-
มีพระกรุยอดนิยมหลากหลายสภาพ ให้เลือกชมเน้นพระแท้ ดูง่าย รับประกันความแท้ตามสากลนิยม มีให้เลือกชมทั้งพระเนื้อดิน ชิน ผง
แทบทุกองค์ได้รับการตรวจสอบจากผู้เชียวชาญ โดยมีรางวัลจากการผ่านงานประกวดมาตรฐาน
หรือ
ผ่านการออกใบรับรองพระแท้ จากสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย
ที่สามารถยืนยันถึงความแท้และความถูกต้องของข้อมูล
ที่เกี่ยวกับองค์พระได้เป็นอย่างดี -
ส่วนใหญ่เป็นพระกรุพระเก่ายอดนิยมหลายองค์เป็นพระในตำนาน หาชมได้ยากในปัจจุบัน
บางองค์ไม่มีแม้แต่รูปให้ผ่านสายตา
ส่วนบางองค์มีให้เห็นแค่เฉพาะภาพในหนังสือพระเครื่องมาตรฐานสูงบางเล่มเท่านั้น
สนใจเชิญติดต่อกันเข้ามาได้
ยินดีต้อนรับด้วยความเป็นกันเองทุกท่านทุกสายเลยจ้า
หมวด พระเนื้อผง เนื้อดิน เนื้อว่าน ก่อนปี 2525
พระหลวงปู่ภู วัดท่าฬ่อ พิจิตร องค์นี้เนื้อดิน ตัวจริงเสียงจริง ติดรางวัลมาด้วย ลองเข้ามาชมกันได้จ้า
ชื่อร้านค้า | jorawis - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า) |
---|---|
ชื่อเจ้าของร้านค้า | |
ชื่อพระเครื่อง | พระหลวงปู่ภู วัดท่าฬ่อ พิจิตร องค์นี้เนื้อดิน ตัวจริงเสียงจริง ติดรางวัลมาด้วย ลองเข้ามาชมกันได้จ้า |
อายุพระเครื่อง | 106 ปี |
หมวดพระ | พระเนื้อผง เนื้อดิน เนื้อว่าน ก่อนปี 2525 |
ราคาเช่า | - |
เบอร์โทรติดต่อ | (ไม่แสดงเบอร์ เนื่องจากรายการนี้ไม่ได้ปล่อยเช่า) |
อีเมล์ติดต่อ | Jorawis@gmail.com |
สถานะ | |
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ | พฤ. - 25 ก.ย. 2557 - 20:02.19 |
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ | ศ. - 20 มี.ค. 2558 - 08:30.52 |
รายละเอียด | |
---|---|
พระแท้ๆ ของหลวงปู่ภู วัดท่าฬ่อ ทั้งเนื้อดินเผา และเนื้อผงพุทธคุณคลุกรัก หายากจนแทบจะกลายเป็นพระในตำนานไปอีกสำนักนึ่งแล้วจ้า ทั้งนี้ยังไม่นับเหรียญอัตตลักษณ์ยอดนิยมของท่าน ได้แก่ "เหรียญหางแมงป่อง" ที่นักเล่นในพื้นต่างหวงแหนไม่น้อยไปกว่ารูปหล่อหลวงพ่อเงินเลยแม้ราคาค่านิยมจะสูงกว่ากันมากก็ตาม องค์นี้เป็นพระเนื้อดินเผา รูปสามเหลี่ยมลบมุมองค์พระพุทธประทับนั่งปางสมาธิแบบขัดเพชรบนฐานเขียง ภายในกรอบรูปสามเหลี่ยม นอกเส้นกรอบมีเสนรัศมีอยู่รอบเส้นกรอบ ซึ่งหากพิจารณาตามพุทธศิลป์และการวางพระเพลา โดยลักษณะของพระชานุเป็นบ่วงแล้ว เป็นพุทธลักษณะของพระเครื่องหลวงปู่ภู วัดท่าฬ่อแน่นอนจ้า องค์พระเล็กจ้อย กะทัดรัด