-
0 8 6 - 5 6 0 4 0 3 7
หมวด พระเกจิภาคกลางตอนล่าง
สมเด็จปรกโพธิ์ หลวงปู่ไปล่ วัดดาวเรือง ปทุมธานี 1
ชื่อร้านค้า | จ่าจีระสิทธิ์ - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า) |
---|---|
ชื่อเจ้าของร้านค้า | |
ชื่อพระเครื่อง | สมเด็จปรกโพธิ์ หลวงปู่ไปล่ วัดดาวเรือง ปทุมธานี 1 |
อายุพระเครื่อง | 40 ปี |
หมวดพระ | พระเกจิภาคกลางตอนล่าง |
ราคาเช่า | - |
เบอร์โทรติดต่อ | 08-6560-4037 |
อีเมล์ติดต่อ | Tayanrum@hotmail.com |
LINE |
(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
|
สถานะ | |
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ | ส. - 10 ก.ย. 2565 - 21:29.16 |
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ | ส. - 11 ก.พ. 2566 - 23:10.03 |
รายละเอียด | |
---|---|
สวยเดิม ศิษย์มีครู 28 พฤษภาคม 2020 · หลวงปู่ไปล่ วัดดาวเรือง ปทุมธานี ร่ำลือกันจนทั่วตำบลบางพูด ว่า ท่านพระครูปัญญาพลคุณ หรือที่ชาวบ้านทั่วๆ ไปเรียกท่านว่า "พระครูไปล่" เป็นพระแท้ มีคุณธรรมสูง มีพรหมวิหาร 4 มีอัธยาศัยโอบอ้อมอารี มีอารมณ์แจ่มใสอยู่เสมอมีแต่ความเมตาแก่บรรดาศิษย์ทุกคนเสมอเหมือนกันหมด ชาวบางพูดยกย่องท่านเป็น เทพเจ้าแห่งความเมตตา ท่านไม่เคยดุหรือกล่าวว่าใคร จนกระทั่งมีคำกล่าวกันว่า "ท่านมีปากพระร่วง" หรือ "มีวาจาศักดิ์สิทธิ์" ถ้าลองได้ดุหรือว่าใครแล้ว ผู้ที่ถูกว่าจะถึงกับอับโชคไปนานทีเดียว หรือหากมีใครต้องถูกตำหนิจากท่านแล้ว ก็มักจะต้องเป็นจริงตามนั้นเสมอ หลวงปู่ไปล่ หรือ ท่านพระครูไปล่ ท่านเป็นผู้ที่มีความเกรงใจคนมาก มีความมักน้อย พอใจเพียงสมณสารรูป ไม่มีความทะเยอทะยานมักใหญ่ใฝ่สูงในลาภ ยศ สรรเสริญ คำสอนที่ได้ให้แก่ลูกศิษย์ลูกหาของท่าน ก็จัดว่าเป็นคำสั่งสอนที่เป็นสัจจวาจา และอมตะตลอกกาล เช่น ท่านจะสั่งสอนลูกศิษย์ของท่านอยู่เสมอๆ ว่า "จงอย่าลืมตนอย่าหลงงมงายในลาภ ยศสรรเสริญ มีลาภก็มีเสื่อมลาภมียศก็มีเสื่อมยศ มีสรรเสริญก็มีนินทา มีสุขก็มีทุกข์ เป็นธรรมดาโลก คนเราถ้าไม่ประพฤติปฏิบัติตัวอยู่ในทางที่ดีแล้วแม้จะมีพระศักดิ์สิทธิ์ เพียงใดห้อยคอ ก็ไม่สามารถจะปกปักรักษาหรือให้คุณแก่เจ้าของได้เลย จงรู้จักกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ แล้วจะไม่มีวันตกอับในชีวิตเลย" ดังนั้นบรรดาศิษย์ที่ได้ผ่านการอบรมสั่งสอนจากหลวงปู่ส่วนมากจะพบกับความ สำเร็จในชีวิต มีความก้าวหน้าในหน้าที่การงานและชีวิตส่วนตัวเพราะบารมีของหลงปู่นั่นเอง หลวงปู่ไปล่ เมื่อเยาว์วัย บิดา-มารดา ได้นำไปฝากกับพระให้อยู่ที่วัดดาวเรืองเพื่อศึกษาเล่าเรียนหนังสือไทยหลวง ปู่ได้เล่าเรียนหนังสือกับพระอาจารย์ที่เก่งหนังสือไทยหลายรูป โดยเฉพาะ พระอาจารย์เปรม และท่านเจ้าอาวาสขณะนั้น หลวงปู่ได้ศึกษาเล่าเรียนหนังสือไทยจนเก่งและมีความชำนาญมาก