดงานครบรอบวันเกิด100ปี ให้กับท่าน เมื่อ 18พ.ย.2558 ที่ผ่านมาหลังจากนั้นประมาณ 1เดือน หลวงปู่โส ได้ล้มป่วยเพราะปอดติดเชื้อ จึงได้พาไปรักษาที่ รพ.ศรีนครินทร์ ม.ขอนแก่น กระทั่งเมื่อวันที่ 8 ม.ค.ที่ผ่านมา ได้ออกจาก รพ.มาพักรักษาตัวอยู่ในกุฏิของท่าน กระทั่งเมื่อวันที่ 15ก.พ.ที่ผ่านมา เกิดอาการเสลดติดคอหายใจไม่ออก กระทั่งเมื่อเวลา12.00น.วันที่ 16 ก.พ. ท่านได้นอนหลับ เมื่อคณะแพทย์จาก รพ.ศรีนครินทร์มาตรวจก็บอกว่า หลวงปู่โส ได้ละสังขารไปอย่างสงบแล้ว โดยนอนหลับตาและมีรอยยิ้มเล็กน้อย แพทย์บอกว่า หลวงปู่โสชราภาพ ซึ่งทางวัดไปเปิดโอกาสให้ศิษยานุศิษย์และประชาชนที่เคารพศรัทธาเข้ากราบไหว้ โดยตั้งศพที่ศาลาการเปรียญฯ มีสวดอภิธรรมทุกวันจนครบ 1เดือน จากนั้นได้ให้มีสวดเฉพาะวันพระ นอกจากนี้มีบำเพ็ญกุศลใหญ่ถวายหลวงปู่ฯ 7วัน 50วัน 100วันกระทั่งได้ก่อสร้าง “เจดีย์บูรพาจารย์ วัดป่าคำแคนเหนือ” เสร็จเรียบร้อย ก็จะมีพิธีฌาปนกิจของ หลวงปู่โส ตามที่คณะกรรมการกำหนดขึ้นมาซึ่งไม่ทราบว่าเป็นวันไหนเดือนอะไร แต่เป็นปี 2560 แน่นอน

วัตถุมงคล
**ที่จริงแล้วหลวงปู่ไม่เคยดำริให้สร้างวัตถุมงคลเลย แต่จะมีศิษยานุศิษย์ขออนุญาติจัดสร้างเพื่อหาทุนทรัพย์สร้างสาธารณะกุศล หลวงปู่ก็มีเมตตาให้จัดสร้างและอธิฐานจิตให้ โดยวัตถุมงคลที่หลวงปู่อธิฐานจิตให้ล้วนมีพุทธคุณวิเศษ มีประสบการณ์แก่ผู้บูชาทั้งสิ้น


อื่นๆ...

กำหลังโหลด Comments
Top