เหรียญหลวงพ่อพระราชมุนี (โฮม โสภโณ) วัดปทุมวนาราม-จ่าจีระสิทธิ์ - webpra
VIP
  • 0 8 6 - 5 6 0 4 0 3 7
  • Page 1
  • Page 2
หน้าที่ และความรับผิดชอบ

หมวด เหรียญปั๊ม ปี 2521 ถึง 2540

เหรียญหลวงพ่อพระราชมุนี (โฮม โสภโณ) วัดปทุมวนาราม

เหรียญหลวงพ่อพระราชมุนี (โฮม โสภโณ) วัดปทุมวนาราม - 1เหรียญหลวงพ่อพระราชมุนี (โฮม โสภโณ) วัดปทุมวนาราม - 2
ชื่อร้านค้า จ่าจีระสิทธิ์ - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า
ชื่อพระเครื่อง เหรียญหลวงพ่อพระราชมุนี (โฮม โสภโณ) วัดปทุมวนาราม
อายุพระเครื่อง 46 ปี
หมวดพระ เหรียญปั๊ม ปี 2521 ถึง 2540
ราคาเช่า -
เบอร์โทรติดต่อ 08-6560-4037
อีเมล์ติดต่อ Tayanrum@hotmail.com
LINE
(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
สถานะ เช่าแล้ว
Facebook
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ ศ. - 22 ก.ย. 2566 - 21:27.23
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ ส. - 28 ต.ค. 2566 - 12:00.53
รายละเอียด
เหรียญหลวงพ่อพระราชมุนี (โฮม โสภโณ) วัดปทุมวนาราม ออก วัดศรีวีรวงศาราม จ.ยโสธร ปี 2522 หลวงพ่อถาวร จิตตถาวโร อธิษฐานจิตปลุกเสก

เหรียญหายาก...

เครดิตข้อมูลจาก ThaisAmulets ได้เพิ่มรูปภาพใหม่ 4 ภาพลงในอัลบั้ม: หลวงพ่อถาวร วัดปทุมวนาราม
24 สิงหาคม 2021 ·


