-
0 8 6 - 5 6 0 4 0 3 7
หมวด พระเกจิภาคเหนือ
เหรียญครูบาแก้ว วัดดอยโมคคลาน์ จ.เชียงใหม่ (1)





ชื่อร้านค้า | จ่าจีระสิทธิ์ - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า) |
---|---|
ชื่อเจ้าของร้านค้า | |
ชื่อพระเครื่อง | เหรียญครูบาแก้ว วัดดอยโมคคลาน์ จ.เชียงใหม่ (1) |
อายุพระเครื่อง | - |
หมวดพระ | พระเกจิภาคเหนือ |
ราคาเช่า | - |
เบอร์โทรติดต่อ | 08-6560-4037 |
อีเมล์ติดต่อ | Tayanrum@hotmail.com |
LINE |
(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
|
สถานะ |
![]() |
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ | ส. - 14 ม.ค. 2566 - 21:27.14 |
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ | อ. - 07 มี.ค. 2566 - 14:00.32 |
รายละเอียด | |
---|---|
เหรียญครูบาแก้ว วัดดอยโมคคลาน์ จ.เชียงใหม่ สวยเดิม ๆ เครดิต อุดรธานีราชธานีแห่งพระธรรม 4 เมษายน 2016 · " หลวงปู่ครูบาแก้ว สุทโธ พระโพธิสัตว์แห่งวัดดอยโมคคัลลาน์ " ท่านเป็นหนึ่งในอริยสงฆ์แดนล้านนาที่มีฤทธิ์แก่กล้า เสียดายแต่คนรุ่นหลังหาคนรู้จักไม่มี หาคนสืบทอดเรื่องราวและประวัติของท่านไม่มี ย้อนไปสมัยก่อนหลวงปู่แก้ว สุทโธ ท่านเป็นคนบ้านหนองบ่อ อำเภอนาแก นครพนม กับหลวงปู่แหวน สุจิณโณ ท่านเป็นคนจังหวัดเลย ท่านเป็นพระมาจากภาคอิสานท่านทั้งสองเป็นลูกศิษย์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ได้เดินธุดงค์มาด้วยกันและมาพักปักกลดอยู่วัดบนยอดดอยโมคคัลลาน์ หลวงปู่แก้ว สุทโธ เลยตัดสินใจอยู่พักสร้างวัดที่นี่ โดยหลวงปู่แหวน สุจิณโณ ได้เดินธุดงค์ต่อไปคนเดียว วัดดอยโมคคัลลาน์อยู่ใกล้แม่น้ำปิง ทำให้มีเหล่าพญานาคอาศัยอยู่มาก ครั้นต่อมาเมื่อหลวงปู่แก้ว สุทโธ มาพำนักที่นี่ก็มักออกมาหาหลวงปู่แก้วบ่อยๆ โดยเลื้อยจากแม่น้ำปิงขึ้นไปสู่ยอดดอย ซึ่งเรื่องราวเหล่านี้มีชาวบ้านในอดีตเห็นกันมานักต่อนัก โดยพญานาคนั้นชอบนั่งตักหลวงปู่แก้ว (สุทโธ) เพื่อให้หลวงปู่แก้ว(สุทโธ)ป้อนกล้วยให้กิน นอกจากพญานาคแม่น้ำปิงแล้ว พญนาคแห่งบ่อน้ำดอยเต่า ก็ชอบมาหาหลวงปู่แก้ว(สุทโธ) เช่นกัน โดยบ่อดอยเต่าในอดีตนั้นเป็นบ่อลึกลับ เหล่านาคชอบออกมาเล่นน้ำ ทำให้ผู้คนสมัยนั้นหวาดกลัวกันยิ่งนัก หลวงปู่แก้ว(สุทโธ) มีความผูกพันธ์กับพญานาคมาก โดยครั้งหนึ่งมีรถขับผ่านเส้นทางจอมทอง – ฮอด เกิดไปทับพญานาคตนหนึ่งเข้า ทำให้ได้รับบาดเจ็บ ทุกข์เวทนายิ่งนัก ครั้นเมื่อได้สติก็เลื้อยขึ้นไปหาหลวงปู่แก้ว (สุทโธ) ซึ่งท่านก็ได้เมตตาเป่ามนต์รักษาให้นาคตนนั้นหายเป็นปกติ เป็นต้น หลวงปู่แก้ว (สุทโธ) นอกจากจะเป็นที่พึ่งให้กับญาติโยมแถวจอมทอง