-
0 8 6 - 5 6 0 4 0 3 7
หมวด พระเนื้อผง เนื้อดิน เนื้อว่าน หลังปี 2525
พระผงรูปเหมือนหลวงปู่เทพโลกอุดร หลวงพ่อจิตติ วัดวังปลาหมู ในปี 2540-41
ชื่อร้านค้า | จ่าจีระสิทธิ์ - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า) |
---|---|
ชื่อเจ้าของร้านค้า | |
ชื่อพระเครื่อง | พระผงรูปเหมือนหลวงปู่เทพโลกอุดร หลวงพ่อจิตติ วัดวังปลาหมู ในปี 2540-41 |
อายุพระเครื่อง | 27 ปี |
หมวดพระ | พระเนื้อผง เนื้อดิน เนื้อว่าน หลังปี 2525 |
ราคาเช่า | 550 บาท |
เบอร์โทรติดต่อ | 08-6560-4037 |
อีเมล์ติดต่อ | Tayanrum@hotmail.com |
LINE |
(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
|
สถานะ | |
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ | ศ. - 08 พ.ย. 2567 - 21:30.08 |
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ | ส. - 09 พ.ย. 2567 - 21:55.47 |
รายละเอียด | |
---|---|
พระผงรูปเหมือนหลวงปู่เทพโลกอุดร สร้างโดยหลวงพ่อจิตติ วัดวังปลาหมู ในปี 2540-41 อีกหนึ่งพระเครื่องในตำนาน สายในดง..องค์ที่ปิดทองในพิมพ์ ว่ากันแรงครับ... (ผสมผง หลวงพ่อ ชาญณรงค์) มวสาร เข้มข้น ปู่โทน ลำแพร ฆราวาสผู้เรืองเวทย์แห่งเมืองนครสวรรค์ ศิษย์พระครูเทพโลกอุดร เป็นผู้รวบรวมสุดยอดมวลสารวิเศษจากเกจิต่างๆ มวลสารของหลวงพ่อชาญณรงค์ อภิชิโต รวมถึงมวลสารและเกศาของหลวงปู่สรวงเทวดาเล่นดินได้เสกไว้ นำมาสร้างพระผงรูปเหมือนหลวงปู่โลกเทพอุดร ที่ถ้ำวัดวังปลาหมู กาญจนบุรี เมื่อปั้มพระผงฯเสร็จ หลวงพ่อจิตติ ได้ผ่านญาณหลวงปู่เทพโลกอุดรมาปลุกเสกนานร่วมพรรษา ที่วัดวังปลาหมู หลังจากนั้นปู่โทนได้นำพระชุดปิดทองในพิมพ์ ประมาณ 3 กล่อง มาให้หลวงปู่สรวงเสก เสกเสร็จท่านแล้วตบที่กล่องพระ 3 ครั้งแล้วดันกลับให้ปู่โทนนำกลับมาเก็บไว้ในถ้ำหนองวัวแดงประมาณหนึ่งอาทิตย์ จึงได้นำพระชุดนี้กลับไปที่วัดวังปลาหมูเพื่อถวายคืนให้หลวงพ่อจิตติครึ่งหนึ่ง ส่วนอีกครึ่งปู่โทนได้นำมาให้หลวงปู่สรวงปลุกเสกอีกครั้งในพิธีปลุกเสกพระรุ่นสมปรารถนา ที่สำนักสงฆ์โคกแก้ว หลังจากนั้นปู่โทนจึงได้นำมาแจกให้กับหมู่ลูกศิษย์ท่าน พระรุ่นนี้ มีทั้งหมด 3 พิมพ์ 1. พิมพ์รูปเหมือนหลวงปู่เทพโลกอุดรนั่ง พื้นหลังเรียบ 2. พิมพ์รูปเหมือนหลวงปู่เทพโลกอุดรนั่ง ด้านหน้าฐานแจกันดอกบัวไม่มีซุ้ม 3. พิมพ์รูปเหมือนหลวงปู่เทพโลกอุดรนั่ง ด้านหน้าฐานแจกันดอกบัวมีซุ้ม พระที่ปิดทองในพิมพ์มี 128 องค์ รวมทั้ง 3 พิมพ์ โดยพระพิมพ์ไม่มีซุ้มกับแจกันดอกบัวจะสร้างน้อยที่สุด พระชุดนี้มีองค์ปิดทองในพิมพ์ฝังตะกรุดด้วย ประมาณ 26 องค์ รวมสร้างทั้งหมด 70,000 กว่าองค์ หลวงพ่อจิตติ วัดวังปลาหมู จ.