พระผงรูปเหมือน รุ่นแรก หลวงพ่อเตี้ย วัดสามเอก-จ่าจีระสิทธิ์ - webpra
VIP
  • 0 8 6 - 5 6 0 4 0 3 7
  • Page 1
  • Page 2
หน้าที่ และความรับผิดชอบ

หมวด พระเนื้อผง เนื้อดิน เนื้อว่าน หลังปี 2525

พระผงรูปเหมือน รุ่นแรก หลวงพ่อเตี้ย วัดสามเอก

พระผงรูปเหมือน รุ่นแรก หลวงพ่อเตี้ย วัดสามเอก - 1พระผงรูปเหมือน รุ่นแรก หลวงพ่อเตี้ย วัดสามเอก - 2พระผงรูปเหมือน รุ่นแรก หลวงพ่อเตี้ย วัดสามเอก - 3พระผงรูปเหมือน รุ่นแรก หลวงพ่อเตี้ย วัดสามเอก - 4
ชื่อร้านค้า จ่าจีระสิทธิ์ - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า
ชื่อพระเครื่อง พระผงรูปเหมือน รุ่นแรก หลวงพ่อเตี้ย วัดสามเอก
อายุพระเครื่อง 35 ปี
หมวดพระ พระเนื้อผง เนื้อดิน เนื้อว่าน หลังปี 2525
ราคาเช่า -
เบอร์โทรติดต่อ 08-6560-4037
อีเมล์ติดต่อ Tayanrum@hotmail.com
LINE
(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
สถานะ เช่าแล้ว
Facebook
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ พ. - 26 ก.พ. 2568 - 21:35.24
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ จ. - 03 มี.ค. 2568 - 22:25.51
รายละเอียด
พระผงรูปเหมือน รุ่นแรก หลวงพ่อเตี้ย วัดสามเอก

สวยเดิม ๆๆ

ที่ลอง เป็น การลองเหรียญ ครับ

(ปัจจุบันหายากมาก )

