ปรกชุมพล หนึ่งในชุด "พระกิมตึ๋ง" ยอดพระเหนียวแห่งเมืองสุพรรณมาแล้วจ้า-jorawis - webpra

เว็บ-พระ ประมูลพระเครื่อง ร้านค้าพระเครื่องออนไลน์

jorawis

มีพระกรุยอดนิยมหลากหลายสภาพ ให้เลือกชม

เน้นพระแท้ ดูง่าย รับประกันความแท้ตามสากลนิยม มีให้เลือกชมทั้งพระเนื้อดิน ชิน ผง
แทบทุกองค์ได้รับการตรวจสอบจากผู้เชียวชาญ โดยมีรางวัลจากการผ่านงานประกวดมาตรฐาน
หรือ

ผ่านการออกใบรับรองพระแท้ จากสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย
ที่สามารถยืนยันถึงความแท้และความถูกต้องของข้อมูล
ที่เกี่ยวกับองค์พระได้เป็นอย่างดี
ส่วนใหญ่เป็นพระกรุพระเก่ายอดนิยม

หลายองค์เป็นพระในตำนาน หาชมได้ยากในปัจจุบัน
บางองค์ไม่มีแม้แต่รูปให้ผ่านสายตา

ส่วนบางองค์มีให้เห็นแค่เฉพาะภาพในหนังสือพระเครื่องมาตรฐานสูงบางเล่มเท่านั้น

สนใจเชิญติดต่อกันเข้ามาได้
ยินดีต้อนรับด้วยความเป็นกันเองทุกท่านทุกสายเลยจ้า

มีพระยอดนิยมมากมายให้เลือกชม เน้นพระแท้ดูง่ายโดยเฉพาะพระกรุ พระเก่า ประกันความแท้ตามมาตรฐานสากลนิยม

หมวด พระกรุ เนื้อดิน - เนื้อผง

ปรกชุมพล หนึ่งในชุด "พระกิมตึ๋ง" ยอดพระเหนียวแห่งเมืองสุพรรณมาแล้วจ้า

ปรกชุมพล หนึ่งในชุด "พระกิมตึ๋ง" ยอดพระเหนียวแห่งเมืองสุพรรณมาแล้วจ้า - 3

ปรกชุมพล หนึ่งในชุด "พระกิมตึ๋ง" ยอดพระเหนียวแห่งเมืองสุพรรณมาแล้วจ้า - 4

ชื่อร้านค้า	jorawis - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า	jorawis (99)
ชื่อพระเครื่อง	ปรกชุมพล หนึ่งในชุด "พระกิมตึ๋ง" ยอดพระเหนียวแห่งเมืองสุพรรณมาแล้วจ้า
อายุพระเครื่อง	506 ปี
หมวดพระ	พระกรุ เนื้อดิน - เนื้อผง
ราคาเช่า	-
เบอร์โทรติดต่อ	(ไม่แสดงเบอร์ เนื่องจากรายการนี้ไม่ได้ปล่อยเช่า)
อีเมล์ติดต่อ	Jorawis@gmail.com
สถานะ
Facebook	Share
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่	อา. - 01 มี.ค. 2558 - 17:46.01
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ	ส. - 09 พ.ค. 2558 - 20:00.04

