หมวด เหรียญปั๊ม ปี 2541 ถึง ปัจจุบัน

ขุนรัตนาวุธ นักรบ แขวงเมืองวิเศษไชยชาญ

ขุนรัตนาวุธ นักรบ แขวงเมืองวิเศษไชยชาญ - 3

ขุนรัตนาวุธ นักรบ แขวงเมืองวิเศษไชยชาญ - 4

ชื่อร้านค้า	จ่าจีระสิทธิ์ - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า	jeerasit (112)
ชื่อพระเครื่อง	ขุนรัตนาวุธ นักรบ แขวงเมืองวิเศษไชยชาญ
อายุพระเครื่อง	-
หมวดพระ	เหรียญปั๊ม ปี 2541 ถึง ปัจจุบัน
ราคาเช่า	-
เบอร์โทรติดต่อ	08-6560-4037
อีเมล์ติดต่อ	Tayanrum@hotmail.com
LINE	(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
สถานะ
Facebook	Share
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่	อ. - 23 ก.ค. 2567 - 21:26.03
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ	พ. - 31 ก.ค. 2567 - 23:30.54

รายละเอียด
ขุนรัตนาวุธ นักรบ แขวงเมืองวิเศษไชยชาญ เหรียญ สร้างที่ ศาลเจ้าพ่อขุนรัตนาวุธ มูลนิธิขุนรัตนาวุธ กาญจนบุรี นักรบ แขวงเมืองวิเศษไชยชาญ 19 เมษายน 2020 · #ขุนรัตนาวุธ #บรรพชนแขวงเมืองวิเศษไชยชาญ แม่ทัพกองทหารดาบทะลวงฟัน ขุนรัตนาวุธ เป็นชาววิเศษชัยชาญ ในคราวศึกบางระจัน ครอบครัวถูกพม่าฆ่าตายหมดจนแทบเป็นบ้า ต้องออกบวชเพื่อทำจิตใจให้สงบ หลังจากนั้นได้ลาสิกขาออกมาแล้วสมัครเป็นทหาร มีส่วนช่วยเหลือพระเจ้าตากสินกู้ชาติบ้านเมือง และท่านมามีชื่อเสียงจารึกลงไว้ในประวัติศาสตร์ชาติไทยก็ในศึกสงครามเก้าทัพ ตอนศึกทุ่งลาดหญ้า มีเรื่องเล่าทางประวัติศาสตร์ดังต่อไปนี้ การศึกทุ่งลาดหญ้า สมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาททรงเป็นแม่ทัพฝ่ายไทยเสด็จยกทัพจำนวนพล ๓๐,๐๐๐ คน ออกจากกรุงเทพฯ พุทธศักราช ๒๓๒๘ ซึ่งมีพระยากลาโหมราชเสนาและพระยาแสนยากรเป็นกองหน้า เจ้าฟ้ากรมหลวงจักรเจษฎาเป็นยกบัตรทัพ เจ้าพระยารัตนาพิพิธสมุหนายกเป็นเกียกกาย พระยามณเฑียรบาลเป็นกองหลัง ได้เดินทัพอย่างเร่งร้อนที่สุด เพราะต้องการจะสกัดทัพพม่าที่ช่องเขาบรรทัด อย่างไรก็ตาม สมเด็จกรมพระราชวังบวรฯ ทรงทราบเกี่ยวกับภูมิประเทศบริเวณนี้เป็นอย่างดี เพราะพระยามหาโยธา (เจ่ง) หัวหน้ากองทหารมอญสวามิภักดิ์ได้ถวายรายงานอย่างละเอียด เมื่อคำนวณคาดว่าทัพพม่าจะเดินทัพถึงเจดีย์ ๓ องค์ ต้องใช้เวลาประมาณ ๗ วัน ดังนั้น ถ้ากองทัพไทยเดินทางช้าทัพพม่าจะเดินทัพถึงกาญจนบุรีก่อน ฉะนั้นกองทัพไทยต้องเดินทางอย่างรีบเร่ง โดยเคลื่อนที่ออกจากกรุงเทพฯ โดยทางเรือ เพื่อให้ถึงทุ่งลาดหญ้าก่อนกองทัพพม่า ถ้ากองทัพพม่าถึงก่อน