-
0 8 6 - 5 6 0 4 0 3 7
หมวด เหรียญปั๊ม ปี 2521 ถึง 2540
เหรียญ น้ำมนต์ รุ่นแรก หลวงปู่บุญเรือน วัดยางสุทธาราม ปี 2537





ชื่อร้านค้า | จ่าจีระสิทธิ์ - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า) |
---|---|
ชื่อเจ้าของร้านค้า | |
ชื่อพระเครื่อง | เหรียญ น้ำมนต์ รุ่นแรก หลวงปู่บุญเรือน วัดยางสุทธาราม ปี 2537 |
อายุพระเครื่อง | 31 ปี |
หมวดพระ | เหรียญปั๊ม ปี 2521 ถึง 2540 |
ราคาเช่า | - |
เบอร์โทรติดต่อ | 08-6560-4037 |
อีเมล์ติดต่อ | Tayanrum@hotmail.com |
LINE |
(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
|
สถานะ |
![]() |
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ | จ. - 06 ก.พ. 2566 - 21:37.21 |
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ | อ. - 07 ก.พ. 2566 - 19:22.55 |
รายละเอียด | |
---|---|
เหรียญ น้ำมนต์ รุ่นแรก หลวงปู่บุญเรือน วัดยางสุทธาราม ปี 2537 สวยเดิม ๆ ภาดา โห้เฉื่อย 7 กันยายน 2019 · กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย · พระหลวงปู่บุญเรือน อินฺทสุวณฺโณ...วัดยางสุทธาราม 🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏 #มนต์พญาเต่าเรือนนครวัด 🐢🐢🐢🐢 #อริยสงฆ์กลางเมือง 🐢***“อาตมาไม่มีญาติโยมที่ไหน ไม่รุ้จะสะสมเงินทองไปทำไม เท่าที่กินทุกวันนี้ก็เหลือพอแล้วสำหรับพระแก่ๆอย่างอาตมา แต่ว่าปัจจัยที่หานั้น มีความหมายสำหรับวัดวาอาราม พระหนุ่มเณรน้อยที่ต้องใช้ในการศึกษาหาความรู้ อาตมาจึงอยากหยิบยื่นมือไปให้ความช่วยเหลือเหมือนอ่างที่คนอื่นเขาเคยช่วย อาตมาในกาลก่อน..” ***🐢 ...................................................... ปฐมกำเนิด แห่งอริยสงฆ์ นาม “บุญเรือน” หลวงพ่อบุญเรือน อินทสุวัณโณ ผู้เลื่องชื่อในฐานะพระปฏิบัติและพระเกจิอาจารยืแห่งวัดยางสุทธาราม ท่านมีถิ่นกำเนิดอยู่ที่จังหวัดพระตะบอง ประเทศกัมพูชา ในสกุล “หิรัญวิจิตร” ซึ่งเป็นครอบครัวชาวไทยที่ไปตั้งรกรากที่นั่นตั้งแต่ต้นกรุงรัตนโกสินทร์ บิดาชื่อนายเหรียญ หิรัญวิจิตร มารดาชื่อนางต๊วด เป็นชาวพระตะบอง ท่านเกิดในปี พ.