กาญจนบุรี ท่านไปมาหาสู่ปู่โทนเสมอ ท่านมีความสัมพันธ์กับหลวงปู่เทพโลกอุดรอย่างลึกซึ้ง ไม่สามารถสรุปว่าท่านเป็นลูกศิษย์ปู่ใหญ่ เพราะ ปู่ใหญ่อยู่กับท่านตลอดเวลา เวลาปู่ใหญ่ท่านมา จะมีกลิ่นหอมทั่วท้องฟ้า แล้วใบหน้าของหลวงพ่อจิตติก็กลายเป็นใบหน้าปู่ใหญ่ เหมือนในรูปถ่ายไม่มีผิด ใบหน้าเต็มไปด้วยเลือดฝาด ผมได้มีโอกาสได้กราบปู่ใหญ่พร้อมกับคนอื่นๆเกือบสามสิบคนในวันเผาศพปู่โทนที่ตาคลี มีพระฤาษีและพระป่าอีก4-5รูป มาจากไหนไม่รู้ เข้ามากราบปู่ใหญ่ ปู่ใหญ่มาประมาณ 10 นาที พอทุกคนได้กราบครบแล้ว ปู่ก็ไป ร่างกายผมชาไปทั้งตัว เต็มไปด้วยความปิติ ฆราวาสจอมคาถา "ปู่โทน หลำแพร" ผู้เรืองเวทย์แห่งเมืองนครสวรรค์ ศิษย์ "พระครูเทพโลกอุดร" พบกันครั้งแรกในนิมิตขณะนั่งเจริญกรรมฐาน จากตำนานของหลวงปู่เทพโลกอุดร ซึ่งมีความลี้ลับมหัศจรรย์ในพระพุทธศาสนาลากร้อยหลายพันเรื่องปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นภายใต้ร่มเงาแห่งพระพุทธศาสนานั้น เรื่องของ "หลวงปู่เทพโลกอุดร" นับเป็นเรื่องหนึ่งที่อยู่ในกระแสแห่งความสนใจของพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแวดวงนักปฏิบัติกรรมฐาน สำหรับความลี้ลับมหัศจรรย์นี้ เกิดขึ้นแก่ผู้ที่ศรัทธา กล่าวคือ มีฆราวาสท่านหนึ่งได้พบเจอกับปาฏิหาริย์ของ หลวงปู่เทพโลกอุดร นั่นก็คือ "ปู่โทน หลำแพร" ฆราวาสที่สนใจเกี่ยวกับเรื่องพระกรรมฐาน ปู่โทน หลำแพร เป็นชาวบ้านโพธิไทร อำเภออินทร์บุรี จังหวัด สิงห์บุรี เมื่อสมัยยังเป็นหนุ่มน้อยได้บวชเป็นสามเณรอยู่ ๓ พรรษา และอุปสมบทเป็นพระภิกษุต่ออีก ๒ พรรษา ขณะที่บวชเรียนอยู่นั้น ปู่โทนก็สนใจในวิชาวิปัสสนากรรมฐาน ได้เคยศึกษาและปฏิบัติ จากพระอาจารย์ผู้มีความรู้ทางด้านนี้หลายรูป ต่อมาแม้เมื่อได้ลาสิกขาออกมาครองเพศฆราวาสแล้ว ปู่โทนผู้นี้ก็ยังสนใจในวิชาวิปัสสนากรรมฐานอยู่ พยายามหาโอกาสออกแสวงหาสถานที่วิเวกเพื่อบำเพ็ญธรรม อยู่เสมอ ขณะที่ท่านมีอายุได้ประมาณ ๓๐ ปี