ทัพพม่าก็จะประดาหน้าจำนวนพล ๘๙,๐๐๐ คน เผชิญหน้ากับกองทัพไทยซึ่งมีจำนวนน้อยกว่า กองทัพไทยต้องเป็นฝ่ายเสียเปรียบ แต่ถ้ากองทัพไทยเดินทัพถึงก่อนก็จะสามารถตั้งทัพสกัดที่ช่องเขา ซึ่งทัพพม่าก็จะทยอยพลตามความกว้างของช่องเขาออกมาทีละน้อย เมื่อเป็นเช่นนั้น แม้ว่าจะมีกำลังมากก็เหมือนมีกำลังน้อย นอกจากนั้นเมื่อทัพพม่าตั้งค่ายอยู่ในหุบเขาย่อมจะหาเสบียงในป่าไม่ได้ นับว่าเป็นโอกาสที่ไทยจะทำให้พม่าพ่ายแพ้ได้ ในขณะที่กองทัพไทยกำลังเดินทัพใกล้จะถึงกาญจนบุรีนั้น ปรากฏว่ากองทหารดาบทะลวงฟัน นำโดยขุนรัตนาวุธและกองทหารมอญสวามิภักดิ์นำโดยพระยามหาโยธา (เจ่ง) จำนวน ๒๐๐ คน ได้ปะทะกับทหารพม่าที่ด่านเจดีย์ ๓ องค์ แต่ก็ไม่สามารถต้านทานพม่าได้จึงหลบหนีเข้าป่าไป แต่ก็ยังใช้วิธีซุ่มโจมตีรบกวนการเดินทัพของพม่าให้ช้าลง กล่าวคือ ขุนรัตนาวุธได้นำกองทหารภายใต้บังคับหลบซ่อนอยู่ในป่าทำการจู่โจมพม่า ส่วนพระยามหาโยธาคุมกองทหารมอญรั้งหน่วงการเดินทัพพม่า ด้วยการรบแบบร่นถอยลงมาเรื่อย ๆ พร้อมทั้งขอกำลังเพิ่มเติม สมเด็จกรมพระราชวังบวรฯ ได้โปรดให้พระยารามคุมกองทหารมอญ ๖๐๐ คน ลัดป่าเข้าไปช่วยพระยา มหาโยธา โดยสั่งให้ถอยร่นเข้าไปที่ด่านกรามช้างแล้วให้ยึดไว้ ส่วนทัพหลวงจะตั้งค่ายที่เชิงเขาบรรทัด (เขาชนไก่) เพื่อเป็นการบำรุงขวัญทหาร เมื่อทราบว่าทัพพม่าบางส่วนได้ผ่านด่านเจดีย์ ๓ องค์ เข้ามาแล้ว กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท ไม่ได้ไปตั้งรับที่ด่านเจดีย์ ๓ องค์ ซึ่งอยู่ติดเขตแดนพม่า ซึ่งจะต้องเดินทางจากทุ่งลาดหญ้าไปอีก ๖ วัน จึงจะถึง จะทำให้การส่งเสบียงอาหารลำบาก การตั้งรับที่ทุ่งลาดหญ้าย่อมมีผลดีทางด้านยุทธศาสตร์มากกว่า ขุนรัตนาวุธจึงวางแผนเล่นงานพม่า โดยได้ส่งทหารภายใต้บังคับจำนวน ๕๐ คน แทรกซึมเข้าไปในเขตพม่าถึงเมืองเมาะตะมะ ให้ทุกคนไปตายเอาดาบหน้า (หน่วยกล้าตาย) โดยให้หาทางก่อวินาศกรรมและทำลายขบวนลำเลียงของพม่าตามลำน้ำสามสาย คือ ลำน้ำกษัตริย์ ลำน้ำสกลิ และลำน้ำสมิกลาย ดังกล่าว แล้วส่วนอีก ๑๕๐ คน ภายใต้การนำของตน มุ่งหน้าไปทำการจู่โจมขัดขวางการเดินทัพของพม่าที่จะเข้าสู่เขตตำบลสามสบและท่าดินแดง การปฏิบัติหน้าที่อย่างกล้าหาญของทหารทะลวงฟัน ภายใต้การนำของขุนรัตนาวุธในครั้งนี้ได้ผลมาก สามารถตัดกำลังลงได้มากโดยได้ทำลายสะพาน เรือบรรทุกเสบียงอาหารของพม่าเสียหายมาก นอกจากนั้นยังทำให้กองทัพที่ ๖ ของตะแคงกามะที่ตั้งค่ายอยู่ที่ท่าดินแดงหยุดชะงักการลำเลียงกำลังพลและเสบียง