-
0 8 6 - 5 6 0 4 0 3 7
หมวด พระปิดตาทั่วไป
พระปิดตา หลวงพ่อผัน วัดราษฏร์เจริญ สระบุรี (1)





ชื่อร้านค้า | จ่าจีระสิทธิ์ - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า) |
---|---|
ชื่อเจ้าของร้านค้า | |
ชื่อพระเครื่อง | พระปิดตา หลวงพ่อผัน วัดราษฏร์เจริญ สระบุรี (1) |
อายุพระเครื่อง | 42 ปี |
หมวดพระ | พระปิดตาทั่วไป |
ราคาเช่า | - |
เบอร์โทรติดต่อ | 08-6560-4037 |
อีเมล์ติดต่อ | Tayanrum@hotmail.com |
LINE |
(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
|
สถานะ |
![]() |
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ | จ. - 06 ก.ย. 2564 - 21:31.29 |
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ | พฤ. - 28 เม.ย. 2565 - 10:04.56 |
รายละเอียด | |
---|---|
พระปิดตา หลวงพ่อผัน วัดราษฏร์เจริญ (แปดอาร์) สระบุรี ยอดพระเกจิเจ้าตำหรับ เหรียญแทงคอหมู(ไม่เข้า) อาจารย์เทพย์ สาริกบุตร เจ้าพิธี ในเพจ อาจารย์ เทพย์ หลายร้อย ครับ นิยม กันมากครับ... เครดิตจากเพจ วิถีไสยศาสตร์ชาติไทย. 2 ชม. · เรื่อง : หลวงพ่อผัน วัดราษฎร์เจริญ อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี ตอน : ทำเป็นล้อเล่นกับท่านไม่ได้ เรื่อง : เอกลักษณ์ เพริศพริ้ง เพจวิถีไสยศาสตร์ชาติไทย เมื่อวันที่๑๔ตุลาคม พ.ศ.๒๕๕๒ "รายการบันทึกลึกลับ ช่อง๕" ได้มาถ่ายทำประวัติของหลวงพ่อผัน ที่วัดราษฎร์เจริญ อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี โดยมี"ผู้เขียน"กับ"คุณกาญจนา รอดพงษ์"(ครูตุ๋ย)เป็นผู้ประสานงาน ใกล้ถึงเวลานัดหมาย ผู้เขียนโทรศัพท์หาทีมงานเพื่อบอกเส้นทาง เนื่องจากเกรงว่าจะมากันไม่ถูก ทีมงานว่า"กำลังกินข้าวกันอยู่ อยู่ไม่ไกล ไม่ต้องเป็นห่วงเพราะคนขับรถ(ทีมงานเรียก “ป๋า”) หลวงพ่อผันเป็นอุปัชฌาย์บวชให้"... เวลา๐๙.๐๐น. ทีมงานเดินทางมาถึง โดยจอดรถไว้หน้ากุฏิหลวงพ่อผัน ผู้เขียนกับครูตุ๋ยพาทีมงานรายการทุกคน จุดธูปบอกกล่าวหลวงพ่อที่หน้าโลงแก้ว(หลวงพ่อผันมรณภาพแล้วร่างไม่เน่าเปื่อย กลายเป็นหินสีขาว ทำพิธีนำสรีระสังขารบรรจุในโลงแก้ว เมื่อวันอาทิตย์ที่๒๘พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๔๙) โดยผู้เขียนนำจุดธูปบอกถึงวัตถุประสงค์ของการมาในครั้งนี้ จากนั้นก็เริ่มสัมภาษณ์ถ่ายทำรายการ... อนึ่ง วัดราษฎร์เจริญสร้างอาคารเป็นรูปตัวแอลขนานกับถนนหน้าวัด เมื่อลอดซุ้มประตูเข้าไปจะเป็นถนนคอนกรีตยาว๕๐-๖๐เมตร สุดทางเป็นสามแยก หากเลี้ยวซ้ายวิ่งตามถนนจะผ่านศาลา ผ่านเมรุ สุดทางจะเป็นโรงเรียนวัดราษฎร์เจริญ หากเลี้ยวขวาจะผ่านศาลาหอกลอง หอระฆัง สุดถนนเป็นกุฏิหลวงพ่อผัน จากทางเข้าถึงอาคารที่ว่าเป็นลานโล่ง โดยทุกเย็นจะมีตลาดนัดบริเวณดังกล่าวนี้ ตั้งกันเต็มไปหมด... เวลา๑๔.