หมวด ครูบาศรีวิชัย วัดบ้านปาง - หลวงพ่อเกษม สุสานไตรลักษณ์ - หลวงพ่อประสิทธิ์ วัดป่าหมู่ใหม่

เหรียญกรอบรูป หลวงพ่อเกษม สุสานไตรลักษณ์ พ.ศ. 2536

เหรียญกรอบรูป หลวงพ่อเกษม สุสานไตรลักษณ์ พ.ศ. 2536 - 3

เหรียญกรอบรูป หลวงพ่อเกษม สุสานไตรลักษณ์ พ.ศ. 2536 - 4

ชื่อร้านค้า	จ่าจีระสิทธิ์ - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า	jeerasit (112)
ชื่อพระเครื่อง	เหรียญกรอบรูป หลวงพ่อเกษม สุสานไตรลักษณ์ พ.ศ. 2536
อายุพระเครื่อง	32 ปี
หมวดพระ	ครูบาศรีวิชัย วัดบ้านปาง - หลวงพ่อเกษม สุสานไตรลักษณ์ - หลวงพ่อประสิทธิ์ วัดป่าหมู่ใหม่
ราคาเช่า	-
เบอร์โทรติดต่อ	08-6560-4037
อีเมล์ติดต่อ	Tayanrum@hotmail.com
LINE	(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
สถานะ
Facebook	Share
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่	ส. - 23 เม.ย. 2565 - 21:27.20
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ	พฤ. - 28 เม.ย. 2565 - 10:19.23

