ศิษย์เอก หลวงปู่บุญ ท่านเจ้าคุณพระเทพเจติยาจารย์ วัดเสน่หา จ.นครปฐม-จ่าจีระสิทธิ์ - webpra

เว็บ-พระ ประมูลพระเครื่อง ร้านค้าพระเครื่องออนไลน์

จ่าจีระสิทธิ์

0 8 6 - 5 6 0 4 0 3 7

หน้าที่ และความรับผิดชอบ

หมวด เหรียญปั๊ม ก่อนปี 2520

ศิษย์เอก หลวงปู่บุญ ท่านเจ้าคุณพระเทพเจติยาจารย์ วัดเสน่หา จ.นครปฐม

ศิษย์เอก หลวงปู่บุญ ท่านเจ้าคุณพระเทพเจติยาจารย์ วัดเสน่หา จ.นครปฐม - 3

ศิษย์เอก หลวงปู่บุญ ท่านเจ้าคุณพระเทพเจติยาจารย์ วัดเสน่หา จ.นครปฐม - 4

ชื่อร้านค้า	จ่าจีระสิทธิ์ - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า	jeerasit (112)
ชื่อพระเครื่อง	ศิษย์เอก หลวงปู่บุญ ท่านเจ้าคุณพระเทพเจติยาจารย์ วัดเสน่หา จ.นครปฐม
อายุพระเครื่อง	65 ปี
หมวดพระ	เหรียญปั๊ม ก่อนปี 2520
ราคาเช่า	-
เบอร์โทรติดต่อ	08-6560-4037
อีเมล์ติดต่อ	Tayanrum@hotmail.com
LINE	(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
สถานะ
Facebook	Share
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่	พฤ. - 11 ก.ค. 2567 - 21:20.29
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ	ส. - 13 ก.ค. 2567 - 21:04.46

