เหรียญแซยิด 100 ปี สมเด็จพระมหาวีรวงศ์-จ่าจีระสิทธิ์ - webpra
VIP
  • 0 8 6 - 5 6 0 4 0 3 7
  • Page 1
  • Page 2
หน้าที่ และความรับผิดชอบ

หมวด เหรียญปั๊ม ปี 2541 ถึง ปัจจุบัน

เหรียญแซยิด 100 ปี สมเด็จพระมหาวีรวงศ์

เหรียญแซยิด 100 ปี สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ - 1เหรียญแซยิด 100 ปี สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ - 2เหรียญแซยิด 100 ปี สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ - 3เหรียญแซยิด 100 ปี สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ - 4เหรียญแซยิด 100 ปี สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ - 5
ชื่อร้านค้า จ่าจีระสิทธิ์ - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า
ชื่อพระเครื่อง เหรียญแซยิด 100 ปี สมเด็จพระมหาวีรวงศ์
อายุพระเครื่อง 8 ปี
หมวดพระ เหรียญปั๊ม ปี 2541 ถึง ปัจจุบัน
ราคาเช่า -
เบอร์โทรติดต่อ 08-6560-4037
อีเมล์ติดต่อ Tayanrum@hotmail.com
LINE
(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
สถานะ เช่าแล้ว
Facebook
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ อ. - 06 ก.ค. 2564 - 21:16.00
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ อ. - 27 ก.ค. 2564 - 14:35.58
รายละเอียด
เหรียญแซยิด 100 ปี สมเด็จพระมหาวีรวงศ์

โคมคำ
komkam.ks@gmail.com


ตลอดช่วงชีวิตของ “สมเด็จพระมหาวีรวงศ์” (มานิต ถาวโร) เจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ และกรรมการมหาเถรสมาคม พระเถระชั้นผู้ใหญ่ มีคำเรียกขานว่าท่านเป็นพระกัมมัฏฐานกลางกรุง เป็นพระสมเด็จพระราชาคณะที่มีอายุสูงที่สุด มีอายุ 100 ปี ในวันศุกร์ที่ 29 ธันวาคม 2560
สร้างความปลาบปลื้มยินดีเป็นอย่างยิ่งแก่คณะสงฆ์วัดสัมพันธวงศ์และคณะศิษยานุศิษย์
ในวาระอันเป็นมงคลนี้ วัดสัมพันธวงศ์ได้จัดสร้าง “พระกริ่งเจ้าสัวจีนใหญ่ทรงเครื่องรุ่นแรก และเหรียญแซยิด 100 ปี” โดยสืบตำนานและชนวนจากครูอาจารย์สายกัมมัฏฐาน (พระป่า) ถือเป็นสุดยอดวัตถุมงคลที่ต้องจารึกด้วยอำนาจแห่งพุทธคุณ พลิกชะตาชีวิต เสริมดวงชะตา ซึ่งวัดสัมพันธวงศ์แห่งนี้ เป็นวัดเดียวในประเทศไทยที่จัดให้มีงานทำบุญวันเจ้าสัว มีเจ้าสัวจำนวนมากเข้าร่วมพิธี
“พระกริ่งเจ้าสัวจีนใหญ่ทรงเครื่อง” จัดสร้างเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ มีพุทธลักษณะงดงาม ทรงจีนใหญ่ ปางมารวิชัย พระหัตถ์ถือวชิราวุธ ทรงเครื่องศิลปะจีน จัดสร้างเป็นเนื้อทองคำ เนื้อเงิน, เนื้อนวโลหะแก่ทองคำ เนื้อทองระฆังโบราณ, เนื้อทองทิพย์, เนื้อทองระฆังโบราณ, เนื้อนวโลหะแก่ทองคำ ก้นเงิน, เนื้อทองขาว ก้นเงิน เนื้อทองแดง ก้นเงิน, เนื้อทองชนวน ก้นเงิน ฯลฯ
สำหรับการจัดสร้างพระกริ่งนั้น เริ่มขึ้นในทิเบตจากนั้นเข้ามาสู่ประเทศไทย มีความเชื่อว่า พระกริ่งนั้นเป็นองค์แทนพระไภษัชยคุรุพุทธเจ้า ซึ่งมีความศักดิ์สิทธิ์มาก อีกทั้งเชื่อว่าหากผู้ใดมีไว้ในครอบครอง จะพ้นภัยพิบัติ เกิดโชคลาภ เป็นวาสนาอันสูงส่ง

