-
0 8 6 - 5 6 0 4 0 3 7
หมวด พระเนื้อผง เนื้อดิน เนื้อว่าน หลังปี 2525
หลวงพ่อแสนเหรียญ วัดลาดขาม อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี
ชื่อร้านค้า | จ่าจีระสิทธิ์ - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า) |
---|---|
ชื่อเจ้าของร้านค้า | |
ชื่อพระเครื่อง | หลวงพ่อแสนเหรียญ วัดลาดขาม อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี |
อายุพระเครื่อง | - |
หมวดพระ | พระเนื้อผง เนื้อดิน เนื้อว่าน หลังปี 2525 |
ราคาเช่า | 250 บาท |
เบอร์โทรติดต่อ | 08-6560-4037 |
อีเมล์ติดต่อ | Tayanrum@hotmail.com |
LINE |
(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
|
สถานะ | |
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ | อ. - 27 ก.ย. 2565 - 21:19.17 |
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ | พฤ. - 29 ก.ย. 2565 - 08:20.12 |
รายละเอียด | |
---|---|
หลวงพ่อแสนเหรียญ วัดลาดขาม อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี สวยเดิม พระพุทธเบญจนวมงคลกาญจน์” หรือ “หลวงพ่อแสนเหรียญ” เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปสำคัญของไทย วัดลาดขาม อ.พนมทวน เป็นพระพุทธรูปปางพิชิตมาร ขนาดความสูง ๘๗ นิ้ว หน้าตักกว้าง ๕๙ นิ้ว องค์ปฏิมากรสร้างด้วยเหรียญสตางค์แดง เหรียญรัชกาลที่ ๕ เหรียญรัชกาลที่ ๘ และเหรียญรัชกาลที่ ๙ ซึ่งได้มาจากการที่ประชาชนมีความศรัทธาร่วมบริจาค เพื่อนำมาสร้างองค์พระพุทธเจ้าแสนเหรียญองค์นี้นับเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์อีกองค์หนึ่งของไทย ตามประวัติเล่าขานกันมาว่า เมื่อครั้งที่พม่ายกกองทัพเข้าตีกรุงศรีอยุธยา โดยใช้เส้นทางด่านเจดีย์สามองค์ในสมัยนั้น ได้ตีเมืองทองผาภูมิ (วัดดงสักลิ่นถิ่น) และเมืองท่ากระดาน ด้วยความหวาดกลัวชาวบ้านได้หนีขึ้นไปหลบอยู่บนเขาส่วนหนึ่ง ณ หมู่บ้านหนองหอย ทัพพม่าเดินทางตามลำน้ำแควน้อย ใช้แพเป็นพาหนะเข้าตีกาญจนบุรีเก่า โดยยกทัพขึ้นที่บ้านเก่า ทำให้ชาวบ้านได้ละทิ้งถิ่นฐานลงมาอยู่กลอนโด ทัพพม่าได้ลัดเลาะมาตามชายเขา แล้วได้ยกทัพประชิดแม่น้ำแควใหญ่ ตรงข้ามเมืองกาญจน์เก่า ชาวบ้านดอนเจดีย์ พังตรุ ทุ่งสมอ หนองขาว หนองสาหร่าย ลาดขาม บ้านทวน ได้ยกพวกไปช่วยเมืองกาญจนบุรีเก่าต้านพม่า เพื่อรอทัพหลวงซึ่งมาตั้งทัพอยู่ที่บ้านทัพหลวง จ.