-
0 8 6 - 5 6 0 4 0 3 7
หมวด ครูบาอิน วัดฟ้าหลั่ง - ครูบาดวงดี วัดท่าจำปี - ครูบาชัยวงศ์ วัดพระพทธบาทห้วยต้ม
พระผงรูปเหมือน รุ่น 2 ครูบาอิน อินโท วัดฟ้าหลั่ง
ชื่อร้านค้า | จ่าจีระสิทธิ์ - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า) |
---|---|
ชื่อเจ้าของร้านค้า | |
ชื่อพระเครื่อง | พระผงรูปเหมือน รุ่น 2 ครูบาอิน อินโท วัดฟ้าหลั่ง |
อายุพระเครื่อง | - |
หมวดพระ | ครูบาอิน วัดฟ้าหลั่ง - ครูบาดวงดี วัดท่าจำปี - ครูบาชัยวงศ์ วัดพระพทธบาทห้วยต้ม |
ราคาเช่า | - |
เบอร์โทรติดต่อ | 08-6560-4037 |
อีเมล์ติดต่อ | Tayanrum@hotmail.com |
LINE |
(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
|
สถานะ | |
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ | อา. - 11 ธ.ค. 2565 - 21:35.59 |
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ | จ. - 12 ธ.ค. 2565 - 21:51.06 |
รายละเอียด | |
---|---|
พระผงรูปเหมือน รุ่น 2 ครูบาอิน อินโท วัดฟ้าหลั่ง หลังยันต์หัวใจเปรต ราคาพิเศษ ครับ อีกหนึ่ง ที่หายาก ๆ ของท่าน.. ลูกศิษย์ ต่างเก็บกันเงียบ รุ่นนี้... พระดี ปีลึก ของท่าน อีก รุ่นครับ เรื่องของคาถา หัวใจเปรต... ล้านนาสาระ 2 พฤศจิกายน 2018 · หัวใจเปรต : มนต์กำราบปีศาจ มนต์บทหนึ่งที่ชาวล้านนาถือว่าศักดิ์สิทธิ์นัก โดยเฉพาะการปราบภูติผีปีศาจ จะขาดมนต์บทนี้มิได้ ชื่อของมนต์ คือ “หัวใจเปรต” มีอาคมหลักอยู่ ๔ ตัว คือ “ทุ สะ นะ โส” ในคัมภีร์โบราณล้านนาได้กล่าวถึงความเป็นมาของมนต์นี้ไว้อย่างละเอียดซึ่งพอจะสรุปได้โดยสังเขปว่า ครั้งสมัยพระพุทธกาล ณ เมืองสาวัตถี อันมีพระเจ้าปเสนทิโกสลครองราชย์อยู่ ครั้งนั้นมีชายผู้ยากไร้คนหนึ่งมีภรรยาอันงดงามยิ่ง พระเจ้าปเสนทิโกสลได้ทอดพระเนตรก็รู้สึกพอพระทัย อยากได้นางไปเป็นของตน จึงพยายามใช้กลอุบายต่าง ๆ เริ่มต้นด้วยการรับตัวทั้งสามีภรรยาเข้าไปอยู่ในเขตราชสัณฐาน แล้วจ้องจับเอาความผิดกับสามีนางเพื่อจะได้ลงโทษประหารเสีย แล้วค่อยยึดเอาภรรยาแต่ก็ไม่สำเร็จ เพราะชายนั้นระมัดระวังตัวตลอด วันหนึ่ง พระราชาดำเนินแผนหนัก เพราะความรักและเร่าร้อนในกามราคะ โดยสั่งให้ชายนั้นไปนำเอา “ดินสีอรุณ” และ “ดอกโกมุท” ที่อยู่เมืองบาดาลมาให้ ซึ่งต้องนำมาให้ทันเวลาตอนสรงน้ำเวลาเย็น ชายนั้นตื่นแต่เช้าห่อข้าวไปกินกลางทาง เมื่อไปถึงฝั่งน้ำแห่งหนึ่งก็หยุดพักกินข้าว ก่อนกินได้แบ่งข้าวเป็นสองส่วน ตนเองกินส่วนหนึ่ง ขณะนั้นมีชายเข็ญใจผ่านมาและเอ่ยปากขอข้าวกิน เขาจึงเอาส่วนที่เหลือให้ไป เมื่อเขาอิ่มแล้วยังเหลือข้าวอีกนิดหนึ่งจึงโปรยลงในน้ำพร้อมร้องตะโกนด้วยเสียงอันดังว่า ขอให้เทพไท้เทวา พญานาค กุ้ง หอย ปู ปลารับรู้ว่า พระราชาได้กลั่นแกล้งให้ไปหาสิ่งที่หาได้โดยยาก เพื่อยึดเอาภรรยาของตน ด้วยอานิสงส์ที่ได้ให้ข้าวแก่คนเข็ญใจและได้ให้ข้าวเป็นทานลงในน้ำนี้ อานิสงส์ทั้งหมดขอยกให้ผู้นำเอาสิ่งหายากดังกล่าวมาให้เป็นสิ่งตอบแทน ฝ่ายพญานาคที่อาศัยบริเวณนั้น มีความประสงค์อยากได้อานิสงส์จึงแปลงร่างเป็นชายแก่ นำเอา “ดินสีอรุณ” และ “ดอกโกมุท” ซึ่งอยู่เมืองบาดาลไปให้ ชายผู้ยากไร้ดีใจยิ่งรีบนำทั้งสองสิ่งกลับเมือง แต่พอไปถึงประตูเมือง ปรากฏว่าประตูเมืองปิดก่อนกำหนดเพราะคำสั่งของพระราชา เขาเสียใจมากแต่ก็ไม่รู้จะทำประการใด จึงเดินร้องไห้ไปพักอยู่ในเชตวันมหาวิหารอันเป็นที่ประทับของพระพุทธเจ้า ส่วนพระราชา คืนนั้นทรงกระสับกระส่าย เพราะร่อนรุ่มด้วยเสน่หาคิดเสมอว่ารุ่งขึ้นจะประหารสามีนาง และเอานางมาคลอเคลียให้ได้ แต่คืนนั้นก็เกิดเหตุการณ์ประหลาด มีเสียงร้องกึกก้องดังสนั่นทั่วเมือง เสียงนั้นเป็นเสียงทรงอำนาจดังว่า “ทุ สะ นุ โส” ขณะนั้นแผ่นดินสาวัตถีก็ไหวสะเทือนไปทั่ว พระราชาตกพระทัยยิ่ง รุ่งขึ้นจึงเชิญปุโรหิตเข้าเฝ้า เพื่อทำนายเหตุการณ์ ปุโรหิตทั้งหลายจนปัญญาไม่ทราบเหตุ ครั้งจะทูลว่าไม่รู้ก็เกรงจะเสียเชิง จึงทูลว่าเป็นเหตุเภทภัย อันตรายจะเกิดแก่พระราชาถึงชีวิต บ้านเมืองจะล่มจม ต้องทำพิธีบูชายัญสังเวยเทพเจ้าด้วย ทาสชายหญิง ช้าง ม้า วัว ควาย แพะ แกะ เป็ด ไก่ อย่างละร้อยจึงจะพ้นอันตราย พระเจ้าปเสนทิโกสลสั่งให้จับทั้งคนและสัตว์ตามจำนวนมาจองจำไว้ และเตรียมหลุมเพลิงใหญ่ พร้อมที่จับคนและสัตว์โยนลงเพื่อบูชายัญ เสียงร้องของคนและสัตว์ดังอื้ออึงเต็มท้องพระลาน ทำให้พระนางมัลลิกาเทวี พระมเหสีของพระเจ้าปเสนทิโกสลตกใจรีบไปทูลถาม พระราชาจึงเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฟัง พระนางจึงทูลทัดทานไว้แล้วพาพระราชาไปเฝ้าพระพุทธเจ้า พระพุทธองค์ทราบเหตุแล้วทรงตรัสว่า เสียงที่พระราชาได้ยินนั้นไม่ใช่เสียงแห่งความหายนะใด หากแต่เป็นเสียงของสัตว์นรก ซึ่งสัตว์นรกดังกล่าวเดิมเป็นลูกเศรษฐี ๔ สหาย ได้เคยทำบาปเรื่องชู้สาวไว้มาก ตายไปตกนรกในขุม “โลหกุมพีนรก” คือนรกหม้อน้ำทองแดงอันเดือดพล่านมีความลึก ๖๐ โยชน์ ลูกเศรษฐีจมอยู่ในนรกนั้นได้ ๖ หมื่นปีมาแล้ว โดยจมลงได้ ๓ หมื่นปี ลอยฟูขึ้นมาอีก ๓ หมื่นปี ครบพอดีในคืนนั้น เมื่อลอยขึ้นมาถึงปากขอบหม้อพร้อมกัน พอเห็นหน้ากันก็อยากจะกล่าวต่อกันถึงผลกรรมที่ได้กระทำมา แต่ไม่มีโอกาสที่จะพูดให้จบได้ เพียงแต่กล่าวเปล่งออกมาคนละคำ คือ เปรตตนที่ ๑ กล่าวคำว่า ทุ เป็นคำย่อจากประโยคที่ขึ้นต้นว่า ทุชชีตมชีวิฯ ความว่าพวกเรามิได้ทำบุญ ไม่ได้ทำที่พึ่งไว้สำหรับตน แต่ทำกรรมชั่ว จึงได้รับผลวิบากกรรมเช่นนี้ เปรตตนที่ ๒ กล่าวคำว่า สะ เป็นคำย่อของประโยคที่ขึ้นต้นว่า สัฏฐิวัสสะฯ ความว่า พวกเราตกอยู่ในนรกขุมนี้ได้ ๖ หมื่นปีแล้ว เมื่อไหร่จะพ้นเสียที เปรตตนที่ ๓ กล่าวคำว่า นะ เป็นคำย่อของประโยคที่ขึ้นต้นว่า นัตถิ อันโตฯ เราทำบาปชั่วมามาก ที่สุดของการพ้นทุกข์จะมีมาแต่ไหน เปรตตนที่ ๔ กล่าวคำว่า โส เป็นคำย่อของประโยคที่ขึ้นต้นว่า โสหังฯ ความว่า หากเราได้เกิดเป็นมนุษย์อีกเราจะให้ทานรักษาศีล และทำกุศลกรรมไว้ให้มาก คำว่า “ทุ สะ นะ โส” จึงเป็นคำกล่าวของเปรตทั้งสี่ตน พระราชาได้ทราบดังนั้นจึงเกิดความสลดใจ ได้เห็นถึงกรรมอันหนักที่ไปชอบพอภรรยาผู้อื่น จึงสั่งปล่อยภรรยาของชายผู้ยากไร้ ปล่อยคนและสัตว์ที่จะบูชายัญและสั่งให้ลงโทษปุโรหิตอย่างหนัก ตั้งแต่นั้นคำกล่าวย่อของเปรตทั้งสี่จึงกลายเป็นมนต์ศักดิ์สิทธิ์ ชื่อว่า “หัวใจเปรต” ใช้กับผีทั้งปวง และมักจะมีมนต์พระเจ้าห้าพระองค์ต่อท้ายเป็น “ทุ สะ นะ โส นะโมพุทธายะ” นิยมใช้ในแง่ไสยศาสตร์สืบต่อกันมา สนั่น ธรรมธิ สำนักส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม |
พระเครื่องที่เกี่ยวข้องในร้านค้านี้...
อื่นๆ...
กำหลังโหลด Comments