ส่วนเหรียญแซยิด 100 ปี สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ ลักษณะเป็นเหรียญกลมรูปไข่ หูเชื่อม
ด้านหน้าเหรียญ เป็นรูปเหมือนสมเด็จพระมหาวีรวงศ์รึ่งองค์ หันหน้าตรง
ด้านหลังเหรียญ ตรงกลางเป็นรูปอัฐบริขาร ด้านล่างเขียนคำว่า “แซยิด ๑๐๐ ปี พ.ศ.๒๕๖๐” ขอบเหรียญด้านบน เขียนคำว่า “สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (มานิต ถาวโร)” ขอบเหรียญด้านล่าง เขียนคำว่า “วัดสัมพันธวงศ์ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ”
เหรียญแซยิด 100 ปี จัดสร้างเป็นเหรียญเนื้อทองคำ เนื้อเงิน, เนื้อนวโลหะ, เนื้อทองระฆังโบราณ, เนื้อทองทิพย์, เนื้อทองระฆังโบราณ, เนื้อสัมฤทธิ์, เนื้อทองล่ำอู่ ฯลฯ
ประกอบพิธีเททองหล่อนำฤกษ์ เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2560 เวลา 15.19 น. โดยมีพระพรหมเมธี วัดสัมพันธวงศ์ และหลวงปู่สุวันคำ จันทสโร ภูเขาควาย สาธารณะประชาธิปไตยประชาชนลาว ร่วมประกอบพิธี
ประกอบพิธีพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2560 เวลา 17.49 น. มีสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก วัดราชบพิธฯ เป็นประธาน จุดเทียนชัย นั่งปรกอธิษฐานจิต พร้อมด้วยพระเกจิคณาจารย์ฝ่ายอรัญญวาสี (ฝ่ายวิปัสสนา)
พระพรหมเมธี กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะภาค 4-5-6-7 (ธ) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศาราม เป็นประธานดับเทียนชัย
สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ มีนามเดิมว่า กงมา ก่อบุญ (ภายหลังพระอุปัชฌาย์เปลี่ยนชื่อเป็นมานิต) เกิดเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2460 ที่บ้านบ่อชะเนง ต.หนองแก้ว อ.อำนาจเจริญ จ.อุบลราชธานี
ช่วงวัยเยาว์ บิดามารดาพาไปบรรพชาที่วัดบ้านบ่อชะเนง หลังจากออกพรรษาเดินธุดงค์ติดตามพระธุดงค์กัมมัฏฐานสายพระอาจารย์เสาร์ พระอาจารย์มั่น พระอาจารย์สิงห์ไปยังเขตจังหวัดอุบลราชธานี เดินธุดงค์กัมมัฏฐานพร้อมกับคณะ ผ่านจังหวัดร้อยเอ็ด มหาสารคาม ขอนแก่น จำพรรษาที่วัดป่าช้าเหล่างา (ปัจจุบันคือ วัดป่าวิเวกธรรม) ต.พระลับ อ.เมือง
ต่อมาญัตติเป็นสามเณรธรรมยุต มีพระอาจารย์สิงห์ ขันตยาคโม เป็นพระอุปัชฌาย์
พ.ศ.2479 เดินทางเข้ากรุงเทพฯ ศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรมในสำนักเรียนวัดสัมพันธวงศ์ อยู่ในกำกับดูแลของพระเนกขัมมมุนี (ภายหลังดำรงสมณศักดิ์ที่ พระเทพปัญญามุนี)
อายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2480 ที่พระอุโบสถวัดสัมพันธวงศ์ มีพระมหารัชมังคลาจารย์ (เทศ) เจ้าอาวาส เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูสุวรรณรังษี (สุวรรณ) เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระครูปลัดเส็ง ทินนวโร เป็นพระอนุสาวนาจารย์
หลังอุปสมบท มุ่งมั่นศึกษาพระปริยัติธรรม พ.ศ.2481 สามารถสอบได้นักธรรมชั้นตรี-โท-เอก ตามลำดับพ.ศ.2499 สอบได้เปรียญธรรม 9 ประโยค
ด้วยความเป็นผู้ที่มีความสามารถ ท่านได้รับมอบหมายหน้าที่ภายในวัด เป็นครูสอนบาลีและเป็นครูใหญ่ประจำสำนักเรียนวัดสัมพันธวงศ์

ลําดับงานปกครองคณะสงฆ์ พ.ศ.2514 เป็นเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์และเป็นพระอุปัชฌาย์
พ.ศ.2519 เป็นเจ้าคณะภาค 11 (ธรรมยุต) ปัจจุบัน เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 11 (ธรรมยุต)
ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2507 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่พระราชกวี พ.ศ.2514 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นเทพที่ พระเทพปัญญามุนี
พ.ศ.2519 รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นธรรมที่พระธรรมบัณฑิต พ.ศ.2532 รับพระราชทานสถาปนาเป็นรองสมเด็จพระราชาคณะที่ พระอุดมญาณโมลี วันที่ 5 ธันวาคม 2544 รับพระราชทานสถาปนาเป็นสมเด็จพระราชาคณะที่ สมเด็จพระมหาวีรวงศ์

พระเครื่องที่เกี่ยวข้องในร้านค้านี้...

อื่นๆ...

กำหลังโหลด Comments
Top