-
0 8 6 - 5 6 0 4 0 3 7
หมวด พระเนื้อผง เนื้อดิน เนื้อว่าน หลังปี 2525
พระผง พระพุทธนิมิต หลังขุนแผน
ชื่อร้านค้า | จ่าจีระสิทธิ์ - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า) |
---|---|
ชื่อเจ้าของร้านค้า | |
ชื่อพระเครื่อง | พระผง พระพุทธนิมิต หลังขุนแผน |
อายุพระเครื่อง | - |
หมวดพระ | พระเนื้อผง เนื้อดิน เนื้อว่าน หลังปี 2525 |
ราคาเช่า | 550 บาท |
เบอร์โทรติดต่อ | 08-6560-4037 |
อีเมล์ติดต่อ | Tayanrum@hotmail.com |
LINE |
(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
|
สถานะ | |
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ | ส. - 21 ธ.ค. 2567 - 21:04.12 |
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ | ส. - 21 ธ.ค. 2567 - 22:42.28 |
รายละเอียด | |
---|---|
พระผง พระพุทธนิมิต หลังขุนแผน หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม พิมพ์นี้ ...หายาก ครับ ในหมู่ลูกศิษย์ ท่านนิยมกันมาก ข้อมูลโดยละเอียดจากผู้สร้าง โปรดอ่านโดยใช้วิจารณญาณ >>> "พระผงเสมา พระพุทธนิมิต วัดหน้าพระเมรุ ประทับนารายณ์ทรงครุฑเหยียบพระราหู" ถ้าสังเกตให้ดีๆ จะเห็นว่า มีการจำลอง "นารายณ์ทรงครุฑเหยียบราหู(หน้ากาล)" จากหน้าบันพระอุโบสถ วัดหน้าพระเมรุ พระนครศรีอยุธยา มาประดิษฐานไว้ที่ด้านล่างขององค์พระพุทธนิมิต เพื่อเป็นเคล็ดแห่งการ "ข่มราหู" ด้วยอำนาจแห่ง พระพุทธเจ้า พระมหาจักรพรรดิ พระนารายณ์ พญาครุฑ ถึง "4 ชั้น" ทำให้ "ราหู" ไม่อาจสำแดงฤทธิ์ทาง "ร้าย" ให้มากระทบกระเทือนแก่ผู้ที่ได้มีไว้สักการะบูชาได้อย่างถนัดและเต็มที่ ด้วยเหตุที่ถูก "คุมความประพฤติ" ด้วย "พระรัตนตรัย" และ "มหาเทพ" ดังภาพที่เห็น จึงอำนวยประโยชน์และความสุขแก่ผู้ที่อยู่ภายใน "พุทธบารมี" และ "เทวบารมี" ได้ดียิ่งกว่าปกติสามัญทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ "พระผงเสมา พระพุทธนิมิต วัดหน้าพระเมรุ ประทับนารายณ์ทรงครุฑเหยียบพระราหู" รุ่น "ปุพเพ กต ปุญญาธิการ" (หลัง "พระขุนแผนยอดขุนพลองค์จ้อย") ชนิด "เนื้อพิเศษ" (สีแดง) ซึ่งสร้างจาก "ผงมหาจักรพรรดิ หลวงปู่ดู่ วัดสะแก" แบบ "เข้มข้นที่สุด" ซึ่ง "ผู้สร้างเหรียญเปิดโลก รุ่นแรก หลวงปู่ดู่" ได้เมตตามอบให้มาโดยตรง ยังได้ "คลุกทองคำเปลว" ที่ลอกจาก "พระนารายณ์ทรงครุฑเหยียบพระราหู(หน้ากาล)" และปวงเหล่าเทวดา จาก "หน้าบันพระอุโบสถ วัดหน้าพระเมรุ" ซึ่งถือกันว่าเป็น "ดวงตรามหาจักรพรรดิ" ที่สวยงามอลังการ จำหลักลงรักปิดทองมาตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนต้น มีอายุกว่า500ปี ดวงตรานี้ศักดิ์สิทธิ์มาก ผู้หลักผู้ใหญ่ในกรุงศรีอยุธยา ต้องมาทำพิธีขอบารมีดวงตรานี้ จนมีเรื่องร่ำลือมาแต่สมัยอยุธยาว่า "#อยากเป็นใหญ่มีบารมี #ต้องบัดพลี #ตราหน้าบันวัดหน้าพระเมรุ" แบบ "เต็มๆ...!