ครั้งหนึ่งก็ได้ออกไปแสวงหาสถานที่วิเวกเพื่อบำเพ็ญ และในที่สุดก็ได้พบกับสถานที่ที่ต้องการแห่งหนึ่ง คือ ในถ้ำพระ ซึ่งอยู่หลังเขาช่องแค อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ คืนหนึ่งขณะที่ท่านนั่งสมาธิอยู่ พอจิตได้อารมณ์เป็นสมาธิแน่วนิ่งแล้วก็บังเกิดความประหลาดขึ้น โดยมีพระภิกษุรูปหนึ่งได้ปรากฏให้เห็นในนิมิต ตามคำบอกเล่าของปู่โทนบอกว่า พระภิกษุรูปนั้น มีลักษณะเหมือนคนโบราณ แต่ผิวพรรณผ่องใส มีสง่าราศีน่าเคารพนับถือ ดูจากรูปร่างภายนอกแล้วเห็นว่ายังหนุ่มแน่นแต่ศีรษะมีหงอกขาวโพลน ครั้นได้เห็นพระภิกษุรูปนั้น ปู่โทนก็เข้าใจว่าคงจะเป็นพระอาจารย์ทางวิปัสสนากรรมฐานผู้มีญาณวิเศษ สามารถถอดจิตมาสนทนากันได้ในนิมิต และการมาของท่านก็คงจะมาเพื่่อสนทนาธรรมหรือช่วยชี้แนะข้อธรรมกรรมฐานที่ท่านติดขัดอยู่ ปู่โทนจึงได้เรียกถามท่านไป (ในนิมิต) ว่า "พระคุณเจ้าเป็นใคร" พระภิกษุหนุ่มผู้มีสง่าราศีน่าศรัทธายิ่งรูปนั้น ก็ตอบให้ทราบว่า ท่านคือหลวงปู่เทพโลกอุดร เป็นพระธุดงค์อาศัยอยู่ตามป่าเขาลำเนาถ้ำเป็นวัตร ที่มานี่ก็เพื่อต้องการจะมาชี้แนะธรรมปฏิบัติบางอย่าง เพราะเห็นว่าอุบาสกโทนยังปฏิบัติไม่ถูกต้อง ปู่โทนได้ทราบอย่างนั้นก็ปลื้มปิติยิ่งนัก ที่จะได้มีพระอาจารย์ผู้มีความรอบรู้มีคุณวิเศษเลิศล้ำ มาเมตตาชี้แนะข้อธรรมให้ ซึ่งบัดนั้นปู่โทนไม่ได้ทราบว่า หลวงปู่เทพโลกอุดร ที่ว่านั้นเป็นใครมาจากไหน เพราะว่า ท่านไม่เคยได้พบเจอ หรือได้ยินได้ทราบกิตติศัพท์มาก่อนว่า ท่านผู้นี้อยู่ที่ไหนแต่ปู่โทนก็ยินดีที่จะน้อมรับคำแนะนำเรื่องการวิปัสสนาจากพระภิกษุผู้มาอย่างแปลกประหลาดรูปนี้ หลังจากนั้นหลวงปู่เทพโลกอุดรก็เมตตาชี้แนะวิธีทำกรรมฐานให้กับปู่โทนอธิบายจนปู่โทนเข้าใจดีแล้ว ก็หายวับไป ปู่โทนกลับคืนอารมณ์ปกติ แต่ก็ยังจำเหตุการณ์นั้นได้ติดตา และยังปลื้มปิติไม่หาย ปู่โทนได้คำแนะนำนั้นมาปฏิบัติจนเห็นผลในเวลาไม่นาน ครั้นบำเพ็ญธรรมกรรมฐานอยู่ที่นั่นพอสมควรแล้วปู่โทนก็กลับมายังบ้าน เพื่อประกอบสัมมาอาชีพเลี้ยงครอบครัวต่อไป แต่แม้ว่าปู่จะกลับมาอยู่บ้าน แต่ก็ไม่เลิกทำกรรมฐานเสียเลย ยังคงบำเพ็ญอยู่อย่างสม่ำเสมอ แต่ก็น้อยกว่าเวลาไปบำเพ็ญในที่วิเวกตามป่าเขาลำเนาถ้ำเท่านั้นเอง และหลังจากนั้นปู่โทนก็ได้หาโอกาสไปบำเพ็ญธรรมที่ถ้ำพระนั้นอีก