นครปฐม กว่าทัพหลวงจะยกมาถึงกาญจนบุรีก็เสียเมืองแล้ว ด้วยน้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ พม่าผ่านเข้าตีกาญจนบุรี (เก่า) ชาวบ้านแห่งทุ่งลาดหญ้า หนองขาว ดอนเจดีย์ ทุ่งสมอ หนองสาหร่าย พนมทวน ลาดขาม พังตรุ ได้ร่วมแรงร่วมใจกันรบกับพม่าอยู่หลายเดือน พม่าเห็นว่าคนไทยมีกำลังเข้มแข็ง ทั้งช้าง ม้า วัว ควาย จึงคิดหากลวิธี โดยการให้กำลังส่วนหนึ่งของพม่าปิดกั้นแม่น้ำสายบ้านทวน (ปัจจุบันขุดลอกเป็นคลองจระเข้สามพัน) เพื่อให้ชาวบ้านและช้าง ม้า วัว ควาย อดน้ำจะได้เกิดความระส่ำระสาย ง่ายแก่การโจมตี และอีกส่วนหนึ่งปลอมตัวเข้าไปในหมู่บ้าน ซึ่งรู้มาว่าคนไทยบางหมู่บ้านไม่ถูกกัน จึงใช้อุบายยุยงทำให้คนไทยแตกความสามัคคีให้ง่ายต่อการเข้าตีเมือง ครั้นเมื่อพม่าปิดกั้นแม่น้ำสายบ้านทวนแล้ว ได้ยกเข้าตีเมืองและเผาหมู่บ้าน ทำลายวัดวาอาราม เอาทรัพย์สินมีค่าไป วัดและบ้านลาดขามจึงร้างนับแต่นั้นมา เมื่อ ๑๑ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๔๒ โดยพระครูปลัดเพลิน เตชธัมโม เจ้าอาวาสวัดลาดขามได้ธุดงค์มาพบซากวัดปรักหักพังและลงมือบูรณปฏิสังขรณ์วัดแห่งนี้ขึ้นด้วยแรงสนับสนุนจากผู้มีจิตศรัทธาและชาวบ้านจนกระทั่งกลับมาเป็นศูนย์รวมแห่งพุทธศาสนิกชนในอำเภอพนมทวนอีกครั้ง พระครูปลัดเพลิน ได้เป็นแกนนำพลังศรัทธาชาวบ้านสร้าง พระพุทธรูปปางพิชิตมารมีความสูง ๘๗ นิ้ว หน้าตักกว้าง ๕๙ นิ้ว มีชื่อเสียงเลื่องลือในปัจจุบันทั้งในด้านของความศักดิ์สิทธิ์และความแปลกมหัศจรรย์ด้วยข้อเท็จจริงที่ว่าองค์พระปฏิมากรนี้ได้ถูกรังสรรค์ขึ้นมาจากเหรียญเงินตราต่างๆ จำนวนนับแสนเหรียญชาวบ้านจึงพากันเรียกท่านว่า "หลวงพ่อแสนเหรียญ" ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่กับอำเภอพนมทวนและเป็นที่นับถือศรัทธาของพุทธศาสนิกชนทั่วไปอย่างกว้างขวางในปัจจุบัน ในการนำเหรียญเงินตราต่างๆ จำนวนนับแสนเหรียญมาติดองค์พระนั้น พระครูปลัดเพลิน ต้องการสื่อให้เห็นว่า "เงินเหรียญแค่เหรียญสองเหรียญอาจจะไม่มีความหมาย แต่ว่าถ้ามารวมๆกันมากๆ ก็มีคุณค่า ให้รู้จักอดออมและนึกถึงคุณค่าของเงินเข้าไว้" ทั้งนี้มีคติความเชื่อว่า "เมื่อได้มากราบไหว้อธิษฐานหลวงพ่อแสนเหรียญซึ่งสร้างขึ้นจากเงินเหรียญที่เป็นมงคลรวมเอาชาติศาสน์กษัตริย์เข้าไว้ด้วยกันในองค์พระนั้นแล้วเหมือนกับได้อธิษฐานขอพรแห่งโชคลาภความมั่งคั่งร่ำรวยสืบไป" พิพิธภัณฑ์โบราณวัตถุ ปัจจุบัน วัดลาดขาม ได้จัดสร้างพิพิธภัณฑ์โบราณวัตถุ ประเภทหินขัด กำไลสำริด ภาชนะดินเผา สมัยก่อนประวัติศาสตร์อายุประมาณ ๒,๐๐๐-๓,๐๐๐ ปี แผ่นดินเผา รูปท้าวกุเวร ภาพพระโพธิสัตว์ ประทับนั่งในท่ามหาราชลีลา สมัยทวารวดี อายุประมาณพุทธศตวรรษที่ ๑๓-๑๔ ซึ่งเป็นที่นับถือในศาสนาพุทธด้วย ภายในห้องจัดแสดงซึ่งก็คือศาลาวัดนั้น จัดแสดงหินขรุขระไว้ในตู้กระจก ประมาณ ๕-๖ ตู้ นอกจากนั้นก็ยังมีวางไว้บนตั้งไม้ และสามารถจับต้องได้ ส่วนวัตถุจัดแสดงที่อยู่ในตู้แบ่งออกเป็นตู้แรก จัดแสดงอาวุธโบรารจำพวกขวานหินกะเทาะ รูปร่างต่างๆ และหินรูปร่างต่างๆ บ้างก็เรียกว่าพระเจ้าห้าพระองค์พบจากบริเวณวัดนี่เอง บางชิ้นก็มีผู้นำมาให้หลวงพ่อ ตู้ที่สองจัดแสดงกำไลโลหะ ต่างหูและ กระดิ่งโลหะสันนิษฐานว่าจากสมัยทวารวดี วางปนอยู่กับหินรูปร่างประหลาดที่หลวงพ่อเรียกว่า พระธาตุลูกอมฤษี พระครูปลัดเพลิน เตชธัมโม บอกว่า จากการตรวจพิสูจน์โบราณวัตถุ โดยพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอู่ทอง จ.