-
0 8 6 - 5 6 0 4 0 3 7
หมวด เหรียญปั๊ม ปี 2541 ถึง ปัจจุบัน
เหรียญรุ่นแรก หลวงปู่คำคูณ วัดราชนัดดา กรุงเทพ





ชื่อร้านค้า | จ่าจีระสิทธิ์ - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า) |
---|---|
ชื่อเจ้าของร้านค้า | |
ชื่อพระเครื่อง | เหรียญรุ่นแรก หลวงปู่คำคูณ วัดราชนัดดา กรุงเทพ |
อายุพระเครื่อง | - |
หมวดพระ | เหรียญปั๊ม ปี 2541 ถึง ปัจจุบัน |
ราคาเช่า | 350 บาท |
เบอร์โทรติดต่อ | 08-6560-4037 |
อีเมล์ติดต่อ | Tayanrum@hotmail.com |
LINE |
(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
|
สถานะ |
![]() |
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ | ส. - 08 ต.ค. 2565 - 21:28.56 |
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ | อ. - 11 ก.พ. 2568 - 21:41.57 |
รายละเอียด | |
---|---|
เหรียญรุ่นแรก หลวงปู่คำคูณ วัดราชนัดดา กรุงเทพ เหรียญละ 350 บาท พุทธาคม ปาฏิหาริย์อำนาจบุญ อริยะเหนือโลก 9 มีนาคม 2019 · ###พระครูวุฒิธรรมสาร หลวงปู่คำคูณ ฐานิสสโร สิริอายุ91ปี70พรรษา พระเกจิอาจารย์กลางกรุง แห่งวัดราชนัดดารามวรวิหาร เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร โดย ศุภักษร ลอยสุวรรณ์ เมื่อเอ่ยถึง พระครูวุฒิธรรมสาร หรือ หลวงปู่คำคูณ ฐานิสสโร แห่งคณะ7 วัดราชนัดดารามวรวิหาร เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร แล้วก็เป็นที่ยอมรับกันว่า ท่านเป็นพระที่มีพลานุภาพทางจิตสูงมากในแวดวงของพระกรรมฐาน หรือ ผู้เรืองวิทยาคมอาคมเวทย์ก็จะเป็นที่รู้จักกันดี ท่านเป็นพระที่มีทั้งเจโตวิมุตติ และปัญญาวิมุตติ ที่นำทางสู่ที่หมาย คือ ความพ้นทุกข์ได้ทั้งสองทาง คือ ทั้งทางโลกและทางธรรม หลวงปู่คำคูณ ฐานิสสโร พระมหาเถราจารย์วัยย่างเข้าสู่91ปีนี้ท่านดำเนินอยู่ในเส้นทางพระอริยะทั้งทางสมถะและวิปัสสนา ท่านเข้าถึงด้วยแนวทางการปฏิบัติธรรมสายสำเร็จลุน แห่งประเทศลาว เป็นที่ยอมรับในกลุ่มผู้ศรัทธาอยู่ในเส้นทางทั้งสองสายทั้งโลกียะและโลกุตระ ที่ว่า ท่านเป็นผู้นำพาให้พบกับหนทางพ้นทุกข์ทั้งทางโลกและทางธรรมนั้นก็คือ ในทางโลก ท่านสอนให้รู้จักการรักษาศีล อันเป็นข้อห้ามในเบื้องต้นที่จะไม่ทำความชั่วทางกาย วาจา ในทุกด้าน ซึ่งเป็นวิถีทางการดำรงชีวิตอยู่อย่างเป็นมนุษย์ผู้ประเสริฐ หรือ มนุษย์เทโว ที่เรียกว่า เป็นมนุษย์ที่มีจิตใจเป็นเทวดาและถ้าหากว่าปรารถนาที่จะดำเนินต่อในแนวทางของผู้มีปัญญาท่านก็ให้ภาวนาและสอนกรรมฐานในเบื้องต้นและยกระดับขึ้นสู่วิปัสสนาญาณเพื่อสร้างภูมิปัญญา อันเป็นการทำกิเลสให้แจ้ง