เหรียญเจริญพร หลวงพ่อเปลื่อง ปสนฺโต วัดกำแพง อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท-จ่าจีระสิทธิ์ - webpra

เว็บ-พระ ประมูลพระเครื่อง ร้านค้าพระเครื่องออนไลน์

จ่าจีระสิทธิ์

0 8 6 - 5 6 0 4 0 3 7

หน้าที่ และความรับผิดชอบ

หมวด เหรียญปั๊ม ปี 2541 ถึง ปัจจุบัน

เหรียญเจริญพร หลวงพ่อเปลื่อง ปสนฺโต วัดกำแพง อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท

เหรียญเจริญพร หลวงพ่อเปลื่อง ปสนฺโต วัดกำแพง อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท - 3

เหรียญเจริญพร หลวงพ่อเปลื่อง ปสนฺโต วัดกำแพง อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท - 4

ชื่อร้านค้า	จ่าจีระสิทธิ์ - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า	jeerasit (112)
ชื่อพระเครื่อง	เหรียญเจริญพร หลวงพ่อเปลื่อง ปสนฺโต วัดกำแพง อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท
อายุพระเครื่อง	7 ปี
หมวดพระ	เหรียญปั๊ม ปี 2541 ถึง ปัจจุบัน
ราคาเช่า	-
เบอร์โทรติดต่อ	08-6560-4037
อีเมล์ติดต่อ	Tayanrum@hotmail.com
LINE	(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
สถานะ
Facebook	Share
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่	พฤ. - 10 ต.ค. 2567 - 21:23.37
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ	ส. - 12 ต.ค. 2567 - 15:10.29