ศ. 2461 การที่โยมพ่อ-โยมแม่ให้ชื่อว่า “บุญเรือน” นั้น เป็นผลมาจากการที่ท่านเกิดมามีลักษณะแปลกกว่าทารกอื่นๆทั่วไป ตรงที่เมื่อคลอดออกมาจากครรภ์มารดาปรากฏว่ามีรกพันติดตัวออกมาด้วย รกนั้นมีลักษณะคล้ายสายสังวาล บริเวณอกมีรกม้วนกลมเป็นก้อน โดยกันว่าทารกที่เกิดมาในลักษณะนี้เป็นผู้มีบุญญาธิการ คนโบราณถือว่าเป็นเทพเทวดาชั้นสูงจุติมาเกิด บิดามารดาตลอดจนผู้ใหญ่จึงได้ให้ชื่อว่า “บุญเรือน” คือ เกิดมาด้วยบุญบารมี คือ มี “บุญ” เป็นเรือนกำเนิด เมื่อเจริญวัยได้พอสมควร เด็กชายบุญเรือนก็มีโอกาสได้เรียนอักษรต่างๆที่วัด ตามธรรมเนียมในสมัยนั้น จากพระสงฆ์องค์เจ้าต่างๆ จนจบระดับปั้นประถมปีที่ 4 ซึ่งถือว่าสูงสุดที่มีอยู่ในเวลานั้น จึงลาออกมาจากรงเรียนมาช่วยงานพ่อแม่ทำไร่ไถนาไปตามประเพณีชนบท ต่อมาในปี 2485 บิดามารดาเห็นว่าเด็กชายบุญเรือนโตเป็นหนุ่มน่าจะมีครอบครัวได้แล้ว จึงเลียบเคียงถามว่าพร้อมจะแต่งงานแล้วหรือยัง พอถูกถามเรื่องนั้นเด็กชายบุญเรือนจะตอบไปตามตรงว่า ยังไม่คิดเรื่องนั้น และหากจะแต่งงานเป็นสามีคน และเป็นพ่อคนได้ ตัวท่านเองจะต้องบวชเรียนตามประเพณีเสียก่อน ด้วยเหตุนั้น เด็กชายบุญเรือนจึงได้เข้าพิธีอุปสมบทในปีนั้น เมื่อมีอายุได้ 24 ปี โดยได้จัดพิธีท่ามกลางหมู่สงฆ์ที่พระอุโบสถเขตพัทธสีมาวัดสำโรง เมืองพระตะบอง ประเทศกัมพูชา มีพระเถระประกอบพิธีให้ดังนี้ พระมุนีวิสุทธิวงศ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์เอี่ยม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระปลัดญาณสัทธา เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาทางศาสนาว่า “อินทสุวัณโณ” หลังอุปสมบท พระภิกษุบุญเรือน อินทสุวัณโณ ได้ศึกษาพระธรรม ปฏิบัติจริยวัตรอันงดงาม โดยมีท่านพระครูมุนีวิสุทธิวงศ์ พระอุปัชฌาย์เป็นผู้อบรมสั่งสอนอย่างใกล้ชิด หลวงพ่อบุญเรือนปฏิบัติได้ดีจนพระอุปัชฌาย์เอ่ยปากชมแก่พระเณรทั้งหลาย และถ่ายทอดวิทยาคมให้จนหมดสิ้น ทำให้หลวงพ่อบุญเรือน เป็น “หลวงพ่อ” ตั้งแต่วัยหนุ่มเลยทีเดียว เป็นศิษย์ยอดเกจิเมืองเขมร หลังจากเจนจบวิชชาจากพระอุปัชฌาย์ ต่อมาหลวงพ่อบุญเรือนได้ทราบกิตติศัพท์ของหลวงพ่อดี วัดปทุมรัตน์ว่ามีเวทมนตร์คาถาขลงยิ่งนัก อีกทั้งกรรมฐานก็เป็นเยี่ยมอย่างยากที่จะหาครูบาอาจารย์ในแดนเขมรมาเทียบได้ พระภิกษุบุญเรือนจึงเดินทางไปยังนครวัดเพื่อฝากตัวเป็นสิษย์หลวงพ่อดีที่วัดปทุมรัตน์ หลวงพ่อดีท่านมิได้รับทุกคนเป็นศิษย์ง่ายๆ ท่านมีวิธีการทดสอบจิตใจและเพ่งดูด้วยฌาณยากที่ปุถุชนจะหยั่งถึง ซึ่งหลวงพ่อบุญเรือนก็ผ่านการทดสอบไปได้โดยไม่ยากลำบากแต่อย่างใด หลังจากเจนจบอาคมจากหลวงพ่อดี หลวงพ่อบุญเรือนก็ได้ออกจาริกธุดงคืไปตามป่าเขาลำเนาถ้ำเพื่อฝึกฝนจิตต่อไป เดินทางเข้าไทย พบ 2 หลวงปู่ผู้ลือนาม ไม่นานนัก หลวงพ่อบุญเรือนก็ได้เดินทางจากเขมร