ขออธิบายขนาดขององค์พระด้วยภาพตามรูปที่ถ่ายกับคู่เหรียญบาทเล็กที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน ก็พอให้เปรียบเทียบขนาดกันได้แล้วจ้า ว่าขนาดพระองค์นี้เล็กน่ารักเพียงใด แถมยังเนื้อจัดขนาดน้อง ๆ พระเนื้อดินกรุเมืองกำแพง ถือได้ว่าดูง่ายได้ใจเลยจ้า Jorawis รับประกันความแท้ตามสากลนิยมด้วยรางวัลที่3 จากงานใหญ่ยักษ์ที่จัดโดย คณะนักเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่นที่ 25 ณ ศูนย์ประชุมไบเทคบางนา เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2557 ที่ผ่านมา สนใจลองติดต่อสอบถามกันเข้ามาได้เลยจ้า นอกจากพระองค์นี้อาจมีพระรายการอื่น ๆ ที่ทำนกำลังค้นหาอยู่ เชิญที่นี่เลยจ้า http://www.web-pra.com/Shop/jorawis ประวัติของพระครูธุรศักดิ์เกียรติคุณ ( หลวงปู่ภู ธมฺนโชติ ) วัดท่าฬ่อ จังหวัดพิจิตร หลวงพ่อภู ธมฺนโชติ แห่งวัดท่าฬ่อ เดิม เป็นชาวอยุธยาเกิดที่บ้านผักไห่ เมื่อเดือน 6 ปีเถาะ ในปีพ.ศ. 2398 เป็นบุตรของนายแฟง นางขำ มีน้องร่วมท้อง 5 คน เมื่อท่านอายุได้ 8 ขวบ บิดาได้ย้ายภูมิลำเนามาหากินที่ บ้านหาดมูลกระบือ ( หาดขี้ควาย ) ตำบลไผ่ขวาง อำเภอเมือง ในจังหวัดพิจิตร จนต่อมาเมื่อท่านอายุได้ 11 ปี บิดามารดาจึงได้นำไปฝากให้เรียนหนังสือขอม และไทยกับพระอธิการนิ่ม ที่วัดหาดมูลกระบือใกล้บ้านและต่อมาก็ได้ไปเรียนกับพระอาจารย์แช่ม ในสำนักของพระอุปัชฌาย์อินอีกด้วย เมื่ออายุได้ 16 ปี ท่าจึงได้บรรพชาเป็นสามเณรและได้ศึกษาพระปริยัติธรรมในราว 1 ปี จึงลาสีกขาออกมาช่วยบิดาประกอบอาชีพ ท่านเป็นคนรักการศึกษา ทั้งยังสนใจใฝ่รู้ในทางวิชาไสยเวทย์ รอจนกระทั่งอายุได้ 23 ปี ในปี พ.ศ. 2422 ท่านจึงอุปสมบท ณ วัดเขื่อน ในเขตอำเภอเมือง ที่พิจิตรนั่นเองโดยมี พระครูศิลธรารักษ์ ( จัน ) ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการนิ่ม จาก วัดหาดมูลกระบือ กับ พระอาจารย์เรือน วัดท่าฬ่อเป็นคู่สวด ได้ฉายาว่า “ ธมุนโชติ ” แปลว่า ผู้สว่างในทางธรรม หลังอุปสมบท หลวงปู่ภู เป็นผู้มีมีจริยวัตรปฎิบัติงดงามเคร่งครัดในพระธรรมวินัย จากเดิมท่านตั้งใจจะบวชเพียงชั่วระยะเวลาเพื่อการศึกษา กลับกลายเป็นมุ่งศึกษาธรรมหลังจากสำเร็จพระปาฎิโมกข์ แล้วยังใฝ่การศึกษาหาวิชาความรู้หลายด้าน หลายสาขา ทั้งทางธรรม พระธรรมวินัย พระสัทธรรมเทศนาเทศมหาชาติชาฎก 13 กัณฑ์ ทางด้านวิปัสสนาธุระ ดังจะเห็นได้จากหลักฐานที่มีการบันทึกไเกี่ยวกับประวัติของท่านว่า เมื่อจำพรรษาอยู่ที่วัดเขื่อนได้เพียง 5 พรรษา พระอุปัชฌาย์เกษ จึงได้ให้เป็นพระคู่สวด และในปี พ.