รายละเอียด
พระชุดกิมตึ๋งนี้ เมื่อในอดีตเกือบศควรรษมาแล้วได้รับความนิยมในหมู่นักสะสมพระเครื่องอย่างมาก เดิมนักเลงพระรุ่นปู่ เรียกพระชุดนี้ว่า "พระตับวัดพลายชุมพล" พระกรุของวัดพลายชุมพล เป็นพระพิมพ์อีกกลุ่มหนึ่งของจังหวัดสุพรรณบุรีที่มีชื่อเสียงมาตั้งแต่อดีต ซึ่งพระในแต่ละพิมพ์ทรงมีชื่อเรียกขานและรูปแบบเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ กระชุดกิมตึ๋งพบในครั้งแรกที่วัดพลายชุมพลซึ่งเป็นวัดร้าง มีเขตอุปจารวัดติดกับวัดพระรูป เมื่อราว พ.ศ.๒๔๔๙ เนื่องจากเจดีย์หักโค่นลงมาตามสภาพความเก่าแก่ พระพิมพ์ที่แตกกรุออกมาในครั้งนั้นมีจำนวนมาก มีหลายพิมพ์ ถูกปล่อยทิ้งกระจัดกระจายจมอยู่ในซากอิฐปูนโดยไม่มีใครสนใจ ส่วนใหญ่เป็นพระพิมพ์ดินเผา ลักษณะเนื้อดินค่อนข้างหยาบ ศิลปะแบบอู่ทองหรืออยุธยาตอนต้น แต่ละพิมพ์ทรงมีความตื้นมาก ส่วนมากเป็นพระที่กดพิมพ์ไม่ค่อยเรียบร้อยนัก รายละเอียดขององค์พระไม่ชัดเจน ไม่มีการตัดขอบพิมพ์ ทุกๆ พิมพ์มักจะมีลายมือของผู้กดพิมพ์พระปรากฏอยู่ด้านหลัง ที่เกิดจากเอานิ้วมือตกแต่งและใช้ปลายนิ้วหยิบองค์พระออกจากพิมพ์ทำให้ด้านหลังและขอบข้างขององค์พระจึงนูนเป็นรอยนิ้วมือหยิบ แทบทุกองค์ นับเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของพระกรุนี้ก็ว่าได้ อัตตลักษณ์อีกประการสำหรับพระกรุวัดพลายชุมพลก็คือ ในเนื้อพระมีแร่สีแดงเลือดนกและแดงดำปรากฏอยู่แทบจะทุกองค์ พระกรุวัดพลายชุมพลที่จัดอยู่ในชุด "กิมตึ๋ง" มีอยู่ด้วยกันสี่พิมพ์ ได้แก่ ๑. พระสี่กร เป็นพระปางมารวิชัย ประทับขัดสมาธิราบบนฐานลักษณะคล้ายดอกบัวมีก้าน หรือฐานมีเดือยแบบพระยอดธง พระพาหา และพระกรทั้งสองข้างมีรอยเคลื่อน หรืออาจเกิดจากความจงใจแกะพิมพ์เน้นบริเวณพระกร ทำให้มองเห็นเส้นพระกรเป็นสองเส้นในแต่ละข้าง เป็นที่มาของชื่อพระสี่กร ปีกขององค์พระมีลักษณะคล้ายเบี้ยจั่น ด้านหลังมีรอยบีบตอนถอดพิมพ์ บางองค์อาจมีลายนิ้วมือปรากฏ มีขนาดเล็กใหญ่แตกต่างกันเล็กน้อย ความกว้างประมาณ ๒.๓ เซนติเมตร สูง ๓.๕ เซนติเมตร พระพิมพ์เล็กพิมพ์นี้พบน้อยกว่าพิมพ์อื่นๆมาก แม้ว่าพระประคำรอบจะมีจำนวนขึ้นจากกรุมากกว่าทุก ๆ พิมพ์ก็ตาม ๒. พระมอญแปลง เป็นพระปางมารวิชัย ขัดสมาธิเพชรประทับอยู่ในซุ้ม พุทธลักษณะคล้ายกับพระพุทธรูปประทับภายใต้ซุ้มพุทธคยาในศิลปะทวารวดี สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นพระถอดพิมพ์มาจาก พระผงใหญ่ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ องค์พระติดชัดลึกมีมิติกว่าพระสี่กร มีสองพิมพ์ พิมพ์เล็กมีขนาดกว้างประมาณ ๒ เซนติเมตร สูง ๓.๑ เซนติเมตร พิมพ์ใหญ่กว้างประมาณ ๒.๕ เซนติเมตร สูง ๔.๕ เซนติเมตร ๓. พระประคำรอบ เป็นพระปางมารวิชัยประทับขัดสมาธิราบอยู่ภายในซุ้มเรือนแก้ว ภายนอกกรอบซุ้มตกแต่งลายเม็ดประคำโดยรอบ จึงเป็นที่มาของชื่อเรียก พระประคำรอบ พิมพ์ตื้นมาก มีขนาดกว้างประมาณ ๒.๕ เซนติเมตร สูง ๓.๕ เซนติเมตร ๔. พระปรกชุมพลเป็นพระปางสมาธินาคปรก พิมพ์ติดไม่ชัดเจน มีขนาดแตกต่างกัน แบ่งออกได้เป็นพิมพ์เล็ก กลาง และใหญ่ ด้านหลังนูน มีทั้งที่มีรอยบีบ และไม่มีรอบบีบ ส่วนใหญ่มีรอยนิ้วมือติดชัดเจน องค์พระมีขนาดสมส่วนกับนาคปรก มีขนาดกว้างประมาณ ๒.