-
0 8 6 - 5 6 0 4 0 3 7
หมวด เหรียญปั๊ม ปี 2541 ถึง ปัจจุบัน
เหรียญตาผ้าขาว พระอาจารย์วิริยังค์ วัดธรรมมงคล





ชื่อร้านค้า | จ่าจีระสิทธิ์ - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า) |
---|---|
ชื่อเจ้าของร้านค้า | |
ชื่อพระเครื่อง | เหรียญตาผ้าขาว พระอาจารย์วิริยังค์ วัดธรรมมงคล |
อายุพระเครื่อง | 21 ปี |
หมวดพระ | เหรียญปั๊ม ปี 2541 ถึง ปัจจุบัน |
ราคาเช่า | - |
เบอร์โทรติดต่อ | 08-6560-4037 |
อีเมล์ติดต่อ | Tayanrum@hotmail.com |
LINE |
(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
|
สถานะ |
![]() |
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ | ส. - 24 ก.ย. 2565 - 20:56.56 |
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ | พ. - 26 เม.ย. 2566 - 12:12.48 |
รายละเอียด | |
---|---|
เหรียญตาผ้าขาว พระอาจารย์วิริยังค์ วัดธรรมมงคล เป็นเหรียญ หลักในสาย ของท่านครับ ...รายละเอียด ราคา ค่อนข้างเยอะ ยกตัวอย่างมาไม่ไหว...เอาแค่เบาะ ๆ ว่า สนน ราคาไป ไกล กันแล้วครับ อีก หนึ่ง เหรียญที่มี ราคาแพงของท่านครับ.. ท้าย ๆ ผมเอาข้อมูล ที่ลงขาย เปิดประมูล ในกลุ่ม ให้ชมครับ .... .... “ถ้ามีผู้ใดมารักษาให้หายจากอัมพาตได้ จะอุทิศตนเพื่อพระพุทธศาสนาทั้งสิ้น” ประวัติโดยย่อ : หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธฺโร นามเดิมว่า วิริยังค์ บุญฑีย์กุล เป็นบุตรขุนเพ็ญภาษชนารมย์ กับ นางมั่น บุญฑีย์กุล เกิดเมื่อวันที่ 7 มกราคม 2463 ณ บ้านพักนายสถานีรถไฟปากเพรียว จ.สระบุรี เนื่องจากบิดาเป็นนายสถานีรถไฟที่นั่น ต่อมาได้ย้ายไปที่บ้านใหม่สำโรง อ.สีคิ้ว นครราชสีมา มีพี่น้องทั้งหมด 7 คน ท่านเป็นคนที่ 5 หลวงพ่อได้รับการศึกษาชั้นมูลที่โรงเรียนวัดสุปัฏนาราม อุบลราชธานี เนื่องจากบิดาย้ายไปเป็นนายสถานีรถไฟ อ.วารินชำราบ หลังจากจบการศึกษาชั้นมูลแล้ว หลวงพ่อจึงกลับมายังบ้านเกิด อ.สีคิ้ว ได้ศึกษาไวยากรณ์บาลีกับพระอาจารย์ที่วัดกลาง นครราชสีมา วันหนึ่งขณะที่มีอายุ 13 ปี เพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งชื่อ “ขลิบ” ชวนให้เป็นเพื่อนไปวัดเพื่อต่อมนต์กับหลวงปู่กงมา จิรปุญฺโญ จึงรอด้วยความเบื่อหน่ายเพราะไปตั้งแต่สองทุ่มกลับเที่ยงคืน จะกลับบ้านเองก็ไม่ได้เพราะกลัวผี ได้แต่คิดอยู่ในใจว่า “ตั้งแต่นี้ต่อไป ไม่มาอีกแล้ว ๆๆ” ในไม่ช้าก็เกิดความสงบขึ้น ตัวหาย เห็นตัวเองมีสองร่าง ร่างหนึ่งเดินลงศาลาไปยืนอยู่ที่ลานวัด มีลมชนิดหนึ่งพัดเข้าสู่ใจ รู้สึกเย็นและเป็นสุขอย่างยิ่ง ถึงกับอุทานว่า “คุณของพระพุทธศาสนา มีถึงเพียงนี้เทียวหรือ” แล้วเดินกลับไปที่ร่างกลับเข้าตัว พอดีเป็นเวลาเลิกต่อมนต์ จึงเล่าให้หลวงปู่กงมาฟัง ตั้งแต่นั้นมาจึงศึกษาเกี่ยวกับการทำสมาธิและอุปัฏฐากหลวงปู่กงมาตลอดมา ต่อมาวันหนึ่ง หลวงพ่อทำงานหนักจึงล้มป่วยเป็นอัมพาต บิดาหาหมอมารักษา แต่ก็ไม่หาย ท่านได้แต่นอนอธิษฐานอยู่ในใจว่า “ถ้ามีผู้ใดมารักษาให้หายจากอัมพาตได้ จะอุทิศตนเพื่อพระพุทธศาสนาทั้งสิ้น” ไม่นานก็ปรากฏว่ามีตาผ้าขาวคนหนึ่งมาหา พร้อมทั้งถามว่าอธิษฐานดังนั้นจริงไหม หลวงพ่อก็ตอบว่าจริง จึงให้พูดให้ได้ยินดัง ๆ หน่อย ท่านก็พูดให้ฟัง ตาผ้าขาวก็เอาหัวไพรมาเคี้ยว ๆ แล้วก็พ่นใส่ เช้าตรู่วันรุ่งขึ้นปรากฏว่าท่านกระดิกตัวได้และลุกขึ้นเดินได้อย่างน่าอัศจรรย์ หลังจากนั้นก็ได้ใส่บาตรตาผ้าขาวที่หน้าบ้าน แล้วบอกให้หลวงพ่อไปหาที่ใต้ต้นมะขาม วัดสว่างอารมณ์ เมื่อไปถึงตาผ้าขาวก็ให้พูดคำอธิษฐานให้ฟังอีกครั้ง แล้วเอามีดไปตัดหางควายมาชูให้ดู แล้วก็ต่อหางคืนไปใหม่ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น พร้อมกับถามว่า “ลุงเก่งไหม” หลังจากนั้นตาผ้าขาวก็บอกคาถาให้ แต่ให้หลวงพ่อท่องทุกวันเป็นเวลา 10 ปีจึงใช้ได้ พร้อมทั้งบอกว่าวันรุ่งขึ้นให้เตรียมใส่บาตร ปรากฏว่าไม่พบตาผ้าขาวอีกเลยจนกระทั่งบัดนี้ ในปี 2477 เมื่ออายุได้ 15 ปี หลวงพ่อได้บวชเป็นผ้าขาว ณ วัดสุทธจินดาวรวิหาร ต.โพธิ์กลาง นครราชสีมา โดยมีพระธรรมฐิติญาณ เป็นพระอุปัชฌาย์ หลังจากนั้นก็ได้ติดตามหลวงปู่กงมาออกธุดงค์ตามป่าเขาลำเนาไพร เพื่อแสวงหาสถานที่วิเวก ครั้งหนึ่งที่ดงพญาเย็น ได้พบโจรกลุ่มหนึ่งพร้อมอาวุธครบมือมาล้อมไว้ หลวงปู่กงมาได้เทศน์สั่งสอนโจร ปรากฏว่ากลุ่มโจรทั้งหมดวางอาวุธ ก้มลงกราบหลวงปู่กงมาอย่างนอบน้อม หัวหน้าโจรชื่อว่า “อุง” ได้มอบตัวเป็นศิษย์ บวชเป็นตาผ้าขาวถือศีล 8 เดินธุดงค์ไปด้วยกัน จนกระทั่งหมดลมหายใจขณะทำสมาธิในกลด ต่อมาในปี 2479 หลวงปู่กงมาได้นำสามเณรวิริยังค์ ไปเผยแพร่ธรรมะที่ จ.จัทบุรี โดยสารทางเรือกลไฟชื่อ “ภาณุรังษี” ตามคำอาราธนาของนายอำเภอท่าใหม่ จ.จันทบุรี ชื่อ “ขุนภูมิประศาสน์” เนื่องจากพระสหธรรมิกของหลวงปู่กงมา ท่านพ่อลี ธัมมธโร ที่ได้ไปเผยแพร่ธรรมะที่ จ.จันทบุรี ก่อนหน้านั้นแล้วในปี 2478 ไม่สามารถรับกิจนิมนต์อีกได้ เนื่องจากมีผู้สนใจธรรมะเพิ่มมากขึ้น ต่อมาหลวงปู่กงมาจึงได้สร้างวัดธรรมยุตแห่งที่ 2 ของ จ.จันทบุรี ขึ้น ชื่อว่า “วัดทรายงาม” ในพื้นที่ป่าช้าเก่าที่ชาวบ้านถวายให้ ในขณะนั้นเอง หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ได้กลับมาพำนักที่ จ.