รายละเอียด
ศิษย์เอก หลวงปู่บุญ ท่านเจ้าคุณพระเทพเจติยาจารย์ วัดเสน่หา จ.นครปฐม เหรียญ รุ่นที่ 2 ประมาณ ปี 2503-2506 ทีระลึก แห่งการฉลอง สมณศักดิ์ ที่ พระเทพเจติยาจารย์ เหรียญ สวยมาก ผิวเดิมมม เหรียญ ของท่าน น่าจะมี 4 รุ่นเท่านั้น ในวาระสำคัญ เป็นเหรียญที่ ไม่ค่อยมีคนรู้จัก ประวัติท่าน ลองอ่านดูครับ เครดิต อาจารย์ เจริญสิทธิ์ https://forum.uamulet.com/view_topic.aspx?bid=7&qid=41415 คนทั่วๆไป อาจคิดว่าหลวงปู่เพิ่ม เป็นศิษย์เอกของ หลวงปู่บุญ อันเนื่องมาจากหลวงปู่เพิ่ม เป็นศิษย์ก้นกุฎิจำพรรษาอยู่ที่วัดกลางบางแก้ว ตั้งแต่บวชจนกระทั่งได้เป็นเจ้าอาวาสวัดกลางบางแก้ว แต่จริงๆแล้วเป็นความเข้าใจที่ผิด หลวงปู่เพิ่ม เป็นเพียงศิษย์ที่หลวงปู่บุญ ให้ความเมตตาเป็นพิเศษ อันเนื่องจากหลวงปู่เพิ่มเป็นพระที่สมถะ เรียบง่าย ขยันขันแข็งและคอยปรนนิบัติรับใช้ใกล้ชิดหลวงปู่บุญ ตลอดเวลาอย่างสม่ำเสมอ หลวงปู่เพิ่ม ท่านเป็นพระที่ใจดี มีเมตตา ต่อผู้คนทุกคนโดยทั่วหน้าอย่างสม่ำเสมอ แต่เพราะด้วยเหตุผลนี้เอง ทำให้ หลวงปู่เพิ่ม ไม่เคยออกธุดงค์ สาเหตุเพราะหลวงปู่บุญ ได้ห้ามเอาไว้ และเ้คยมีศิษย์ใกล้ชิดถามเหตุผลกับหลวงปู่บุญ ท่านจะตอบเพียงว่า ถ้าหลวงปู่เพิ่ม ออกธุดงค์ ก็จะไม่ได้กลับวัดกลางบางแก้ว ในชีวิตของหลวงปู่บุญ ท่านมีศิษย์และสหธรรมิกรุ่นน้อง ที่มาศึกษาวิชากับท่านมากมายนับร้อยองค์ แต่ีในจำนวนศิษย์ของท่านทั้งหมด กลับมีเพียงองค์เดียวที่หลวงปู่บุญ ให้ความเชื่อถือมากที่สุด ท่านเป็นเจ้าคณะอำเภอนครชัยศรี และเจ้าคณะอำเภอกำแพงแสน พร้อมกันทั้งสองตำแหน่ง ในขณะที่มีอายุยังไม่เต็ม 40ปี นอกจากนั้น ก่อนที่หลวงปู่บุญท่านจะสิ้น ในปีพ.ศ.2478 หลวงปู่บุญ ได้ทูลขอให้ สมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาวชิรญาณวโรรส องค์สมเด็จพระสังฆราชในขณะนั้น ทรงแต่งตั้งให้ศิษย์องค์นี้ สืบทอดตำแหน่งเจ้าคณะมณฑลหรือเจ้าคณะจังหวัดนครปฐมแทนท่าน ที่สำคัญที่สุดก็คือ หลวงปู่บุญ ได้สิ้นในอ้อมแขนของท่าน หลังจากที่ท่านได้จุดเทียนเสี่ยงทายต่อชะตาชีวิต ให้หลวงปู่บุญ ถึงสามครั้ง ชีวิตของท่าน นับได้ว่าเกิดมาเพื่อเป็นพระสงฆ์ ในธรรมยุตินิกายโดยแท้ ตั้งแต่การบวชเป็นพระสงฆ์ ในปีพ.ศ.2446 โดยเจ้าคุณจิตร วัดสัตตนารถ เป็นพระอุปัชฌาย์และหลังจากบรรพชาแล้ว ท่านได้เดินทางศึกษาที่วัดในปกครองของธรรมยุติ โดยตลอด จนกระทั่งได้มาเป็นเจ้าอาวาสวัดสัมปทวน ซึ่งเป็นวัดธรรมยุติเช่นกัน ในประมาณปีพ.