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!" (นายช่างประจำวัดหน้าพระเมรุซึ่งขึ้นไปซ่อมหน้าบันมอบให้ผู้สร้างมาโดยตรง) จึงยิ่งเสริมเพิ่มพลังให้บังเกิดแก่ "พระผงเสมา พระพุทธนิมิต วัดหน้าพระเมรุ ประทับนารายณ์ทรงครุฑเหยียบพระราหู" ## พิธีการอธิษฐานจิตปลุกเสกนั้น ### เบื้องต้น ได้อธิษฐานต่อองค์ "พระพุทธนิมิตวิชิตมารโมลีศรีสรรเพชญ์บรมไตรโลกนาถ วัดหน้าพระเมรุ พระนครศรีอยุธยา" ให้ท่าน "ลงพลังเป็นประเดิม" เป็น "พระองค์แรก" ตามธรรมเนียม "ทำอะไร ต้องให้เป็นอย่างนั้น" ที่ยึดถืออย่างเข้มงวดที่สุดมาแต่ไหนแต่ไร เมื่อประมาณกลางปีพ.ศ.2561 จากนั้น จึงได้อาราธนา "หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชโช วัดสวนสันติธรรม ชลบุรี" พระอริยสงฆ์ซึ่งมีบุพพวาสนาเกี่ยวเนื่องกับพระพุทธนิมิต และวัดหน้าพระเมรุมาแต่อดีตกาลได้ "เดินญาณ" มาอธิษฐานจิตพระชุดนี้ ซึ่งประดิษฐานอยู่บนฐานชุกชี หน้าองค์พระพุทธนิมิต ภายในพระอุโบสถ วัดหน้าพระเมรุเป็นทุติยะวาระ ก่อนที่จะได้นำ "เนื้อขาว" ถวายและแจกกันในคราวนั้น ส่วน "พระผงเสมา พระพุทธนิมิต วัดหน้าพระเมรุ ประทับนารายณ์ทรงครุฑเหยียบพระราหู" รุ่น "ปุพเพ กต ปุญญาธิการ" (หลัง "พระขุนแผนยอดขุนพลองค์จ้อย") ชนิด "เนื้อพิเศษ" (สีแดง) ที่สร้างไว้เป็นการ "ส่วนตัว" ในจำนวนที่น้อยมากไม่กี่สิบองค์ ก็ได้ "เสกยาว" ต่อมาเรื่อยๆ โดยได้อัญเชิญไปเข้าพิธีพุทธาภิเษก,อธิษฐานบารมีเพิ่มเติมอีกหลายวาระ อาทิ 1.พิธีพุทธาภิเษกและเบิกพระเนตร "พระพุทธนิมิต วัดหน้าพระเมรุ จำลอง" ที่สร้างถวายบูชาพระคุณ "หลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่ ระยอง" โดยมี "พระครูสุภัททาจารคุณ" หรือ "หลวงปู่สิน วัดละหารใหญ่ ระยอง" เป็นองค์ประธานในพิธีพุทธาภิเษก,เบิกพระเนตรด้วยองค์เอง ด้วยเมตตาธรรมอันสูงยิ่ง ใน "โบสถ์หลังเก่า" วัดละหารไร่ ระยอง เบื้องหน้า "พระประธานดินดิบ" ที่ "หลวงปู่ทิมปั้นด้วยมือของท่านเอง" อันศักดิ์สิทธิ์ยิ่ง ซึ่ง "ผู้รู้" บางท่านถึงกับกล่าวว่า "พระประธานดินดิบ" ที่ "หลวงปู่ทิมปั้นด้วยมือของท่านเอง" องค์นี้ ศักดิ์สิทธิ์ถึงขนาด "เสกพระได้เองเลยทีเดียว...!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!" (16 ตุลาคม พ.ศ.2561) 2.