รูปถ่ายขนาดห้อยคอ หลวงพ่อพรหม วัดขนอนเหนือ-จ่าจีระสิทธิ์ - webpra
VIP
  • 0 8 6 - 5 6 0 4 0 3 7
  • Page 1
  • Page 2
หน้าที่ และความรับผิดชอบ

หมวด เครื่องรางของขลัง

รูปถ่ายขนาดห้อยคอ หลวงพ่อพรหม วัดขนอนเหนือ

รูปถ่ายขนาดห้อยคอ หลวงพ่อพรหม วัดขนอนเหนือ - 1รูปถ่ายขนาดห้อยคอ หลวงพ่อพรหม วัดขนอนเหนือ - 2รูปถ่ายขนาดห้อยคอ หลวงพ่อพรหม วัดขนอนเหนือ - 3รูปถ่ายขนาดห้อยคอ หลวงพ่อพรหม วัดขนอนเหนือ - 5
ชื่อร้านค้า จ่าจีระสิทธิ์ - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า
ชื่อพระเครื่อง รูปถ่ายขนาดห้อยคอ หลวงพ่อพรหม วัดขนอนเหนือ
อายุพระเครื่อง -
หมวดพระ เครื่องรางของขลัง
ราคาเช่า -
เบอร์โทรติดต่อ 08-6560-4037
อีเมล์ติดต่อ Tayanrum@hotmail.com
LINE
(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
สถานะ เช่าแล้ว
Facebook
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ พ. - 11 ธ.ค. 2562 - 20:51.25
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ พ. - 25 ธ.ค. 2562 - 14:00.19
รายละเอียด
รูปถ่ายขนาดห้อยคอ หลวงพ่อพรหม วัดขนอนเหนือ


...สายเหนียว แห่งอยุธยา...






http://uauction2.uamulet.com/AuctionDetail.aspx?bid=421&qid=41428


http://uauction2.uamulet.com/AuctionDetail.aspx?bid=421&qid=40390


ยิงซิ ถ้าคิดว่ามืงยิงออก ....
ตำนาน หนังเหนียวเมืองอยุธยา Part 1 หลวงพ่อพรหม วัดขนอนเหนือ

อยุธยา มีพระอริยสงฆ์รูปหนึ่งนามว่า หลวงพ่อหรหม วัดขนอนเหนือ เป็นลูกศิษย์ของ หลวงพ่อขัน วัดนกกระจาบ ซึ่งเป็น 1ในศิษย์ ของ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ในวงการนักเลงแล้วไม่มีใครไม่รู้จัก หลวงพ่อพรหม ลูกศิษย์ลูกหาท่านมีเยอะมากมาย ไม่ว่าจะเป็นนักเลง หรือแม้กระทั่งหนุ่มกระทง
ในสมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่นั้นมีคนมาขอเป็นศิษย์มากมาย หัวบรรไดไม่เคยแห้ง ก่อนที่ท่านจะครองสมณะเพศท่านได้ศึกษาศาสตร์ไสยมาก่อนแล้ว ท่านศึกษาวิชาอาคมกับโยมบิดาของท่าน ตอนท่านครองเพศ ฆราวาส เมื่อก่อน ท่านเป็นเป็นหนุ่มกระทงไม่เคยกลัวใคร ตีรันฟันแทง กับ อริ มากมาย อยู่บ่อยครั้ง
เมื่อท่านอายุได้ 20ปี บิดาของท่าน ให้ท่านไปบวช เลือกเดินท่าน พระ เพราะกลัวว่าท่านจะเป็นนักเลงหัวไม้
ครั้นถึง อายุท่าน 30กว่า ท่านถือว่าเป็นเกจิหนุ่มที่มีชื่อเสียงพอตัวแล้ว ในสมัยนั้น