ศ.2460 และได้ดำรงค์ตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดนครปฐมต่อจากหลวงปู่บุญ จนกระทั่งได้มีการแบ่งการปกครองคณะสงฆ์เป็นธรรมยุติและมหานิกาย ในระหว่างปีพ.ศ.2490 เศษ ท่านได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเ้จ้าคณะจังหวัดสายธรรมยุติ ถึงสามจังหวัด คือ นครปฐม กาญจนบุรี และสุพรรณบุรี ท่านเกิดปีพ.ศ.2426และสิ้นในปีพ.ศ.2527 สิริรวมอายุได้ 101ปี ในสมณศักดิ์สุดท้ายก็คือ พระธรรมเจติยาจารย์ อดีตเจ้าอาวาสวัดเสน่หาและอาจารย์ของสมเด็จญาณ องค์สังฆราชปัจจุบัน แต่คนนครปฐมและศิษย์ของท่านจะเรียกท่านว่า หลวงปู่ใหญ่ หรือเจ้าคุณใหญ่ แห่งวัดเสน่หา อันสืบเนื่องมาจากท่านเป็นพระสายธรรมยุติที่เคร่งในพระธรรมวินัย และเป็นเจ้าคณะจังหวัด ทำให้ชีวิตของท่าน อนุญาตให้ศิษย์ออกเหรียญแทนองค์ท่าน เพียงไม่กี่รุ่นเท่านั้น ส่วนใหญ่จะเป็นการออกเหรียญเนื่องในวาระสำคัญเท่านั้น คือ ฉลองตำแหน่งปฐมนคราจารย์ซึ่งเป็นเหรียญรุ่นแรก เหรียญฉลองตำแหน่งพระเทพเจติยาจารย์ และเหรียญฉลองอายุ 90ปีและ100ปี เท่านั้น เหรียญแทนองค์หลวงปู่ใหญ่ทุกรุ่น ด้านหลังจะต้องเป็นรูปองค์พระปฐมเจดีย์ ที่หลวงปู่ใหญ่ท่านนับถือมากที่สุด ที่สำคัญนอกจากหลวงปู่ใหญ่แล้ว เหรียญทุกรุ่นของท่านจะมีพิธีพุทธาภิเษกอย่างยิ่งใหญ่ ไม่เพียงเกจิที่สำคัญๆทั่วนครปฐม แต่ยังรวมไปถึงเกจิเมืองกาญจนบุรี ราชบุรี สุพรรณบุรีและกรุงเทพฯ อีกด้วย เป็นที่น่าแปลกใจเป็นอย่างมาก ที่เหรียญของหลวงปู่ใหญ่ทุกรุ่น กลับไม่เป็นที่สนใจของเซียนพระทั่วไป โดยเฉพาะเมืองนครปฐม แต่ผมบอกได้เลยว่้า พระของท่านเล่นง่ายกว่าพระหลวงพ่อเงิน มากนัก พระของท่านยกเว้นรุ่นแรก มีค่านิยมเพียงหลักร้อยเท่านั้น เมื่อเทียบกับพุทธคุณแล้วแทบไม่น่าเชื่อ พระของท่านทุกรุ่นไม่มีของเก๊และของเสริมให้ปวดหัว เพื่อนๆสมาชิก ถ้าพบเจอพระของท่าน อย่าปล่อยให้หลุดมือนะครับ ถ้าไม่คิดเรื่องค่านิยม พระของท่านทุกรุ่น ให้ลูกหลานแขวนคุ้มครองชีวิตได้แน่นอน ไม่เว้นแม้แต่ สมเด็จดำ-ขาว แห่งวัดเสน่หา ที่สร้างในยุคที่หลวงปู่ใหญ่ยังมีชีวิต ในจังหวัดนครปฐม พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ ที่เป็นความภูมิใจที่สุดของชาวเมืองนครปฐม เป็นพระนักพัฒนา และนักปกครอง ที่สร้างความเจริญสูงสุดให้กับวงการพระสงฆ์เมืองนครปฐม ในยุคของท่าน หลังจากยุคของหลวงปู่บุญวัดกลางบางแก้วแล้วก็มี เจ้าคุณโชติ วัดพระปฐมเจดีย์ ผู้สร้างตำนานพระเครื่องเมืองนครปฐมที่มีพิธีพุทธาภิเษกยิ่งใหญ่ที่สุด และหลวงปู่ใหญ่ หรือหลวงพ่อวงศ์ แห่งวัดเสน่หา