เนื้อผงสร้างในวาระเดียวกัน

ประวัติ
พระครูพิพิธกิจจานุรักษ์ หลวงพ่อฝุ่น อตตทโม
( เตี้ย ) มีนามเดิมว่า " ฝุ่น" นามสกุล " จูงาม " เกิดเมื่อวัน ที่ 10 กุมภาพันธ์ พศ.2477
ตรงกับวันอาทิตย์ ขึ้น 7 ค่ำ เดือน 3 ปีจอ ณ. หมู่6 ต.โพงาม อ.สรรคบุรี
จ.ชัยนาท โยมบิดาชื่อ พ่อมะลิ จูงาม โยมมารดาชื่อ คุณแม่แกละ จูงาม
โดยมีพี่น้องร่วมมารดา เดียวกันทั้งหมด 12 คน เป็นบุตรชาย 2 คน บุตรหญิง
10 คน
ช่วงปฐมวัยและการศึกษาเบื้องตัน
สมัยเด็ก นั้นหลวงพ่อมีรูปร่างเด็ก จึงได้ชื่อว่าฝุ่น แต่จะเรียกติดปากกัน
ว่า " เตี้ย" (ลูกศิษย์ใกล้ชิดได้เล่าให้ฟังว่า หลวงพ่อบอกว่า "เตี้ย" คือไม่สูง
ไม่ต่ำ อยู่กลางๆ) ท่านได้รับการศึกษาจนจบชั้น ป.4 จาก โรงเรียนวัดคังคาว
เมื่ออายุประมาณ 10 ขวบ จึงไต้ออกจากโรงเรียนโดยขออนุญาตจากโยม บิดา
และมารดา มาบรรพชาเป็นสามณร ณ วัดพระแก้ว อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท โดยมี
พระอาจารย์โปร่ง เจ้าอาวาสวัดพระแก้ว ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลวงอาของท่าน เป็นผู้
บรรพชาเป็นสามเณรให้ ในช่วงที่เป็นสามเณร อยู่นั้นก็ได้ศึกษาพระปริยัติธรรม
แถะวิชาการต่างๆ อยู่พอสมควรโดยท่านนั้นชอบศึกษาและแสวงหาความรู้เกี่ยวกับ
วิชา และคาถาอาคม ต่างๆ มีเรื่องเล่ากันว่าท่านท่อง อิติปิโส ถอยหลังจนสามารถ
สะเดาะกุญแจได้ หลังจากอยู่วัดพระแก้วระยะหนึ่งก็ได้ย้าย มาจำพรรษาอยู่ที่
วัดคังคาว หรือวัดธรรมมิกาวาส ซึ่งอยู่ใกล้กับบ้านของท่าน ในอดีตนั้นมีหลวงพ่อเฒ่า
(ปั้น) เป็นเจ้าอาวาส รูปแรก และเป็นที่นับถือ และศรัทธาของชาวบ้านมาก (ว่ากันว่าท่านเป็นอดีตทหารพระเจ้าตากสิน หลังสิ้นสงครามจึงออกบวชและออกธุดงค์เรื่อยมาถึงชัยนาทและสร้างวัด)
ในระยะที่จำพรรษาอยู่ วัดคังคาวนี้ก็ได้ ศึกษาวิชาแพทย์แผนโบราณ
วิทยาคมต่างๆ จากตำราของหลวงพ่อเฒ่าซึ่งบันทึกไว้ในสมุดช่อย โบราณ จน
ชำนาญ เช่น วิชาผ้ายันต์แดง อะปะจะคะ วิชาผ้ายันต์พระอิศวร มนต์พระกาฬ วิชาคงกระพัน ชาตรี หนังเหนียว ยันต์พิชัยสงคราม คาถาปราบอาวุธ เป็นต้น โดยมีปูโฉมแถะหลวงพ่อสอน(อุปชาสอน)ที่มีศักดิ์เป็นถุงของท่าน และเป็นเจ้าอาวาสวัดคังคาวในสมัยนั้นเป็นครูอาจารย์ อบรมสั่งสอน จนรอบรู้สรรพวิชาต่างๆ สำเร็จตั้งแต่สมัยยังเป็นสามเณร ด้วยนิสัยส่วนตัวที่ท่าน เป็นผู้ใฝ่รู้ และสนใจ ในวิชาอาคมต่างๆ ซึ่งท่านสามารถใบ้หวยได้ตั้งแต่สมัยเป็น