สกลนครแล้ว หลังจากที่ไปจาริกธุดงค์ที่ภาคเหนือนานถึง 12 ปี สามเณรวิริยังค์จึงมีความประสงค์จะไปมอบตัวเป็นศิษย์หลวงปู่มั่น การอุปสมบทหลวงพ่อจึงเกิดขึ้นก่อนไม่นาน ในวันที่ 20 พฤษภาคม 2484 ขณะที่มีอายุ 21 ปี ได้อุปสมบท ณ วัดทรายงาม บ้านหนองบัว จันทบุรี ประกอบพิธีทางสิมน้ำ โดยพระปัญญาพิศาลเถร เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงปู่กงมา จิรปุญฺโญ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระมหาทองสุข สุจิตโต เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “สิรินฺธโร” (ผู้ทรงไว้ซึ่งความดี) หลังจากนั้น หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธฺโร กับ หลวงปู่กงมา จิรปุญโญ จึงออกเดินทางไปทางป่าเขาจาก จ.จันทบุรี มุ่งสู่ จ.สกลนคร โดยใช้เวลาประมาณ 3 เดือน ได้ไปกราบและมอบตัวเป็นศิษย์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ซึ่งขณะนั้นพำนักอาศัยอยู่ที่เสนาสนะบ้านโคก ต.ตองโขบ อ.โคกศรีสุพรรณ เพื่อปฏิบัติธรรมและอุปัฏฐากหลวงปู่มั่นตั้งแต่ปี 2485 จนถึงปี 2488 เป็นระยะเวลา 4 ปีด้วยกัน ต่อมาหลวงพ่อได้ติดตามหลวงปู่มั่นไปปฏิบัติธรรม ณ ที่วัดป่าบ้านหนองผือ ต.นาใน ต่อมาหลวงปู่มั่นได้แนะนำให้หลวงพ่อกลับไปพัฒนาวัดต่าง ๆ ต่อที่ จ.จันทบุรี ในปี 2489 เป็นต้นมา ซึ่งหลังจากออกพรรษาแล้ว หลวงพ่อก็จะรีบเดินทางออกจาก จ.จันทบุรี เพื่อกลับไปอุปัฏฐากหลวงปู่มั่นที่วัดป่าบ้านหนองผือทุกปี จนกระทั่งหลวงปู่มั่นมรณภาพ หลังจากหลวงปู่มั่นมรณภาพแล้ว หลวงพ่อได้กลับไปเผยแพร่ธรรมะและสร้างวัดขึ้นที่ จ.จันทบุรี อีกหลายวัด จนแล้วเสร็จสมบูรณ์ ต่อมาในปี 2506 จึงได้เข้ามากรุงเทพ ฯ เพื่อเริ่มต้นสร้างวัดธรรมมงคล และวัดต่าง ๆ อีกหลายวัด รวมแล้ว 13 วัดในประเทศไทย อีกทั้งยังสร้างวัดไทยในประเทศแคนาดาอีก 6 แห่ง สร้างวิทยาลัยสงฆ์ 2 แห่ง รวมทั้งสถาบันการศึกษา โรงพยาบาล สถาบันพลังจิตตานุภาพ สถาบันออกแบบนานาชาติชนาพัฒน์ โรงเรียนอนุบาล และสถานที่สำคัญต่าง ๆ อีกมากมาย นับว่าเป็นคุณูปการอันใหญ่หลวงของมนุษยโลกที่หลวงพ่อมีต่อพระพุทธศาสนา เพื่อความสันติสุขของโลก จนเป็นที่ประจักษ์ชัดต่อสาธารณชนทั่วไป ดังจะเห็นได้จากการที่สถาบันการศึกษาได้ถวายปริญญากิตติมศักดิ์แก่หลวงพ่อมากถึง 13 แห่ง รวมทั้งการได้รับการยอมรับจากองค์กรต่าง ๆ ทั้งไทยและเทศ |
พระเครื่องที่เกี่ยวข้องในร้านค้านี้...










อื่นๆ...
กำหลังโหลด Comments