มายังไทย และได้ทราบข่าวครูบาอาจารย์เขมรอีก 2 องค์ คือ หลวงปู่หิน ซึ่งพำนักอยู่ที่วัดระฆังโฆสิตาราม วัดของท่านสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต) พรหมรังสี อมตะสงฆ์ตลอดกาล และอีกท่านหนึ่งคือ หลวงปู่มุด วัดยางสุทธารามซึ่งก็ไม่ไกลจากวัดระฆัง หลวงพ่อบุญเรือนกล่าวว่า พระอาจารยฺที่เรืองวิชาอาคมมีไม่น้อย แต่ที่เข้ามาอยู่ กรุงเทพ ส่วนใหญ่จะพำนักอยู่ฝั่งธนบุรีมาก เมตตาจากหลวงปู่หิน ได้เดินทางแกราบหลวงปู่หิน วัดระฆัง โดยลงเรือล่องไป ท่านได้รับความเมตตาจากหลวงปู่หินอย่างมากถึงขนาดหลวงปู่หินชักชวนให้มาอยู่ด้วยกัน เมื่อมาอยู่ที่วัดระฆัง หลวงพ่อบุญเรือนก็ได้ต้งใจศึกษาเล่าเรียนมนต์คาถาอักขระต่างๆ จากนั้นระยะหนึง ได้ติดตามหลวงปู่หินไปกราบหลวงปู่มุดวัดยาง เพราะท่านทั้งสอง(คือหลวงปู่หินและหลวงปู่มุด) มักไปมาหาสู่กันประจำ น้ำมนต์เดือด อัศจรรย์ท่ามกลางหมู่เกจิอาจารย์ คราวหนึ่งบ้านพ่อค้าย่านพรานนกได้ทำบุญเลี้ยงพระที่บ้าน เจ้าของบ้านได้นิมนต์พระมามากมาย หลวงพ่อบุญเรือนในฐานะพระใกล้บ้านก้ได้รับนิมนต์ไปเช่นกัน เมื่อพิธีการดำเนินมาถึงเวลาทำน้ำมนต์เพื่อประพรมให้เจ้าของบ้าน เจ้าภาพนึกอย่างไรก้ไม่ทราบได้ ได้ยกบาตรน้ำมนต์ให้หลวงพ่อบุญเรือนเป็นผู้ทำพิธีอธิษฐานจิต ซึ่งหลวงพ่อบุญเรือนก็ไม่ได้คิดว่าท่านจะเป็นผู้ทำน้ำมนต์ แต่ท่านก็ทำให้ ในครั้งนั้นได้เกิดเหตุการณ์ปาฏิหาริย์ คือ น้ำมนต์ที่หลวงพ่อบุญเรือนปลุกเสกเกิดเดือดขึ้นมาอย่างน่าอัศจรรย์ มีผู้คนเห็นมากมาย จนต่อมามีผู้มาขอให้ท่านรดน้ำมนต์ สะเดาะเคราะห์มากมายจวบจนท่านมรณภาพ เหตุเกิดที่ถ้ำสาริกา คราวหนึ่งมีงานพุทธาภิเษกที่ถ้ำสาริกา เขางู ราชบุรี หลวงพ่อบุญเรือนท่านได้รับนิมนต์ไปเป็นเจ้าพิธีทำให้ท่านเดินทางไปก่อนวัน งาน 1 คืน เพื่อตรวจความเรียบร้อย ซึ่งท่านจะเข้มงวดในเรื่องพิธีกรรมมาก ในคืนนั้นเอง สายสิญจน์ที่พระรุปอื่นล้อมไว้ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็จะถุกลมพัดจนหลุดรุ่ยหมด สิ้น ต้องมาทำใหม่อีก เป็นอยู่อย่างนั้นจนเจ้าภาพต้องมานิมนต์ให้หลวงพ่อบุญเรือนไปช่วยอรกแรง หนึ่ง แล้วเรื่องแปลกก็เกิดขึ้น** สายสิญจน์ที่หลวงพ่อบุญเรือนล้อมให้นั้น ไม่ถูกลมพัดจนขาดอีกเลย** แต่ทว่าหลังเสร็จพิธีสายสิญจน์หายไปหมด เพราะน้ำมือของญาติโยมทั้งหลายที่มาร่วมงานต่างพร้อมใจดึงเอาไปหมดเกลี้ยง เรื่องมหัศจรรย์ หลวงพ่อห้ามฝน เหตุการณ์ที่น่าอัศจรรย์ยิ่งไปกว่านั้น คือเหตุการณ์ที่ถ้ำสาริกาที่เดิม