และก็ได้พบพระอาจารย์ในนิมิต ที่ท่านรู้จักในนาม หลวงปู่เทพโลกอุดรมาคอยชี้แนะข้อธรรมะให้อีก และสอนในระดับสูงขึ้น ๆ ปู่โทนไปอยู่ศึกษาวิปัสสนากรรมฐานกับพระอาจารย์ในนิมิคที่นั่นอยู่เป็นนานพอสมควร จนกระทั่งวันหนึ่ง พระอาจารย์หลวงปู่เทพโลกอุดรก็ได้บอกให้กับศิษย์คือ ปู่โทนถอดจิตออกจากสมาธิแล้วลืมตาขึ้น บัดนั้นเอง ปู่โทน ศิษย์ผู้ที่เคยแต่ได้เห็นอาจารย์แต่เพียงในนิมิต ก็ได้เห็นพระอาจารย์หลวงปู่เทพโลกอุดรด้วยตาเนื้อจริง ๆ เป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่งนักเพราะว่ารูปร่างลักษณะของพระอาจารย์หลวงปู่เทพโลกอุดร ที่ศิษย์ปู่โทนได้เห็นด้วยตาเปล่าในขณะนั้นเหมือนกับที่ได้เห็นในนิมิตอย่างไม่ผิดเพี้ยนเลย เพราะเหตุนี้เอง ในเวลาต่อมาปู่โทนจึงเชื่อว่า หลวงปู่เทพโลกอุดรนั้นท่านยังไม่ได้มรณภาพ ท่านยังมีชีวิตอยู่ แต่ท่านอยู่ในที่ของท่านและท่านไม่ค่อยจะปรากฏให้ใครได้เห็นง่าย ๆ คนที่จะได้เห็นท่านนั้น จะต้องเป็นผู้ที่มีบุญวาสนา หรือเคยบุญเกี่ยวข้องกันมาแต่ชาติปางก่อน ตั้งแต่มานั้นการเรียนการสอนจึงได้ดำเนินมาทั้งในนิมิต และภาพจริง ๆ วิชาความรู้ที่หลวงปู่เทพโลกอุดรได้ถ่ายทอดให้กับศิษย์ ปู่โทน หลำแพร ในตอนนั้น นอกจากจะเป็นวิชาเกี่ยวกับการนั่งวิปัสสนากรรมฐานแล้ว ท่านยังได้สอนในเรื่องเวทมนตร์คาถา เพราะท่านสามารถกำหนดจิตทราบได้ว่า ปู่โทนต้องการจะเด่นในทางทรงฤทธิ์เดชและนอกจากนั้นแล้วท่านยังได้สอนวิชาแพทย์แผนโบราณ การใช้ยาสมุนไพรต่าง ๆ ประกอบยาให้ด้วย ซึ่งในเวลาต่อมาปู่โทนก็ได้ใช้วิชาความรู้เหล่านี้มาช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ให้รอดพ้นจากการถูกทรมานด้วยโรคร้าย และนอกจากนั้นแล้ว ท่านยังได้เป็ผู้เชี่ยวชาญและแนะนำการวิปัสสนากรรมฐานให้แก่บุคคลทั่วไป ถือได้ว่า ท่านเป็นวิปัสสนาจารย์ที่เป็นฆราวาสผู้มีความรอบรู้คนหนึ่ง เมื่อครั้งที่อยู่ศึกษาวิชาต่าง ๆ กับหลวงปู่เทพโลกอุดรนั่น ปู่โทนได้เปิดเผยถึงประสบการณ์ ที่ท่านประทับใจมากอย่างหนึ่ง และผู้เขียนเห็นว่าเป็นเหตุการณ์ที่แปลกประหลาดเป็นยิ่งนัก แต่เมื่อนำมาเล่าแล้วท่านผู้อ่านจะเชื่อหรือไม่ ก็สุดแต่ท่าน ขอให้ใช้วิจารณญาณพิจารณาเอาเอง ขอขอบคุณข้อมูลจาก เพจพระบรมครูหลวงปู่เทพโลกอุดร |
พระเครื่องที่เกี่ยวข้องในร้านค้านี้...
อื่นๆ...
กำหลังโหลด Comments