รายละเอียด
เหรียญกรอบรูป หลวงพ่อเกษม สุสานไตรลักษณ์ พ.ศ. 2536 - เหรียญแห่งภาพศักดิ์สิทธิ์ แห่งตนบุญล้านนาบรรพชาในบวรพระพุทธศาสนา ครบ 5 รอบ 60 ปี รุ่น 5 รอบพรรษา มหาเมตตาบารมี - สุสานไตรลักษณ์ ลำปาง ขนาด 2.5 ซม. × 3 ซม. ปั๊มหนา สวยเดิม เรียญยอดนิยมที่ นิตยสารศักดิ์สิทธิ์ สร้าง "ภาพยิ้มเมตตา" เหรียญกรอบรูป หลวงพ่อเกษม สุสานไตรลักษณ์ ปีพ.ศ. 2536 - เหรียญแห่งภาพศักดิ์สิทธิ์ แห่งคนบุญล้านนาบรรพชาในบวรพระพุทธศาสนา ครบ 5 รอบ 60 ปี รุ่น 5 รอบพรรษา มหาเมตตาบารมี - สุสานไตรลักษณ์ ลำปาง ขนาด 2.5 ซม. × 3 ซม. นิตยสารศักดิ์สิทธิ์ สร้าง เหรียญละ 490 พร้อมส่ง #ems. ------------------------------------------------- "ภาพยิ้มเมตตา" หลวงพ่อเกษม เขมโก กมล เอกมโนชัย ผู้อำนวยการและเจ้าของนิตยสารศักดิ์สิทธิ์ ได้ปรารภกับสุวิทย์ เกิดพงษ์บุญโชติ ด้วยอยากได้รูปภาพสวย ๆ ของหลวงปู่ครูบาเจ้าเกษม เขมโก มาลงปกนิตยสารศักดิ์สิทธิ์ เพราะยังไม่เคยมีภาพสวยๆ ของหลวงปู่ท่านเลยสักภาพเดียว ด้วยบารมีหลวงปู่ ที่ล่วงรู้ลึกเข้าไปถึงความตั้งใจมั่น อีกไม่กี่วันต่อมา เจ้าประเวทย์ ณ ลำปาง ประธานคณะศิษยานุศิษย์หลวงปู่ ได้บอกมาทางโทรศัพท์ว่า วันเกิดปีนี้หลวงปู่จะไปเทศน์ที่บ้านเจ้าประเวทย์ ถ้าว่างก็ให้ไปที่บ้านด้วย ระหว่างเดินทาง ทีมงานนิตยสารศักดิ์สิทธิ์ ต่างสนทนาวาดหวังกันไปตลอดทาง ถึงจุดมุ่งหมายการเดินทางในครั้งนั้น ต่างเป็นกังวลด้วยหลวงปู่ไม่ค่อยจะอนุญาตให้ใครถ่ายภาพของท่าน หรือแม้ท่านจะอนุญาตให้ถ่าย ก็มักได้ภาพที่ไม่ใคร่สมบูรณ์นัก ต่างเปรยเชิ่งบ่นเบา ๆ ปนความคาดหวังแบบลมๆ แล้งๆ ว่า • ถ้าได้เข้าไปถ่ายภาพในตอนที่ไม่มีใครอยู่ด้วยก็ดี เพราะขณะคนเยอะ ๆ มักได้ภาพที่ไม่สมบูรณ์นัก • ถ้าหลวงปู่ท่านอยู่ภายในกุฏิ จะสวมแต่เพียงอังสะตัวเดียว ภาพจะไม่สมบูรณ์ ด้วยไม่ได้ห่มจีวร • ถ้าได้เข้าไปถ่ายรูปท่านตรงหน้า และท่านมองกล้องแล้วยิ้ม ได้ถ่ายสักภาพ ช่างภาพคงช็อกแน่ ๆ • ถ้าหลวงปู่ท่านไม่ปิดผ้าก๊อดก็ดี ผู้อ่านก็จะได้เห็นกันเองว่า หลวงปู่ท่านเป็นอะไรถึงปิดผ้าก๊อดไว้ หลังจบการสนทนาในเรื่องนี้ ทีมงานนิตยสารศักดิ์สิทธิ์ ต่างยกมือไหว้ สะมะณัง วันทามิ จบเหนือหัว ด้วยความหวังว่าจะให้คำพูดของทีมงาน ให้ได้ยินไปถึงหลวงปู่ หลังจากเข้าอวยพรเจ้าประเวทย์ในเย็นวันนั้น รวมทั้งได้รับเมตตาจากหลวงปู่ด้วยการโยงเป่าสายสิญจน์แล้ว