เณร ในวัยเยาว์นั้นหลวงพ่อสอน อดีตเจ้าอาวาส วัดคังคาว ซึ่งมีศักดิ์ เป็นหลวงถุง
ของท่าน นั้นเคยไกวเปล เลี้ยงท่านมาตั้งแต่เด็ก ๆ ด้วยเช่นกัน
ในช่วงที่เป็นสามเณรนี้ท่านได้เคยเดินทางไปศึกษาวิชากับหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์ จ.นครสวรรค์ และหลวงพ่อศรี วัดพระปรางค์ จ.สิงห์บุรีและหลวงพ่อแช่มวัดตาก้อง จ.นครปฐม (เรียนทำน้ำมนต์) ด้วยเช่นกัน
อุปสมบท
เมื่อครั้งอายุของท่านได้ 21 ปี บริบูรณ์ จึงได้ญัตติ จากสามเณร แล้วอุปสมบทเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม พ.ศ.2498 เวลา 13.15 น. ณ วัดโบสถ์ ต.โพงาม อ.สรรค์บุรี จ.ชัยนาท โดยมี พระครูวิฑูรชัยกิจ (หลวงพ่อเทียน)
วัดโบสถ์ ต.โพงาม อ.สรรค์บุรี จ.ชัยนาท เป็นพระอุปัชฌาย์และ มีพระครูวิชัย
วรคุณ (หลวงพ่อป่วน) วัตโพธิ์งาม ต.โพงาม อ.สรรค์บุรี จ.ชัยนาท เป็นพระกรรม
วาจาจารย์
ได้รับฉายาว่า "พระฝุ่น อตุตทโม" และได้มาจำพรรษาอยู่ที่วัดพระแก้ว
ลูกศิษย์ท่านนึงเล่าให้ฟังว่า แต่พรรษาที่ 2 ท่านก็ได้ร่วมในพิธีพุทธาภิเษก แล้ว
แสดงถึงความแก่กล้าในวิชาอาคมที่ท่านร่ำเรียนมา หลังจากจำพรรษาที่วัด
พระแก้วได้ระยะหนึ่ง นั้นท่านก็ได้ออกธุดงค์ไปอยู่ตามป่าในถ้ำ หลายแห่งด้วยกัน
ทั้งภาคเหนือและอีสานไปจนถึงพม่า ลาวและเชมร ได้พบพระธุดงค์ในป่าสอนวิชา
ให้ ที่ไหนที่ว่ามีครูบาอาจารย์ ดี มีวิชา หรือแม้กระทั่งฆราวาส ท่านจะไปเรียนทุกที่
ด้วยที่ท่านเป็นพระที่คงแก่เรียน ท่านจึงเชี่ยวชาญ ชำนาญ ในวิชาอาคม และ
ศาสตร์หลายแขนงจนแตกฉาน สามารถทดสอบความขลังและ ศักดิ์สิทธิ์จนได้
ผลจริง ทั้งตำรายารักษาโรค ยาไทยแผนโบราณ การเทศน์การแหล่ก็ไม่เป็นรองใคร
ทั้งวิชากระบี่กระบอง มวยไทย หยั่งรู้จิตใจ สามารถรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าได้ วาจาศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก โดยเฉพาะเรื่องเลขเบอร์นั้น ไม่ว่าจะเลข 2 ตัว3 ตัว หรือเลข 6 หลัก 7 หลักท่านให้ตรงๆ
หลังจากนั้นจึงย้ายจากวัด
โพธิ์งามข้ามฟากแม่น้ำ มาอยู่ที่วัดตึก ต.โพงาม อ.สรรค์บุรี จ.ชัยนาท ในเวลา
ต่อมาและได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาส แต่ท่านไม่ยอมรับตำแหน่ง ท่านได้ทำนุ
บำรุง ช่อมแซม ศาสนสถานต่างๆ ภายในวัด ในช่วงที่จำพรรษาอยู่วัตตึกนี้เอง
ท่านก็ยังไปมาหาสู่กับศิษย์พี่ ,ศิษย์น้อง และครูบาอาจารย์ต่างๆ อาทิเช่น หลวงพ่อกวย วัดบ้านแค หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ ,หลวงพ่อถิร วัตป่าเลไลย์ ,หลวงพ่อเทียน วัดโบสถ์ ,