ให้เบาบางหมดไปจากจิตใจของผู้ปฏิบัติได้อย่างชำนาญอีกด้วย ซึ่งทั้งสองแนวทางนี้ ก็แล้วแต่จริตของแต่ละคนว่า จะเลือกเดินในหนทางใด หลวงปู่ท่านบอกว่า เรื่องเครื่องรางของขลัง อภินิหารที่ท่านอนุเคราะห์แสดงออกมานั้นเป็นเพียงอุบายวิธีที่จะดึงคนเข้าสู่วัดแล้วจะได้สอนให้ดำเนินต่อไปในหนทางที่ถูกต้อง ตามภูมิธรรมความรู้และวาสนาของแต่ละคน ดังนั้นท่านจึงใช้ความรู้ความสามารถในทางอิทธิจิตบันดาลให้เกิดฤทธิ์เกิดผลในทางเมตตามหานิยม มหาโชค มหาลาภ ด้วยวิชาและวิชชาที่ท่านเคยได้ร่ำเรียนฝึกฝนและปฏิบัติมาเป็นเวลานาน ในบางครั้งท่านมีเมตตาปลุกเสกวัตถุมงคลให้ญาติโยมไปบูชาปรากฏผลเป็นที่ประจักษ์แก่ผู้ศรัทธา บางคนมีความทุกข์ยากแล้วไปหาท่านช่วยสงเคราะห์ช่วยเหลืออย่างได้ผลก็มีมากอันเป็นอุบายธรรมของท่านดังที่กล่าวมาแล้ว หลวงปู่คำคูณ ฐานิสสโร พระเกจิอาจารย์แห่งคณะ7 วัดราชนัดดารามวรวิหาร กรุงเทพมหานครท่านได้แกะนกสาลิกาจากไม้มงคลคือ ไม้มะรุม ด้วยตัวท่านเองมาตั้งแต่พ.ศ.2500 โดยท่านแผ่พลังพลังจิตอธิษฐานให้ผู้ศรัทธาจนกลายเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ มีหลายๆท่านที่นำไปบูชาก็ปรากฏบังเกิดผลในทางด้านที่ดีๆต่างๆนานา จนอดที่จะบอกขานเล่าต่อกันไม่ได้ บางรายนำนกสาลิกาไม้มะรุม หลวงปู่คำคูณไปตั้งบูชาที่หิ้งพระ สวดมนต์สักการบูชาแล้วก็รู้สึกว่าอะไรต่างๆที่เกี่ยวกับชีวิตรอบๆตัวดีขึ้นมาก ทั้งด้านการเงิน ความเป็นอยู่ และญาติมิตร ตลอดจนการงานอีกทั้งยังช่วยป้องกันอุบัติภัยในด้านต่างๆอย่างสัมฤทธิผลก่อให้เกิดความมหัศจรรย์ใจเป็นอย่างยิ่ง บางรายสังเกตว่าบังเกิดลาภผล ข้าวปลาอาหารอุดมสมบูรณ์ ไม่ขัดสนเหมือนเมื่อก่อน ศาสตร์วิชา “สาริกา” ได้รับการสืบทอดกันมายาวนาน เชื่อกันมาตั้งแต่สมัยโบราณว่า หากผู้ใดได้บูชานกสาริกาแล้ว ก็จะทำให้ผู้นั้นมีเสน่ห์ที่น่าหลงใหลเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเจรจาสิ่งใดก็จะประสบความสำเร็จเพราะคนฟังมักจะเคลิบเคลิ้มไปกับคำพูดนั้นๆ เป็นวาจาที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์เมตตา ฉะนั้นจึงถือกันว่า หากใครที่บูชานกสาริกา จะทำให้ผู้นั้นมีวาจาที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ คนรักคนหลงได้ง่าย “นกสาริกา” เป็นเครื่องรางประเภทหนึ่ง มีพระพุทธคุณทางด้าน เมตตา มหาเสน่ห์ โดยอักขระที่ลงบนตัวนกสาริกานั้น บ้างก็ถูกเรียกว่า “ยันต์สาริกา” ซึ่งสามารถลงอักขระนี้ได้ทั้งวัตถุมงคล หรือแม้แต่การสักยันต์ตามร่างกายต่างๆที่ปรากฏเป็นรูปนกสาริกา