เจ้าประเวทย์ก็ให้ทางทีมงานนิตยสารศักดิ์สิทธิ์มาพบอีกครั้งในตอนเช้าของวันถัดไป - รุ่งขึ่นทีมงานไปกันแต่เช้า แต่ก็พบว่าคนเต็มบ้านเจ้าประเวทย์เต็มไปหมด ตั้งแต่เช้าเช่นกัน ทำให้ต้องรอคอยกันอยู่หลังสุด และทีมงานไม่กล้าคิดกล้าหวังกันแล้วว่า จะได้ภาพหลวงปู่ เหมือนอย่างที่ได้นั่งคุยกันมาในรถ และแล้ว จู่ จู่ ก็มีเสียงเรียกอยู่หน้าห้องของหลวงปู่ว่า “ศักดิ์สิทธิ์สองคน หลวงปู่ให้เข้าไปถ่ายรูปในห้อง” ทั้งคุณกมลและช่างภาพ ต่างตกตะลึงตัวชาไปหมด ไม่แน่ใจว่าเป็นความจริง จึงยังนั่งนิ่งอยู่กับที่ จนมีเสียง คุณอมร วงศ์แหลมทอง จากหนังสือ “เซียนพระ” ยืนเรียกอีกว่า “ศักดิ์สิทธิ์ หลวงพ่อให้เข้าไปถ่ายรูปในห้อง” นั่นแหละทั้งสองจึงลนลานกันเข้าไปในห้องของหลวงปู่ ภายในห้องของหลวงปู่ ทีมงานนิตยสารศักดิ์สิทธิ์ถึงกับเข่าอ่อน ทรุดลงกราบแทบเท้าหลวงปู่ กับภาพที่หลวงปู่ท่านได้ปรากฏต่อหน้า เหมือนท่านรับทราบถึงสิ่งที่ทีมงานนิตยสารศักดิ์สิทธิ์ได้คาดหวังไว้ และยังได้สัมผัสกับกระแสแห่งเมตตาจิตอย่างที่สุดจากสายตาของหลวงปู่ อันทรงพลังอำนาจมาก ทั้งคุณกมลและช่างภาพ ต่างรีบถ่ายภาพหลวงปู่ ถ่ายสลับกันอยู่เป็นเวลานานพอสมควร จนมีอยู่ครั้งหนึ่ง ที่หลวงปู่ท่านหันหน้ามามองช่างภาพ และยิ้มให้ และได้พูดขึ้นว่า “ถ่ายไปทำไมเยอะแยะ หลวงปู่ไม่ใช่นางงามนะ” นับว่าภาพนี้ ดูเหมือนว่าเป็นภาพสุดท้ายที่ทีมงานไมได้คิดไม่ได้หวังว่า ภาพนี้จะดีหรือไม่ดีอย่างไร ด้วยคาดหวังกับภาพที่หลวงปู่ท่านนั่งให้ถ่ายก่อนหน้า ที่มีการเตรียมการและใช้เวลานานมากกว่า ช่างภาพที่ถ่ายภาพหลวงปู่ในครั้งนี้ เป็นช่างภาพที่เคยคว้ารางวัลชนะเลิศการถ่ายภาพ แต่หลังจากรับรูปที่ล้างอัดไว้จากร้าน “อาภากร” ที่มีฝีมือเยี่ยมแล้ว พอเปิดอัลบั้มรูปภาพทั้งหมดออกดู ทั้งหมดแทบหมดแรง พลิกดูจนหมดอัลบั้ม ภาพที่วาดหวังไว้นั้นมัวซัวไปหมด เพราะไฟแฟล็ชไม่ทำงานหรือเพราะเหตุใดก็ไม่ทราบ ภาพที่ได้ถ่ายเป็นภาพสุดท้ายนั้น เป็นภาพขึ้นหน้าปกในฉบับที่ 223 เป็นสิริมงคล เพราะเป็นฉบับที่ก้าวขึ้นสู่ปีที่ 10 ของนิตยสารศักดิ์สิทธิ์พอดี --------------------------------------------------------- เหรียญกรอบรูป “มหาเมตตาบารมี” หลวงพ่อเกษม ได้นำภาพยิ้มเมตตาเป็นต้นแบบ เพื่อแจกจ่ายในวาระที่หลวงปู่เกษมท่านบรรพชาในบวรพระพุทธศาสนามาครบ 5 รอบ 60 ปี มีโค๊ต ศ อยู่ในวงล้อม อันเป็นเหรียญที่จัดทำโดยนิตยสารศักดิ์สิทธิ์ ผู้บันทึกภาพยิ้มเมตตานั่นเอง