สุพรรณบุรี กรมศิลปากรได้คำนวณจากวัตถุโบราณ ซากปรักหักพังของเจดีย์ โบสถ์เก่า พระพุทธรูป ปัจจุบันวัดลาดขามได้จัดสร้างพิพิธภัณฑ์โบราณวัตถุ ประเภท หินขัด กำไลสำริด ภาชนะดินเผา สมัยก่อนประวัติศาสตร์ แผ่นดินเผารูปท้าวกุเวร เทพเจ้าแห่งความมั่งคั่ง และผู้รักษาทิศเหนือในศาสนาพราหมณ์ มียักษ์หรือรากษส เป็นบริวาร แผ่นดินเผา ภาพพระโพธิสัตว์ ประทับนั่งในท่ามหาราชลีลา แผ่นดินเผารูปหน้าสิงห์ แผ่นดินเผาภาพคชลักษมี หรืออภิเษกศรี (ทำเป็นรูปช้างเทน้ำให้นางลักษมี ซึ่งเป็นชายาพระนารายณ์) สัญลักษณ์แห่งความอุดมสมบูรณ์ สมัยทวารวดี อายุประมาณพุทธศตวรรษที่ ๑๓-๑๔ เป็นที่นับถือในศาสนาพุทธด้วย ด้วยแรงศรัทธาจากตระกูลพวงปทุมานนท์ พร้อมหมู่คณะญาติโยม ได้ร่วมแรงร่วมใจกันบูรณะจากวัดเก่าที่ร้าง จนเริ่มมีกุฏิเสนาสนะให้พระสงฆ์ได้อยู่จำพรรษาเป็นที่ศึกษาธรรมสืบไป โดยล่าสุดวัดได้จัดสร้างพระขุนแผนเนื้อเคลือบน้ำว่าน ๑๐๘ ชนิด พิธีพุทธาภิเษก วัดโยเดีย เมืองทวาย ประเทศพม่า อนึ่ง วัดโยเดีย เป็นที่ประทับจำพรรษา สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงผนวชเป็นสามเฌรเมื่อครั้งเป็นองค์ประกัน รุ่นแรก (หนึ่งไตรมาส) วัตถุประสงค์เพื่อนำรายได้สมทบทุนสร้างอุโบสถและน้ำประปาเข้าวัดลาดขาม ผ้าป่าต่อท่อน้ำประปาเข้าวัด กองละ ๒,๐๐๐ บาท บุญประจำปีวัดลาดขาม วัดลาดขาม ยังมีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ภายในวัด มีผู้ที่มาอธิษฐานขอนำไปต้มดื่มกินและอาบ เชื่อว่าจะทำให้หายจากโรคภัยต่างๆ เป็นที่น่าแปลกใจอย่างยิ่ง คือ น้ำในบ่อที่กล่าวมานี้ มีการเปลี่ยนสีได้โดยธรรมชาติ ตอนเช้าน้ำในบ่อก็เป็นสีหนึ่ง พอตกเย็นก็เปลี่ยนเป็นอีกสีหนึ่ง บางวันก็มีถึงสามสี เหตุการณ์ดังกล่าวนี้ยังไม่มีใครรู้ได้ว่าน้ำในบ่อเปลี่ยนสีได้ นอกจากนี้ยังมีศาลเจ้าเงาะซึ่งท่านพระครูท่านเล่างว่าสร้างขึ้นเพื่อปกป้องฝูงปลาที่อาศัยอยู่บริเวณหน้าวัดที่ท่านเลี้ยงไว้ คนที่ไม่หวังดีจะมาจับปลาวัดไปทางก็จะได้เกรงใจไม่กล้า เหมือนมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ คุ้มครองเจ้าปลาพวกนั้นอยู่ ท่านได้ให้ผู้สำรวจทดลองให้อาหารปลาด้วยวิธีการแบบเดียวกับการทำสปาเท้าที่กำลังนิยมกันในช่วงนี้ด้วย |
พระเครื่องที่เกี่ยวข้องในร้านค้านี้...
อื่นๆ...
กำหลังโหลด Comments