เหรียญสมเด็จพระมหาสมณเจ้า​ กรมพระยาวชิรญาณวโรรส 84 ปี โรงเรียนวัดบวรฯ -จ่าจีระสิทธิ์ - webpra
VIP
  • 0 8 6 - 5 6 0 4 0 3 7
  • Page 1
  • Page 2
หน้าที่ และความรับผิดชอบ

หมวด เหรียญปั๊ม ปี 2521 ถึง 2540

เหรียญสมเด็จพระมหาสมณเจ้า​ กรมพระยาวชิรญาณวโรรส 84 ปี โรงเรียนวัดบวรฯ

เหรียญสมเด็จพระมหาสมณเจ้า​ กรมพระยาวชิรญาณวโรรส 84 ปี โรงเรียนวัดบวรฯ  - 1เหรียญสมเด็จพระมหาสมณเจ้า​ กรมพระยาวชิรญาณวโรรส 84 ปี โรงเรียนวัดบวรฯ  - 2เหรียญสมเด็จพระมหาสมณเจ้า​ กรมพระยาวชิรญาณวโรรส 84 ปี โรงเรียนวัดบวรฯ  - 3เหรียญสมเด็จพระมหาสมณเจ้า​ กรมพระยาวชิรญาณวโรรส 84 ปี โรงเรียนวัดบวรฯ  - 4
ชื่อร้านค้า จ่าจีระสิทธิ์ - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า
ชื่อพระเครื่อง เหรียญสมเด็จพระมหาสมณเจ้า​ กรมพระยาวชิรญาณวโรรส 84 ปี โรงเรียนวัดบวรฯ
อายุพระเครื่อง 47 ปี
หมวดพระ เหรียญปั๊ม ปี 2521 ถึง 2540
ราคาเช่า -
เบอร์โทรติดต่อ 08-6560-4037
อีเมล์ติดต่อ Tayanrum@hotmail.com
LINE
(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
สถานะ เช่าแล้ว
Facebook
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ อ. - 11 มิ.ย. 2567 - 21:40.24
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ ส. - 29 มิ.ย. 2567 - 12:18.24
รายละเอียด
เหรียญย่อย แต่หายาก ได้เป็นเหรียญที่ 3 สวยเดิม ผิวเดิม

เหรียญสมเด็จพระมหาสมณเจ้า​ กรมพระยาวชิรญาณวโรรส
รุ่น "84 ปี โรงเรียนวัดบวรนิเวศวิหาณ​ พ.ศ.
2521"

(หลวงปู่โต๊ะ​ วัดประดู่ฉิมพลีและครูบาอาจารย์สายกรรมฐานร่วมอธิษฐานจิตปลุกเสกมากมาย แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือเจ้าของรูปเหรียญได้รับรู้และประสิทธิมงคล​ จนเกิดเหตุอภินิหารยิ่งใหญ่ดังที่เคยเล่าไว้อีกด้วย)