๔ เซนติเมตร สูง ๔.๕ เซนติเมตร พิมพ์เล็กความกว้างประมาณ ๒ เซนติเมตร สูง ๓.๒ เซนติเมตร สำหรับที่มาของการเรียกพระชุดนี้ว่า พระชุดกิมตึ๋ง นั้น ไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด เพียงแต่สันนิษฐานกันว่าคงเนื่องมาจากความนิยมในการสะสมเครื่องโต๊ะ และเครื่องลายครามของจีน ที่แพร่หลายอย่างมากในช่วงรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยมีห้างที่สั่งเข้าจากเมืองจีนเอามาจำหน่ายในเมืองไทยสองห้าง คือ ห้างพระยาพิศาลผลพานิช กับห้างพระยาโชฎึกราชเศรษฐี ต่อมาเกิดห้างใหม่ขึ้นอีกห้างหนึ่งเป็นของจีนสุ่น ซึ่งเดิมทำงานให้กับพระยาโชฎึกราชเศรษฐี ภายหลังได้แยกออกไปตั้งห้างเอง ในช่วงเริ่มแรก มีเฉพาะชั้นเจ้านายและบรรดาพระบรมวงศานุวงศ์ตามพระราชนิยมภายในพระบรมมหาราชวังเท่านั้น ต่อมาเมื่อเป็นที่แพร่หลายมากขึ้น บรรดาข้าราชการผู้ใหญ่หรือคหบดี ในเมืองบางกอกต่างก็นิยมสะสมเครื่องเคลือบลายครามที่สั่งมาจากเมืองจีน เมื่อได้มาแล้วก็เริ่มจัดโต๊ะหมู่บูชาเป็นชุดๆ ประกวดประชันกันเป็นที่นิยมกันไปทั่ว ในการประกวดเครื่องถ้วยลายคราม และโต๊ะหมู่บูชาดังกล่าว ปรากฏมีโต๊ะหมู่บูชาชุดหนึ่ง ว่ากันว่ามีความงามเป็นเลิศกว่าชุดอื่นๆ พระยาโชฎึกราชเศรษฐี (ต้นตระกูลโชติกะพุกกณะ) จึงได้ทูลขอ กรมขุนราชสีหวิกรม ให้ประทานตั้งชื่อโต๊ะหมู่บูชาชุดนี้ ซึ่งพระองค์ทรงประทานชื่อว่า “ ชุดกิมตึ๋ง ” แปลว่า “ พระราชบัลลังก์ทองคำ” อีกกรณีหนึ่ง สันนิษฐานว่า “กิมตึ๋ง” อาจมาจากชื่อยี่ห้อ ของเครื่องถ้วยชาลายคราม “กิมตึ๋งฮกกี่” ที่พระยาโชฎึกราชเศรษฐี (พุก) สั่งมาจากเมืองจีน เมือรัชสมัยพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ ซึ่งสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงแปลความหมายไว้ในพระนิพนธ์เรื่อง ตำนานเครื่องโต๊ะ และถ้วยปั้น ว่า “ของอันวิเศษอย่างเต็มที่ ” เครื่องถ้วยชาดังกล่าวที่เรียกกันว่าชุด" กิมตึ๋ง" นั้นเป็นเครื่องลายคราม ประกอบด้วยถ้วยพร้อมจานรอง ชุดหนึ่งมีจำนวนสี่ใบ เป็นถ้วยขนาดเล็ก มีลวดลายสวยงาม จนเป็นที่กล่าวขวัญกันในหมู่นักนิยมถ้วยชา จึงเรียกชื่อถ้วยกิมตึ๋งกันจนติดปาก แม้เวลาจะผ่านมาอีกหลายสิบปี ภายหลังเมื่อมีการพบพระพิมพ์ที่จัดกลุ่มรวมกัน จึงมีผู้เรียกขานพระชุดนี้เสียใหม่ จาก" พระตับวัดพลายชุมพล" เป็น "พระชุดกิมตึ๋ง " เนื่องจากเป็นที่นิยมและมีจำนวนองค์ประกอบของพระชุดนี้สี่พิมพ์ด้วยกันแบบเดียวกันกับชุดเครื่องถ้วยลายครามที่โด่งดังในอดีตแต่นั้นมา องค์นี้เป็นพระปรกชุมพล พิมพ์เล็ก ทำให้ขนาดกระทัดรัด ไม่ใหญ่โตจนเกินไปนัก พระดูง่ายไร้กังวลทั้งพิมพ์และเนื้อหา Jorawis รับประกันความแท้ที่เป็นมาตรฐานสากลเช่นเดิม ด้วยรางวัลโบว์เขียว จากงานศูนย์กีฬาแห่งชาติ ภาคตะวันออก ที่พัทยา ที่จัด เมื่อวันที่21 ธันวาคม 2557 ที่ผ่านมานี้เองจ้า สนใจติดต่อสอบถามกันได้จ้า นอกจากพระองค์นี้ อาจมีรายการอื่น ๆ ที่ทำนกำลังค้นหาอยู่เชิญที่นี่เลยจ้า http://www.web-pra.com/Shop/jorawis