รายละเอียด
เหรียญเจริญพร หลวงพ่อเปลื่อง ปสนฺโต วัดกำแพง อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท เนื้อทองทิพย์ หน้ากากเงิน สวยเดิม ปี 2561 หมายเลข 93 หลวงพ่อเปลื่อง ปสันโต – “พระครูประสิทธิ์ชัยการ” หรือ “หลวงพ่อเปลื่อง ปสันโต” พระเถระที่เคร่งครัดและเปี่ยมคุณธรรม เป็นที่พึ่งของชาวบ้านและสาธุชนโดยทั่วไป มีจิตเปี่ยมด้วยความเมตตาชื่อเสียงเป็นที่รับรู้กันทั่วเมืองสรรคบุรี ปัจจุบันสิริอายุ 84 ปี พรรษา 71 ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดกำแพง อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท และเจ้าคณะตำบลแพรกศรีราชา เขต 2 กิตติมศักดิ์ นามเดิมว่า เปลื่อง ยอดดำเนิน เกิดวันพฤหัสบดีที่ 19 เม.ย.2479 ปีชวด ที่หมู่ที่ 15 อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท โยมบิดา-มารดา ชื่อนายผ่าและนางมั่น ยอดดำเนิน เมื่ออายุครบเกณฑ์ทหาร นายเปลื่อง จึงได้มีโอกาสรับใช้ชาติเป็นทหาร ต่อมาเข้าพิธีอุปสมบท พ.ศ.2502 ที่พัทธสีมาวัดกำแพง มีพระครูสรรคภารวิชิต (หลวงพ่อพิมพ์) วัดวิหารทอง เป็นพระอุปัชฌาย์, หลวงพ่อฉ่อง เป็นพระกรรมวาจาจารย์, หลวงพ่อปลอด วัดกำแพง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “ปสันโต” มุ่งมั่นศึกษาพระปริยัติธรรมและพระธรรมวินัย สามารถสอบได้นักธรรมชั้นโท รวมทั้งได้ศึกษาร่ำเรียนสรรพวิชาจากพระเกจิอาจารย์ชื่อดังหลายท่าน อาทิ หลวงพ่อชม แห่งวัดอินทาราม (วัดตลุก) จ.ชัยนาท หลวงพ่อชม วัดตลุก เป็นยอดพระเกจิอาจารย์แห่งเมืองชัยนาท อีกทั้งยังเป็นศิษย์ผู้สืบทอดวิชาจากหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า เมื่อทราบดังนั้น จึงเดินทางไปที่วัดตลุก เข้าไปกราบฝากตัวเป็นศิษย์ศึกษาวิทยาคมอักขระเลขยันต์ต่างๆ อีกทั้งยังฝึกจิตตภาวนาและวิปัสสนาภาวนาเพิ่มเติม จนมีความเชี่ยวชาญ หลวงพ่อชมยังได้นำไปฝากตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อพยุง วัดบึงหล่ม จ.พิษณุโลก เพื่อฝึกฝนด้านวิปัสสนาธุระ นอกจากนี้ ยังได้ศึกษาวิทยาคมกับหลวงพ่อพิมพ์ วัดวิหารทอง ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์ของท่าน และดำรงตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอสรรคบุรี หลังศึกษาพุทธาคมและฝึกจิตตามหลักวิปัสสนากัมมัฏฐาน จนเป็นที่พอใจแล้วจึงออกท่องธุดงค์จาริกไปในสถานที่ต่างๆ ฝึกจิตให้มั่นคง ปลีกวิเวกแสวงหาที่ปฏิบัติธรรมเผชิญกับอุปสรรคนานัปการ ทว่าก็ไม่ได้ทำให้ท้อแท้แต่อย่างใด กลับเป็นตัวขับเคลื่อนให้เร่งความเพียรในการปฏิบัติธรรมยิ่งขึ้นไป พ.ศ.2510 ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดกำแพง จ.ชัยนาท พัฒนาวัดกำแพงจนมีความเจริญสมบูรณ์ปกครองพระสงฆ์สามเณรให้เคร่งครัดในพระธรรมวินัย มีระเบียบ จนเป็นที่ยกย่องเป็นแบบอย่างของวัดทั่วไป เป็นพระที่บำเพ็ญเพียรตั้งมั่นอยู่ในสมณธรรมเคร่งครัด มีวัตรปฏิบัติเรียบง่าย ปฏิปทางดงาม เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของผู้ได้พบเห็น เป็นร่มโพธิ์ทองของบรรดาพุทธศาสนิกชน เป็นที่นับถือศรัทธาของชาวสรรคบุรี เป็นที่ยอมรับและศรัทธาของลูกศิษย์ จัดสร้างวัตถุมงคล เพื่อมอบให้เป็นที่ระลึกแก่ผู้ร่วมทำบุญสร้างเสนาสนะภายใน อาทิ ล็อกเกต, ตะกรุด, รูปหล่อ, ขนาดห้อยคอ และพระผงสมเด็จวัดกำแพง เป็นต้น ปัจจุบันวัตถุมงคลหลวงพ่อเปลื่องได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ทุกวันพระจะลงมาสนทนาธรรมกับญาติโยมเป็นประจำ เพื่อให้พระภิกษุ-สามเณรและญาติโยม เจริญวิปัสสนากัมมัฏฐาน ทุกวันนี้ แม้ย่างเข้าสู่วัยชรา เป็นเจ้าอาวาสวัดนานหลายสิบปี แต่ไม่เป็นปัญหา และอุปสรรคต่องานพระศาสนา

รายละเอียด

เหรียญเจริญพร หลวงพ่อเปลื่อง ปสนฺโต วัดกำแพง อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท

เนื้อทองทิพย์ หน้ากากเงิน สวยเดิม

ปี 2561 หมายเลข 93

หลวงพ่อเปลื่อง ปสันโต – “พระครูประสิทธิ์ชัยการ” หรือ “หลวงพ่อเปลื่อง ปสันโต” พระเถระที่เคร่งครัดและเปี่ยมคุณธรรม เป็นที่พึ่งของชาวบ้านและสาธุชนโดยทั่วไป มีจิตเปี่ยมด้วยความเมตตาชื่อเสียงเป็นที่รับรู้กันทั่วเมืองสรรคบุรี

ปัจจุบันสิริอายุ 84 ปี พรรษา 71 ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดกำแพง อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท และเจ้าคณะตำบลแพรกศรีราชา เขต 2 กิตติมศักดิ์

นามเดิมว่า เปลื่อง ยอดดำเนิน เกิดวันพฤหัสบดีที่ 19 เม.ย.2479 ปีชวด ที่หมู่ที่ 15 อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท โยมบิดา-มารดา ชื่อนายผ่าและนางมั่น ยอดดำเนิน