ศ. 2437 ชาวบ้านที่เห็นวัครปฎิบัติอันงดงามสมกับที่อยู่ในสมณเพศของท่าน จึงพร้อมใจกันนิมนต์ หลวงปู่ภู จากวัดเขื่อน มาจำพรรษาอยู่ ณ วัดท่าฬ่อ เนื่องจากสภาพวัดชำรุดทรดโทรมมาก ทั้งโบสถ์และเสนาสนะต่าง ๆ ล้วนพังลงเพราะขาดพระอธิการที่จะบำรุงรักษา เมื่อท่านมาอยู่แล้วก็ได้ ทะนุบำรุงเสนาสนะต่างๆ ให้เหมาะสมกับที่เป็นศาสนสถาน รวมถึงการก่อสร้างโบสถ์ กุฎิ หอสวดมนต์ พระเจดีย์ ศาลาการเปรียญ และธรรมาศน์ จนสำเร็จทุกอย่างโดยได้รับความร่วมมือช่วยเหลือจากชาวบ้านและพุทธศาสนิกชนที่เลื่อมใสศรัทธาในวัตรปฎิบัติของท่านเป็นอย่างดี ตั้งแต่นั้นมาวัดท่าฬ่อก็มีความเจริญรุ่งเรืองเป็นลำดับ จนถึงขนาดได้รับการยกย่องจากสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส เมื่อคราวเสด็จตรวจสังฆมณฑลภาคเหนือ ในพุทธศักราช2455 ครั้งนั้นสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ได้เสด็จตรวจราชการ ได้ทรงมาประทับแรมที่ วัดท่าฬ่อ 1 ราตรี รับสั่งชมเชยและพอพระทัยในสภาพความเรียบร้อย และสง่างามสมเป็นศาสนสถานของวัดท่าฬ่อ โดยในบันทึกมีรายละเอียดของเจ้าอธิการวัดท่าฬ่อ ที่ได้ปฎิสันถาร ถวายพระพรต้อนรับ และกราบทูลปราศรัยโดยถูกต้องตามระเบียบแบบแผนทุกประการ ครั้นเมื่อเสด็จกลับ สมเด็จพระมหาสมณเจ้าฯ จึงทรงพระราชทานสมณศักดิ์ ให้เป็นที่พระครูธุรศักดิ์เกียรติคุณ พระครูพิเศษ เจ้าอธิการวัดท่าฬ่อ และได้รับพระราชทานตราเสมาธรรมจักรให้นั่งที่ พระอุปัชฌาย์ใน แขวงอำเภอท่าหลวงและทั่วจังหวัดพิจิตร ยังความปลาบปลื้มแก่คณะศิษย์ของท่านเป็นอย่างยิ่งจึงพร้อมใจกันแสดงมุฑิตาจิต จัดสร้างเหรียญหางแมลงป่องถวาย เหรียญหางแมลงป่องหลวงปู่ภูนั้น เป็นเหรียญปั๊มหูในตัว สร้างด้วยเนื้อตะกั่ว ด้านหน้าเหรียญเป็นอักขระขอมทั้งหมด ตรงกลางเป็นยันต์ห้า หรือ เรียกตามภาษาชาวบ้าน ว่ายันต์ตะกร้อ ยันต์ห้าก็คือ นะ โมพุทธายะ และมีอักขระขอมโดยรอบขอบเหรียญ ส่วนด้านหลังเหรียญหางแมลงป่องมีอักษร ไทยเขียนเป็นภาษาเก่าว่า “ พระครูธุรศักเกียรติคุณ ” หรียญหางแมลงป่องมีสองบล็อก บล็อกแรกสร้างก่อนเป็นบล็อกก้นตัว ( ย ) ฐานเป็นเหลียม บล็อกนี้ลายกนกที่หลังเหรียญจะเป็นเส้นเล็กหลายเส้น และมีรายละเอียดมาก ส่วนบล็อกที่สองเป็นบล็อกก้นตัว ( ย ) เหมือนกันแต่ฐานเป็นมุมแหลมเฉียง เหรียญบล็อกสองลายกนกจะเป็นเส้นใหญ่และมีส่วนรายละเอียดน้อยกว่ารุ่นแรก เพราะเหรียญรุ่นสองนี้สร้าง