ฮอด เหล่าลูกศิษย์จากทุกสารทิศ ข้าราชการโดยเฉพาะทหารอากาศแล้ว ยังเป็นที่พึ่งให้เหล่าพญานาคอีกด้วย สำหรับพระเครื่องหรือเครื่องรางของขลังนั้นหลวงปู่แก้ว(สุทโธ) สร้างไว้ไม่มาก ซึ่งจะมีแค่เหรียญไม่กี่รุ่น รูปถ่ายไม่กี่รุ่น ซึ่งปัจจุบันหาชมได้ยากยิ่ง พระเครื่องของหลวงปู่นั้น มีนาายทหารอากาศได้ห้อยเหรียญหลวงปู่แก้วแก้ว (สุทโธ) มีครั้งหนึ่งเฮลิคอปเตอร์ระเบิดไปทั้งลำ ทหารคนนั้นที่อยู่ในนั้นไม่เป็นอะไรเพราะห้อยเหรียญหลวงปู่แก้ว แก้ว(สุทโธ) วัดดอยโมคคัลลาน์ ตั้งอยู่ตำบลสบเตี๊ยะ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ (ระหว่างเส้นทางจอมทอง - ฮอด) ที่นี่เมื่อครั้งอดีตเคยมีพระอริยสงฆ์นามหลวงปู่แก้ว สุทโธ ซึ่งเป็นสหายทางธรรมกับหลวงปู่แหวน สุจิณโณ ผู้โด่งดัง และหลวงปู่พา พระโพธิสัตว์ แห่งวัดถ้ำตับเต่า จ.เชียงใหม่ เป็นคนภูไท บ้านม่วงไข่ พรรณานิคม จ.สกลนคร เป็นศิษย์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต เช่นกัน ซึ่งในกัปป์นั้นจักได้เป็นพระพุทธเจ้าในกัปป์เดียวกัน หลวงปู่พา จะได้ตรัสรู้ ก่อนหลวงปู่แก้ว สุทฺโธ (อ้างอิงมาจากธรรมประวัติองค์หลวงป่จาม มหาปุญโญ ผู้มากมีบุญ) เรื่องราวของหลวงปู่ครูบาแก้ว (สุทโธ) นั้นปัจจุบันหาคนรู้ประวัติได้ยาก เรื่องราวอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ของหลวงปู่แก้ว(สุทโธ) นั้นสืบทอดกันปากต่อปาก ซึ่งชาวบ้านดอยโมคคัลลาน์และชาวบ้านใกล้เคียงนั้นต่างรู้ดี แม่น้ำปิงในสมัยก่อนนั้นมีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์อยู่ ๓ องค์ หลวงปู่ครูบาแก้ว (สุทโธ) ได้อัญเชิญขึ้นมาจากน้ำเพื่อช่วยโปรดชาวโลก ซึ่งพระพุทธรูป ๓ องค์นี้ศักดิสิทธิ์มาก สามารถบันดาลฝนฟ้าให้ตกต้องตามฤดูกาลได้ ปัจจุบันมีการเก็บรักษาไว้อย่างดี ณ วัดดอยโมคคัลลาน์ หลวงปู่แก้ว สุทโธ ถือเอาคำพูดที่ชาวบ้านประสบพบเห็นพญานาคราชเลื้อยขึ้นสู่ยอดดอย ท่านจึงได้สร้างบันไดทางขึ้นสู่ดอยโมคคัลลาน์เป็นรูปพญานาคเลื้อยเอาส่วนหัวขึ้น ส่วนหางทอดลงไปยังเชิงดอยต่างจากที่แห่งอื่น ซึ่งเมื่อจัดสร้างบันไดนาค จะทำราวบันไดเป็นรูปพญานาคเอาส่วนหัวดึงลงข้างล่าง ส่วนหางอยู่ด้านบน เป็นสัญลักษณ์พิเศษของบันไดขึ้นดอยโมคคัลลาน์ พระธาตุดอยโมคคัลลานะ วัดพระธาตุดอยโมคคัลลานะ สร้างเมื่อพ.ศ. ๒๔๗๕ โดยหลวงปู่แก้ว สุทโธ (สหธรรมิก ผู้เคยธุดงค์กับหลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม ศิษย์ของพระอาจารย์ใหญ่หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต) ได้ธุดงค์ผ่านมา และได้ตั้งสัจจะอธิฐานขอสร้างพระธาตุขึ้นบนดอยแห่งนี้ โดยได้แรงศรัทธาจากชาวบ้านร่วมกันสร้างจนสำเร็จ และตั้งชื่อว่าพระธาตุดอยโมคคัลลาน์ มาถึงปี พ.