-
0 8 6 - 5 6 0 4 0 3 7
หมวด พระเนื้อผง เนื้อดิน เนื้อว่าน หลังปี 2525
พระพุทธนวมินทรมหาจักรี พระพุทธสิริกิติทีฆายุมงคล พระมหาธาตุเจดีย์ดอยอินทนนท์




ชื่อร้านค้า | จ่าจีระสิทธิ์ - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า) |
---|---|
ชื่อเจ้าของร้านค้า | |
ชื่อพระเครื่อง | พระพุทธนวมินทรมหาจักรี พระพุทธสิริกิติทีฆายุมงคล พระมหาธาตุเจดีย์ดอยอินทนนท์ |
อายุพระเครื่อง | 38 ปี |
หมวดพระ | พระเนื้อผง เนื้อดิน เนื้อว่าน หลังปี 2525 |
ราคาเช่า | 250 บาท |
เบอร์โทรติดต่อ | 08-6560-4037 |
อีเมล์ติดต่อ | Tayanrum@hotmail.com |
LINE |
(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
|
สถานะ |
![]() |
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ | ส. - 11 ม.ค. 2568 - 21:38.55 |
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ | ส. - 11 ม.ค. 2568 - 21:38.55 |
รายละเอียด | |
---|---|
พระพุทธนวมินทรมหาจักรี พระมหาธาตุเจดีย์ดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ จัดสร้างโดยกองทัพอากาศ ปี2530 สวยเดิม พร้อมด้วย พระพุทธสิริกิติทีฆายุมงคล พระมหาธาตุเจดีย์นภพลภูมิสิริ ดอยอินทนนท์ “พระพุทธสิริกิติทีฆายุมงคล” มีความหมายว่า “พระพุทธเจ้าทรงเป็นสิริมงคลและทรงเจริญพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินินาถ(ในรัชกาลที่๙) พระพุทธสิริกิติทีฆายุมงคล องค์เจดีย์มีรูปทรงที่ละม้ายคล้ายคลึงกับองค์พระมหาธาตุเจดีย์นภเมทนีดล มีรูปทรงสัณฐานเป็นรูป ๑๒ เหลี่ยม มีระเบียงกว้างโดยรอบเป็น ๒ ระดับ สำหรับให้พุทธศาสนิกชนและผู้มาเยี่ยมชมได้กระทำทักษิณาวัฏบูชา และเดินชมทิวทัศน์ได้โดยรอบ องค์พระมหาธาตุเจดีย์มีความกว้างที่ระดับระเบียงชั้นล่าง ๓๗ เมตร สูง ๕๕ เมตร ซึ่งต่ำกว่าพระมหาธาตุเจดีย์นภเมทนีดล ๕ เมตร เพื่อแสดงความหมายถึง สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ ๙ ทรงอ่อนพระชันษากว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ๕ พรรษา ที่ยอดปลีขององค์เจดีย์เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งบรรจุพระธาตุหริภุญชัยจำลอง โดยแยกบรรจุเป็น ๔ ส่วน ได้แก่ ส่วนที่ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ ๙ พระราชทานให้ ส่วนที่ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานให้ ส่วนที่รัฐบาลศรีลังกามอบให้ และส่วนที่ผู้บัญชาการทหารอากาศและผู้มีจิตศรัทธาร่วมอนุโมทนา ข้อมูลเพิ่มเติมครับ https://phramahathat.com/fulldoc/mother.html ปี 2530 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระเจริญพระชนมพรรษา 5 รอบ กองทัพอากาศได้จัดสร้างพระมหาธาตุบรรจุพระบรมสารีริกะาตุ ณ ยอดดอย อินทนนท์ อ.จอมทอง เชียงใหม่ ได้พระบาทสมเด็จได้พระราชประทานนามว่า พระมหาธาตู นภเมทนีดล มีความหมายว่า พระสถูปเจดีย์บรรจุพระบรมธาตุ อันยิ่งใหญ่ เพียงฟ้าจรดดิน วันอาทิตย์ที่ ๖ กันยายน ๒๕๓๐ เป็นวันพุทธาภิเษก วันนั้นตรงกับวันขึ้น ๑๔ ค่ำ เดือน ๑๐ ปีเถาะ พระจันทร์จะเต็มดวงแล้ว และตามปูม เป็นวันมหาสิทธิโชค ตามเวลาฤกษ์จุดเทียนชัย คือเวลา ๑๕.๔๙ -๑๖.๓๐ น. เป็นมหัทธโนฤกษ์ การประกอบพิธีพุทธาภิเษก ได้ประกอบพิธีไปตามขั้นตอนครบถ้วนทุกประการ ในตอนเช้าท้องฟ้าอากาศแจ่มใส ตอนใกล้เที่ยงมีเมฆฝนเข้ามา และค่อยๆ ผ่านไป เมฆมีกระจายทั่วๆ ไปในท้องฟ้า แต่ก็ไม่มีฝนตก แม้จะทำท่าว่าจะตกอยู่บ้าง วันนั้นเป็นวันสำคัญที่สุดของพิธี ผู้ช่วยผู้อำนวยการพิธีได้ปฏิบัติบูชาสิ่งศักดิสิทธิ์ก่อนเวลา ๑๑.๐๐ น. และในตอนบ่าย เวลา ๑๕.๐๐ น. ก็ได้มีสภาพอากาศที่ปรากฎแก่สายตาของทุกคนที่มาร่วมพิธีที่ได้สังเกต เวลาประมาณ ๑๕.๐๐ น. นั้นเมฆที่ลอยต่ำรอบพระมหาสถูปเจดีย์เริ่มลอยช้าลง และพัดเป็นทักษิณาวัฎ เป็นวงรอบพระมหาสถูปเจดีย์ในเบื้องสูงยอดดอยที่ตั้งพระมหาสถูปเจดีย์โปร่งโดยรอบขึ้นไป ไม่มีเมฆเป็นช่องสว่างขึ้นไป เมฆที่ผ่านมาถึงบริเวณนี้จะพัดอ้อมไป โดยเฉพาะบริเวณใกล้องค์พระมหาสถูปเจดีย์ ในปริมณฑล ๑๐๐-๑๕๐ เมตร โดยรอบ ทุกสิ่งทุกอย่างสงบนิ่ง ตั้งแต่เวลา ๑๕.๐๐ น. ไปจนเสร็จพิธี เวลาประมาณ ๑๘.๓๐ น. เมื่อไม่มีลมเลย อากาศจึงไม่หนาวอย่างที่เคยหนาวมาก่อนแล้วทุก ๆ วัน อุณหภูมิของอากาศขณะนั้นคงจะราวๆ ๒๐-๒๕ องศาเซลเซียส เพราะสามารถสวมเสื้อแขนสั้นเพียงตัวเดียวโดยมิต้องมีเสื้อหนาวสวมทับอีกชั้นหนี่ง ธรรมชาติสงบนิ่งเป็นที่อัศจรรย์อย่างยิ่ง สภาวะเช่นนั้นย่อมจะไม่เคยมีหรือบังเกิดขึ้นมาก่อนแน่นอน ณ ที่นั้นนับร้อยๆ ปี ทุกคนเชื่อว่าปวงสิ่งศักดิสิทธิ์ทั้งหลายได้มาประชุมอนุโมทนาและบันดาลให้บังเกิดสภาวะเช่นนั้น