บรรดาลูกศิษย์หลวงปู่ภูสร้างถวายหลังจากที่ท่าน ได้รับสมณศักดิ์พระครูชั้นพิเศษที่พระครูธุรศักดิ์เกียรติคูณ ใน ปี 2455 หลวงปู่ภู นอกจากมีวัตรปฎิบัติอันงดงามสมควรแก่สมณรูปแล้ว นี้ท่านยังมีความรุ้หลากหลายสาขามากมาย ทั้งเรื่องเครื่องยาสมุนไพร และแพทย์แผนโบราณ ตามแบบอย่างของพระสมัยโยราณที่ต้องมีวิชาเหล่านี้ไว้ รักษาตนเมื่อออกธุดงควัตร รวมถึงเป็นที่พึ่งให้กับชาวบ้านชาวป่าตามสถานที่ต่างๆ อีกด้วย จากหลักฐานที่มีหลงเหลือปรากฏ ทั้งบันทึก ตำหรับตำรา และวัตถุมงคลต่าง ๆ แสดงให้เห็นว่าท่านมีความรู้ด้านภาษาขอมอย่างแตกฉาน โดยท่านได้เขียนยันต์ต่าง ๆ ไว้บนกระดานชนวนเพื่อให้คนรุ่นหลังได้ศึกษา นอกจากหลวงพ่อเงิน วัดบางคลานแล้ว หลวงปู่ภูยังได้ไปศึกษาวิชาจากหลวงพ่อโพธิ์ที่วัดวังหมาเน่า หลวงพ่อโพธิ์เป็นพระมอญมาจากปทุมธานี สร้างกุฏิอยู่รูปเดียว เป็นอาจารย์ที่เรืองเวทย์ในทุกด้าน เก่งด้านตะกรุด และยันต์อักขระต่างๆ ว่ากันว่าหลวงปู่ภู มีโอกาสได้ตามหลวงพ่อเงินไปธุคงควัตรตามสถานที่ต่างๆ หลายครั้ง และเชื่อกันต่อไปอีกว่า ในระหว่างออกธุดงค์ท่านได้พบและเรียนวิชาทางไสยเวทย์พระเกจิเรืองวิทยคมที่ไม่ปรากฏนามอีกหลายท่าน หลวงปู่ภู มรณภาพเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2467 สิริรวมอายุ 69 ปี พรรษา 45 แม้ว่าหลวงปู่ภูจะสิ้นอายุขัย หลังหลวงพ่อเงิน วัดบางคลานเพียง 5 ปี แต่อายุน้อยกว่ามากถึง 50 ปี หลวงพ่อเงินอายุยืนมากถึง 114 ปี ( ชาตะกาลเมื่อ พ.ศ. 2348 – มรณะกาล พ.ศ. 2462 ) ยังควมโศกเศร้าใหบรรดาเหล่าศิษยานุศิษย์ และพุทธศาสนิกชนชาวพิจิตร และจังหวัดใกล้เคียงเป็นอย่างมาก ที่สูญเสียพระเกจิอาคมขลังที่เปี่ยมล้นด้วยความเมตตาและจริยวัตรที่เรียบง่ายงดงามไปถึง 2 องค์ในช่วงเวลาเพียง 5 ปี หลวงปู่ภูภู ท่านได้สร้างวัตถุมงคลไว้มากมายหลายชนิด อาทิ พระเนื้อผงดำ พิมพ์สมาธิ ตรากระต่าย ฝังตะกรุด (กระต่ายเป็นปีเกิดของท่าน) พระเนื้อดินเผาพิมพ์ต่าง ๆ หลากหลายขนาด รวมทั้ง ตะกรุดมหารูด แหวนพิรอด ตะกรุดสร้อยสังวาลย์ ตะกรุดโทนยันต์ค้าขาย ผ้าประเจียด เหรียญใบมะยม เหรียญแปดเหลี่ยม ไม้ตะพด ฯลฯ พุทธานุภาพของวัตถุมงคลที่ท่านสร้างไว้ ครบเครื่องตั้งแต่เรื่อง อยู่ยงคงกระพัน แคล้วคลาดเมตามหานิยม โดยเฉพาะเหรืยญหางแมลงป่องเนื้อตะกั่ว อันเป็นเหรียญยอดนิยม ซึ่งสร้างไว้น้อยและหาตัวจริงได้ยากมากในปัจจุบัน |
พระเครื่องที่เกี่ยวข้องในร้านค้านี้...
อื่นๆ...
กำหลังโหลด Comments