เมื่อเรียนหนังสือไทยจนเก่งและแตกฉานแล้ว หลวงปู่ก็หันมาเรียนหนังสือขอม กับพระอาจารย์ที่เก่งหนังสือขอมในวัดดาวเรื่อง ท่านมีความวิริยะอุตสาหะพยายามศึกษาเล่าเรียนจนเก่งหนังสือขอมสามารถอ่าน และเขียนหนังสือขอมได้เป็นอย่างดี สามารถเขียนและลงจารอักขระขอมได้ ในสมัยเป็นเด็ก หลวงปู่เป็นคนขี้โรค ไม่ค่อยจะแข็งแรง รูปร่างผอมบาง ท่านจึงอยู่วัดนานที่สุด จนโตเป็นหนุ่มภายในวัด และเมื่อมีอายุครบกำหนดเกณฑ์ทหารหลวงปู่ออกจากวัดดาวเรืองไปรับราชการทหาร เป็นทหารมหาดเล็กหลวง ในรัชกาลที่ 6 รักษาพระองค์ เมื่อพ้นจากราชการทหารแล้วก็กลับมาอยู่วัดบ้าง อยู่บ้านบ้าง ในที่สุด บิดา-มารดา ก็ได้จัดการสู่ขอภรรยา ให้สมรสกับ นางทองอยู่ ซึ่งเป็นธิดาของนายฉิม-นางชุ่ม นามสกุล บุญมี ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ที่หมู่ 6 ตำบลบางพูด อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี เมื่อปี พ.ศ. 2465 ขณะนั้นหลวงปู่มีอายุ 25 ปี เมื่อสมรสแล้วหลวงปู่ได้ประกอบอาชีพทำส่วนผัก ในตำบลเชียงรากใหญ่ บ้านเกิด อยู่นานถึง 6 ปี มีบุตร-ธิดา รวม 2 คน คือ 1. นางทองสุข เนิดน้อย 2. นายปรุยุทธ์ ภูมิจันทร์ พ.ศ. 2469 ตัดสินใจอุปสมบท ระหว่างปี พ.ศ. 2469-2470 เกิดโรคระบาดใหญ่ ชาวบ้านเรียกว่า "โรคห่า" (อหิวาตกโรค) หรือโรคท้องร่วง โรคดัง กล่าวนี้ในสมัย พ.ศ.2469 การแพทย์ยังไม่เจริญเช่นปัจจุบัน จึงเป็นโรคที่น่ากลัวมาก เพราะได้คร่าชีวิตของผู้คนไปมากมาย โดยไม่ละเว้นว่าเป็นคนดีหรือคนไม่ดี เด็กหรือผู้ใหญ่ คนแก่ หรือคนหนุ่มสาว นางทองอยู่ ภรรยาของหลวงปู่ ถึงแก่กรรมด้วยโรคร้ายนั้น เมื่อปี พ.ศ. 2469 ทิ้งบุตร ซึ่งยังเล็กมากไว้ 2 คน หลวง ปู่ขณะนั้นมีความรู้สึกเศร้าโศกเสียใจมาก หลังจากภรรยาถึงแก่กรรมได้เพียง 13 วัน หลวงปู่จึงตัดสินใจอุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดดาวเรือง ตำบลบางพูด อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี ซึ่งเป็นวัดที่ท่านคลุกคลีและเคยอาศัยอยู่มานานกว่าอยู่บ้านตัวเอง หลวงปู่ได้อุปสมบท เมื่อปี พ.ศ. 2469 ขณะนั้นมีอายุได้ 29 ปี โดยมี พระครูบวรธรรมกิจ (หลวงปู่เทียน) วัดโบสถ์ อำเภอเมืองปทุมธานี และเจ้าคณะตำบลบ้านกลาง เป็นอุปัชฌาย์ พระอธิการเปลื้อง วัดโพธิ์เลื่อน อำเภอเมืองปทุมธานี เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอธิการเท่ง วัดบางขันธ์ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า "ปทีโป" ในเรื่องฉายาของท่าน ท่านได้เล่าให้ฟังว่า เดิมพระครูบวรธรรมกิจ (หลวงปู่เทียน) ซึ่งเป็นอุปัชฌาย์ ได้ตั้งไว้ว่า "ปทีโป" หลวงปู่ท่านก็เจ็บออดๆ แอดๆ มาตลอด จนในที่สุด หลวงปู่เทียนได้เปลี่ยนฉายาให้ใหม่ว่า "ปญฺญาพโล" ตั้งแต่นั้นมา หลวงปู่ไหล่ก็ได้หายจากการเจ็บป่วย จึงนับว่าฉายา "ปญฺญาพโล" เป็นนามมงคลของหลวงปู่ เมื่อหลวงปู่อุปสมบทแล้วก็จำพรรษาอยู่ที่วัดดาวเรืองมาโดยตลอด ท่านมีความขยันอุตสาหะ ท่องบ่นสวดมนต์ศึกษาเล่าเรียนทั้งพระปริยัติธรรม และปฏิบัติ รวมทั้งเรียนเวทมนต์ คาถา อยู่โดยมิได้ขาดมีศิลาจารวัตรเคร่งครัดในพระธรรมวินัย มีความสงบเสงี่ยมในสมณเพศ หน้าที่ปกครองและสมณศักดิ์ ในพรรษาที่ 3 ปี พ.