รายละเอียด

พระชุดกิมตึ๋งนี้ เมื่อในอดีตเกือบศควรรษมาแล้วได้รับความนิยมในหมู่นักสะสมพระเครื่องอย่างมาก เดิมนักเลงพระรุ่นปู่ เรียกพระชุดนี้ว่า "พระตับวัดพลายชุมพล" พระกรุของวัดพลายชุมพล เป็นพระพิมพ์อีกกลุ่มหนึ่งของจังหวัดสุพรรณบุรีที่มีชื่อเสียงมาตั้งแต่อดีต ซึ่งพระในแต่ละพิมพ์ทรงมีชื่อเรียกขานและรูปแบบเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ

กระชุดกิมตึ๋งพบในครั้งแรกที่วัดพลายชุมพลซึ่งเป็นวัดร้าง มีเขตอุปจารวัดติดกับวัดพระรูป เมื่อราว พ.ศ.๒๔๔๙ เนื่องจากเจดีย์หักโค่นลงมาตามสภาพความเก่าแก่ พระพิมพ์ที่แตกกรุออกมาในครั้งนั้นมีจำนวนมาก มีหลายพิมพ์ ถูกปล่อยทิ้งกระจัดกระจายจมอยู่ในซากอิฐปูนโดยไม่มีใครสนใจ ส่วนใหญ่เป็นพระพิมพ์ดินเผา ลักษณะเนื้อดินค่อนข้างหยาบ ศิลปะแบบอู่ทองหรืออยุธยาตอนต้น แต่ละพิมพ์ทรงมีความตื้นมาก ส่วนมากเป็นพระที่กดพิมพ์ไม่ค่อยเรียบร้อยนัก รายละเอียดขององค์พระไม่ชัดเจน ไม่มีการตัดขอบพิมพ์ ทุกๆ พิมพ์มักจะมีลายมือของผู้กดพิมพ์พระปรากฏอยู่ด้านหลัง ที่เกิดจากเอานิ้วมือตกแต่งและใช้ปลายนิ้วหยิบองค์พระออกจากพิมพ์ทำให้ด้านหลังและขอบข้างขององค์พระจึงนูนเป็นรอยนิ้วมือหยิบ แทบทุกองค์ นับเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของพระกรุนี้ก็ว่าได้ อัตตลักษณ์อีกประการสำหรับพระกรุวัดพลายชุมพลก็คือ ในเนื้อพระมีแร่สีแดงเลือดนกและแดงดำปรากฏอยู่แทบจะทุกองค์ พระกรุวัดพลายชุมพลที่จัดอยู่ในชุด "กิมตึ๋ง" มีอยู่ด้วยกันสี่พิมพ์ ได้แก่