แต่ส่วนใหญ่ในสมัยก่อนนิยมลงสาลิกาบริเวณปลายลิ้น เชื่อกันว่า เมื่อบูชานกสาริกา แล้ว จะเป็นผู้มีวาจาไพเราะเสนาะหู ใครได้ยินในสิ่งที่พูดก็หลงใหล เสมือนกับได้ยินเสียงนกสาริกาขับกล่อมอันไพเราะก็ฉันนั้น สอดคล้องกับกำเนิดแห่งนกสาริกาที่ว่ากันว่า เป็นนกแห่งสรวงสวรรค์ที่ได้รับอำนาจให้มีลิ้นเป็นทองคำ เพื่อใช้ในการขับกล่อมเหล่าเทพยดาทั้งหลายบนสวรรค์ให้มีความสุขเมื่อเทพยดาได้ยินเสียงนกสาริการ่ำร้องขับกล่อมเมื่อใดก็จะมีความสุขเมื่อนั้น เชื่อกันว่า นกสาริกาคือกึ่งสัตว์กึ่งเทพที่อาศัยอยู่ในป่าหิมพานต์ ดินแดนที่มีเขตแดนติดกับสวรรค์ จึงถือคติในตำนานที่นกสาริกามีลิ้นเป็นทองคำและมีวาจาที่ไพเราะนี้ มาเป็นศาสตร์แห่งวิชาสาริกาและนำมาสร้างเป็นวัตถุมงคลสาริกาในเวลาต่อมา การสร้างวัตถุมงคลที่เป็นรูปนกสาริกาด้วยไม้มะรุม แล้วลงอักขระยันต์สาริกาของหลวงปู่คำคูณเพื่อให้เกิดอานุภาพด้านเสน่ห์เมตตาเช่นกัน หากใครที่มีวัตถุมงคลนกสาริกาก็มักจะพกติดตัวไปทำการค้าขายหรือเจรจาธุรกิจต่างๆซึ่งนับว่าเป็นส่วนเสริมกำลังใจให้กับผู้นั้นได้จริงๆ ทั้งนี้การบูชานกสาลิกาของหลวงปู่คำคูณต้องขึ้นกับวิบากกรรมและผลบุญของผู้นั้นด้วย ใครมีความกตัญญูรู้คุณย่อมได้รับผลตอบแทนในทางที่ดีทั้งทางโลกและทางธรรมะ อีกทั้ง กาย วาจา ใจ ของเราต้องสังวรระวังอยู่ในศีลในธรรม คุณพระและคุณแห่งนกสาลิกาจึงจะช่วยเหลือคุ้มครองอย่างได้ผล ที่เขียนมาถึงตรงนี้ ใช่ว่าจะชี้นำผู้อ่านให้หลงติดอยู่กับวัตถุของขลังหรืองมงายอยู่ในสิ่งที่มีอำนาจเร้นลับแต่อย่างใดไม่ หากแต่ต้องการเล่าสู่กันฟังและให้โอกาสผู้ที่ขาดที่พึ่งหรือต้องการกำลังใจในการที่จะใช้เป็นเครื่องประคองชีวิตให้คงอยู่ไปในทางที่ดีขึ้นเท่านั้น คนเราถ้าหากทำกรรมไม่ดีอันใดไว้ก็ย่อมได้รับผลของกรรมนั้นๆอยู่แล้วมิใช่หรือ หากชักจูงให้เขามีความมั่นคงอยู่ในศีลธรรมมีการปฏิบัติดีปฏิบัติชอบตามกำลังความสามารถของตน รู้จักการใช้ปัญญาพิจารณา และมีความกตัญญูรู้คุณของผู้มีพระคุณทั้งหลายตั้งแต่บิดา มาดา ครูบาอาจารย์ ย่อมเป็นสิ่งดีที่ควรทำอย่างยิ่ง ประวัติโดยสังเขปของหลวงปู่คำคูณ ฐานิสสโร เกิดเมื่อวันศุกร์ที่ 27 ธันวาคม พศ.2472 ตรงกับแรม 11 ค่ำ เดือนอ้าย ปีมะเส็ง ชาติกำเนิดของหลวงปู่เป็นชาว ต.ทรายมูล อ.ยโสธร จ.อุบลราชธานี โยมบิดามารดา ชื่อนายลอนและนางนาง นามสกุลผุดผ่อง มีพี่น้อง 10 คน โดยหลวงปู่ เป็นบุตรคนที่ 5 ของโยมบิดามารดา ในส่วนของการศึกษาทางโลก หลวงปู่ได้เรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จากโรงเรียนทรายมูล ต.ทรายมูล อ.ยโสธร จ.