เปิดตำนานหลวงพ่อพรหมและหมอชาวญี่ปุ่น
ย้อนกลับไป ใน พ.ศ 2490 หลวงพ่อพรหม มีมิตรสหายชาวต่าง ประเทศ ที่สนิทชิดเชื้อ ชาวต่างชาติผู้นั้น เป็นชาวญี่ปุ่น
คนไทยในสมัยนั้น จะรู้ดีว่า ญี่ปุ่น เป็นประเทศที่โหดร้าย ชาวบ้านส่วนมาก จะมีความคิดว่า เกลียดคนญี่ปุ่น จากการล่าอณานิคม ในไทย ชางต่างชาติผู้นี้ เป็นหมอ เคยเอายามารักษาหลวงพ่อพรหม พอจบสงคราม ชาวญีปุ่นผู้นี้ไม่ได้ กลับประเทศของ หมอญี่ปุ่นผู้นี้ เป็นคนที่มีความโอบโอ้มอารี แต่ ชาวบ้าน ด่า หมอผู้นี่ต่างๆนานา บางครั้ง มีการลงมือทำร้าย หมอผู้นี้ด้วย ด้วยความเกลียดคนญี่ปุ่นฝังใจ .......เวลาผ่านไปไม่นานนัก หลวงพ่อพรหม ได้บอกว่า จะสักยันต์ คงกระพันธ์ชาตรีให้ แต่หมอผู้นี้ไม่รับไว้ เพราะ ให้เหตุผลว่า อยู่กันคนละนิกาย มีอยู่วันนึง หมอ ญี่ปุ่นผู้นี่ได้เดินเล่นในงานวัด นักเลงหัวไม้กลุ่มหนึ่งเห็นว่าเป็น หมอญี่ปุ่น ที่พวกตนนั้น เกลียดจึง เดินไปล้อมรอบหมอญี่ปุ่นผู้นี่แล้วด่าทอ ด้วย ถ้อยคำที่หยาบคาย ด่าถึงบุพการี ชี้นิ้วไล่แก พวกมันระดม ต่อยหมอผู้นี้ไม่ยั้ง ชก.... ชก.....ชก..... ต่อย...... ต่อย..... ต่อย.... รุมกระทืบหมอผู้นี้ อย่างป่าเถื่อน หมอญี่ปุ่นผู้นี้ ได้ลงไปนอนกองกลับพื้น ร้องขอชีวิตกับกลุ่มนักเลงหัวไม้ แต่นักเลงกลุ่มนี้ ก็ไม่หยุด ชาวบ้านต่างๆ ไม่กล้ายุ่งเพราะ หนึ่งในกลุ่มนักเลงหัวไม้มีปืนเหน็บไว้ที่เอว บังเอิญ มีลูกศิษย์ของหลวงพ่อพรหม ผู้หนึ่งเห็นเหตุการณ์เข้าจึง วิ่งไป ที่กุฏิของหลวงพ่อพรหม แล้ว แจ้งให้พ่อพรหมทราบถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อหลวงพ่อพรหมทราบ จึง ได้ อุทานออกมาว่า “ หึ .. พวกมืงบังอาจเสียแล้ว นี่นักเลงเก่าเมืองอ ยุธยา เชียวนะเว้ย “ ท่านจึงคว้า มีดเล่มยาวคู่ใจ พร้อมกับเดินลงบรรได ไปในทันที
หมอญี่ปุ่น ตอนนี้ไม่ได้สติแล้ว แต่ไม่สามารถทำให้ นักเลงหัวไม้กลุ่มนี้ หยุดมือได้ ปานโกรธเกลียดกันมาแต่ชาติปางไหน
แต่ก็มีเสียงหนึ่ง พูดขึ้นว่า “ หยุด พวกมืงหยุดเดียวนี้ พวกมืงบังอาจมาก มาลูบคมในถิ่นกู “ หนึ่งในกลุ่มนักเลง หยิบปืนที่เหน็บเอวมา ชี้ไปที่หลวงพ่อ แต่ไม่ทำให้ หลวงพ่อท่านเกิดความกลัวขึ้นแม้แต่น้อยกลับพูดกับ นักเลงกลุ่มนั้นว่า “ ยิง ... มืงยิงซิถ้าคิดว่ามืงยิงออก “ ปืนในมือของนักเลงคนนั้น ก็เกิดความร้อนขึ้น เสมือนกับว่า เหล็กจะหลอมละลาย ไอคนถือ ปืนร้องโวยวายด้วยความแสบร้อน รีบทิ้งปืนแล้ว วิ่งหนีไป ทำให้กลุ่มนักเลงสายเหนียวที่เหลือ วิ่งหนีหางจุกตูด ด้วยประการทั้งปวง
หลวงพ่อพรหมท่านเดินไปหยิบปืนที่กลุ่มนักเลงโยนทิ้ง แต่ท่านหยิบขึ้นไม่ด้วยอาการที่ไม่รู้สึกร้อน หรือ ความรู้สึกใดๆ แล้วทุกคนที่กำลังมุงดูอยู่นั้น ก็ต้องตกใจ เพราะ หลวงพ่อ ท่าน กดไกปืน เสียงดัง...แช๊ะ... ไกปืนหักคามือหลวงพ่อ แล้วท่านก็เขวี้ยงทิ้งอย่างไม่สนใจ หลวงพ่อท่านได้ พูดให้ชาวบ้าน ที่มุงดูด้วยความตกใจอยู่นั้นว่า “ พวกมืงจงจำไว้ คนเหมือนกัน อย่ารังแกกัน ใครรังแกหมอ จะหักกับกูเหมือนไกปืนนี่แหละ “ แล้วท่านก็เดินกลับกุฏิ แล้วให้เด็กวัดแบกร่างที่สบักสบอมของหมอ ไปที่ กุฏิด้วย ครั้งถึงเวลาที่หมอชาวญี่ปุ่นผู้นี้ฟื้น หลวงพ่อพรหมท่าน ก็จับหมอผู้นี้สักยันต์จนเต็มแผ่นหลัง ยันต์คงกระพันธ์นี่มีอนุภาคอย่างยิ่ง ไม่มีผู้ใด มากร้ำกราย หมอผู้นี่อีก ครั้งนี้ที่ยอมสักเพราะไม่อยากขัดประสงค์ของหลวงพ่อด้วยเพราะเหตุการที่เกิดขึ้น หมอญี่ปุ่นรักและศรัทธาหลวงพ่อเป็นอย่างมาก หมอญี่ปุ่นผู้นี้เลยจัดการสร้างเหรียญหลวงพ่อพรหม ขึ้น แกห้อยติดตัวไว้ตลอดเวลา เป็นที่ละลึกในบุญคุณและสัมพันธไมตรีกับหลวงพ่อ

พระเครื่องที่เกี่ยวข้องในร้านค้านี้...

อื่นๆ...

กำหลังโหลด Comments
Top