รายละเอียด

ศิษย์เอก หลวงปู่บุญ ท่านเจ้าคุณพระเทพเจติยาจารย์ วัดเสน่หา จ.นครปฐม

เหรียญ รุ่นที่ 2 ประมาณ ปี 2503-2506

ทีระลึก แห่งการฉลอง สมณศักดิ์ ที่ พระเทพเจติยาจารย์

เหรียญ สวยมาก ผิวเดิมมม

เหรียญ ของท่าน น่าจะมี 4 รุ่นเท่านั้น ในวาระสำคัญ

เป็นเหรียญที่ ไม่ค่อยมีคนรู้จัก ประวัติท่าน

ลองอ่านดูครับ

เครดิต อาจารย์ เจริญสิทธิ์

https://forum.uamulet.com/view_topic.aspx?bid=7&qid=41415

คนทั่วๆไป อาจคิดว่าหลวงปู่เพิ่ม เป็นศิษย์เอกของ หลวงปู่บุญ อันเนื่องมาจากหลวงปู่เพิ่ม เป็นศิษย์ก้นกุฎิจำพรรษาอยู่ที่วัดกลางบางแก้ว ตั้งแต่บวชจนกระทั่งได้เป็นเจ้าอาวาสวัดกลางบางแก้ว

แต่จริงๆแล้วเป็นความเข้าใจที่ผิด

หลวงปู่เพิ่ม เป็นเพียงศิษย์ที่หลวงปู่บุญ ให้ความเมตตาเป็นพิเศษ อันเนื่องจากหลวงปู่เพิ่มเป็นพระที่สมถะ เรียบง่าย ขยันขันแข็งและคอยปรนนิบัติรับใช้ใกล้ชิดหลวงปู่บุญ ตลอดเวลาอย่างสม่ำเสมอ

หลวงปู่เพิ่ม ท่านเป็นพระที่ใจดี มีเมตตา ต่อผู้คนทุกคนโดยทั่วหน้าอย่างสม่ำเสมอ

แต่เพราะด้วยเหตุผลนี้เอง ทำให้ หลวงปู่เพิ่ม ไม่เคยออกธุดงค์

สาเหตุเพราะหลวงปู่บุญ ได้ห้ามเอาไว้ และเ้คยมีศิษย์ใกล้ชิดถามเหตุผลกับหลวงปู่บุญ ท่านจะตอบเพียงว่า

ถ้าหลวงปู่เพิ่ม ออกธุดงค์ ก็จะไม่ได้กลับวัดกลางบางแก้ว

ในชีวิตของหลวงปู่บุญ ท่านมีศิษย์และสหธรรมิกรุ่นน้อง ที่มาศึกษาวิชากับท่านมากมายนับร้อยองค์ แต่ีในจำนวนศิษย์ของท่านทั้งหมด กลับมีเพียงองค์เดียวที่หลวงปู่บุญ ให้ความเชื่อถือมากที่สุด

ท่านเป็นเจ้าคณะอำเภอนครชัยศรี และเจ้าคณะอำเภอกำแพงแสน พร้อมกันทั้งสองตำแหน่ง ในขณะที่มีอายุยังไม่เต็ม 40ปี

นอกจากนั้น ก่อนที่หลวงปู่บุญท่านจะสิ้น ในปีพ.ศ.2478 หลวงปู่บุญ ได้ทูลขอให้ สมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาวชิรญาณวโรรส องค์สมเด็จพระสังฆราชในขณะนั้น ทรงแต่งตั้งให้ศิษย์องค์นี้ สืบทอดตำแหน่งเจ้าคณะมณฑลหรือเจ้าคณะจังหวัดนครปฐมแทนท่าน

ที่สำคัญที่สุดก็คือ

หลวงปู่บุญ ได้สิ้นในอ้อมแขนของท่าน หลังจากที่ท่านได้จุดเทียนเสี่ยงทายต่อชะตาชีวิต ให้หลวงปู่บุญ ถึงสามครั้ง

ชีวิตของท่าน นับได้ว่าเกิดมาเพื่อเป็นพระสงฆ์ ในธรรมยุตินิกายโดยแท้ ตั้งแต่การบวชเป็นพระสงฆ์ ในปีพ.ศ.2446 โดยเจ้าคุณจิตร วัดสัตตนารถ เป็นพระอุปัชฌาย์และหลังจากบรรพชาแล้ว ท่านได้เดินทางศึกษาที่วัดในปกครองของธรรมยุติ โดยตลอด จนกระทั่งได้มาเป็นเจ้าอาวาสวัดสัมปทวน ซึ่งเป็นวัดธรรมยุติเช่นกัน ในประมาณปีพ.ศ.2460 และได้ดำรงค์ตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดนครปฐมต่อจากหลวงปู่บุญ

จนกระทั่งได้มีการแบ่งการปกครองคณะสงฆ์เป็นธรรมยุติและมหานิกาย ในระหว่างปีพ.ศ.2490 เศษ

ท่านได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเ้จ้าคณะจังหวัดสายธรรมยุติ ถึงสามจังหวัด คือ นครปฐม กาญจนบุรี และสุพรรณบุรี