อุบลราชธานี ซึ่งเป็นภูมิลำเนาเดิมของหลวงปู่ และเป็นที่ตั้งของวัดบูรพารามใต้(วัดที่หลวงปู่อุปสมบท)นั้น เนื่องจากต่อมา อ.ยโสธร ได้แยกตัวจาก จ.อุบลราชธานี มาเป็น จ.ยโสธร ต่อมาเมื่อหลวงปู่ อายุได้ 14 ปี โยมบิดาได้พาไปฝากไว้กับพระอุปัชฌาย์น้อย สุวโจ วัดบูรพารามใต้ จ.ยโสธร(เดิม) หลวงปู่จึงได้บรรพชาเป็นสามเณรอยู่ที่วัดบูรพารามใต้ นี้เอง โดยมีพระอุปัชฌาย์น้อย เป็นผู้บรรพชาให้ แต่ถึงจะออกบรรพชาเป็นสามเณรแล้ว เมื่อออกบิณฑบาตรเสร็จ หลวงปู่ก็จะกลับไปบ้านเพื่อดูแลโยมมารดาที่บ้านทุกวัน หลวงปู่สอบได้นักธรรมตรี เมื่อปี 2487 และสอบได้นักธรรมโท เมื่อปี 2489 ต่อมาวันที่ 20 ตุลาคม 2492 เมื่อหลวงปู่ อายุได้ 21 ปี ก็ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ วัดบูรพารามใต้ โดยมีพระอุปัชฌาย์น้อย สุวโจ เป็นพระอุปัชฌาย์(หลวงปู่พระอุปัชฌาย์น้อย สุวโจ ท่านเป็นศิษย์สำเร็จลุน แห่งประเทศลาว) ได้ฉายาว่า “ฐานิสฺสโร” หลวงปู่สอบได้นักธรรมเอกเมื่อปี 2493 และต่อมาได้ย้ายมาศึกษาบาลีที่วัดราชนัดดาราม เมื่อปี 2496 ในพรรษาที่ 4 หลวงปู่สอบได้ 'ป.ธ.3' เมื่อปี 2500 และได้เลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระครูวุฒิธรรมสาร ชั้นเอก เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2556 หลวงปู่เคยรักษาการเจ้าอาวาสที่วัดปทุมวัน บ้านหนองแปน ต.หนองแปน อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น เป็นระยะเวลาประมาณ 2 ปี ในปี พ.ศ.2512 – 2513 ปัจจุบันหลวงปู่คำคูณ ดำรงตำแหน่งหัวหน้าคณะ 7 วัดราชนัดดารามวรวิหาร กรุงเทพมหานคร ขอกล่าวถึงประวัติพระอุปัชฌาย์น้อย สุวโจ พระอาจารย์ของหลวงปู่คำคูณ โยมบิดาชื่อนายสิงห์ โยมมารดาไม่ทราบชื่อ นามสกุล โสมณวัฒน์ มีพี่น้อง4คน ท่านเกิดปีพ.ศ.2417 1นายน้อย (พระอุปัชฌาย์น้อย สุวโจ) 2นายตุ่น 3นางอ่อน 4นางเกี้ยง เมื่ออายุได้19ปีได้บรรพชา เป็นสามเณร ที่วัดบ้านทรายมูล(วัดบูรพารามใต้) โดยมีพระปลัดอ่อนตา เป็นผู้บวชให้ หลังจากนั้นได้ศึกษาปฏิบัติกรรมฐานแล้วได้ไปธุดงค์กับพระปลัดอ่อนตาไปพม่าแล้วเข้าสู่ประเทศอินเดีย พระปลัดอ่อนตาได้ฝากสามเณรน้อยกับพระภิกษุที่อินเดียแล้วพระปลัดอ่อนตาได้ธุดงค์ไปต่อเมืองลังกา สามเณรน้อยได้พักค่อยพระปลัดอ่อนตาที่ประเทศอินเดียเป็นเวลา4เดือน พระปลัดอ่อนตาจึงได้มาพาสามเณรน้อยกลับประเทศไทย เมื่อกลับมาไม่นานสามเณรน้อยอายุครบ20ปี พระปลัดอ่อนตาได้นำสามเณรน้อยไปทำการอุปสมบทที่ประเทศลาว(ไม่ทราบวัด) ปีพ.