-
0 8 6 - 5 6 0 4 0 3 7
หมวด พระเกจิภาคใต้
เหรียญ รุ่น 3 หลวงพ่อพระสมุห์แต่ง นนทสโร วัดนันทาราม ปี 2519





ชื่อร้านค้า | จ่าจีระสิทธิ์ - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า) |
---|---|
ชื่อเจ้าของร้านค้า | |
ชื่อพระเครื่อง | เหรียญ รุ่น 3 หลวงพ่อพระสมุห์แต่ง นนทสโร วัดนันทาราม ปี 2519 |
อายุพระเครื่อง | 49 ปี |
หมวดพระ | พระเกจิภาคใต้ |
ราคาเช่า | - |
เบอร์โทรติดต่อ | 08-6560-4037 |
อีเมล์ติดต่อ | Tayanrum@hotmail.com |
LINE |
(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
|
สถานะ |
![]() |
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ | อา. - 15 ก.ย. 2562 - 21:06.03 |
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ | อ. - 17 ก.ย. 2562 - 14:26.56 |
รายละเอียด | |
---|---|
เครดิตข้อมูลจากร้าน ร้านทะเลสาบพระเครื่อง สวยเดิมครับ หลวงพ่อพระสมุห์แต่ง นันทสโร เป็นพระภิกษุที่เรืองวิทยาคมรูปหนึ่ง ท่านมีความรู้ทางด้านไสยศาสตร์มากมาย สามารถสร้างเครื่องรางของขลังได้มากชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การสร้างตะกรุด สามารถสร้างได้มากชนิด อนุภาพแต่ละชนิดก็แตกต่างกัน ซึ่งท่านจะมีชื่อเรียกเป็น ชนิดๆไปตะกรุดประจำวัน คู่ชีพ มหาอุด พิชัยสงคราม ฯลฯ อีกประการหนึ่ง ท่านเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ทางด้านไสยศาสตร์มาก เพราะในช่วงชีวิตของท่านนั้น ได้ติดตามพระอาจารย์ที่แก่กล้าวิทยาคมหลายรูปของเมืองสุราษฎร์ ออกธุดงค์เช่น หลวงพ่อนุ้ย สุวัณโณ วัดอัมพาราม หลวงพ่อสมุห์ทองพิมพ์ วัดหัวสวน เป็นต้น ซึ่งแต่ละรูปที่ผู้เขียนกล่าวนามมานั้น วิทยาคมท่านสูงส่งมาก ในช่วงชีวิตของหลวงพ่อแต่งนั้น ท่านได้ร่วมเดินทางธุดงค์ไปกับพระสมุห์ทองพิมพ์หลายแห่งด้วยกัน เป็นต้นว่า ได้เดินทางติดตามไปยังสถานที่ประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน ณ เมืองกุสินา ประเทศอินเดีย โดยใช้เวลาเดินทางเท้าเพียง ๑๕ วันเท่านั้น ซึ่งการเดินทางครั้งนั้น ได้ผ่านเมืองชุมพร มะริด ตะนาวศรี ย่างกุ้ง ยะไข่ แล้วจึงข้ามไปอินเดีย สาเหตุที่ใช้เวลาน้อยมาก ทั้งๆ ที่ต้องบุกป่าผ่าดง ก็เพราะอำนาจการย่นทางของอาจารย์ของท่าน คือ พระสมุห์ทองพิมพ์ นั่นเอง นอกจากนั้นแล้วหลวงพ่อแต่งท่านยังได้ธุดงค์ไปภาคเหนือ ไปสระบุรี เพื่อนมัสการรอยพระพุทธบาท เป็นต้น ประวัติหลวงพ่อแต่ง วัดนันทาราม หลวงพ่อพระสมุห์แต่ง นันทสโร เดิมชื่อนายแต่ง นามสกุล สังข์เทพ เกิดเมื่อวันที่ ๗ กรกฎาม ๒๔๒๓ ตรงกับ วันพุธ ขึ้น ๑ ค่ำ เดือน ยี่ ปี มะโรง เวลา ๙.00 ที่บ้านน้อยสี่ หมู่ที่ ๓ ตำบท่าเคย อำเภอท่าฉาง จังหวัดสุราษฎร์ธานี บิดาชื่อ นายกิม มารดาชื่อ นางแช่ม นามสกุล สังข์เทพ มีพี่น้องร่วมท้องเดียวกัน ๑ คน ชื่อนางชู แก้วชำนาญ ซึ่งเป็นพี่สาว เมื่อเยาว์วัย บิดามารดาได้ให้ศึกษาภาษาไทยในสำนักของสมุห์ทองพิมพ์ ภัททมุนี อดีตเจ้าอาวาสวัดหัวสวน(วัดในแร่ว) หมู่ที่ ๒ ตำบลหัวเตย อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี จบความรู้อ่านออกเขียนได้ บิดามารดาก็ให้บรรพชาเป็นสามเณร ต่อมาได้ลาสิกขา