ศ.๒๔๗๕ ได้ย้ายสำนักสงฆ์จากยอดดอยมาสร้างวัดที่บ้านหนองเตา ตั้งชื่อวัดเสียใหม่ว่า วัดโมคคัลลาน ต่อมาได้เกิดอุทกภัย อาคารต่างๆ ชำรุดเสียหาย จึงได้ทำการย้ายวัด ขึ้นไปอยู่บนเนินเขาและได้ทำการบูรณปฏิสังขรณ์ใหม่จนถึงปัจจุบัน ตำนานโบราณจากสมัยดึกดำบรรพ์ มีการจารึกข้อความเกี่ยวกับ “ดอยโมคคัลลาน์” แห่งภาคเหนือสุดของแผ่นดินสยามไว้ดังนี้ “สมัยพุทธกาล เมื่อสมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้ายังเสด็จออกโปรดเหล่าเวไนยสัตว์อยู่ในชมพูทวีป พร้อมด้วยพระอรหันตสาวกทั้งหลายที่ร่วมกันเผยแพร่พระพุทธศาสนาให้ขจรขจาย คราวหนึ่ง พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงตรวจตราหมู่สัตว์ผู้เข้ามาข้องเกี่ยวอยู่ในพุทธญาณตามพุทธประเพณี พระผู้มีพระภาคเจ้าทอดทัศนาเห็น “พญาอังครัฏฐะ” เจ้าผู้ครองนครอังครัฏฐะ (อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ในสมัยปัจจุบัน) เป็นผู้ประกอบไปด้วยศรัทธาเลื่อมใสในบวรพุทธศาสนา บัดนี้พญาอังครัฏฐะมีความประสงค์จะถวายมหาทานแด่พระบรมศาสดา พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสสั่งให้องค์อัครสาวกเบื้องซ้าย “พระมหาโมคคัลลานะเถรเจ้า” กับพระอรหันต์ผู้เป็นบริษัทของท่านอีก ๔ รูป มาโดยอากาศ (เหาะ) สู่นครอังครัฏฐะ เพื่ออนุเคราะห์แก่พญาอังครัฏฐะผู้มีศรัทธาแรงกล้า เมื่อพระเอกอัครสาวกเบื้องซ้าย “พระมหาโมคคัลลานะเถรเจ้า” พร้อมด้วยพระอรหันต์อีก ๔ รูป มาถึง ดอยแห่งนี้ อยู่ในอาณาเขตของนครอังครัฏฐะ จึงสำแดงอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ให้เป็นที่ประจักษ์ โดยก้าวลงมาจากอากาศเบื้องบน สู่พระบรมมหาราชวังของพญาผู้เป็นใหญ่ ณ นครแห่งนี้ พญาอังครัฏฐะ แลเห็นพุทธสาวกเหาะลงมาจากท้องฟ้า นึกอัศจรรย์ใจในฤทธานุภาพเป็นกำลัง เข้าใจว่าพระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จมาด้วยพระองค์เอง รีบออกจากพระราชวังไปกราบอภิวาทวันทา “เป็นบุญวาสนาเหลือเกิน ที่ข้าพระพุทธเจ้ามีโอกาสได้ถวายสักการะแด่สมเด็จพระบรมศาสดา” พระมหาโมคคัลลานะเถรเจ้า ผู้เป็นเลิศทางอิทธิฤทธิ์ยิ่งกว่าพระอรหันต์ทั้งปวง กล่าวว่า... “อาตมามิใช่สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า อาตมาเป็นเพียงสาวกของพระองค์ บัดนี้องค์พระศาสดาของอาตมาตรัสสั่งให้มาเพื่อยังความอนุเคราะห์แก่มหาบพิตร” ทราบดังนั้น พญาอังครัฏฐะก็ยังทรงโสมนัสยินดี เพราะพระมหาโมคคัลลานะเป็นพระอรหันต์ผู้มีศักดิ์ใหญ่ ทรงฤทธานุภาพเหนือโลก จึงอัญเชิญพระเถรเจ้าทั้ง ๕ รูป ไปยังที่นั่งอันสมควร ทรงสมาทานศีล ๘ แล้วถวายภัตตาหารบิณฑบาตแด่พระอรหันต์ทั้ง ๕ องค์ หลังจากฉันภัตตาหารอันมีรสเลิศแล้ว พระมหาเถรเจ้าแสดงพระธรรมเทศนาโปรดพญาอังครัฏฐะ ให้พญาผู้เป็นใหญ่แห่งนครนี้ ทรงตั้งอยู่ในทศพิธราชธรรม ๑๐ ประการ แสดงให้เห็นถึงประโยชน์ของการประพฤติธรรมในการปกครองอาณาประชาราษฎร์ แล้วลาพญาอังครัฏฐะไปยัง “ดอยอังคะ สักการะ” (ดอยอินทนนท์) ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของนคร พระมหาโมคคัลลานะเถรเจ้า พยากรณ์เหตุการณ์ที่จะอุบัติขึ้นในกาลเบื้องหน้าดังนี้ “เมืองพญาอังครัฏฐะ ต่อไปจากเพลานี้ถึงอนาคตอันยาวไกล จักอุดมด้วยพืชพันธุ์ธัญญาหาร ฝนฟ้าตกต้องตามฤดูกาล จักจำเริญรุ่งเรืองด้วยพระบวรพุทธศาสนาไปตลอดครบ ๕,๐๐๐ ปี ” ( อ้างอิง ตำนาน “พระธาตุจอมทอง” ที่เล่าลือกันมาแต่ครั้งโบร่ำโบราณกล่าวอยู่ว่า ) มีเทพยดาจำนวน ๒ องค์ กับ พญานาคราชผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ ๒ ตน ทราบว่ากาลในอนาคตจักมีพระบรมสารีริกธาตุแห่งองค์พระศาสดา มาสถิตเป็นมหามงคลอยู่ที่ดอยจอมทอง” เทพยดาผู้มีอำนาจมากทั้ง ๒ องค์ กับ พญานาคราช ๒ ตน จึงเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า ณ ที่ประทับ ขออาสาเป็นผู้พิทักษ์ปกป้องดูแลพระธาตุเจดีย์ มิให้เป็นอันตรายไปด้วยเหตุร้ายประการใด...” ช่วงปัจฉิมวัย หลวงปู่แก้ว สุทโธ ช่วงปัจฉิมวัย หลวงปู่แก้ว สุทโธ ท่านได้ออกธุดงค์อีกเนิ่นนานหลังจากสร้างพระธาตุเจดีย์สำเร็จ ท้ายที่สุดท่านจึงย้ายกลับมาจำพรรษาที่ “วัดดอยโมคคัลลาน์” อบรมพระภิกษุ สามเณร ตลอดจนศรัทธาญาติโยมทั้งปวง ให้รู้จักการรักษาศีล เจริญภาวนา ตามแนวทางของพระอาจารย์ใหญ่หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต จวบจนวาระสุดท้ายในชีวิตของท่าน เพิ่มเติมข้อมูลสำหรับผู้มีจิตศรัทธาจะเดินทางไปกราบสักการะพระบรมสารีริกธาตุที่วัดพระธาตุดอยโทคคัลลานะ รายละเอียดดังนี้ การเดินทางไปวัดพระธาตุดอยโมคคัลลานะ ใช้เส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๑๐๘ (ถนนเชียงใหม่-ฮอด) มุ่งหน้าสู่อำเภอจอมทอง ผ่านวัดพระธาตุศรีจอมทอง ประมาณ ๔ กิโลเมตร ผ่านปากทางเข้าวัดโมคคัลลาน มาประมาณ ๕๐๐ เมตร ก็จะเห็นถนนทางขึ้นวัดพระธาตุดอยโมคคัลลานะ อยู่ด้านขวามือของถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๑๐๘ ประวัติย่อหลวงปู่ครูบาแก้ว สุทโธ พระโพธิสัตว์แห่งวัดดอยโมคคัลลาน์ ต.สบเตี๊ยะ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ๔ เมษายน ๒๕๕๙ |
พระเครื่องที่เกี่ยวข้องในร้านค้านี้...










อื่นๆ...
กำหลังโหลด Comments