หลวงพ่อปวน วัดโพธิ์งาม ,หลวงพ่อจวน วัดหนองสุ่ม ,หลวงพ่อแพ วัตพิกุลทอง ,
หลวงพ่อสืบ วัดกุฎทอง, หลวงพ่อเปรื่อง วัดบางคลาน จ.พิจิตร ฯถฯ และยังได้
แลกเปลี่ยนและลองวิชากัน บ่อย ๆ กับหลวงพ่อเปรื่องนี้ท่านเคยบอกกับถูกศิษย์
ว่าท่านไปเรียนวิชาคู่กันมากับศิษย์เอกหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน แต่ไม่ได้บอกว่า
ชื่ออะไร สมัยอยู่ที่วัดตึกนี้ ท่านก็ได้สร้างวัตถุมงคลไว้ในโอกาสที่จำเป็นเท่านั้น
อาทิเช่น พระพิมพ์สมเด็จ , ผ้ายันต์หงษ์คู่ ตะกรุดและถูกประคำ ซึ่งแต่ละ
อย่างนั้นสร้างไว้จำนวนไม่มากนัก พระพิมพ์สมเด็จนั้นทำและกดกันเองภายใน
วัดลักษณะจึงไม่สวยงามนักและจะเปราะแตกชำรุดเป็นส่วนใหญ่ในช่วงนี้เองโยมบิดาของหลวงพ่อก็ได้มาบวกอยู่ด้วยกันที่วัดศึกประมาณ 3 พรรษาเนื่องจากสุขภาพไม่แข็งแรงและ ป่วยบ่อยๆโยมบิดา จึงได้ลาสิขาบทไปอยู่กับโยมมารดา
เช่นเดิม และใน พศ.2522 หลังจากงานพิธีพระราชทานเพลิงศพหลวงพ่อเทียน
อุปัชฌาย์ของท่าน ณ วัดโบสถ์ ก็ได้มีญาติโยมนำโดย โยมถิน โยมอาจและโยมแจ
มานิมนต์ให้ท่าน จำพรรษาอยู่ที่วัดสามเอก ต.โคกช้าง อ.เติมบางนางบวช
จ.สุพรรณบุรี เมื่อ 1 เมษายน พ.ศ.2522 โดยพระครูพิทักษ์ธรรมโชติเจ้าคณะ
อำเภอเดิมบางนางบวชในขณะนั้นได้เซ็นรับรองเช้าสังกัด วัดสามเอก เมื่อ วันที่
พฤษภาคม พศ.2523
ในช่วงปีพ.ศ. 2525 ท่านกี่มีดำริให้สร้างเหรียญพระพุทธ
(ลพ.โต)หลังเป็นรูปแท็งค์น้ำ รุ่น 1 ฉลอง 200 ปี กรุงรัตนโกสินทร์ ขึ้นแต่ใน
ชื่อเหรียญจะไม่ใด้ใช้ชื่อของท่านเองโดยใช้ชื่อพระครูหมุน ธมุมทตฺโต ซึ่งเป็น
อดีดเจ้าอาวาสวัดบ้านเพชรที่ติดตามท่านมาอยู่ที่วัดสามเอก ด้วยขณะนั้น แต่ที่
เหรียญจะตอกชื่อย่อของท่านไว้ที่ด้านหลังของทุกเหยญคือ " พผ. " ย่อมาจาก
"พระฝุ่น"เพื่อ หาปัจจัยสร้างแท็งค์น้ำ เพื่อให้เป็นสาธารณะประโยชน์ ของวัตสามเอก
ใต้ฐานของแท็งค์น้ำนี้ เล่ากันว่าท่านได้เท ตะกรุดใส่ลงไปด้วยจำนวนหนึ่ง...
ในปีพศ 2528 ท่านได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดสามเอก รับพัดยศ
เป็น พระครูปลัดฝุ่น อตุตทโม
และในปี พ.ศ.2533 ที่ใด้สร้างเหรียญรูปเหมือนรุ่นแรก ของท่านขึ้น
เพื่อหาปัจจัยสร้างโบสถ์ เมรุเผาศพและกุฏิ ที่พักอาศัยของพระ เณร เหรียญรุ่นแรก
ปลอดภัย หรือที่ชาวบ้านเรียกกันติดปากว่า "เหรียญปิดตา" (พระควัมบดี)