เพราะเกิดความลังเลสงสัยว่ากองทัพไทยคงจะมีอีกทัพหนึ่งก่อนที่จะถึงทุ่งลาดหญ้า จึงมิกล้าเคลื่อนทัพไปรวมกันที่ทุ่งลาดหญ้า แต่เมื่อทหารออกลาดตระเวนสำรวจดูพื้นที่แถบนั้นแล้วก็ไม่เห็นมีอะไรมีแต่ป่าเปล่า จึงเคลื่อนทัพต่อมาหวังจะรวมกันที่ทุ่งลาดหญ้า แต่พอเคลื่อนทัพมาถึงช่องเขาก็ถูกกองกำลังของฝ่ายไทยตรึงไว้อย่างแน่นหนา โดยทำการยิงอย่างรุนแรงจากยอดเขา ทำให้พม่าคำนวณกำลังของฝ่ายไทยไม่ถูกว่ามีมากน้อยเพียงไร พม่าจึงแปรขบวนการสู้รบอยู่ตลอดคืนจนกระทั่งเวลากลางวัน จึงทราบว่าทหารไทยอยู่บริเวณช่องเขามีน้อยมาก (หน่วยจู่โจมของขุนรัตนาวุธนั่นเอง) ดังนั้นจึงเคลื่อนทัพมุ่งตรงไปที่ทุ่งลาดหญ้าต่อไปอีก แต่ก็ต้องพบกับกองกำลังสกัดกั้นที่ช่องเขาและลำน้ำ ซึ่งทัพไทยที่ทุ่งลาดหญ้าได้ส่งกำลังมาตรึงไว้แล้วหลายพันคน ทัพพม่าจึงมิอาจเคลื่อนต่อไปได้ดังที่ตนคาดไว้ อย่างไรก็ตาม แม้ว่ากองทัพไทยจะวางแผนยุทธศาสตร์ไว้อย่างรอบคอบก็ตาม แต่พม่าก็พยายามเดินทัพเข้าตามช่องเขาหลายช่องทาง จึงจำเป็นต้องแบ่งกำลังไปป้องกันตามจุดทางออกช่องเขาต่าง ๆ เพื่อมิให้กำลังพม่าทะลักออกมารวมเป็นทัพใหญ่ได้ ดังเช่นขณะกองอาสามอญสวามิภักดิ์ของพระยามหาโยธาถูกพม่าตีแตกที่ด่านกรามช้างแล้วถอยร่นเข้ามายังค่ายไทยที่ทุ่งลาดหญ้า โดยมีทหารพม่าไล่ติดตามมาอย่างกระชั้นชิด ไทยจำเป็นต้องเปิดประตูรับกองอาสามอญไว้จนเป็นเหตุให้ทัพพม่ามาประชิดค่ายไทย ด้วยเหตุนั้น กองทัพหน้าของพม่าจึงได้จัดตั้งค่ายคู หอรบขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งมีหอรบสูงหลายหอแล้วนำปืนใหญ่ขึ้นไปตั้งบนหอสูง ระดมยิงเข้ามายังค่ายของไทย ทำให้กองทัพไทยมีความวุ่นวายมากขึ้น พม่ายิงเข้ามาตลอดเวลาทำลายป้อมปราการ กำแพงอาคารที่บัญชาการรบในค่ายของไทยพังพินาศ นับว่าฝ่ายพม่าปฏิบัติการได้ผล ได้ทำลายขวัญทหารไทยพอสมควรทีเดียว กองทหารดาบทะลวงฟันภายใต้บังคับของขุนรัตนาวุธได้เข้าต่อสู้และประชิดตัวกับทหารพม่า ขุนรัตนาวุธผู้นำหน่วยรบที่กล้าหาญเด็ดเดี่ยวพลาดท่าเสียที ถูกทหารพม่ารุมฟันจนแขนขวาขาดเลือดไหลนองหมดแรง ล้มลงกลางสนามรบในยามบ่ายวันนั้น ขุนรัตนาวุธได้รับความช่วยเหลืออย่างฉับพลัน นำตัวเข้ามารักษาพยาบาลภายในค่ายอย่างรีบด่วน ถึงแม้ว่าขุนรัตนาวุธจะได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสจากการปฏิบัติการรบในครั้งนี้ แต่ขุนรัตนาวุธชายชาติทหารมีจิตใจห่วงใยประเทศชาติเป็นอย่างยิ่ง