ศ. 2471 หลวงปู่ไปล่ ได้รับการแต่งตั้งให้รักษาการเจ้าอาวาสวัดดาวเรือง ทั้งนี้เพราะ พระอธิการขาว ชราภาพมากทางคณะสงฆ์จึงยกพระอธิการขาวขึ้นเป็นกิตติมาศักดิ์ และให้หลวงปู่ไปล่เป็นผู้รักษาการเจ้าอาวาสวัดดาวเรือง ผู้แต่งตั้งในครั้งนั้น คือ พระครูศีลานุโลมคุณ เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี และต่อมาได้แต่งตั้งให้หลวงปู่ไปล่เป็นพระกรรมวาจาจารญ์ เป็นพระคู่สวดนาคในการอุปสมบท พรรษาที่ 8 ปี พ.ศ. 2476 ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดดาวเรือง เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2476 ขณะนั้นหลวงปู่ มีอายุ 36 ปี พรรษา 8 ปี พ.ศ. 2505 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระชั้นประทวน ที่พระครูไปล่ ปญฺญาพโล ต่อมาในวันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2524 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร ชั้นโท ที่พระครูปัญญาพลคุณ ได้รับเงินนิตยภัตรเดือนละ 60 บาท เป็นประจำทุกเดือน หลวงปู่ไปล่ ได้ปกครองสงฆ์ ในวัดดาวเรือง ได้เป็นอย่างดี โดยยึดหลัก " เมตตาธรรม" ทั้งพรดะภิกษุ สามเณรอุบาสก อุบาสิกา ชาวบ้านศิษย์วัด ต่างก็ให้การเคารพท่าน เกรงอกเกรงใจท่านหลวงปู่มักจะพูดให้ฟังเสมอว่า "ฉันไม่อยากให้ใครโกรธ และอย่าทำให้คนอื่นโกรธได้เป็นการดี" ท่านจึงไม่เคยพูดหรือบ่นว่าให้ใครเจ็บซ้ำน้ำใจเลยหลวงปู่จึงเป็นผู้ที่เต็มเปี่ยมด้วยสายธารแห่งเมตตาธรรมเป็น เทพเจ้าแห่งความเมตตา " หลวงปู่ไปล่ ปญฺญพโล เป็นศิษย์สาย พระครูบวรธรรมกิจ (หลวงปู่เทียน) วัดโบสถ์ จังหวัดปทุมธานี ผู้สร้างพระสมเด็จเนื้อผงอันเลื่องลือว่ามีเนื้อ และมวลสารคล้ายสมเด็จบางขุนพรหม " หลวงปู่ไปล่ ปญฺญพโล นับว่าเป็นพระเกจิอาจารย์รูปหนึ่งของเมืองปทุมธานีที่คณะศิษย์กลุ่มใหญ่ และประชาชนทั่วไปมีความเคารพ ความศรัทธาเลื่อมใสด้วยความจริงใจด้วยศีลาจารวัตรเสมอต้นเสมอปลายไม่โลดโผน แต่เยือกเย็น จึงได้ฉายาว่า "เทพเจ้าแห่งความเมตตา" " หลวงปู่ไปล่ ปญฺญพโล ได้รับการถ่ายทอดวิทยาคมจากท่านเจ้าคุณ พระอริยทัตธสังฆปาโมกข์ พระอาจารย์แห่งความเมตตา " การสร้างวัตถุมงคลแต่ละรุ่น ไม่ว่าจะเป็นพระสมเด็จเนื้อผง รุ่น 1 พ.ศ. 2500 เหรียญรุ่น 1 พ.ศ. 2519 พระปิดตารุ่น 1 พ.ศ. 2526 ล้วนมีพุทธคุณและประสบการณ์สูง ไม่เคยสร้างความผิดหวังเลย ที่มา พลังจิตดอทคอม พระผงสมเด็จรุ่นแรกนี้มีประสบการณ์มากในหมู่ลูกศิษย์ลูกหาของหลวงปู่ อาทิเช่น นายจาริก สุวรรณโรจน์ ภูมลำเนาอยู่ตำบลบางพูด อำเภอเมืองปทุมธานีได้ขับรถมาสด้า 2 แถว ไกธุระกับเพื่อนหลายคน เมื่อวันที่ 24 สิ่งหาคม พ.