พระราชมุนี (โฮม โสภโณ โพธิ์ศรีทอง) หรือ หลวงปู่โฮม โสภโณ ประชนชนทั่วไปมักเรียกองค์ท่านว่า เจ้าคุณราชมุนี ได้รับการขนานนามว่า ช้างเผือกกลางกรุง เป็นพระภิกษุ คณะธรรมยุติกนิกาย ชาวอำเภอมหาชนะชัย จังหวัดยโสธร เคยดำรงตำแหน่งเป็นผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดปทุมวนารามราชวรวิหาร เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร
เห็นนามพระราชมุนี (โฮม) พึงระลึกว่า ก่อนจะเติบใหญ่จนมาเป็นรักษาการเจ้าอาวาสวัดปทุมวนาราม สามเณรโฮมพบกับหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต มาก่อนแล้วตั้งแต่ปี 2468 ปีนั้นพระอาจารย์มั่นเข้า กทม. มาพำนักอยู่ที่วัดปทุมวนาราม ขณะท่านเดินจงกรมอยู่บริเวณข้างสระน้ำ สามเณรน้อยรูปนี้ยืนแฝงตัวอยู่ในความมืดจ้องมองท่านอยู่ด้วยความสงสัยร่วม 2 ชั่วโมง เมื่อท่านออกจากที่แล้วจึงสอบถามว่า ท่านทำอะไร พระอาจารย์มั่นจึงเมตตาสอนสั่งมาตั้งแต่ปีนั้น
นับได้ว่าท่านเป็นศิษย์ของหลวงปู่มั่น หรือพระครูวินัยธรมั่น ภูริทตฺโต พ่อแม่ครูอาจารย์สายกรรมฐานแห่งยุค เป็นพระป่าที่ได้ปฏิบัติตนตามแนวทางคำสอนอย่างเคร่งครัด และยึดถือธุดงควัตรด้วยจริยวัตรปฏิบัติ จนได้รับการยกย่องจากผู้ศรัทธาทั้งหลายว่าเป็นพระผู้เลิศทางธุดงควัตร ผู้วางแนวทางในการปฏิบัติสมถะ และวิปัสสนาตามหลักธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาพุทธเจ้าให้แก่คนทั่วไปอย่างกว้างขวาง จนมีพระสงฆ์และฆราวาสเป็นลูกศิษย์จำนวนมาก แนวคำสอนของท่านเป็นที่รู้จักกันดีในนามว่า คำสอนพระป่า (สายพระอาจารย์มั่น)
ในช่วงเวลาที่ผู้คนฮือฮากันถึงเรื่องความมหัศจรรย์ที่หลวงพ่อยีท่านได้กระทำนั้นพระราชมุนี(โฮม โสภโณ)แห่งวัดปทุมวนารามก็เป็นพระเถระผู้ใหญ่รูปหนึ่งที่ต้องมาพิสูจน์ถึงความเท็จจริงนี้ให้ประจักษ์จนพ้นมลทิน หลวงพ่อถาวร ซึ่งในขณะนั้นเป็นศิษย์ใกล้ชิดของพระราชมุนีโฮม ก็ได้ติดตามมาด้วย และภายหลังก็ได้มาที่วัดดงตาก้อนทองอีกหลายครั้ง เพื่อศึกษาเรื่องอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์กับหลวงพ่อยี จนกระทั่งได้ประจักษ์แจ้ง ได้รู้ได้เห็นเป็นที่ยอมรับว่าทุกสิ่งเป็นจริงทุกประการ
พระราชมุนีโฮมนั้น เป็นที่รู้จักคุ้นเคยกับหมู่คณะร่วมศิษย์พระอาจารย์มั่นอยู่หลายรูป หลากท่านเหล่านั้นมีกิจเข้ามาใน กทม. หากไม่พำนักที่วัดบรมนิวาสก็จะมาพักที่วัดปทุมวนาราม เช่น พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร เป็นต้น
ว่ากันว่า ท่านเจ้าคุณฯ เป็นช้างเผือกในเมือง ปกติท่านเป็นคนพูดน้อย ปฏิบัติมาก หากจะสั่งสอนศิษย์พออบรมกรรมฐานเสร็จก็สั่งให้ไปปฏิบัติเลย ท่านเป็นคนปราดเปรียว เดินเร็ว ทำอะไรว่องไว รักษาเวลา รักษาสัจจะ ไม่เคยกล่าวร้ายใคร กล่าวแต่ปิยวาจา อ่อนน้อมถ่อมตน และเป็นผู้ใคร่อยู่ในการบำเพ็ญวิปัสสนากรรมฐานเป็นนิจ และเป็นผู้มีกตัญญูกตเวทิตาธรรมยิ่งนัก
ในประการหลังนี้ นอกจากจะปฏิบัติตามคำสอนของพระอาจารย์มั่นแล้ว เมื่อพระอาจารย์มั่นมีชีวิตอยู่ท่านก็จะดั้นด้นไปสักการะทุกปีไม่มีขาด แม้สิ้นไปแล้วท่านก็ยังเดินทางไปสกลนครเพื่อสักการะอัฐิพระอาจารย์มั่นที่วัดป่าสุทธาวาส จ.สกลนคร ทุกปีไม่มีขาดเหมือนเดิม เหล่าบรรดาผู้มีอุปการคุณเคยเลี้ยงดูมาแต่หนหลังท่านก็ดูแลเช่นกัน
พระมหาถาวรเล่าเรื่องแปลกๆ ของพระอาจารย์ท่านว่ามีหลายเรื่องนัก เช่น มีอยู่วันที่ลงทำวัตรด้วยกันแต่เช้า ระหว่างเดินคุยกันไปเบาๆ โดยท่านพระราชมุนีโฮมเดินนำหน้านั้น จู่ๆ ท่านกลับมองไม่เห็นตัวของเจ้าคุณอาจารย์เฉยๆ เสียอย่างนั้น จนต้องร้องถามว่า “หลวงพ่อหายไปไหนครับ” แล้ว ท่านเจ้าคุณก็ปรากฏกลายกลับมาเดินอยู่ในกิริยาเดิมโดยไม่ได้พูดอะไร
บางหนระหว่างเดินๆ กันไปก็เห็นรูปกายของท่านค่อยๆ เปลี่ยนเป็นหลวงจีนบ้างก็มี พอถามว่า “เอ๊ะ หลวงพ่อทำไมกลายเป็นหลวงจีน” ท่านก็หันมายิ้มให้เฉยๆ ไม่ว่ากระไร ที่เห็นพร้อมกันหลายๆ รูปก็คือ หนหนึ่งมีกิจธุระพากันเดินทางไปภาคเหนือแล้วรถเสียอยู่กลางถนนแห่งหนึ่งที่ จ.พิษณุโลก ล้อรถตกหล่มจนเกือบมิดดุมล้อ เข็นกันจนสิ้นแรงและทำสารพัดหนทางอย่างไรก็ไม่ขึ้น จู่ๆ ท่านเจ้าคุณพระอาจารย์ก็เปรยว่า “ถ้าจะต้องนิมนต์หลวงพ่อยีมาช่วยเข็นรถเสียแล้ว”
พระทุกรูปได้ยินดังนี้ก็ได้แต่มองตากันเพราะต่างก็ทราบว่า หลวงพ่อยี บ้านดงตาก้อนทอง ต.ไผ่ล้อม อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก ซึ่งเคยต้องอธิกรณ์แต่พระราชมุนีโฮมได้มาแก้ไขเหตุการณ์ให้จนสงบเรียบร้อยนั้นมรณภาพไปแล้ว พอเอ่ยปากถามว่า หลวงพ่อยีมรณภาพแล้ว หลวงพ่อจะนิมนต์มาช่วยพวกเราได้อย่างไร? เจ้าคุณพระอาจารย์ไม่ตอบ แต่ชี้มือไปข้างหน้าแล้วกล่าวขึ้นว่า “ดูเอาเองซี”
พระมหาถาวร เล่าว่า ท่ามกลางแสงจันทร์นวลผ่องวันนั้นทุกคนเห็นพระภิกษุชรารูปร่างผ่ายผอม อายุราว 70 ปี ศีรษะค่อนข้างใหญ่ห่มจีวรสีคล้ำเดินมาตามถนนช้าๆ พอมาถึงตัวรถท่านก็โบกมือเหมือนบอกให้คนขับสตาร์ตเครื่อง พอใส่เกียร์รถก็ทะยานขึ้นจากหล่มทันที
“ท่านมหาต้องปฏิบัติเองถึงจะรู้เห็นเอง” ท่านว่า

พระเครื่องที่เกี่ยวข้องในร้านค้านี้...

อื่นๆ...

กำหลังโหลด Comments
Top