พิธีสมโภช,ห่มผ้า,ฉลองปิดทอง "สมเด็จพระศรีสรรเพชญดาญาณ" ที่ "เทวดาอยุธยา" มากราบอาราธนาให้ "หลวงพ่อวัดหน้าพระเมรุ" เป็นองค์ประธานในการสร้าง "พระศรีสรรเพชญ์จำลอง" เพื่อทดแทนองค์เดิมที่ถูกเผาทำลายไปสมัยเสียกรุงศรีครั้งที่ 2 แล้ว "หลวงพ่อวัดหน้าพระเมรุ" ก็มา "ดล" ให้ "ศิษย์ใกล้ชิด" คิดทำคิดสร้างจนสำเร็จขึ้นมาจริงๆ ในช่วงวาระที่ "พระศรีสรรเพชญ์แห่งกรุงเก่า" สถาปนามาครบ "520 ปี" พอดี ท่ามกลางเหตุปาฏิหาริย์ที่น่าอัศจรรย์ 108 ที่วิทยาศาสตร์ไม่อาจหาคำอธิบายได้มากมาย ตั้งแต่แรกคิดสร้าง จนวันที่ปิดทอง,ห่มผ้าสไบทิพย์ฉลองเสร็จสิ้น เหลือที่จะคณานับได้ ในวัน "อาสาฬหบูชา" ที่ "1 สิงหาคม พ.ศ.2566" ณ พระอุโบสถ วัดหน้าพระเมรุ พระนครศรีอยุธยา โดยทันทีที่ "ห่มผ้าสไบทิพย์" ฉลองสมโภชเสร็จ "ฝน" ก็ได้ "กระหน่ำลง" ใน "ทันทีทันใด" ในทันที ทั้งๆที่ก่อนหน้าไม่นาน "ฝนได้ตกทั่วเกาะเมืองอยุธยา" แต่ "เว้นไว้แต่วัดหน้าพระเมรุ" แห่งเดียว และเมื่อครั้นพอห่มผ้าสไบทิพย์ที่องค์"สมเด็จพระศรีสรรเพชญดาญาณ"ปุ๊บ ฝนก็เทลงมาในทันใด ราวกับพระและเทวดาเบื้องบนได้ "สุหร่ายน้ำพระพุทธมนต์" ลงมาร่วมสมโภชก็ไม่ปาน ทันที น่าอัศจรรย์อย่างเหลือที่จะกล่าวได้เป็นที่ยิ่ง ก่อนที่จะมีพิธี "เวียนเทียนวันอาสาฬหบูชา" โดย "คณะสงฆ์วัดหน้าพระเมรุ" ทั้งวัด และในการนี้ ยังได้ "หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชโช วัดสวนสันติธรรม ชลบุรี" ก็ได้รับปากว่า จะ "ส่งกระแสจิต" มาร่วมสมโภชให้ด้วย อันนับเป็นอภิวาสนาอันหาได้ยากอย่างยิ่งในบัดนี้อีกด้วย 3.พิธีพุทธาภิเษก "พระพุทธมหามงคลเภสัช" ของคณะเภสัชกรรม มหาวิทยาลัยมหิดล ณ อุโบสถมหาอุตม์สมัยอยุธยา วัดชุ้ง สระบุรี โดย "พระครูสิทธิพิมล" (หลวงพ่อจักษ์ จัตตมโล) ผู้ทรงอิทธิวิชชาอันสูงส่ง ถึงกับเคยมีอดีตนักเขียนนิตยสารศักดิ์สิทธิ์ คอลัมน์ "นานาสาระกับพระเครื่อง" ได้เล่า "เรื่องพิเศษ" ให้ฟังว่า "มีพระในวัดแอบเห็นหลวงพ่อจุดเทียนลงไปในแม่น้ำหน้าวัดชุ้ง เห็นแสงเทียนวอมๆแวมๆใต้น้ำอย่างถนัด อยู่ช้านานราว "ครึ่งชั่วโมง" จึงได้ขึ้นจากแม่น้ำมา โดยเทียนก็ยังไม่ดับ...!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!" น่าตื่นตะลึงพรึงเพริดแบบสุดๆ โดยหลวงพ่อจักษ์องค์นี้ ท่านเป็นศิษย์เอกของ "หลวงปู่ย้อย เกจิดังวัดอัมพวัน สระบุรี" ผู้ทรงคุณแห่งลุ่มแม่น้ำป่าสัก โดยหลวงพ่อจักษ์ได้รับการประสิทธิ์ประสาทกัมมัฏฐานและเขียนอักขระเลขยันต์ต่างๆ จนหมดสิ้น รวมทั้งการทำ "ตะกรุดมหาจักรพรรตราธิราช" (เข้ากับพุทธลักษณะของพระผงเสมาหลวงโดยตรง) และ "ตะกรุดโสฬสมงคล" (ยันต์ที่ประทับเหนือประตูพระอุโบสถ วัดหน้าพระเมรุ) อีกด้วย นับเป็นพระผู้ทรงคุณอันสมควรที่จะได้อัญเชิญ "พระเครื่องสำคัญ" ชุดนี้ถวายให้ปลุกเสกเป็นที่ยิ่ง (11 ตุลาคม พ.ศ.2566) 4.อธิษฐานมหาบารมี ณ "รอยพระพุทธบาท สระบุรี" หลังจากปรากฏเหตุพิเศษ "มหาเมฆรูปนาคราชแผ่พังพาน" ซ้อนๆกันถึง "2 องค์" พลันปรากฏ พร้อมกับมี "สายรุ้ง" ทาทาบ เหนือพระมณฑปเป็นอัศจรรย์ ซึ่ง "ผู้รู้" สาย "ดูจิต" ท่านหนึ่งตรวจพบว่าเป็น "อนันตนาคราช" มาร่วมอนุโมทนาสาธุการ น่าปีติศรัทธาอย่างยิ่ง (11 ตุลาคม พ.