เมื่ออายุครบเกณฑ์ทหาร นายเปลื่อง จึงได้มีโอกาสรับใช้ชาติเป็นทหาร

ต่อมาเข้าพิธีอุปสมบท พ.ศ.2502 ที่พัทธสีมาวัดกำแพง มีพระครูสรรคภารวิชิต (หลวงพ่อพิมพ์) วัดวิหารทอง เป็นพระอุปัชฌาย์, หลวงพ่อฉ่อง เป็นพระกรรมวาจาจารย์, หลวงพ่อปลอด วัดกำแพง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “ปสันโต”

มุ่งมั่นศึกษาพระปริยัติธรรมและพระธรรมวินัย สามารถสอบได้นักธรรมชั้นโท รวมทั้งได้ศึกษาร่ำเรียนสรรพวิชาจากพระเกจิอาจารย์ชื่อดังหลายท่าน อาทิ หลวงพ่อชม แห่งวัดอินทาราม (วัดตลุก) จ.ชัยนาท

หลวงพ่อชม วัดตลุก เป็นยอดพระเกจิอาจารย์แห่งเมืองชัยนาท อีกทั้งยังเป็นศิษย์ผู้สืบทอดวิชาจากหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า

เมื่อทราบดังนั้น จึงเดินทางไปที่วัดตลุก เข้าไปกราบฝากตัวเป็นศิษย์ศึกษาวิทยาคมอักขระเลขยันต์ต่างๆ อีกทั้งยังฝึกจิตตภาวนาและวิปัสสนาภาวนาเพิ่มเติม จนมีความเชี่ยวชาญ

หลวงพ่อชมยังได้นำไปฝากตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อพยุง วัดบึงหล่ม จ.พิษณุโลก เพื่อฝึกฝนด้านวิปัสสนาธุระ

นอกจากนี้ ยังได้ศึกษาวิทยาคมกับหลวงพ่อพิมพ์ วัดวิหารทอง ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์ของท่าน และดำรงตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอสรรคบุรี

หลังศึกษาพุทธาคมและฝึกจิตตามหลักวิปัสสนากัมมัฏฐาน จนเป็นที่พอใจแล้วจึงออกท่องธุดงค์จาริกไปในสถานที่ต่างๆ ฝึกจิตให้มั่นคง ปลีกวิเวกแสวงหาที่ปฏิบัติธรรมเผชิญกับอุปสรรคนานัปการ ทว่าก็ไม่ได้ทำให้ท้อแท้แต่อย่างใด กลับเป็นตัวขับเคลื่อนให้เร่งความเพียรในการปฏิบัติธรรมยิ่งขึ้นไป

พ.ศ.2510 ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดกำแพง จ.ชัยนาท

พัฒนาวัดกำแพงจนมีความเจริญสมบูรณ์ปกครองพระสงฆ์สามเณรให้เคร่งครัดในพระธรรมวินัย มีระเบียบ จนเป็นที่ยกย่องเป็นแบบอย่างของวัดทั่วไป

เป็นพระที่บำเพ็ญเพียรตั้งมั่นอยู่ในสมณธรรมเคร่งครัด มีวัตรปฏิบัติเรียบง่าย ปฏิปทางดงาม เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของผู้ได้พบเห็น เป็นร่มโพธิ์ทองของบรรดาพุทธศาสนิกชน เป็นที่นับถือศรัทธาของชาวสรรคบุรี เป็นที่ยอมรับและศรัทธาของลูกศิษย์

จัดสร้างวัตถุมงคล เพื่อมอบให้เป็นที่ระลึกแก่ผู้ร่วมทำบุญสร้างเสนาสนะภายใน อาทิ ล็อกเกต, ตะกรุด, รูปหล่อ, ขนาดห้อยคอ และพระผงสมเด็จวัดกำแพง เป็นต้น

ปัจจุบันวัตถุมงคลหลวงพ่อเปลื่องได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก

ทุกวันพระจะลงมาสนทนาธรรมกับญาติโยมเป็นประจำ เพื่อให้พระภิกษุ-สามเณรและญาติโยม เจริญวิปัสสนากัมมัฏฐาน

ทุกวันนี้ แม้ย่างเข้าสู่วัยชรา เป็นเจ้าอาวาสวัดนานหลายสิบปี แต่ไม่เป็นปัญหา และอุปสรรคต่องานพระศาสนา