นวเรศ วิมล
31 กรกฎาคม 2022 ·
สุดยอดเหรียญดีที่ใครๆล้วนมองข้ามไปแทบสิ้น
เว้นแต่ "ผู้รู้" ก็สนุกเช่าบูชาในราคาเบาหวิวอย่างสบายใจเฉิบ
เพราะไม่มี "ผู้ไม่รู้" มาเหลือบแลและยื้อแย่งด้วยนั่นแล
^^
***********************************************************************************************
ครั้งหนึ่ง ได้เคยอ่านหนังสือ "รวมเรื่องเล่า สิ่งที่เห็น" ที่ "คุณหลวง" และคณะจัดพิมพ์ขึ้น
โดยได้รวบรวมประสพการณ์แห่งหลากหลายผู้คนที่ได้เจอะเจอและพบกับารมีธรรมของหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน วัดป่าบ้านตาด อุดรธานี
แต่.....หนึ่งใน "รวมเรื่องเล่า" ดังกล่าว มีอยู่หลายๆตอนที่ไม่ได้กล่าวถึง "หลวงตา" โดยตรง
แต่จะเล่าถึง "เรื่องเบื้องลึก" ของ "พระเถระ" รูปหนึ่ง ซึ่งมีความใกล้ชิดกับหลวงตามหาบัวมากๆ
โดยใช้คำเรียกสั้นๆ โดยไม่ออก "นามจริง" ว่า
"เจ้าประคุณ"
ซึ่งหากบุคคลทั่วๆไปที่ไม่ทราบ ก็อาจจะไม่รู้ ไม่ทราบว่า "เจ้าประคุณ" นั้นคือใคร
แต่ส่วนตัวของผม นึกรู้ได้ทันทีว่า แท้ที่จริงแล้ว "เจ้าประคุณ" องค์ที่ว่านั้น ก็มิใช่ใครอื่น
แต่เป็น
"สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช วัดบวรนิเวศวิหาร"
มิผิดแล้ว
โดยตอนหนึ่งในเรื่องของ "เจ้าประคุณ" ที่ผู้เขียนใช้นามแฝงว่า "บรรณศาลา" ในหนังสือ "รวมเรื่องเล่า สิ่งที่เห็น"
ก็มีเรื่อง "อภินิหาร" และ "เรื่องลึกลับ" มากมาย
ที่นับอยู่ในฝักฝ่ายแห่ง
"อจินไตย"
ที่สามัญปุถุชนทั่วไป ไม่พึงเอาความคิด สติปัญญา และความสามารถ
ตลอดบุญบารมี
ที่มีอยู่
"น้อยนิด"
ไปตัดสิน หรือคาดคะเน
ด้วยเข้าทำนองอย่างที่ตีพิมพ์ใน "ศักดิ์สิทธิ์" อยู่ทุกฉบับว่า
"อโห มหัณณโว ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิ"
หรือ
"สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในห้วงมหรรณพนี้ เป็นสิ่งที่ผู้รู้ พึงรู้ได้เฉพาะตน"
แน่แล้ว
***********************************************************************************************
ในหนึ่งในเรื่องของ "เจ้าประคุณ" ใน "รวมเรื่องเล่า สิ่งที่เห็น"
ที่เป็นเหตุให้ "คนวังต้องห้าม" เจอเหรียญ
"สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส"
รุ่น 84 ปี โรงเรียนวัดบวรนิเวศวิหาร
ที่โพสต์ในตอนนี้ตามแผงหรือกองที่ไหน
เป็นต้องรีบคว้ามับกลับบ้านแทบทุกครั้งไป
ก็มาจากบันทึกตอนหนึ่ง
ซึ่งเล่าแบบ
"เลี่ยงๆ"
และ
"ใช้สัญลักษณ์แทนตัวแทนบุคคล" มากมาย
แต่ไม่อาจปิดบัง
คนที่มาวัดบวรนิเวศตั้งแต่ปีพ.ศ.2525 (ฉลองกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี)
และสะสม "พระเครื่อง" ทั้งสายวัดบวรและวัดอื่นๆ 108
แบบ
"ครอบจักรวาลเหมาหมด"
ใดๆได้
ซึ่งผมจะขอเล่าโดย "สรุปความ" แบบ "ตรงๆ" ไม่อ้อมค้อมใดๆ
เพื่อให้ "เข้าใจง่าย" โดยทั่วกันว่า
"ครั้งหนึ่ง "เจ้าประคุณ" หรือ "สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช วัดบวรนิเวศวิหาร" ได้ทรงมีรับสั่งกับ "ศิษย์ใกล้ชิด" (บรรณศาลา)ว่า
"วันนี้ ตอนที่นี่จะแสดงธรรม จะมีพญานาคมาฟังเทศน์ด้วย"
เมื่อได้ฟัง "ศิษย์ใกล้ชิด" (บรรณศาลา) ก็ตื่นเต้นตาโต