๑. พระสี่กร

เป็นพระปางมารวิชัย ประทับขัดสมาธิราบบนฐานลักษณะคล้ายดอกบัวมีก้าน หรือฐานมีเดือยแบบพระยอดธง พระพาหา และพระกรทั้งสองข้างมีรอยเคลื่อน หรืออาจเกิดจากความจงใจแกะพิมพ์เน้นบริเวณพระกร ทำให้มองเห็นเส้นพระกรเป็นสองเส้นในแต่ละข้าง เป็นที่มาของชื่อพระสี่กร ปีกขององค์พระมีลักษณะคล้ายเบี้ยจั่น ด้านหลังมีรอยบีบตอนถอดพิมพ์ บางองค์อาจมีลายนิ้วมือปรากฏ มีขนาดเล็กใหญ่แตกต่างกันเล็กน้อย ความกว้างประมาณ ๒.๓ เซนติเมตร สูง ๓.๕ เซนติเมตร พระพิมพ์เล็กพิมพ์นี้พบน้อยกว่าพิมพ์อื่นๆมาก แม้ว่าพระประคำรอบจะมีจำนวนขึ้นจากกรุมากกว่าทุก ๆ พิมพ์ก็ตาม

๒. พระมอญแปลง

เป็นพระปางมารวิชัย ขัดสมาธิเพชรประทับอยู่ในซุ้ม พุทธลักษณะคล้ายกับพระพุทธรูปประทับภายใต้ซุ้มพุทธคยาในศิลปะทวารวดี สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นพระถอดพิมพ์มาจาก พระผงใหญ่ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ องค์พระติดชัดลึกมีมิติกว่าพระสี่กร มีสองพิมพ์ พิมพ์เล็กมีขนาดกว้างประมาณ ๒ เซนติเมตร สูง ๓.๑ เซนติเมตร พิมพ์ใหญ่กว้างประมาณ ๒.๕ เซนติเมตร สูง ๔.๕ เซนติเมตร

๓. พระประคำรอบ
เป็นพระปางมารวิชัยประทับขัดสมาธิราบอยู่ภายในซุ้มเรือนแก้ว ภายนอกกรอบซุ้มตกแต่งลายเม็ดประคำโดยรอบ จึงเป็นที่มาของชื่อเรียก พระประคำรอบ พิมพ์ตื้นมาก มีขนาดกว้างประมาณ ๒.๕ เซนติเมตร สูง ๓.๕ เซนติเมตร

๔. พระปรกชุมพลเป็นพระปางสมาธินาคปรก พิมพ์ติดไม่ชัดเจน มีขนาดแตกต่างกัน แบ่งออกได้เป็นพิมพ์เล็ก กลาง และใหญ่ ด้านหลังนูน มีทั้งที่มีรอยบีบ และไม่มีรอบบีบ ส่วนใหญ่มีรอยนิ้วมือติดชัดเจน องค์พระมีขนาดสมส่วนกับนาคปรก มีขนาดกว้างประมาณ ๒.๔ เซนติเมตร สูง ๔.๕ เซนติเมตร พิมพ์เล็กความกว้างประมาณ ๒ เซนติเมตร สูง ๓.๒ เซนติเมตร

สำหรับที่มาของการเรียกพระชุดนี้ว่า พระชุดกิมตึ๋ง นั้น ไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด เพียงแต่สันนิษฐานกันว่าคงเนื่องมาจากความนิยมในการสะสมเครื่องโต๊ะ และเครื่องลายครามของจีน ที่แพร่หลายอย่างมากในช่วงรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยมีห้างที่สั่งเข้าจากเมืองจีนเอามาจำหน่ายในเมืองไทยสองห้าง คือ ห้างพระยาพิศาลผลพานิช กับห้างพระยาโชฎึกราชเศรษฐี ต่อมาเกิดห้างใหม่ขึ้นอีกห้างหนึ่งเป็นของจีนสุ่น ซึ่งเดิมทำงานให้กับพระยาโชฎึกราชเศรษฐี ภายหลังได้แยกออกไปตั้งห้างเอง ในช่วงเริ่มแรก มีเฉพาะชั้นเจ้านายและบรรดาพระบรมวงศานุวงศ์ตามพระราชนิยมภายในพระบรมมหาราชวังเท่านั้น ต่อมาเมื่อเป็นที่แพร่หลายมากขึ้น บรรดาข้าราชการผู้ใหญ่หรือคหบดี ในเมืองบางกอกต่างก็นิยมสะสมเครื่องเคลือบลายครามที่สั่งมาจากเมืองจีน เมื่อได้มาแล้วก็เริ่มจัดโต๊ะหมู่บูชาเป็นชุดๆ ประกวดประชันกันเป็นที่นิยมกันไปทั่ว