รายละเอียด

เหรียญกรอบรูป หลวงพ่อเกษม สุสานไตรลักษณ์ พ.ศ. 2536

- เหรียญแห่งภาพศักดิ์สิทธิ์ แห่งตนบุญล้านนาบรรพชาในบวรพระพุทธศาสนา ครบ 5 รอบ 60 ปี รุ่น 5 รอบพรรษา มหาเมตตาบารมี - สุสานไตรลักษณ์ ลำปาง
ขนาด 2.5 ซม. × 3 ซม. ปั๊มหนา สวยเดิม

เรียญยอดนิยมที่
นิตยสารศักดิ์สิทธิ์ สร้าง

"ภาพยิ้มเมตตา" เหรียญกรอบรูป หลวงพ่อเกษม สุสานไตรลักษณ์ ปีพ.ศ. 2536 - เหรียญแห่งภาพศักดิ์สิทธิ์ แห่งคนบุญล้านนาบรรพชาในบวรพระพุทธศาสนา ครบ 5 รอบ 60 ปี รุ่น 5 รอบพรรษา มหาเมตตาบารมี - สุสานไตรลักษณ์ ลำปาง
ขนาด 2.5 ซม. × 3 ซม.
นิตยสารศักดิ์สิทธิ์ สร้าง
เหรียญละ 490 พร้อมส่ง #ems.
-------------------------------------------------
"ภาพยิ้มเมตตา"
หลวงพ่อเกษม เขมโก
กมล เอกมโนชัย ผู้อำนวยการและเจ้าของนิตยสารศักดิ์สิทธิ์ ได้ปรารภกับสุวิทย์ เกิดพงษ์บุญโชติ ด้วยอยากได้รูปภาพสวย ๆ ของหลวงปู่ครูบาเจ้าเกษม เขมโก มาลงปกนิตยสารศักดิ์สิทธิ์ เพราะยังไม่เคยมีภาพสวยๆ ของหลวงปู่ท่านเลยสักภาพเดียว
ด้วยบารมีหลวงปู่ ที่ล่วงรู้ลึกเข้าไปถึงความตั้งใจมั่น อีกไม่กี่วันต่อมา เจ้าประเวทย์ ณ ลำปาง ประธานคณะศิษยานุศิษย์หลวงปู่ ได้บอกมาทางโทรศัพท์ว่า วันเกิดปีนี้หลวงปู่จะไปเทศน์ที่บ้านเจ้าประเวทย์ ถ้าว่างก็ให้ไปที่บ้านด้วย
ระหว่างเดินทาง ทีมงานนิตยสารศักดิ์สิทธิ์ ต่างสนทนาวาดหวังกันไปตลอดทาง ถึงจุดมุ่งหมายการเดินทางในครั้งนั้น ต่างเป็นกังวลด้วยหลวงปู่ไม่ค่อยจะอนุญาตให้ใครถ่ายภาพของท่าน หรือแม้ท่านจะอนุญาตให้ถ่าย ก็มักได้ภาพที่ไม่ใคร่สมบูรณ์นัก ต่างเปรยเชิ่งบ่นเบา ๆ ปนความคาดหวังแบบลมๆ แล้งๆ ว่า
• ถ้าได้เข้าไปถ่ายภาพในตอนที่ไม่มีใครอยู่ด้วยก็ดี เพราะขณะคนเยอะ ๆ มักได้ภาพที่ไม่สมบูรณ์นัก
• ถ้าหลวงปู่ท่านอยู่ภายในกุฏิ จะสวมแต่เพียงอังสะตัวเดียว ภาพจะไม่สมบูรณ์ ด้วยไม่ได้ห่มจีวร
• ถ้าได้เข้าไปถ่ายรูปท่านตรงหน้า และท่านมองกล้องแล้วยิ้ม ได้ถ่ายสักภาพ ช่างภาพคงช็อกแน่ ๆ
• ถ้าหลวงปู่ท่านไม่ปิดผ้าก๊อดก็ดี ผู้อ่านก็จะได้เห็นกันเองว่า หลวงปู่ท่านเป็นอะไรถึงปิดผ้าก๊อดไว้
หลังจบการสนทนาในเรื่องนี้ ทีมงานนิตยสารศักดิ์สิทธิ์ ต่างยกมือไหว้ สะมะณัง วันทามิ จบเหนือหัว ด้วยความหวังว่าจะให้คำพูดของทีมงาน ให้ได้ยินไปถึงหลวงปู่