๐๐น. เริ่มมีพ่อค้าแม่ค้าทยอยกันมาจับจองพื้นที่ "ป๋า"เห็นว่าหากจอดรถไว้ที่เดิม ตอนกลับจะขับออกไม่ได้ แกจึงขยับรถมาจอดใกล้กับศาลาซึ่งอยู่ห่างจากที่เดิมไปประมาณ๗๐เมตร พอได้ที่จอดใหม่ ป๋าก็เสียบกุญแจเปิดสวิตซ์ค้างไว้เพื่อเปิดวิทยุ แล้วนอนรออยู่บนรถ... เวลา๑๕.๓๐น.ถ่ายทำรายการเสร็จ ผู้เขียนจึงชวนทีมงานทุกคนให้มากราบลาหลวงพ่อ น้องทีมงานคนหนึ่งเดินไปตามป๋า ป๋าไม่มาบอกไหว้หลวงพ่อไปแล้วตอนเช้า จะขอรออยู่ที่รถ พอพวกเราลาหลวงพ่อเสร็จ ต่างก็พากันแยกย้ายโดยผู้เขียนขับรถกลับเข้ากรุงเทพทันที ส่วนทีมงานขอเดินเล่นตลาดนัดกันก่อน... เวลา๑๖.๐๐น. พอทีมงานขึ้นรถหมดแล้ว ป๋าก็บิดกุญแจสตาร์ทเครื่อง ปรากฏว่า"กุญแจติดบิดสตาร์ทไม่ได้" ป๋าพยายามบิดกุญแจก็ทำไม่ได้สักที แกลองถอดลูกกุญแจออกแล้วเสียบกลับเข้าไปแล้วบิดใหม่ตั้งหลายหนก็ยังสตาร์ทไม่ได้ จนทีมงานต้องพากันลงจากรถ อนึ่ง กุญแจเสียบเข้าดึงออกได้ เปิดสวิตซ์ได้แต่บิดสตาร์ทไม่ได้ พ่อค้าแม่ค้าและชาวบ้านที่ทราบว่ามีถ่ายทำรายการ(รู้ว่ารถคันนี้เป็นรถกองถ่าย) ต่างเดินมาดู บางคนพูดว่า “มาถ่ายแล้วไม่บอกหลวงพ่อหรือเปล่า ถึงสตาร์ทรถไม่ได้” บ้างก็ว่า “หลวงพ่อเป็นพระอุปัชฌาย์บวชให้ป๋า แต่ป๋ากลับไม่ยอมไปลาหลวงพ่อ ท่านจึงไม่ให้กลับ” ชาวบ้านแนะให้ป๋าเดินไปลาหลวงพ่อจะได้สิ้นเรื่องสิ้นราวและสิ้นสงสัย แต่ป๋าไม่เชื่อแกไม่ยอมฟังใครทั้งสิ้น แกว่า"เป็นที่รถ ไม่ได้เป็นที่หลวงพ่อ" พูดไปนั่น!!! ระหว่างนั้นแกก็ลองพยายามจะบิดกุญแจสตาร์ทรถอีกหลายครั้ง ก็ยังเป็นอีรอบเดิม คือสตาร์ทไม่ได้ ระหว่างนั้นทางทีมงานให้คนไปตามช่างมาซ่อม พอช่างมาถึงก็ซ่อมนั่นทำนี่ ใช้เวลาเกือบๆ๓๐นาที สุดท้ายก็ซ่อมไม่ได้ ถึงตอนนี้มีคนมามุงดูอยู่เต็มไปหมด มุ่งอย่างเดียวไม่พอ ยังมีคำพูดหลุดออกมาให้ได้ยินเป็นระยะๆ... เวลา๑๗.๓๐น. ซึ่งนับจากเริ่มบิดกุญแจสตาร์ทรถถึงตอนนี้ ก็ชั่วโมงครึ่งเข้าไปแล้ว ทีมงานรายการเริ่มวิตกกังวล ส่วนตัวป๋าเอง ไม่กล้าเดินไปลาหลวงพ่อเพราะกลัวเสียฟอร์ม แกได้ถอดลูกกุญแจออกแล้วเหมารถจักรยานยนต์ไปอำเภอหนองแคเพื่อทำกุญแจดอกใหม่ เวลา๑๘.