ถึงกับใช้นิ้วชี้ของมือซ้ายจุ่มลงที่เลือดของแขนขวาตรงที่ขาดแล้วเขียนลงบนผ้าปูเตียงนอนว่า “จงรักษาทุ่งลาดหญ้าไว้ด้วยเลือดและชีวิต” นับว่าขุนรัตนาวุธได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างกล้าหาญ สมชายชาติทหารที่สมควรได้รับการสดุดีวีรกรรมเป็นอย่างยิ่งและความดีที่ขุนรัตนาวุธได้ปฏิบัติหน้าที่แบบพลีชีพเพื่อชาติเช่นนี้ สมควรถือเป็นแบบอย่างต่อไป #จากหนังสือวีรชนคนต้นแบบ183

รายละเอียด

ขุนรัตนาวุธ นักรบ แขวงเมืองวิเศษไชยชาญ

เหรียญ สร้างที่ ศาลเจ้าพ่อขุนรัตนาวุธ มูลนิธิขุนรัตนาวุธ กาญจนบุรี

นักรบ แขวงเมืองวิเศษไชยชาญ
19 เมษายน 2020 ·
#ขุนรัตนาวุธ
#บรรพชนแขวงเมืองวิเศษไชยชาญ
แม่ทัพกองทหารดาบทะลวงฟัน
ขุนรัตนาวุธ เป็นชาววิเศษชัยชาญ ในคราวศึกบางระจัน ครอบครัวถูกพม่าฆ่าตายหมดจนแทบเป็นบ้า ต้องออกบวชเพื่อทำจิตใจให้สงบ หลังจากนั้นได้ลาสิกขาออกมาแล้วสมัครเป็นทหาร มีส่วนช่วยเหลือพระเจ้าตากสินกู้ชาติบ้านเมือง และท่านมามีชื่อเสียงจารึกลงไว้ในประวัติศาสตร์ชาติไทยก็ในศึกสงครามเก้าทัพ ตอนศึกทุ่งลาดหญ้า มีเรื่องเล่าทางประวัติศาสตร์ดังต่อไปนี้
การศึกทุ่งลาดหญ้า สมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาททรงเป็นแม่ทัพฝ่ายไทยเสด็จยกทัพจำนวนพล ๓๐,๐๐๐ คน ออกจากกรุงเทพฯ พุทธศักราช ๒๓๒๘ ซึ่งมีพระยากลาโหมราชเสนาและพระยาแสนยากรเป็นกองหน้า เจ้าฟ้ากรมหลวงจักรเจษฎาเป็นยกบัตรทัพ เจ้าพระยารัตนาพิพิธสมุหนายกเป็นเกียกกาย พระยามณเฑียรบาลเป็นกองหลัง ได้เดินทัพอย่างเร่งร้อนที่สุด เพราะต้องการจะสกัดทัพพม่าที่ช่องเขาบรรทัด อย่างไรก็ตาม สมเด็จกรมพระราชวังบวรฯ ทรงทราบเกี่ยวกับภูมิประเทศบริเวณนี้เป็นอย่างดี เพราะพระยามหาโยธา (เจ่ง) หัวหน้ากองทหารมอญสวามิภักดิ์ได้ถวายรายงานอย่างละเอียด เมื่อคำนวณคาดว่าทัพพม่าจะเดินทัพถึงเจดีย์ ๓ องค์ ต้องใช้เวลาประมาณ ๗ วัน ดังนั้น ถ้ากองทัพไทยเดินทางช้าทัพพม่าจะเดินทัพถึงกาญจนบุรีก่อน ฉะนั้นกองทัพไทยต้องเดินทางอย่างรีบเร่ง โดยเคลื่อนที่ออกจากกรุงเทพฯ โดยทางเรือ เพื่อให้ถึงทุ่งลาดหญ้าก่อนกองทัพพม่า ถ้ากองทัพพม่าถึงก่อน ทัพพม่าก็จะประดาหน้าจำนวนพล ๘๙,๐๐๐ คน เผชิญหน้ากับกองทัพไทยซึ่งมีจำนวนน้อยกว่า กองทัพไทยต้องเป็นฝ่ายเสียเปรียบ แต่ถ้ากองทัพไทยเดินทัพถึงก่อนก็จะสามารถตั้งทัพสกัดที่ช่องเขา ซึ่งทัพพม่าก็จะทยอยพลตามความกว้างของช่องเขาออกมาทีละน้อย เมื่อเป็นเช่นนั้น แม้ว่าจะมีกำลังมากก็เหมือนมีกำลังน้อย นอกจากนั้นเมื่อทัพพม่าตั้งค่ายอยู่ในหุบเขาย่อมจะหาเสบียงในป่าไม่ได้ นับว่าเป็นโอกาสที่ไทยจะทำให้พม่าพ่ายแพ้ได้ ในขณะที่กองทัพไทยกำลังเดินทัพใกล้จะถึงกาญจนบุรีนั้น ปรากฏว่ากองทหารดาบทะลวงฟัน นำโดยขุนรัตนาวุธและกองทหารมอญสวามิภักดิ์นำโดยพระยามหาโยธา (เจ่ง) จำนวน ๒๐๐ คน ได้ปะทะกับทหารพม่าที่ด่านเจดีย์ ๓ องค์ แต่ก็ไม่สามารถต้านทานพม่าได้จึงหลบหนีเข้าป่าไป แต่ก็ยังใช้วิธีซุ่มโจมตีรบกวนการเดินทัพของพม่าให้ช้าลง กล่าวคือ ขุนรัตนาวุธได้นำกองทหารภายใต้บังคับหลบซ่อนอยู่ในป่าทำการจู่โจมพม่า ส่วนพระยามหาโยธาคุมกองทหารมอญรั้งหน่วงการเดินทัพพม่า ด้วยการรบแบบร่นถอยลงมาเรื่อย ๆ พร้อมทั้งขอกำลังเพิ่มเติม สมเด็จกรมพระราชวังบวรฯ ได้โปรดให้พระยารามคุมกองทหารมอญ ๖๐๐ คน ลัดป่าเข้าไปช่วยพระยา มหาโยธา โดยสั่งให้ถอยร่นเข้าไปที่ด่านกรามช้างแล้วให้ยึดไว้ ส่วนทัพหลวงจะตั้งค่ายที่เชิงเขาบรรทัด (เขาชนไก่) เพื่อเป็นการบำรุงขวัญทหาร เมื่อทราบว่าทัพพม่าบางส่วนได้ผ่านด่านเจดีย์ ๓ องค์ เข้ามาแล้ว กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท ไม่ได้ไปตั้งรับที่ด่านเจดีย์ ๓ องค์ ซึ่งอยู่ติดเขตแดนพม่า ซึ่งจะต้องเดินทางจากทุ่งลาดหญ้าไปอีก ๖ วัน จึงจะถึง จะทำให้การส่งเสบียงอาหารลำบาก การตั้งรับที่ทุ่งลาดหญ้าย่อมมีผลดีทางด้านยุทธศาสตร์มากกว่า
ขุนรัตนาวุธจึงวางแผนเล่นงานพม่า โดยได้ส่งทหารภายใต้บังคับจำนวน ๕๐ คน แทรกซึมเข้าไปในเขตพม่าถึงเมืองเมาะตะมะ ให้ทุกคนไปตายเอาดาบหน้า (หน่วยกล้าตาย) โดยให้หาทางก่อวินาศกรรมและทำลายขบวนลำเลียงของพม่าตามลำน้ำสามสาย คือ ลำน้ำกษัตริย์ ลำน้ำสกลิ และลำน้ำสมิกลาย ดังกล่าว แล้วส่วนอีก ๑๕๐ คน ภายใต้การนำของตน มุ่งหน้าไปทำการจู่โจมขัดขวางการเดินทัพของพม่าที่จะเข้าสู่เขตตำบลสามสบและท่าดินแดง การปฏิบัติหน้าที่อย่างกล้าหาญของทหารทะลวงฟัน ภายใต้การนำของขุนรัตนาวุธในครั้งนี้ได้ผลมาก สามารถตัดกำลังลงได้มากโดยได้ทำลายสะพาน เรือบรรทุกเสบียงอาหารของพม่าเสียหายมาก นอกจากนั้นยังทำให้กองทัพที่ ๖ ของตะแคงกามะที่ตั้งค่ายอยู่ที่ท่าดินแดงหยุดชะงักการลำเลียงกำลังพลและเสบียง เพราะเกิดความลังเลสงสัยว่ากองทัพไทยคงจะมีอีกทัพหนึ่งก่อนที่จะถึงทุ่งลาดหญ้า จึงมิกล้าเคลื่อนทัพไปรวมกันที่ทุ่งลาดหญ้า แต่เมื่อทหารออกลาดตระเวนสำรวจดูพื้นที่แถบนั้นแล้วก็ไม่เห็นมีอะไรมีแต่ป่าเปล่า จึงเคลื่อนทัพต่อมาหวังจะรวมกันที่ทุ่งลาดหญ้า แต่พอเคลื่อนทัพมาถึงช่องเขาก็ถูกกองกำลังของฝ่ายไทยตรึงไว้อย่างแน่นหนา โดยทำการยิงอย่างรุนแรงจากยอดเขา