หลังจากเข้าอวยพรเจ้าประเวทย์ในเย็นวันนั้น รวมทั้งได้รับเมตตาจากหลวงปู่ด้วยการโยงเป่าสายสิญจน์แล้ว เจ้าประเวทย์ก็ให้ทางทีมงานนิตยสารศักดิ์สิทธิ์มาพบอีกครั้งในตอนเช้าของวันถัดไป - รุ่งขึ่นทีมงานไปกันแต่เช้า แต่ก็พบว่าคนเต็มบ้านเจ้าประเวทย์เต็มไปหมด ตั้งแต่เช้าเช่นกัน ทำให้ต้องรอคอยกันอยู่หลังสุด และทีมงานไม่กล้าคิดกล้าหวังกันแล้วว่า จะได้ภาพหลวงปู่ เหมือนอย่างที่ได้นั่งคุยกันมาในรถ
และแล้ว จู่ จู่ ก็มีเสียงเรียกอยู่หน้าห้องของหลวงปู่ว่า “ศักดิ์สิทธิ์สองคน หลวงปู่ให้เข้าไปถ่ายรูปในห้อง”
ทั้งคุณกมลและช่างภาพ ต่างตกตะลึงตัวชาไปหมด ไม่แน่ใจว่าเป็นความจริง จึงยังนั่งนิ่งอยู่กับที่ จนมีเสียง คุณอมร วงศ์แหลมทอง จากหนังสือ “เซียนพระ” ยืนเรียกอีกว่า “ศักดิ์สิทธิ์ หลวงพ่อให้เข้าไปถ่ายรูปในห้อง” นั่นแหละทั้งสองจึงลนลานกันเข้าไปในห้องของหลวงปู่
ภายในห้องของหลวงปู่ ทีมงานนิตยสารศักดิ์สิทธิ์ถึงกับเข่าอ่อน ทรุดลงกราบแทบเท้าหลวงปู่ กับภาพที่หลวงปู่ท่านได้ปรากฏต่อหน้า เหมือนท่านรับทราบถึงสิ่งที่ทีมงานนิตยสารศักดิ์สิทธิ์ได้คาดหวังไว้ และยังได้สัมผัสกับกระแสแห่งเมตตาจิตอย่างที่สุดจากสายตาของหลวงปู่ อันทรงพลังอำนาจมาก
ทั้งคุณกมลและช่างภาพ ต่างรีบถ่ายภาพหลวงปู่ ถ่ายสลับกันอยู่เป็นเวลานานพอสมควร จนมีอยู่ครั้งหนึ่ง ที่หลวงปู่ท่านหันหน้ามามองช่างภาพ และยิ้มให้ และได้พูดขึ้นว่า
“ถ่ายไปทำไมเยอะแยะ หลวงปู่ไม่ใช่นางงามนะ”
นับว่าภาพนี้ ดูเหมือนว่าเป็นภาพสุดท้ายที่ทีมงานไมได้คิดไม่ได้หวังว่า ภาพนี้จะดีหรือไม่ดีอย่างไร ด้วยคาดหวังกับภาพที่หลวงปู่ท่านนั่งให้ถ่ายก่อนหน้า ที่มีการเตรียมการและใช้เวลานานมากกว่า
ช่างภาพที่ถ่ายภาพหลวงปู่ในครั้งนี้ เป็นช่างภาพที่เคยคว้ารางวัลชนะเลิศการถ่ายภาพ แต่หลังจากรับรูปที่ล้างอัดไว้จากร้าน “อาภากร” ที่มีฝีมือเยี่ยมแล้ว พอเปิดอัลบั้มรูปภาพทั้งหมดออกดู ทั้งหมดแทบหมดแรง พลิกดูจนหมดอัลบั้ม ภาพที่วาดหวังไว้นั้นมัวซัวไปหมด เพราะไฟแฟล็ชไม่ทำงานหรือเพราะเหตุใดก็ไม่ทราบ
ภาพที่ได้ถ่ายเป็นภาพสุดท้ายนั้น เป็นภาพขึ้นหน้าปกในฉบับที่ 223 เป็นสิริมงคล เพราะเป็นฉบับที่ก้าวขึ้นสู่ปีที่ 10 ของนิตยสารศักดิ์สิทธิ์พอดี
---------------------------------------------------------
เหรียญกรอบรูป “มหาเมตตาบารมี” หลวงพ่อเกษม ได้นำภาพยิ้มเมตตาเป็นต้นแบบ เพื่อแจกจ่ายในวาระที่หลวงปู่เกษมท่านบรรพชาในบวรพระพุทธศาสนามาครบ 5 รอบ 60 ปี มีโค๊ต ศ อยู่ในวงล้อม อันเป็นเหรียญที่จัดทำโดยนิตยสารศักดิ์สิทธิ์ ผู้บันทึกภาพยิ้มเมตตานั่นเอง