เหรียญเม็ดแตง (เอ็ม16) หลวงพ่อจ่าง วัดเขื่อนเพชร-จ่าจีระสิทธิ์ - webpra
VIP
  • 0 8 6 - 5 6 0 4 0 3 7
  • Page 1
  • Page 2
หน้าที่ และความรับผิดชอบ

หมวด เหรียญปั๊ม ปี 2521 ถึง 2540

เหรียญเม็ดแตง (เอ็ม16) หลวงพ่อจ่าง วัดเขื่อนเพชร

เหรียญเม็ดแตง (เอ็ม16) หลวงพ่อจ่าง วัดเขื่อนเพชร - 1เหรียญเม็ดแตง (เอ็ม16) หลวงพ่อจ่าง วัดเขื่อนเพชร - 2เหรียญเม็ดแตง (เอ็ม16) หลวงพ่อจ่าง วัดเขื่อนเพชร - 3เหรียญเม็ดแตง (เอ็ม16) หลวงพ่อจ่าง วัดเขื่อนเพชร - 4
ชื่อร้านค้า จ่าจีระสิทธิ์ - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า
ชื่อพระเครื่อง เหรียญเม็ดแตง (เอ็ม16) หลวงพ่อจ่าง วัดเขื่อนเพชร
อายุพระเครื่อง 38 ปี
หมวดพระ เหรียญปั๊ม ปี 2521 ถึง 2540
ราคาเช่า 250 บาท
เบอร์โทรติดต่อ 08-6560-4037
อีเมล์ติดต่อ Tayanrum@hotmail.com
LINE
(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
สถานะ พระมาใหม่
Facebook
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ ส. - 02 พ.ย. 2567 - 21:44.04
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ ส. - 02 พ.ย. 2567 - 21:44.04
รายละเอียด
เหรียญเม็ดแตง (เอ็ม16) หลวงพ่อจ่าง วัดเขื่อนเพชร

ของดี มีประสบการณ์จิ๋วแต่แจ๋ว ครับ

เหรียญนี้สวย เดิม ไม่มีลอก ไม่มีรอยถลอก

ข้อมูลครับ


เครดิตจาก

https://www.thaprachan.com/amulet_detail/1218490



ท่านเก่งวิชานะปัดตลอด ที่สำคัญ พระเครื่องของท่านทุกอย่าง มีการลงธาตุอภิญญาทั้ง4 หนุนด้วยรังสีประจำธาตุ พุทธคุณจึงสุดยอดครบเครื่องทุกๆด้าน แล้วแต่จะอธิฐาน ลูกศิษย์เอกรุ่นใหญ่หลวงพ่อทองศุข แห่ง วัดโตนดหลวง ท่านเป็นศิษย์อาวุโสของ หลวงพ่อทองศุข วัดโตนดหลวง ในสายนี้ยอมรับกันว่า ท่านเป็นศิษย์ยุคต้นๆตัวจริง แม้แต่หลวงพ่ออุ้น วัดตาลกง ยังเคารพนับถือท่านมาก

อีกทั้งยังเป็นอาจารย์ ของ (หลวงพ่อพระมหาสุรศักดิ์ อติสกฺโข) วัดประดู่(พระอารามหลวง) อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม หลวงปู่จ่างท่านได้เมตตาสอนวิชานะปัดตลอด ให้อีกด้วย



สำหรับประวัติหลวงพ่อจ่างนั้น
ชาติภูมิ นามเดิม จ่าง เปี่ยมศรี ถือกำเนิดวันที่ 12กรกฎาคม 2451 ขึ้น14 ค่ำ เดือน 8 ปีวอก เวลา 06:00 น.
อุปสมบทเมื่ออายุ20ปี พ.ศ. 2471 ณ วัดท่าค่อย อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี โดยมีพระอธิการ ฉิม เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า อเชยโย

ท่านมีสมณศักดิ์ที่ “พระครูสุนทรวชิรเวช” ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าคณะอำเภอท่ายาง
หลวงปู่ท่านเป็นพระรัตตัญญู เป็นพระสุปฏิปันโณผู้บริบูรณ์ด้วยวิชชาและวิมุติที่อาวุโสที่สุดของจังหวัดเพชรบุรี

