ล็อคเก็ตพระญาณรังษี(หลวงพ่อตาทิพย์ แห่งวัดพลับ กทม.)-จ่าจีระสิทธิ์ - webpra
VIP
  • 0 8 6 - 5 6 0 4 0 3 7
  • Page 1
  • Page 2
หน้าที่ และความรับผิดชอบ

หมวด เบ็ดเตล็ด เกี่ยวกับพระเครื่อง

ล็อคเก็ตพระญาณรังษี(หลวงพ่อตาทิพย์ แห่งวัดพลับ กทม.)

ล็อคเก็ตพระญาณรังษี(หลวงพ่อตาทิพย์ แห่งวัดพลับ กทม.) - 1ล็อคเก็ตพระญาณรังษี(หลวงพ่อตาทิพย์ แห่งวัดพลับ กทม.) - 2ล็อคเก็ตพระญาณรังษี(หลวงพ่อตาทิพย์ แห่งวัดพลับ กทม.) - 3ล็อคเก็ตพระญาณรังษี(หลวงพ่อตาทิพย์ แห่งวัดพลับ กทม.) - 4ล็อคเก็ตพระญาณรังษี(หลวงพ่อตาทิพย์ แห่งวัดพลับ กทม.) - 5
ชื่อร้านค้า จ่าจีระสิทธิ์ - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า
ชื่อพระเครื่อง ล็อคเก็ตพระญาณรังษี(หลวงพ่อตาทิพย์ แห่งวัดพลับ กทม.)
อายุพระเครื่อง 20 ปี
หมวดพระ เบ็ดเตล็ด เกี่ยวกับพระเครื่อง
ราคาเช่า -
เบอร์โทรติดต่อ 08-6560-4037
อีเมล์ติดต่อ Tayanrum@hotmail.com
LINE
(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
สถานะ เช่าแล้ว
Facebook
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ ศ. - 19 เม.ย. 2567 - 21:31.36
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ พ. - 08 พ.ค. 2567 - 12:46.06
รายละเอียด
ล็อคเก็ตพระญาณรังษี (หลวงพ่อตาทิพย์ แห่งวัดพลับ กทม.)

สวยเดิมๆ

พ.ศ.2547 ที่ระลึก อายุ 91 ปี

พระญาณรังษี (จวบ สุภัทโท) วัดพลับ

หลวงปู่ตาทิพย์ ฉายาท่านครับ


ลูกศิษย์ ลูกหา รู้จักท่านดี พระผู้มีเมตตา

http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=11686



มีกล่าวยก ย่อง ท่านครับ พระผู้มีเมตตา

http://www.watkositaram.com/forum/index.php?topic=5774.0




ประวัติและปฏิปทา
พระญาณรังษี (จวบ สุภัทโท)

วัดราชสิทธาราม ราชวรวิหาร (วัดพลับ)
แขวงวัดท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ


๏ อัตโนประวัติ

พระญาณรังษี (จวบ สุภัทโท) มีนามเดิมว่า จวบ เกิดมงคล เกิดเมื่อวันเสาร์ที่ 21 มิถุนายน พุทธศักราช 2456 ตรงกับวันแรม 3 ค่ำ เดือน 7 ปีฉลู ณ หมู่ที่ 1 ต.ดอนตะหนิว อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา โยมบิดาชื่อ ขุนมัธยมยุชกิจ (ขำ) โยมมารดาชื่อ นางแย้ม เกิดมงคล


๏ การอุปสมบท

ในช่วงวัยเยาว์ สำเร็จการศึกษาชั้นประถมบริบูรณ์จากโรงเรียนวัดเดิม อ.พิมาย จ.นครราชสีมา

จากนั้นได้เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อวันที่ 29 มีนาคม พ.ศ.2473 ณ พัทธสีมาวัดทองหลางน้อย ต.ตะหนิน อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา โดยมีพระครูจันทสรคุณ วัดบ้านเสมาใหญ่ เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอาจารย์มี วัดบ้านเสมาใหญ่ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์หนู วัดโคกหนองแวง เป็นพระอนุสาวนาจารย์

ภายหลังอุปสมบท ท่านได้มุ่งมั่นศึกษาพระปริยัติธรรมด้วยความมุ่งมั่น สอบได้นักธรรมชั้นตรี-โท-เอก ณ สำนักเรียนวัดอรุณราชวราราม แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ

นอกจากนี้ ท่านยังเป็นผู้มีความรู้ด้านภาษาขอม สามารถอ่านออกเขียนได้ รวมทั้งมีความชำนาญเกี่ยวกับวิชาแพทย์แผนโบราณ


๏ งานสนับสนุนส่งเสริมการศึกษา

ท่านได้ให้การสนับสนุนส่งเสริมด้านการศึกษา ดังนี้

พ.ศ.2504 เป็นผู้อุปถัมภ์โรงเรียนพระปริยัติธรรม สำนักเรียนวัดราชสิทธารามฯ

พ.ศ.2507 ช่วยหาทำนุบำรุงโรงเรียนฝ่ายสามัญศึกษา ทั้งระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษา และอุดมศึกษา

พ.ศ.2509 ช่วยในการจัดสร้างโต๊ะเรียน พร้อมเก้าอี้ไม้สักจำนวน 63 ชุด และจัดหาอุปกรณ์การศึกษาอื่นๆ