อันเป็นนิมิตแห่งความสวัสดีและเป็นมหามงคลด้วยอำนาจและบารมีแห่งองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าโดยแท้ ผู้ที่ได้ไปร่วมพิธีพุทธาภิเษกในวันนั้นประจักษ์แก่ตาตนเอง ไม่มีผู้ใดปฏิเสธได้ พระพุทธนวมินทรมหาจักรีฯ พระมหาธาตุเจดีย์ดอยอินทนนท์ สมเด็จพระญาณสังวร วัดบวรนิเวศ หลวงปู่ครูบาอิน อินโท หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม ครูบาชัยวงศ์ วัดพระบาทห้วยต้ม หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ หลวงปู่เปลี่ยน ปัญญาปทีโป หลวงพ่อไพบูลย์ สุมังคโล และพระเถราจารย์ร่วมปลุกเสกหลายท่าน ร่วมอธิญานจิต ผงมวลสารมงคล ผสมผงตะไบ ซึ่งบังเกิดเป็นจุดสนิมเขียวในองค์พระ . ปี 2530 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระเจริญพระชนมพรรษา 5 รอบ กองทัพอากาศได้จัดสร้างพระมหาธาตุบรรจุพระบรมสารีริกะาตุ ณ ยอดดอย อินทนนท์ อ.จอมทอง เชียงใหม่ ได้พระบาทสมเด็จได้พระราชประทานนามว่า พระมหาธาตู นภเมทนีดล มีความหมายว่า พระสถูปเจดีย์บรรจุพระบรมธาตุ อันยิ่งใหญ่ เพียงฟ้าจรดดิน วันอาทิตย์ที่ ๖ กันยายน ๒๕๓๐ เป็นวันพุทธาภิเษก วันนั้นตรงกับวันขึ้น ๑๔ ค่ำ เดือน ๑๐ ปีเถาะ พระจันทร์จะเต็มดวงแล้ว และตามปูม เป็นวันมหาสิทธิโชค ตามเวลาฤกษ์จุดเทียนชัย คือเวลา ๑๕.๔๙ -๑๖.๓๐ น. เป็นมหัทธโนฤกษ์ การประกอบพิธีพุทธาภิเษก ได้ประกอบพิธีไปตามขั้นตอนครบถ้วนทุกประการ ในตอนเช้าท้องฟ้าอากาศแจ่มใส ตอนใกล้เที่ยงมีเมฆฝนเข้ามา และค่อยๆ ผ่านไป เมฆมีกระจายทั่วๆ ไปในท้องฟ้า แต่ก็ไม่มีฝนตก แม้จะทำท่าว่าจะตกอยู่บ้าง วันนั้นเป็นวันสำคัญที่สุดของพิธี ผู้ช่วยผู้อำนวยการพิธีได้ปฏิบัติบูชาสิ่งศักดิสิทธิ์ก่อนเวลา ๑๑.๐๐ น. และในตอนบ่าย เวลา ๑๕.๐๐ น. ก็ได้มีสภาพอากาศที่ปรากฎแก่สายตาของทุกคนที่มาร่วมพิธีที่ได้สังเกต เวลาประมาณ ๑๕.๐๐ น. นั้นเมฆที่ลอยต่ำรอบพระมหาสถูปเจดีย์เริ่มลอยช้าลง และพัดเป็นทักษิณาวัฎ เป็นวงรอบพระมหาสถูปเจดีย์ในเบื้องสูงยอดดอยที่ตั้งพระมหาสถูปเจดีย์โปร่งโดยรอบขึ้นไป ไม่มีเมฆเป็นช่องสว่างขึ้นไป เมฆที่ผ่านมาถึงบริเวณนี้จะพัดอ้อมไป โดยเฉพาะบริเวณใกล้องค์พระมหาสถูปเจดีย์ ในปริมณฑล ๑๐๐-๑๕๐ เมตร โดยรอบ ทุกสิ่งทุกอย่างสงบนิ่ง ตั้งแต่เวลา ๑๕.๐๐ น. ไปจนเสร็จพิธี เวลาประมาณ ๑๘.