สร้างไว้หลายแบบด้วยกัน มีทั้งเนื้อทองคำ เนื้อเงิน(ต้องสั่งจอง) เนื้อทองแตงธรรมดา รมดำ กะไหล่นาก และกะไหล่ทองสำหรับแจกกรรมการ แถะยังมีรูปเหมือนบูชาขนาด หน้าตัก 5 นิ้ว รุ่นแรก อีกด้วย ในวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ.2537
ท่านที่ได้รับแต่งตั้ง สมณศักดิ์พัศยศ เป็นพระครูพิพิธกิจจานุรักษ์
ตลอดเวลานั้นท่านได้ทำนุบำรุง และพัฒนาวัดสามเอก เรื่อยมา
ทั้งหล่อพระประธาน สร้างกุฎิ วิหาร ห้องน้ำ ศาลา ระบบสาธารณูปโภคต่างๆ
และถมดินในบริเวณวัดจากที่เป็นพื้นที่ต่ำมีน้ำท่วมประจำ จากศาลาที่
สูงท่วมหัว จนตินเสมอพื้นศาลาอย่างที่เห็นในปัจจุบัน.
ปัจฉิมวาร
นับตั้งแต่ พ.ศ. 2546 เป็นต้นมาตั้งแต่ สังขารและสุขภาพ
ของหลวงพ่อก็ได้ร่วงโรยไปตามกาลเวลา โรคภัยไข้เจ็บ ก็รบกวนบ่อยครั้ง ตาม
วิสัยของทางโลก ในช่วงนี้เอง หลวงพ่อจึงย้ายออกจากวัดสามเอก ไปพักรักษา
ตัวยังวัดท่านางเริง จ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี และได้ไปรักษาตัว ที่รพ.
หมอประเจิด จ.สิงห์บุรีบ่อย ๆ เมื่อได้รักษาตัวจนอาการ ดีขึ้นแล้ว ไปพักรักษา
ตัวที่วัดใหม่ศรัทธาธรรม ระยะหนึ่ง อ.วสันต์ หลานของท่านก็มารับท่านไปดูแล
ยังวัดไทรม้าใต้ จ.นนทบุรีจนสุขภาพดีขึ้นตามลำดับหลวงพ่อท่านก็ได้ย้าย
กลับไปจำพรรษา ณ วัดใหม่ศรัทธาธรรม (วัตใหม่ไฟไหม้) 1 พรรษา เหนือวัด
บ้านแค จากนั้นก็ย้ายมาที่วัดหนองกรด และวัดเขาน้อย ตามลำตับจากนั้น
ก็ได้มีญาติโยม จากวัดหนองแขม มานิมนต์ท่านให้ไปจำพรรษาอยู่ที่วัดหนองแขม
ต.คงคอน ย.สรรค์บุรี จ.ชัยนาท หลังจากอาการดีขึ้นท่านที่กลับมายังที่วัด
สามเอกอีกครั้งในช่วงปี พศ.2547 ท่านเอ่ยข้าหมดเวรหมดกรรมแล้ว (ที่ท่านต้องย้ายไปหลาย ๆวัด นี้เพื่อใช้หนี้กรรมในอตีต) จนอาการอาพารกำเริบ จึงมีกลุ่มถูกศิษย์พาไปรักษาตัวยัง รพ.หลวงพ่อแพ จ.สิงห์บุรี
และในโอกาสที่วัดคังคาวจัดพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลเนื่องในงานผูกพัทธสีมา
เมื่อปลายปี 2547 อาจารย์ จี๊ ก็ได้มานิมนต์ให้หลวงพ่อท่านไปร่วมงานครั้งนี้ด้วย
โดยนำรถมารับและช่วยกันพยุงตัวท่านขึ้นรถเชื่นไปนั่งปลุกเสกด้วย ถือเป็น
ความเมตตาต่อศิษย์อย่างยิ่ง ท่านบอกกับอาจารย์จิ๊ ว่าจะมาปลุกเสกให้ หลวงพ่อ
เฒ่า วัดคังคาวเป็นครั้งสุดท้าย (เพราะที่ผ่านมาทางวัดคังคาวต้องนิมนต์ท่าน
มาปลุกเสกด้วยเสมอ)
กาลมรณะ
หลวงพ่อเตี้ย ท่านป่วยด้วยโรคความดัน เบาหวาน ฯลฯ และ