และพยายามมองหา "พญานาค" ว่าจะมาฟังเทศน์ "สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช วัดบวรนิเวศวิหาร" ด้วยลักษณาการฉันใด..?????????????????????
แต่จนแล้วจนรอด "ศิษย์ใกล้ชิด" (บรรณศาลา) ท่านนั้น ก็ไม่เห็น "งูใหญ่" มาฟังเทศน์เลยแม้แต่ตัวเดียว
แต่กลับเห็น "ชายนิรนาม" ท่านหนึ่ง มีรูปลักษณะที่
"งามเหนือมนุษย์"
(ผิวพรรณสุกใส คิ้วโก่งเหมือนคันศรดังที่มีบรรยายไว้ในวรรณคดีไม่มีผิด และที่สำคัญ ตาไม่กระพริบ)
สามัญมาฟังเทศน์ "ศิษย์ใกล้ชิด" (บรรณศาลา)วัดบวรนิเวศวิหาร"
ที่ตึก "สว. ธรรมนิเวศน์"
คนหนึ่ง
ด้วยเหตุที่ "ชายนิรนาม" มีรูปลักษณะที่ "งามเหนือมนุษย์" ดังที่ว่า ทำให้"ศิษย์ใกล้ชิด" (บรรณศาลา) ต้องแอบจับจ้องและให้ความสนใจเป็นพิเศษเสียมิได้
และพอ "สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช วัดบวรนิเวศวิหาร" แสดงพระธรรมเทศนาเสร็จ ก็เสด็จกลับ
จากนั้น พุทธศาสนิกชนทั้งหลายก็จึงค่อยตามเสด็จลงจากตึกสว.ธรรมนิเวศน์นั้นโดยลำดับ
"ศิษย์ใกล้ชิด" (บรรณศาลา) ก็สังเกตเห็น "ชายนิรนาม" มีรูปลักษณะที่ "งามเหนือมนุษย์" คนนั้น "หายแว๊บ" ทะลุประตูตึกสว.ธรรมนิเวศไปในบัดดล...!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
เล่นเอา "ศิษย์ใกล้ชิด" (บรรณศาลา) แทบตกตะลึงพรึงเพริดไปในทันใด
และเมื่อเรื่องทราบถึง "สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช" ก็ทรงมีพระดำรัสกับ "ศิษย์ใกล้ชิด" (บรรณศาลา) ในทันทีว่า
"นั่นแหละ คือพญานาคที่แปลงกายมาฟังที่นี่เทศน์อย่างที่บอกไว้ล่วงหน้าแหละ...!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!"
และวันต่อมา "สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช" ก็ทรงประทาน
"เหรียญสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส รุ่น 84 ปี โรงเรียนวัดบวรนิเวศวิหาร พ.ศ.2521"
ให้กับ "ศิษย์ใกล้ชิด" (บรรณศาลา)เหรียญหนึ่ง
ก่อนจะมีรับสั่งว่า
"ที่นี่ (คำที่"สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช" ทรงเรียกพระองค์เองกับคนใกล้ชิด ส่วนบุคคลภายอก จะเรียกแทนพระองค์ว่า "อาตมา") เป็นตัวแทนมอบให้เธอน๊ะ...!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!"
"..........!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!????????????????????????????????????????????!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!???????????????????????????????............."
สรุปง่ายๆก็คือ
"สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส"
ซึ่งมีพระนามเดิมว่า
"พระองค์เจ้ามนุษย์นาคมานพ"
ได้ทรงมีรับสั่ง (ในมิติละเอียด)
ตรัสสั่งให้ "สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช" มอบเหรียญของพระองค์ให้กับ "ศิษย์ใกล้ชิด"(บรรณศาลา)
โดยตรงนั่นเอง
"สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช" จึงมีรับสั่งว่า
"เราเป็นตัวแทน มอบ(เหรียญ)ให้เธอน๊ะ...!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!"
นั่นอย่างไร
*************************************************************************************************

"เหรียญสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส รุ่น 84 ปี โรงเรียนวัดบวรนิเวศวิหาร พ.ศ.2521"
หากพบเจอที่ไหน
หากไม่เกินวิสัย
ก็จะ "ซื้อ" หรือ "เช่าบูชา" เก็บไว้ทั้งสิ้น
เพราะ "รู้ชัด" อย่างไม่มีที่จะสงสัยใดๆว่า
"เหรียญรุ่นนี้ "เจ้าของ" มาทำเอง"
แน่แล้ว
และ "เจ้าของ" ที่ว่านี้
ก็หาใช่ "พระสามัญธรรมดาไม่"
แต่เป็นถึงระดับ
"พระอัครอรหันต์แห่งกรุงรัตนโกสินทร์"
อย่างที่ "หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต" เคยกล่าวรับรองไว้นั่นแล
Clear.....?????????????????????????????????????
***************************************************************************************************
หลวงปู่มั่นยืนยัน!! “คือ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส” บรรลุอรหันต์ !
เผย บรรลุโสดาบัน ตั้งแต่ครั้งพุทธกาล
มาชาตินี้นับเป็นชาติสุดท้าย
ไม่มาเกิดอีกต่อไป...!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
พระอาจารย์มั่นเล่าว่า พระอริยบุคคลอรหันต์แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ในยุครัชกาลที่ ๔ คือ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ซึ่งเป็นพระโอรสของรัชกาลที่ ๔ นั่นเอง
สมเด็จพระมหาสมณเจ้าฯ ทรงเป็นพระอริยบุคคลโสดาบันมาตั้งแต่ครั้งพระพุทธเจ้าเสด็จเข้าสู่กรุงราชคฤห์ เทศนาโปรดพระเจ้าพิมพิสาร พระสหาย เพื่อปลดเปลื้องคำปฏิญญาที่พระพุทธเจ้าได้ให้ไว้เมื่อเสด็จออกผนวชครั้งแรก
พระชาติปัจจุบันของสมเด็จพระมหาสมณเจ้าฯ เป็นชาติที่ ๗ ชาติสุดท้าย
ซึ่งทรงแตกฉานในจตุปฏิสัมภิทาญาณอย่างสมบูรณ์แบบในยุคนี้
พระอาจารย์มั่นยกตัวอย่างความสามารถที่ไม่มีใครเทียบของสมเด็จพระมหาสมณเจ้าฯ ว่า แต่ก่อนพวกบัณฑิตที่เรียนบาลีคือ มูลกัจจายน์คัมภีร์ สนธิ-นาม ต้องเรียนถึง ๓ ปี จึงแปลบาลีออก
แต่สมเด็จฯ ทรงรจนาบาลีไวยากรณ์ให้กุลบุตรเล่าเรียนในปัจจุบัน ๓ เดือน ก็แปลหนังสือบาลีออก ...
นั่นอัศจรรย์ไหมท่าน
พระอาจารย์มั่นเล่าต่อไปว่า เมื่อสมเด็จพระมหาสมณเจ้าฯ ทรงรจนาวินัยมุขเล่ม ๑ หลักสูตรนักธรรมตรี จิตของพระองค์กำหนดวิปัสสนาญาณ ๓ ที่กล่าวมาแล้ว คือ สัจจญาณ กิจจญาณ กตญาณ และได้บรรลุชั้นสกทาคามี
ต่อมา สมเด็จพระมหาสมณเจ้าฯ เสด็จประพาสสวนหลวง เมืองเพชรบุรี ทรงรจนาธรรมวิจารณ์ พระหฤทัยของพระองค์ก็บรรลุพระอนาคามี
พระองค์ทรงมีภาระมาก ดูจะทรงรีบเร่งเพื่อจัดการศึกษาและปฏิบัติสืบต่ออายุพระพุทธศาสนา
ประกอบกับสุขภาพของพระองค์ก็อย่างที่พวกเราเห็นในพระฉายาลักษณ์นั้นเอง ดูจะทรงงานมาก ผอมไป และยุคนั้นการแพทย์ก็ไม่เจริญ
แต่พระองค์ก็บำเพ็ญกรณียกิจจนเข้ารูปเข้ารอย จนพวกเราสามารถจะประสานต่อไปได้
พระองค์ทรงพิจารณาเห็นสังขารของพระองค์ว่าไปไม่ไหวแล้ว
จึงเร่งวิปัสสนาญาณ สำเร็จพระอรหันต์ เข้าสู่พระนิพพาน
นี่คือคำบอกเล่าของท่านพระอาจารย์มั่นที่ผู้เล่า (หลวงตาทองคำ จารุวัณโณ) ได้ฟังมา

พระเครื่องที่เกี่ยวข้องในร้านค้านี้...

อื่นๆ...

กำหลังโหลด Comments
Top