หลวงพ่อจ่าง ท่านเป็นได้รับการถ่ายทอดวิทยาคมและกรรมฐานจากพระเกจิอาจารย์ชื่อดังในยุคนั้นกันหลายรูป ดังนี้
1. หลวงพ่อฉิม วัดท่าคอย ( พระอุปัชฌาย์ ) ได้ถ่ายทอดวิปัสสนากรรมฐานรวมทั้งวิชาอาคมทางด้านคงกระพันชาตรี ตะกรุดสาริกา ลูกอม และตะกรุดโทน
2. หลวงปู่ทองสุข วัดโตนดหลวง ได้ถ่ายทอดวิทยาคมทางด้านคงกระพันชาตรี มหาอุด ยันต์นะปัดตลอดและวิปัสสนากรรมฐาน
3. หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง ได้ถ่ายทอดวิชาตะกรุดพิสมร และวิชาคงพันชาตรี
4. หลวงพ่อผิน วัดโพธิ์กรุ ได้ถ่ายทอดวิชาคงกระพันชาตรี
5. หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ ได้ถ่ายทอดวิปัสสนากรรมฐานและวิชาอาคม
6 .หลวงพ่อโต๊ะ วัดท่อเจริญธรรม ( พระกรรมวาจารจารย์ ) ไ้ด้ถ่ายทอดวิชาทางด้านเมตตามหานิยม
7. หลวงพ่อเจิม วัดกุฎิทอง ได้ถ่ายทอดวิชาทางด้านเมตตามหานิยม

นอกจากครูบาอาจารย์ที่เป็นพระสงฆ์แล้ว ท่านยังได้เรียนวิชาอาคมเพิ่มเติมจากอาจารย์ที่เป็นคฤัสถ์ อีกหลายท่าน อาทิเช่น อาจารย์ต่อ อาจารย์นิยม เป็นต้น

หลวงพ่อจ่าง ท่านมีสหธรรมมิกและได้แลกเปลี่ยนวิชาอาคม ความรู้ ไปมาหาสู่กันหลายรูป อาทิเช่นหลวงพ่อเพลิน วัดหนองไม้เหลือง หลวงพ่อเทพ วัดถ้ำรงค์ หลวงพ่อพาน วัดโป่งกระสังข์ หลวงพ่อนิ่ม วัดเขาน้อย หลวงพ่อจ้วน วัดเขาลูกช้าง เป็นต้น ดังนั้นในด้านวิทยาคม หลวงพ่อจ่าง ถือว่ามีดีไม่แพ้ใคร

หลวงพ่อจ่าง มรณภาพเมื่อรวมสิริอายุได้ 94 ปี 74พรรษา เมื่อวันที่ 3 มกราคมพ.ศ.2545 เวลา17:30น. ปัจจุบันทางวัดยังเก็บสังขารของท่านอยู่เพราะไม่เน่าเปื่อย

หลวงปู่ท่านเป็นพระหมอที่มีชื่อเสียงมากในอดีต วัดเขื่อนเพชรนี้ประชาชนแถบท่ายาง ชะอำ และบ้านลาด ขณะนั้นยังไม่มีโรงพยาบาล จึงนิยมมาหาท่าน ประกอบกับการเดินทางเข้าเมืองเพชรบุรีไม่สะดวก ทำให้วัดเขื่อนเพชรเป็นโรงพยาบาลย่อยๆ โดยเฉพาะการรักษาโรคกระดูกหัก กระดูกแตก ท่านเชี่ยวชาญเป็นพิเศษ

การทำผงปถมัง

สูตรการเขียนผงปถมังของอาจารย์เทพย์ สาริกบุตร คติโบราณถือสืบกันมาว่า ปถมังเป็นคัมภีร์แรกที่ผู้ใคร่ศึกษาวิชาเวทมนตร์พึงจำเป็นต้องเรียนรู้ เพราะเมื่อเริ่มเรียนรู้สูตรในคัมภีร์ปถมังได้แล้ว ก็จะสามารถหัดลงเลขยันต์ต่าง ๆ ต่อไปได้ กล่าวกันว่าที่มาของคัมภีร์ปถมังนี้ เริ่มแรกเมื่อครั้งต้นกัป โลกนี้ยังเป็นที่ว่างเปล่าอยู่ พื้นแผ่นดินยังเพิ่งจะงวดจากน้ำ เริ่มจะเกิดเป็นพื้นดินขึ้นมา ท้าวสหัมบดีพรหมได้เล็งญาณลงมาแลเห็นดอกบัวโผล่พ้นระลอกน้ำขึ้นมา ๕ ดอก ก็ทราบด้วยญาณว่าในกัปนี้จะบังเกิดพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาตรัสรู้ ๕ พระองค์ เป็นกำเนิดแห่งภัทรกัปอันประเสริฐยิ่ง แล้วจึงได้หยิบหญ้าคาทิ้งลงมาบนพื้นน้ำ น้ำนั้นก็งวดเป็นแผ่นดินขึ้น มีกลิ่นหอม เหล่าพรหมได้กลิ่นง้วนดินต่างลงมาเสพกิน ติดรสง้วนดินนั้นมิอาจกลับคืนสู่พรหมโลกได้ จึงได้ตั้งรกรากเป็นเผ่าพันธุ์มนุษย์สืบมาจนทุกวันนี้ ฉะนั้นก่อนจะเล่าเรียนคัมภีร์ปถมังจึงต้องกล่าวคำนมัสการสหัมบดีพรหมดังนี้