ในการประกวดเครื่องถ้วยลายคราม และโต๊ะหมู่บูชาดังกล่าว ปรากฏมีโต๊ะหมู่บูชาชุดหนึ่ง ว่ากันว่ามีความงามเป็นเลิศกว่าชุดอื่นๆ พระยาโชฎึกราชเศรษฐี (ต้นตระกูลโชติกะพุกกณะ) จึงได้ทูลขอ กรมขุนราชสีหวิกรม ให้ประทานตั้งชื่อโต๊ะหมู่บูชาชุดนี้ ซึ่งพระองค์ทรงประทานชื่อว่า “ ชุดกิมตึ๋ง ” แปลว่า “ พระราชบัลลังก์ทองคำ”

อีกกรณีหนึ่ง สันนิษฐานว่า “กิมตึ๋ง” อาจมาจากชื่อยี่ห้อ ของเครื่องถ้วยชาลายคราม “กิมตึ๋งฮกกี่” ที่พระยาโชฎึกราชเศรษฐี (พุก) สั่งมาจากเมืองจีน เมือรัชสมัยพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ ซึ่งสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงแปลความหมายไว้ในพระนิพนธ์เรื่อง ตำนานเครื่องโต๊ะ และถ้วยปั้น ว่า “ของอันวิเศษอย่างเต็มที่ ”

เครื่องถ้วยชาดังกล่าวที่เรียกกันว่าชุด" กิมตึ๋ง" นั้นเป็นเครื่องลายคราม ประกอบด้วยถ้วยพร้อมจานรอง ชุดหนึ่งมีจำนวนสี่ใบ เป็นถ้วยขนาดเล็ก มีลวดลายสวยงาม จนเป็นที่กล่าวขวัญกันในหมู่นักนิยมถ้วยชา จึงเรียกชื่อถ้วยกิมตึ๋งกันจนติดปาก

แม้เวลาจะผ่านมาอีกหลายสิบปี ภายหลังเมื่อมีการพบพระพิมพ์ที่จัดกลุ่มรวมกัน จึงมีผู้เรียกขานพระชุดนี้เสียใหม่ จาก" พระตับวัดพลายชุมพล" เป็น "พระชุดกิมตึ๋ง " เนื่องจากเป็นที่นิยมและมีจำนวนองค์ประกอบของพระชุดนี้สี่พิมพ์ด้วยกันแบบเดียวกันกับชุดเครื่องถ้วยลายครามที่โด่งดังในอดีตแต่นั้นมา

องค์นี้เป็นพระปรกชุมพล พิมพ์เล็ก ทำให้ขนาดกระทัดรัด ไม่ใหญ่โตจนเกินไปนัก พระดูง่ายไร้กังวลทั้งพิมพ์และเนื้อหา Jorawis รับประกันความแท้ที่เป็นมาตรฐานสากลเช่นเดิม ด้วยรางวัลโบว์เขียว จากงานศูนย์กีฬาแห่งชาติ ภาคตะวันออก ที่พัทยา ที่จัด เมื่อวันที่21 ธันวาคม 2557 ที่ผ่านมานี้เองจ้า สนใจติดต่อสอบถามกันได้จ้า

นอกจากพระองค์นี้ อาจมีรายการอื่น ๆ ที่ทำนกำลังค้นหาอยู่เชิญที่นี่เลยจ้า

http://www.web-pra.com/Shop/jorawis