ท่านเกิดปีพ.ศ.2426และสิ้นในปีพ.ศ.2527 สิริรวมอายุได้ 101ปี ในสมณศักดิ์สุดท้ายก็คือ พระธรรมเจติยาจารย์ อดีตเจ้าอาวาสวัดเสน่หาและอาจารย์ของสมเด็จญาณ องค์สังฆราชปัจจุบัน

แต่คนนครปฐมและศิษย์ของท่านจะเรียกท่านว่า

หลวงปู่ใหญ่ หรือเจ้าคุณใหญ่ แห่งวัดเสน่หา

อันสืบเนื่องมาจากท่านเป็นพระสายธรรมยุติที่เคร่งในพระธรรมวินัย และเป็นเจ้าคณะจังหวัด ทำให้ชีวิตของท่าน อนุญาตให้ศิษย์ออกเหรียญแทนองค์ท่าน เพียงไม่กี่รุ่นเท่านั้น ส่วนใหญ่จะเป็นการออกเหรียญเนื่องในวาระสำคัญเท่านั้น คือ ฉลองตำแหน่งปฐมนคราจารย์ซึ่งเป็นเหรียญรุ่นแรก เหรียญฉลองตำแหน่งพระเทพเจติยาจารย์ และเหรียญฉลองอายุ 90ปีและ100ปี เท่านั้น

เหรียญแทนองค์หลวงปู่ใหญ่ทุกรุ่น ด้านหลังจะต้องเป็นรูปองค์พระปฐมเจดีย์ ที่หลวงปู่ใหญ่ท่านนับถือมากที่สุด

ที่สำคัญนอกจากหลวงปู่ใหญ่แล้ว เหรียญทุกรุ่นของท่านจะมีพิธีพุทธาภิเษกอย่างยิ่งใหญ่ ไม่เพียงเกจิที่สำคัญๆทั่วนครปฐม แต่ยังรวมไปถึงเกจิเมืองกาญจนบุรี ราชบุรี สุพรรณบุรีและกรุงเทพฯ อีกด้วย
เป็นที่น่าแปลกใจเป็นอย่างมาก ที่เหรียญของหลวงปู่ใหญ่ทุกรุ่น กลับไม่เป็นที่สนใจของเซียนพระทั่วไป โดยเฉพาะเมืองนครปฐม

แต่ผมบอกได้เลยว่้า

พระของท่านเล่นง่ายกว่าพระหลวงพ่อเงิน มากนัก

พระของท่านยกเว้นรุ่นแรก มีค่านิยมเพียงหลักร้อยเท่านั้น เมื่อเทียบกับพุทธคุณแล้วแทบไม่น่าเชื่อ

พระของท่านทุกรุ่นไม่มีของเก๊และของเสริมให้ปวดหัว

เพื่อนๆสมาชิก ถ้าพบเจอพระของท่าน อย่าปล่อยให้หลุดมือนะครับ

ถ้าไม่คิดเรื่องค่านิยม

พระของท่านทุกรุ่น ให้ลูกหลานแขวนคุ้มครองชีวิตได้แน่นอน

ไม่เว้นแม้แต่ สมเด็จดำ-ขาว แห่งวัดเสน่หา ที่สร้างในยุคที่หลวงปู่ใหญ่ยังมีชีวิต
ในจังหวัดนครปฐม พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ ที่เป็นความภูมิใจที่สุดของชาวเมืองนครปฐม

เป็นพระนักพัฒนา และนักปกครอง ที่สร้างความเจริญสูงสุดให้กับวงการพระสงฆ์เมืองนครปฐม ในยุคของท่าน

หลังจากยุคของหลวงปู่บุญวัดกลางบางแก้วแล้วก็มี

เจ้าคุณโชติ วัดพระปฐมเจดีย์ ผู้สร้างตำนานพระเครื่องเมืองนครปฐมที่มีพิธีพุทธาภิเษกยิ่งใหญ่ที่สุด

และหลวงปู่ใหญ่ หรือหลวงพ่อวงศ์ แห่งวัดเสน่หา