คือเมื่อใกล้เวลาเริ่มพิธี เมฆฝนได้ตั้งเค้าดำทมึน ซึ่งสร้างวามหวาดวิตกให้ผู้มาร่วมพิธีมาก ตอนนั้นมีแม่ชีคนหนึ่งได้กราบเรียนต่อหลวงพ่อบุญเรือนด้วยอาการร้อนรนว่า **“หลวงพ่อเจ้าขา เวลาฤกษ์ยามที่หลวงพ่อกำหนดไว้ใกล้ถึงแล้ว แต่ฝนทำท่าจะตกหนัก จะทำอย่างไรดี” **หลวงพ่อบุญเรือน ได้ฟังแล้วก็แหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้าอย่างพิจารณาอึดใจหนึ่ง จึงหันมาตอบว่า “ไม่เป็นไรหรอก งานนี้ได้ฤกษ์มงคลมาแล้ว ถึงฝนจะตกก็ตกไม่มาก คิดเสียว่าเบื้องบนพรมน้ำมนต์ให้นะ” “ตกไม่มากได้อย่างไรละหลวงพ่อ ฟ้ามืดอย่างนี้ตกหนักแน่นอน หลวงพ่ออย่านิ่งนอนใจอยู่เลย” เหตุนี้ หลวงพ่อบุญเรือนจึงให้หาธูปเทียนมา 4 ชุด ปักไปทั้ง 4 ทิศ แล้วท่านก็สงบจิตอาราธนาบารมีท้าวจาตุมหาราชทั้ง 4 พร้อมกล่าวว่าว** “เอาละ สบายใจได้ ฉันได้บอกกล่าวเทพเทวดาแล้ว ฝนคงไม่ตกลงมาแล้วเราประกอบบุยกุศล เทวดาท่านคงไม่ดูดายหรอก”** ความอัศจรรย์แท้ๆก็เกิดขึ้น เพราะหลังจากหลวงพ่อบุญเรือนทำพิธี ฝนก็ตกลงมาแต่รอบบริเวณพิธีเท่านั้น ขณะที่ในมณฑลพิธีมีแต่ละอองชุ่มเย็น ดูแล้วไม่ต่างจากน้ำมนต์ทิพย์จากสวรรค์แท้ๆ วัตถุมงคลมีแค่ 6 รุ่น หลวงพ่อบุญเรือนได้จัดสร้างวัตถุมงคลชุดแรกในปี 2496 และอีกครั้งในปี 2511 ซึ่งออกเหรียญใบเสมารุ่นแรก และ ปี 2519 ออกเหรียญหลวงพ่อเต็มองค์ ซึ่งทั้ง3ปีที่ออกวัตถุมงคล มีจำนวนน้อยมาก จากนั้นในปี 2537 ท่านจึงได้สร้างเหรียญรุ่น 3 ออกมา โดยสร้างเป็นเหรียญพญาเต่าเรือน ตามตำรับหลวงปู่ดี วัดปทุมรัตน์ เรียกว่า เหรียญพญาเต่าเรือนนครวัด พร้อมเหรียญทำน้ำมนต์ รูปหลวงพ่อนั่งสมาธิเต็มองค์ และเหรียญหลวงพ่อครึ่งองค์ หลังพรหม การอธิษฐานจิตปลุกเสก หลวงพ่อจะทำตามฤกษ์ยาม เสกจนกว่าจะครบไตรมาส อานุภาพวัตถุมงคลของท่านจึงเปี่ยมล้น หลวงพ่อเคยบอกว่า “อาตมาไม่มีญาติโยมที่ไหน ไม่รุ้จะสะสมเงินทองไปทำไม เท่าที่กินทุกวันนี้ก็เหลือพอแล้วสำหรับพระแก่ๆอย่างอาตมา แต่ว่าปัจจัยที่หานั้น มีความหมายสำหรับวัดวาอาราม พระหนุ่มเณรน้อยที่ต้องใช้ในการศึกษาหาความรู้ อาตมาจึงอยากหยิบยื่นมือไปให้ความช่วยเหลือเหมือนอ่างที่คนอื่นเขาเคยช่วย อาตมาในกาลก่อน..” หลวงพ่อบุญเรือน มรณภาพเวลาประมาณตี 2 วันที่ 30 สิงหาคม 2552 รวมอายุได้91ปี ซึ่งนำความโศกเศร้าแก่ลูกศิษย์ลูกหาทุกท่าน แต่คำสอนและสิ่งที่หลวงพ่อปฎิบัติไว้ยังคงตรึงใจพวกเรา… |
พระเครื่องที่เกี่ยวข้องในร้านค้านี้...










อื่นๆ...
กำหลังโหลด Comments