๓๐ น. เมื่อไม่มีลมเลย อากาศจึงไม่หนาวอย่างที่เคยหนาวมาก่อนแล้วทุก ๆ วัน อุณหภูมิของอากาศขณะนั้นคงจะราวๆ ๒๐-๒๕ องศาเซลเซียส เพราะสามารถสวมเสื้อแขนสั้นเพียงตัวเดียวโดยมิต้องมีเสื้อหนาวสวมทับอีกชั้นหนี่ง ธรรมชาติสงบนิ่งเป็นที่อัศจรรย์อย่างยิ่ง สภาวะเช่นนั้นย่อมจะไม่เคยมีหรือบังเกิดขึ้นมาก่อนแน่นอน ณ ที่นั้นนับร้อยๆ ปี ทุกคนเชื่อว่าปวงสิ่งศักดิสิทธิ์ทั้งหลายได้มาประชุมอนุโมทนาและบันดาลให้บังเกิดสภาวะเช่นนั้น อันเป็นนิมิตแห่งความสวัสดีและเป็นมหามงคลด้วยอำนาจและบารมีแห่งองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าโดยแท้ ผู้ที่ได้ไปร่วมพิธีพุทธาภิเษกในวันนั้นประจักษ์แก่ตาตนเอง ไม่มีผู้ใดปฏิเสธได้ สมเด็จพระญาณสังวร พระเถระ และพระสงฆ์ ประกอบศาสนพิธีเสร็จแล้ว เริ่มออกจากห้องโถงพระมหาสถูปเจดีย์เป็นคณะแรก ผู้บัญชาการทหารอากาศและผู้เข้าร่วมพิธีอื่นๆ ต่างทยอยกันกลับ เพื่อเดินทางต่อไปขึ้นเครื่องบินกลับดอนเมือง ทุกคนต่างปลื้มปิติและอิ่มในบุญกิริยาที่แต่ละคนได้มีโอากาสมาร่วมพิธีพุทธาภิเษกพระพุทธรูปสำคัญ ซึ่งจะประดิษฐานอยู่บนดอยอินทนนท์ที่สูงที่สุดเป็นอมตะ นับภพ นับชาติ จะไม่มีสิ้นสุด หากจะได้เกิดมาใหม่เมื่อใดก็คงจะพบ "พระพุทธบรมศาสดา" ณ ที่ขุนเขาแห่งนี้ คณะเจ้าหน้าที่ประกอบพิธีพุทธาภิเษกเดินทางกลับลงมาเป็นคณะสุดท้าย เมื่อพระจันทร์วันขึ้น ๑๔ ค่ำ ส่องสว่างเหนือดอยอินทนนท์และเส้นทางถนนอินทนนท์-จอมทอง จะเห็นได้ค่อนข้างชัดเจน ในวันรุ่งขึ้น วันที่ ๗ กันยายน ๒๕๓๐ พลอากาศโท เกริกชัย หาญสงคราม นาวาอากาศเอก ประกลป์ วิจิตรานุช และ นาวาอากาศเอก อนุธวัช บุณยสิงห์ ได้อำนวยการและควบคุมการลำเลียงส่งพระพุทธรูปจำลอง ๙๙๙ องค์ พร้อมด้วยพระพิมพ์ผงบรรจุไห จำนวนหนึ่งขึ้นบรรจุไว้ในชั้นตามแผนแบบ ชั้นที่ ๕ และ ชั้นที่ ๖ ตามที่กำหนดจำนวนไว้ครบถ้วนและเรียบร้อย แล้วรอที่จะบรรจุพระบรมสารีริกธาตุในวันที่ ๑๔ กันยายน ๒๕๓๐ ต่อไป พระชุดนี้พิธียิ่งใหญ่ แต่ไม่ค่อยมีคนรู้จัก จนลานโพธิ์นำไปเขียนคอลัมม์ "พระดีพุทรคุณเกินหลักล้าน" ทำให้มีหลายคนติดตามแอบเก็บกันเงียบๆ ครับ ซึ่งถ้าจะหาเก็บกันชั่วโมงนี้ยังง่ายอยู่ แต่ต่อไปคนรู้เยอะขึ้น แพงแน่นอนครับ เพราะใครๆก็ต้องอยากได้ไว้ประดับบารมีเมื่อรู้ข้อมูลประวัติการสร้างยิ่งใหญ่ดังนี้แล้ว |
พระเครื่องที่เกี่ยวข้องในร้านค้านี้...










อื่นๆ...
กำหลังโหลด Comments