อังการะพินทุนาถังอุปปันนัง พรหมาสหัมปตินามะ อาทิกัปเป สุอาคะโต ปัญจะปทุมมังทิสวา นะโมพุทธายะวันทะนังฯ

คัมภีร์ปถมังเริ่มแรกด้วยการทำพินทุ คือแววกลม ถือเป็นปฐมกำเนิด จากนั้นจึงแตกเป็นทัณฑะ เภทะ อังกุ และสิระตามลำดับ สำเร็จเป็นนะปถมังพินทุ เวลาทำใช้แท่งดินสอพองเขียนลงบนกระดานชนวน มีการเรียกสูตรบริกรรมคาถากำกับตลอด จนสำเร็จเป็นนะปถมัง มีการนมัสการและเสกตามลำดับ ขณะทำมีขั้นตอนและวิธีการที่สลับซับซ้อนพิสดารมาก ผู้สนใจควรศึกษาจากคัมภีร์ปถมังโดยตรง เนื้อหาของคัมภีร์ปถมังนี้มีทั้งสิ้น ๙ วรรค หรือ ๙ กัณฑ์ แต่ละกัณฑ์เป็นวิธีการทำผงเพื่อฝึกจิตอย่างพิสดารต่างกันไป โดยทุกวรรคหรือทุกกัณฑ์จะเริ่มต้นด้วยนะปถมังพินทุ จากนั้นจะแยกแยะไปเป็นอุณาโลม อุโองการ องค์พระภควัม หัวใจพระพุทธเจ้า ๒๘ พระองค์ ฯลฯ ต่างกันไปในแต่ละวรรค แต่ทุกวรรคจะจบที่สูญนิพพาน คือ นิพพานัง ปรมัง สุญญัง เหมือนกันทั้งสิ้น ขณะทำผู้ทำจะใช้จิตเพ่งอักขระ มือเขียน พร้อมบริกรรมคาถาอย่างต่อเนื่องจนจิตสงบเป็นเอกัคคตาสมาธิ เมื่อจบสูตรแล้วจึงเอามือลบอักขระบนกระดาน กล่าวกันว่าหากจิตเป็นสมาธิแน่วแน่ ผงดินสอพองบนกระดานชนวนนั้นบางทีก็จะร่วงหล่นหรือทะลุลอดแผ่นกระดานลงไปอยู่เบื้องล่างได้ เรียกว่าผงปัดตลอดหรือผงทะลุกระดาน เป็นของวิเศษมีอานุภาพยิ่งนัก โดยเฉพาะปถมังวรรคที่ ๙ ซึ่งเป็นวรรคสุดท้ายที่นับว่าพิสดารและสำคัญมาก ด้วยการทำถึงขั้นมหาไวย มหาเมฆ มหานิล มหาคลาด มหาแคล้ว มหาอุทัย จนถึงมหาราพย์น้อยใหญ่ จะมีอานุภาพอภินิหารมาก ตามตำนานในวรรณคดีเล่าว่าขุนแผนก็เป็นผู้ที่สำเร็จปถมังวรรค ๙ นี้ ซึ่งผู้สำเร็จจะเรืองวิทยาคมมีความอยู่ยงคงกระพันจนถึงล่องหนหายตัวได้

จากเสภาเรื่องขุนช้างขุนแผน ซึ่งสะท้อนภาพวิถีชีวิตในสังคมไทยโบราณไว้หลายประการ รวมถึงการศึกษาเล่าเรียนของกุลบุตรไทยแต่ครั้งก่อน ที่นอกจากจะศึกษาวิชาทางหนังสือแล้วยังต้องฝึกหัดวิชาทางจิตควบคู่ไปด้ว

พระเครื่องที่เกี่ยวข้องในร้านค้านี้...

อื่นๆ...

กำหลังโหลด Comments
Top