ศ.2566) 5.อธิษฐานมหาบารมี ณ รอยพระพุทธบาทเบื้องขวา วัดพระพุทธฉาย สระบุรี โดยในทันทีที่กำลังขึ้นไปยังมณฑปพระพุทธบาท พลันก็มีเสียงฟ้าคำรณครืนใหญ่ดังรับมาในทันใด และเมื่อได้สวดมนต์ "รัตนสูตร" บูชารอยพระพุทธบาทเสร็จแล้ว ก็มี "สายรุ้ง" ปรากฏเห็นได้ถนัดตา ครั้นพอเสร็จการทั้งปวง และลงมายังรถแล้ว ฝนก็ได้ "โปรยเม็ด" ลงมาในทันทีทันใด ราวกันได้รับการ "พรมน้ำมนต์ปิดท้าย" โดย "พระ" และ "เทวดาเบื้องบน" ก็ไม่ปานฉะนั้น (11 ตุลาคม พ.ศ.2566) ด้วยประการแห่งความ "สุดๆไปเลย" เห็นปานฉะนี้ ก็ใครที่มีอภิวาสนาได้ครอบครอง "พระผงเสมา พระพุทธนิมิต วัดหน้าพระเมรุ ประทับนารายณ์ทรงครุฑเหยียบพระราหู" รุ่น "ปุพเพ กต ปุญญาธิการ" (หลัง "พระขุนแผนยอดขุนพลองค์จ้อย") โดยเฉพาะ "เนื้อแดง" ชนิด "คลุกทองคำเปลวจากหน้าบัน วัดหน้าพระเมรุ" ที่ "ลอก" มาจาก "องค์นารายณ์ทรงครุฑเหยียบพระราหู" ซึ่งเป็น "ของเก่าสมัยต้นกรุงศรีอยุธยา" มา "โดยตรง" ก็น่าที่จะ "สบายใจ" และ "หายห่วง" ในการที่จะถูก "ราหูถีบ" จากการที่ "ราหูย้ายราศี" ในเร็ววันนี้ โดยทั่วกันแล้ว ใช่หรือไม่เล่า...?????????????????????????????????????????? .... .... พระผงเสมาหลวง" รุ่น "ปุพเพ จ กตปุญญาธิการ" สร้างจากผงพุทธคุณหลวงปู่ดู่ วัดสะแกอย่างเข้มข้นที่สุด (มอบผงโดยผู้สร้างเหรียญ"เปิดโลก"หลวงปู่ดู่ วัดสะแกที่เลื่องชื่อลือชาที่สุดแห่งยุค)ซึ่งปกติหากสร้างพระใช้ผงของหลวงปู่ดู่นี้เพียงนิดเดียวก็ได้ชื่อว่าเข้มขลังแล้ว แต่นี้ใช้แบบเต็มๆเนื้อๆเลย โดยผู้สร้างได้แจ้งมาว่า พระรุ่นนี้จะทำการอธิษฐานจิตโดยหลวงพ่อด้วยวิธีการ"เดินญาณ"ไปเสกถึงวัดหน้าพระเมรุ อยุธยา (แบบเดียวกับที่ท่านเจ้าคุณนรรัตนฯ วัดเทพศิรินทร์เคยกระทำจนเป็นเรื่องปกติ) และยังมีอีกชุดที่อธิษฐานจิตตรงๆอีกคราเพื่อแจกวัดสวนสันติธรรมและที่วัดหน้าพระเมรุไว้อีกต่างหาก พระผงเสมารุ่นที่หลวงพ่ออธิษฐานจิตนี้ ต้องดูให้ดีว่าด้านหลังต้องเป็นพระขุนแผนเท่านั้น ถ้าด้านหลังเป็นพิมพ์อื่นก็จะไม่ใช่รุ่นที่หลวงพ่ออธิษฐานจิต อย่างไรก็ตามพระรุ่นนี้แม้ว่าจะไม่ได้ออกวัดสวนสันติธรรม แต่ออกวัดหน้าพระเมรุ แต่ก็ต้องถือว่าเป็นวัดที่มีความเกี่ยวพันกับหลวงพ่ออย่างแนบแน่นเลยทีเดียว ทำให้ความเป็นพระสำคัญของรุ่นนี้จึงไม่ได้ย่อหย่อนลงไปแม้แต่น้อยเลย ปัจจุบันพระรุ่นนี้ยังพอหาได้เพราะสร้างไว้จำนวนพอสมควร และมีราคาที่ยังไม่ไปไกลนัก จึงเหมาะแก่การสะสมบูชาเป็นอย่างยิ่ง ฯลฯ |
พระเครื่องที่เกี่ยวข้องในร้านค้านี้...
อื่นๆ...
กำหลังโหลด Comments