ศ.2438โดยมีสำเร็จลุน เป็นพระอุปัชฌาย์ได้รับฉายาว่า สุวโจ แปลว่า พระผู้กล่าวดี หลังจากนั้นท่านได้เรียนวิชาต่างๆจากพระอุปัชฌาย์ของท่านเสร็จแล้วพระน้อยได้ตามพระปลัดออ่นตากับมาที่ประเทศไทยและได้มาอยู่ที่วัดบ้านทรายมูล ต่อมาวัดบ้านผือฮีขาดเจ้าอาวาสวัด ชาวบ้านได้ไปที่วัดบ้านทรายมูลเพื่อขอพระน้อย ไปเป็นเจ้าวัดพระปลัดอ่อนตาจึงได้ส่งพระน้อยไปเป็นเจ้าอาวาสวัดตามที่ชาวขอ ต่อมาเมื่อท่านเดินทางมาจากยโสธร มาบ้านทุ่งอีโอกได้พบกับฝูงควาย ซึ่งสมัยก่อนจะไม่ผูกเชือกและเจ้าของปล่อยให้หากินเป็นฝูง เมื่อพบกับพระภิกษุควายมักไล่ขวิดเพราะสีของจีวรนั่นเอง ควายฝูงนี้ก็เหมือนกันได้วิ่งโถมเข้าหาท่าน ท่านเล่าให้ศิษย์เหล่านั้นฟังมีจารย์ครูอ่อน อยู่ด้วย ว่าท่านได้แผ่เมตตาให้ฝูงควายฝูงนั้นแต่ฝูงควายยังวิ่งวนเวียนอยู่รอบตัว ท่านอย่างประสงค์ร้าย โดยไม่ยอมหนีไปจากท่านเลย ท่านจึงท่องคาถาป้องกันปรากฏ ว่าฝูงควายได้หยุดวิ่งและเดินจากไป ท่านได้ตำเหน่งพระอุปัชฌาย์ ท่านมรณภาพในปี.พศ.2504รวมสิริอายุได้87ปี64พรรษา ศิษย์ของท่านที่หลวงปู่จำชื่อได้ พระมหาจันทร์ วัดถนนตก พระมหาคำพา วัดสระเกศ เจ้าคุณอมร (อดีตเจ้าคณะจังหวัดยโสธร) พระครูวุฒิธรรมสาร(หลวงปู่คำคูณ ฐานิสฺสโร) วัดราชนัดดาราม กรุงเทพมหานคร เรื่องเล่าท่านรู้วาระจิตของสัตว์ ศิษย์เคยนิมนต์หลวงปู่คำคูณ ท่านไปพักผ่อนที่อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี ตอนเช้าไปฉันเช้าที่เขาย้อย เลยได้ไปให้อาหารลิง ในคณะที่ไป มีคุณจำลอง (เคยอยู่หลังวัดไปด้วย) เมื่อให้อาหารลิงเสร็จแล้วก็เดินไปกับหลวงปู่จะขึ้นไปในถ้ำเพื่อกราบพระ ในระยะห่างประมาณ 50 เมตรเศษ คุณจำลองเห็นลิงนอนเหมือนตายอยู่บนเนินเขา คุณจำลองบอกหลวงปู่ว่า " หลวงพ่อดูลิงตัวนั้นซิ มันตายแล้ว หลวงปู่ตอบว่า ลิงมันไม่ได้ตาย แต่ลูกมันตาย มันเลยเป็นทุกข์ " ศิษย์เดินอยู่ข้างหลังเลยได้ยินเรื่องทั้งหมด และเมื่อเดินเข้าไปใกล้ มันก็ค่อย ๆ คลานเข้าป่าไป มีอยู่ครั้งหนึ่ง มีลูกศิษย์หลวงปู่เคยนิมนต์ท่านไป เวียงจันทน์ แล้วขากลับจะแวะพระธาตุนาดูน แต่ขับรถผิดทาง หลวงปู่ท่านนั่งอยู่ด้านหลัง เลยบอกว่า "ผิดทางแล้ว ต้องไปอีกทางหนึ่ง ลูกศิษย์เลยถามท่านว่า ทำไม่ท่านรู้ หลวงปู่ตอบว่าเคยธุดงค์มาแถวนี้" ลูกศิษย์คนนั้นก็งง ๆ แต่ก็ไปวกกลับไปตามทางที่ท่านบอก หรือจะเป็นว่าท่านมีตาทิพย์ที่ล่วงรู้อะไรลึกๆก็เป็นได้ ปัจจุบันหลวงปู่คำคูณ ฐานิสสโร ยังคงอนุเคราะห์ญาติโยมเป็นแหล่งสงเคราะห์ชีวิต บำบัดทุกข์สุขทางกาย ทางใจครบถ้วน เป็นหลักใจให้สานุศิษย์อย่างแน่นแฟ้นตลอดมา เมื่อไป ฯลฯ |
พระเครื่องที่เกี่ยวข้องในร้านค้านี้...










อื่นๆ...
กำหลังโหลด Comments