พ.ศ.2516 เป็นผู้จัดตั้งมูลนิธิเพื่อบำรุงการศึกษา

พ.ศ.2525 ช่วยในการจัดสร้างโต๊ะเรียน พร้อมเก้าอี้ชนิดเหล็ก 50 ชุด และอุปกรณ์การศึกษาอื่นๆ อีกทั้ง มอบทุนการศึกษาแก่พระภิกษุ-สามเณรที่สอบนักธรรม-บาลี ได้ในสนามสอบสนามหลวง และทุนการศึกษาแก่นักเรียนทั่วไป ทั้งในระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษา และอุดมศึกษา


๏ ลำดับงานปกครองคณะสงฆ์

พ.ศ.2489 ได้รับแต่งตั้งเป็นพระกรรมวาจาจารย์

พ.ศ.2499 ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชสิทธารามฯ

พ.ศ.2534 ได้รับแต่งตั้งเป็นรองเจ้าอาวาสวัดราชสิทธารามฯ


๏ ลำดับสมณศักดิ์

พ.ศ.2494 ได้รับแต่งตั้งเป็นพระครูปลัด ในฐานานุกรมพระสังวรานุวงศ์เถร อดีตเจ้าอาวาสวัดราชสิทธารามฯ

พ.ศ.2500 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระอารามหลวง ชั้นโท (จปร.)

พ.ศ.2507 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระอารามหลวง ชั้นพิเศษ

พ.ศ.2542 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ในราชทินนามที่ พระญาณรังษี



๏ “หลวงพ่อตาทิพย์” ของศิษย์

พระญาณรังษี (จวบ สุภัทโท) เป็นผู้สืบทอดสายวิปัสสนากัมมัฏฐานตามแนวทางของ สมเด็จพระอริยวงษญาณ สมเด็จพระสังฆราช (สุก ญาณสังวร) หรือ พระสังฆราชไก่เถื่อน จาก พระครูสังวรสมาธิวัตร (หลวงปู่แป๊ะ ธัมมสาโร) วัดราชสิทธาราม ราชวรวิหาร (วัดพลับ) กรุงเทพฯ

ท่านมีความเชี่ยวชาญและได้เป็นอาจารย์คอยอบรมวิปัสสนากัมมัฏฐาน จนได้รับฉายาว่า “หลวงพ่อตาทิพย์” เนื่องจากท่านสามารถนั่งสมาธิหยั่งรู้ถึงเหตุการณ์ในอนาคตได้ ทำให้มีศรัทธาจากญาติโยมทั่วสารทิศ มาขอให้ท่านช่วยตรวจดูความเป็นไปที่เกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งท่านไม่เคยขัดศรัทธาญาติโยมแต่อย่างใด



๏ การมรณภาพ

ด้วยล่วงเข้าสู่วัยชรา พระญาณรังษี เริ่มมีอาการอาพาธจากความชราและโรคภัยต่างๆ ต่อมาท่านได้เกิดอาการวิงเวียนศีรษะอย่างแรง คณะศิษยานุศิษย์ได้นำพระญาณรังษี เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลธนบุรี เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ เมื่อเวลา 07.00 น. ของวันอาทิตย์ที่ 14 มกราคม พ.ศ.2550

ปรากฏว่า อาการท่านทรุดหนักลง ถึงขั้นช็อกหมดสติ ประกอบกับท่านอยู่ในวัยชราภาพ สุขภาพร่างกายไม่แข็งแรง คณะแพทย์ได้พยายามรักษาอาการพระญาณรังษีอย่างสุดความสามารถ แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้

ในที่สุด เมื่อเวลา 04.04 น. เช้าวันจันทร์ที่ 15 มกราคม พ.ศ.2550 ท่านได้ละสังขารจากไปอย่างสงบ ณ โรงพยาบาลธนบุรี รวมสิริอายุได้ 94 พรรษา 73 ภายหลังเข้ารับการรักษาอาการอาพาธด้วยโรคเบาหวาน ถือเป็นการสูญเสียพระเถระชื่อดังรูปหนึ่งแห่งวงการสงฆ์ ท่ามกลางความเศร้าสลดของคณะสงฆ์วัดราชสิทธารามฯ และความอาลัยเป็นอย่างยิ่งของบรรดาคณะศิษยานุศิษย์ทั่วไป

กำหนดการพิธีสวดพระอภิธรรมศพ เมื่อวันอังคารที่ 16 มกราคม พ.ศ.2550

เวลา 09.00 น. คณะสงฆ์วัดราชสิทธารามฯ จะได้เคลื่อนศพพระญาณรังษี จากโรงพยาบาลธนบุรี ไปตั้งศพบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรม เป็นเวลา 7 วัน ณ ศาลาใหญ่ (เฮงเจริญ) วัดราชสิทธารามฯ

เวลา 17.00 น. พิธีพระราชทานน้ำหลวงสรงศพ โดยมี สมเด็จพระมหาธีราจารย์ (นิยม ฐานิสฺสโร) เจ้าคณะใหญ่หนกลาง และเจ้าอาวาสวัดชนะสงคราม ราชวรมหาวิหาร เขตพระนคร กรุงเทพฯ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นอกจากนี้ยังมีพระเถรานุเถระชั้นผู้ใหญ่มากมายเข้าร่วมพิธีรดน้ำศพด้วย






.............................................................

คัดลอกมาจาก ::
หนังสือพิมพ์ข่าวสด หน้า 31 คอลัมน์ อริยะโลกที่ 6
วันที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2550 ปีที่ 16 ฉบับที่ 5931

พระเครื่องที่เกี่ยวข้องในร้านค้านี้...

อื่นๆ...

กำหลังโหลด Comments
Top