ได้มีคณะศิษย์ยานุศิษย์พาท่านไปรักษาตัวยัง รพ.มิชชั่น กรุงเทพฯ และได้
มรณะภาพลงตัวยอาการสงบ เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2548 สิริรวมอายุได้ 71 ปี
9 วัน 50 พรรษา(หลังจากวันเกิด 9 วัน) โดยได้มีการจัดงานศพเป็นเวลา 7 วัน
7 คืน แถะได้บรรจุศพท่านไว้ในโรงแก้วโดยที่สังขารท่านไม่เน่าเปื่อยจนถึงปัจจุบัน.
ทางวัดโดย พระอธิการอำนาจ และคณะกรรมการวัตได้จัดสร้างศาลา บรรจุ
สรีระของท่านไว้เพื่อให้สาธุชน ได้กราบไหวั สักการบูชากันจนถึงทุกวันนี้
เรื่องราว ประสบการณ์ ต่าง ๆ
1.การลองยิงเหรียญปิดตา
การลองในครั้งนี้มีขึ้นเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2534 โดยมี พ.ต.ท.พอพล
เพิ่มชัยสุข เป็นผู้ทำการยิงทดสอบ โดยใช้ปืนสั้นขนาด.38 และลูกปืนใหม่เอี่ยมที่ซื้อ
มาจากร้านขายอาวุธปืน ประภาศรีในตลาดเดิมบางนางบวชจ.สุพรรณบุรี ซึ่ง
ก่อนทดสอบก็ได้ลองยิงหลายนัดปรากฏว่ากระสุนมีประสิทธิภาพดีทุกนัด เหรียญ
ไห้ถูกนำไปแขวนบนกิ่งไม้ ตรงศาลาชายน้ำ ห่างจากผู้ยิงประมาณ 3 วา ต่อหน้า
ผู้ที่เป็นสักชีพยานในเหตุการณ์หลายร้อยคน โดย 2 นัดแรกนั้นยิงไม่ติด นัดที่ 3
ยิงออกเป็นประกายไฟพุ่งออกจากลำกล้องแต่ไปได้ไม่ไกล นัดที่ 4 และ 5 ยิงออก
คังปังแต่ถูกปืนคาลำกล้องต้องใช้เวลากระทุ้งออกอยู่นาน และได้นำกระสุน 2
นัดแรกที่ยิงไม่ติดใส่ปืนกระบอกเดี่ยวกันเล็งไปอีกทางนึง ปรากฏว่ายิงออกทั้ง
2 นัด
หลังจากทดสอบเหรียญครั้งนี้ หลวงพ่อได้เขียนไปปิดประกาศ
ให้ประชาชนได้ทราบว่าไม่มีเจตนาอวดอ้างวิชาของท่าน แต่เนื่องจากมีญาติโยม
หลายคนมาขอร้องวิงวอนอยากจะเห็นวิชาอุดปืนว่ามีจริงหรือไม่ หลวงพ่อเลยต้อง
ขออนุญาตครูบาอาจารย์ที่เรียนมาในสมัยที่ธุดงค์อยู่ในป่าอาศัยอยู่ตามถ้ำ ทดสอบ
เหรียญรุ่นแรกของท่าน โดยหลวงพ่อท่านให้สัจจะว่าจะไม่ลองให้ใครดูอีกเด็ดขาด
เพราะการลองครั้งนี้ถือว่ามีพยานรู้เห็นเพียงพอแล้ว หลวงพ่อได้เตือนไว้ว่าเมื่อ
ได้เหรียญของท่านไปแล้วอย่าได้ไปลองอีกจะทำให้ใช้ของขลังไม่ได้ผลเพราะขาด
ความศรัทธาและความเชื่อมั่น เหรียญของท่านก็จะไม่ศักดิ์สิทธิ์เต็มที่.
1.1 ลองยิงเหรียญปิดตา (ประสบการณ์ตรงจากคุณธนกิจ ส่งมาให้)
คือลุงผมได้มาบอกพ่อว่า มีเกจิเก่ง ชวนไปกราบ พ่อก็ไปกับลุง
ไปครั้งแรกไม่เจอหลวงพ่อ แต่ทำบุญเช่าเหรียญรุ่นแรกกลับมา 1 เหรียญ ลุงก็
ชวน ฯลฯ

พระเครื่องที่เกี่ยวข้องในร้านค้านี้...

อื่นๆ...

กำหลังโหลด Comments
Top