๓๐น. ป๋าได้กุญแจดอกใหม่กลับมา พอแกมาถึงแกก็เสียบแล้วบิดสตาร์ททันที และก็ในทันทีอีกเช่นกันที่บิดสตาร์ทไม่ได้ ทีมงานจากวิตกกังวลกลายเป็นกลัว บอกป๋าให้ไปลาหลวงพ่อเถอะ ป๋าทิฐิเยอะบอกคำเดิมว่า"เป็นที่รถ ไม่ได้เป็นที่หลวงพ่อ" แม้ทีมงานจะพูดโน้มน้าวป๋าอย่างไรก็ไม่เป็นผล... ระหว่างนี้ครูตุ๋ยโทรศัพท์แจ้งผู้เขียนถึงเรื่องที่เกิดขึ้น(ผู้เขียนอยู่บ้านที่กรุงเทพ) ผู้เขียนบอกครูตุ๋ยไปว่าให้หาอาหารและที่พักให้ทีมงานด้วย ขณะนั้นผู้เขียนรู้สึกผิดที่ดูแลทีมงานรายการไม่ดีเนื่องจากเป็นคนไปเชิญเขามาถ่ายทำ... เวลา๑๙.๐๐น. ทีมงานตัดสินใจโทรศัพท์กลับบริษัทที่กรุงเทพ บอกว่ารถตู้เสียขับกลับไม่ได้ แจ้งให้เอารถตู้อีกคันขับมารับ และให้พาช่างบริษัทที่ดูแลรถคันนี้มาด้วย เวลา๒๐.๓๕น. รถตู้บริษัทอีกคันมาถึง ช่างที่มาด้วยรีบทำการแก้ไข แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ช่างว่า “รถคันนี้ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน” ช่างว่าหมดปัญญาซ่อม บอกให้เอารถตู้คันที่ขับมา ลากรถตู้คันนี้กลับไป... ...ตัดกลับมาที่บ้านของผู้เขียน เวลา๒๐.๕๐น. ผู้เขียนตัดสินใจจุดธูป๙ดอก แล้วเดินไปยืนกลางแจ้งหันหน้าไปทางทิศที่ตั้งของวัดราษฎร์เจริญ ผู้เขียนพนมมือบอกหลวงพ่อปากเปล่ากล่าวกับท่านว่า เจตนาที่มาถ่ายทำวันนี้เป็นเจตนาดี เสร็จแล้วกล่าวขอขมาลาโทษแทนทุกคน หากได้ล่วงเกิน และหรือทำสิ่งไม่เหมาะสมใดๆลงไป จากนั้นก็กลั้นใจปักธูปลง ไม่ถึง๕นาที ครูตุ๋ยโทรศัพท์กลับมาบอกว่า "รถสตาร์ทได้แล้ว" ผู้เขียนแปลกใจถามว่า"รถติดเครื่องได้อย่างไร" ครูตุ๋ยว่า"มีชาวบ้านแถวนั้นคนหนึ่ง มาขอลองสตาร์ทดู ก็ปรากฎว่าบิดกุญแจชึ่งเดียวติด รถติดเครื่องได้หน้าตาเฉย พอรถติดเครื่องยนต์ได้แล้ว ทีมงานได้พากันเดินไปกราบลาหลวงพ่อผันอีกครั้งหนึ่ง... ทีมงานรายการบันทึกลึกลับและชาวบ้านที่ยังเหลืออยู่ ทราบเรื่องที่ครูตุ๋ยโทรบอกผู้เขียนตั้งแต่ต้น และทราบด้วยว่าผู้เขียนเป็นผู้จุดธูปขอขมาลาโทษหลวงพ่อผันแทนทุกคน หลายคนเชื่อว่าด้วยเหตุนี้นี่เองที่ทำให้สตาร์ทรถได้ แต่ผู้เขียนว่าเป็นเรื่องบังเอิญ... ถึงตอนนี้ป๋าเชื่ออย่างสนิทแล้วว่า"เรื่องลี้ลับนั้นมีอยู่จริง" ทั้งยังรู้อีกว่า"หลวงพ่อผันท่านเป็นพระศักดิ์สิทธิ์ ทำเป็นล้อเล่นกับท่านไม่ได้" แกจึงเดินคอตกตามทีมงานไปกราบลาหลวงพ่อ เสร็จก็พากันขึ้นรถ โดยตัวป๋าเองคงแหยงไม่กล้าขับรถกลับ แกได้ขอให้ช่างช่วยขับกลับให้ สรุปว่ากว่าจะออกจากวัดกันได้ ก็ปาไป๒๑.๐๐น. โดยมีพยานรู้เห็นตอนสตาร์ทไม่ติดนับร้อยคน ตอนสตาร์ทติดนับสิบคน เรื่องก็เป็นเช่นนี้แล. |
พระเครื่องที่เกี่ยวข้องในร้านค้านี้...










อื่นๆ...
กำหลังโหลด Comments