ศ. 2525 ขณะรถวิ่งด้วยความเร็วสูง ยางหน้ารถเกิดระเบิด รถพลิกคว่ำหลายตลบ แถวบริเวณอ้อมน้อย ปรากฏว่าเพื่อนๆ ที่เดินทางไปด้วยได้รับบาดเจ็บแขนหักบ้าง หน้าแตกบ้าง ต้องส่งเข้าโรงพยาบาลกันเป็นแถวอันตรายใดๆ เลยเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์มากปรากฏว่า นายจาริก พกพระผงสมเด็จหลวงปู่ไปล่ รุ่นแรกไปองค์เดียว ด้วยอิทธิปาฏิหาริย์ของพระผงสมเด็จนี้เองจึงทำให้นายจาริกแคล้วคลาดจาก อันตรายทุกอย่างจากอุบัติเหตุรถคว่ำ เหรียญรุ่นแรกหลวงปู่ไปล่ ก่ออภินิหารช่วยเด็กรอดจากการจมน้ำตาม นายสมบุญ บ้านอยู่ตำบลเชียงรากใหญ่ อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี ได้รับเหรียญ รุ่น 1 ของหลวงปู่ไปล่ไปแล้วนำไปห้อยคอบุตรสาวที่กำลังเริ่มคลานเก่ง ด้วยความเผลอของผู้เป็นแม่ ลูกสาวคลานตกน้ำไป โดยไม่มีใครทราบ เพราะเวลานั้นเป็นฤดูน้ำท่วมพอดี เมื่อนึกถึงลูกได้ ผู้เป็นแม่เที่ยววิ่งหาลูกกันวุ่น พบลูกลอยคอป๋ออยู่ในน้ำไม่ได้รับอันตรายและเด็กก็ไม่ร้อง จึงได้ทราบว่า เพราะเหรียญรุ่นแรกหลวงปู่ไปล่ ช่วยคุ้มครองลูกสาว รอดจากการจมน้ำตาย เรื่องนี้เป็นที่เลื่องลือกันมาก ในตำบลเชียงราก และตำบลบางพูด ในขณะนั้น อีกเรื่องหนึ่ง นายสาโรจน์ คราประยูร อายุ 18 ปี ห้อยเหรียญหลวงปู่ไปล่รุ่นแรก ติดตัวเป็นประจำ วันหนึ่งไปบ้านลุง ที่ตำบลบางพูดซึ่งปลูกบ้านอยู่ชายคลอง ใต้ถุนบ้านมีเรือจอดอยู่หลายลำนายสาโรจน์ออกมานอกชานบ้าน จะด้วยเหตุใดไม่ทราบกระดานลื่นหัวทิ่มคะมำตกลงไปในเรือซึ่งจอดอยู่ใจ้ถุน เรือน ศีรษะปักลงถูกกราบเรือนอนแผ่ไม่ได้สติ ทุกคนลงความเห็นว่า คอหักแน่ แต่เปล่าไม่ได้รับอันตรายเลยแม้แต่น้อย เพียงสลบไปสักครู่เท่านั้น เพราะเหรียญหลวงปู่ไปล่ช่วยคุ้มครองจึงรอดตาย วัดดาวเรือง ตำบลบางพูด อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี ทางไปวัดดาวเรือง ลงรถที่รังสิต แล้วเช่ารถ 2 แถวไปหรือถ้ามารถส่วนตัว พอถึงรังสิตแล้ว เลี้ยวซ้ายไปตามเส้นทางสร้างใหม่รังสิต จังหวัดปทุมธานี เกือบถึงสะพานบางพูน ระยะทางจากแยกรังสิตประมาณ 4 ก.ม. เลี้ยวขวาไปทางเส้นทางลูกรังอีก 6 ก.ม. ก็ถึงวัดดาวเรือง ขอย้ำในตอนก่อนจบเรื่องว่า วัตถุมงคลหลวงปู่ไปล่ ปญฺญาพโล ทุกอย่างล้วนมีพุทธคุณสูง ทั้งนี้เพราะเกิดจากญาณของพระอริยสงฆ์คือหลวงปู่ไปล่ ที่ได้บรรจุพลังพุทธคุณลงไป " หลวงปู่ไปล่ ปญฺญพโล เป็นศิษย์ส่ายพระครูบวรธรรมกิจ (หลวงปู่เทียน) วัดโบสถ์ จังหวัดปทุมธานี ผู้สร้างพระสมเด็จเนื้อผงอันเลื่องลือว่ามีเนื้อ และมวลสารคล้ายสมเด็จบางขุนพรหม ที่มา พลังจิตดอทคอม |
พระเครื่องที่เกี่ยวข้องในร้านค้านี้...
อื่นๆ...
กำหลังโหลด Comments