ทำให้พม่าคำนวณกำลังของฝ่ายไทยไม่ถูกว่ามีมากน้อยเพียงไร พม่าจึงแปรขบวนการสู้รบอยู่ตลอดคืนจนกระทั่งเวลากลางวัน จึงทราบว่าทหารไทยอยู่บริเวณช่องเขามีน้อยมาก (หน่วยจู่โจมของขุนรัตนาวุธนั่นเอง) ดังนั้นจึงเคลื่อนทัพมุ่งตรงไปที่ทุ่งลาดหญ้าต่อไปอีก แต่ก็ต้องพบกับกองกำลังสกัดกั้นที่ช่องเขาและลำน้ำ ซึ่งทัพไทยที่ทุ่งลาดหญ้าได้ส่งกำลังมาตรึงไว้แล้วหลายพันคน ทัพพม่าจึงมิอาจเคลื่อนต่อไปได้ดังที่ตนคาดไว้ อย่างไรก็ตาม แม้ว่ากองทัพไทยจะวางแผนยุทธศาสตร์ไว้อย่างรอบคอบก็ตาม แต่พม่าก็พยายามเดินทัพเข้าตามช่องเขาหลายช่องทาง จึงจำเป็นต้องแบ่งกำลังไปป้องกันตามจุดทางออกช่องเขาต่าง ๆ เพื่อมิให้กำลังพม่าทะลักออกมารวมเป็นทัพใหญ่ได้ ดังเช่นขณะกองอาสามอญสวามิภักดิ์ของพระยามหาโยธาถูกพม่าตีแตกที่ด่านกรามช้างแล้วถอยร่นเข้ามายังค่ายไทยที่ทุ่งลาดหญ้า โดยมีทหารพม่าไล่ติดตามมาอย่างกระชั้นชิด ไทยจำเป็นต้องเปิดประตูรับกองอาสามอญไว้จนเป็นเหตุให้ทัพพม่ามาประชิดค่ายไทย ด้วยเหตุนั้น กองทัพหน้าของพม่าจึงได้จัดตั้งค่ายคู หอรบขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งมีหอรบสูงหลายหอแล้วนำปืนใหญ่ขึ้นไปตั้งบนหอสูง ระดมยิงเข้ามายังค่ายของไทย ทำให้กองทัพไทยมีความวุ่นวายมากขึ้น พม่ายิงเข้ามาตลอดเวลาทำลายป้อมปราการ กำแพงอาคารที่บัญชาการรบในค่ายของไทยพังพินาศ นับว่าฝ่ายพม่าปฏิบัติการได้ผล ได้ทำลายขวัญทหารไทยพอสมควรทีเดียว
กองทหารดาบทะลวงฟันภายใต้บังคับของขุนรัตนาวุธได้เข้าต่อสู้และประชิดตัวกับทหารพม่า ขุนรัตนาวุธผู้นำหน่วยรบที่กล้าหาญเด็ดเดี่ยวพลาดท่าเสียที ถูกทหารพม่ารุมฟันจนแขนขวาขาดเลือดไหลนองหมดแรง ล้มลงกลางสนามรบในยามบ่ายวันนั้น ขุนรัตนาวุธได้รับความช่วยเหลืออย่างฉับพลัน นำตัวเข้ามารักษาพยาบาลภายในค่ายอย่างรีบด่วน ถึงแม้ว่าขุนรัตนาวุธจะได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสจากการปฏิบัติการรบในครั้งนี้ แต่ขุนรัตนาวุธชายชาติทหารมีจิตใจห่วงใยประเทศชาติเป็นอย่างยิ่ง ถึงกับใช้นิ้วชี้ของมือซ้ายจุ่มลงที่เลือดของแขนขวาตรงที่ขาดแล้วเขียนลงบนผ้าปูเตียงนอนว่า
“จงรักษาทุ่งลาดหญ้าไว้ด้วยเลือดและชีวิต”
นับว่าขุนรัตนาวุธได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างกล้าหาญ สมชายชาติทหารที่สมควรได้รับการสดุดีวีรกรรมเป็นอย่างยิ่งและความดีที่ขุนรัตนาวุธได้ปฏิบัติหน้าที่แบบพลีชีพเพื่อชาติเช่นนี้ สมควรถือเป็นแบบอย่างต่อไป
#จากหนังสือวีรชนคนต้นแบบ183