กลับไปช่วยงานทางบ้าน ครั้งอายุได้ ๒๘ ปี จงได้อุปสมบทเป็นภิกษุที่วัดหัวสวน โดยมีพระครูพิศาลคณะกิจ(จ้วน) เป็นพระอุปชฌาย์ พระปลัดเกตุ เกสโร เป็นพระกรมวาจาจารย์ พระสมุห์นวล มณีโสภโน เป็นพระอนุสาวนาจารย์ เมื่ออุปสมบทเสร็จแล้ว ก็ได้ศึกษาพระธรรมวินัย และวิปัสนากรรมฐาน ศึกษาภาษาไทยจนจบหลักสูตรชั้นมูลสาม ทางราชการจึงได้ให้ช่วยสอนนักเรียนในโรงเรียนประชาบาล นอกจากศึกษาทางพระธรรมวินัย และวิชาภาษไทยแล้ว ท่านยังได้ศึกษาวิชาโหราศาสตร์และไสยศาสตร์ ในสำนักของพระสมุห์ทองพิมพ์ วัดหัวสวน ได้ติดตามไปธุดงค์ในดินแดนต่างๆมากมายหลายแห่ง นอกจากนี้ยังได้ไปศึกษากับพระครูธรรมปรชา วัดดอนยาง อำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร และพระอาจารย์นาค วัดโคกขอย จังหวัดพัทลุง แล้วกลับมาศึกษาอยู่ในสำนักของพระอธิการนุ้ย สุวัณโณ วัดอัมพาราม(วัดม่วง) อำเภอท่าฉาง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งหลวงพ่อนุ้ย รูปนี้ท่านเก่งวิชาอาคมมากมาย หากพิจารณาประวัติแล้วก็ต้องยกให้ท่านอยู่ในระดับปรมาจารย์ทางไสยศาสตร์เลยที่เดียว นอกจากนี้ วิชาการแพทย์แผนโบราณ ท่านก็สนใจศึกษา จนมีความรู้ในวิชาเหล่านี้เป็นอย่างดี ส่วนความรู้พิเศษที่สนใจคือ การเขียนคำกลอนประเภทต่างๆ หนังตะลุง ทั้งในและนอกจังหวัดได้จดจำไปใช้ในการแสดง แม้ลูกศิษย์ที่เป็นหนังตะลุงยังปรากฎอยู่ในเวลานี้ก็หลายคน ส่วนงานด้านการปกครอง ท่านได้รับนิมนต์เป็นเจ้าอาวาสวัดสองพี่น้อง เป็นเวลา ๓ ปี ท่านได้วางแผนผังวัดได้อย่างงดงามมาก ผลงานทางวัตถุ ในวัดนันทารามมีมากมาย อาทิ อุโบสถ ศาลาการเปรียญหลังเก่าและใหม่ กุฏิพระลูกวัด กุฏิเจ้าอาวาส หอฉัน นอกจากนี้ก็ได้ช่วยสร้างโรงเรียนประชาบาลทั้งในวัดนันทาราม และโรงเรียนบ้านท่าแซะ ทางด้านสงคมก็จัดสร้างสะพานข้ามครองห่อ พร้อมกับพระครูประนม ปภัสสโร การอนุเคราะห์ประชาชนผู้เจ็บไข้ด้วยยาก็มีอยู่เป็นประจำเพราะท่านเป็นแพทย์แผนโบราณด้วย หลวงพ่อได้ถึงแก่มรณภาพ ในวันที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๒๔ สิริอายุ ๑๐๐ ปี ๖ เดือน ๘ วัน อภินิหารหลวงพ่อแต่ง วัดนันทาราม สำเร็จวิชานะปัดตลอด ปรากฏกายใหญ่ผิดปกติจนหัวจรดเพดานกุฏิ สร้างตะกรุดมากชนิดต่างก็มี อานุภาพแตกต่างกัน ในพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลต่างๆในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ไม่ว่าจะเป็นวัดใดเป็นผู้จัดก็ตามทีพระภิกษุที่เข้าร่วมพิธีปลุกเสกนั้น จะต้องมีหลวงพ่อแต่งเสมอ จนเกือบจะกล่าวได้ว่า ไม่มีพิธีปลุกเสกใหญ่ๆ ครั้งใดในสุราษฎร์ธานี ที่จะขาดหลวงพ่อแต่งนับแต่กิ่งพุทธกาล ความจริงแล้วท่านได้รับการนิมนต์เข้าร่วมพิธีปลุกเสกมานานนับหลายสิบปีแล้ว จนกระทั่งมรณภาพ ในด้านอภินิหารเท่าที่ทราบ เช่น ๑ สำเร็จวิชานะปัดตลอด โดยเหตุที่ ประวัติของหลวงพ่อแต่ง ท่านได้ไปศึกษาวิชาไสยศาสตร์จาก หลวงพ่อนุ้ยวัดอัมพาราม อำเภอท่าฉาง ผู้เขียนจึงได้เดินทางไปสืบเสาะประวัติของ หลวงพ่อนุ้ย ที่วัดอัมพารามด้วย ได้เรียนถามเจ้าอาวาสถึงวิชาต่างๆที่หลวงพ่อแต่งไปเรียนสำเร็จอะไรบ้าง และอภินิหารอะไรบ้าง ได้รับคำตอบจากเจ้าอาวาสรูปปัจจุบันว่าเท่าที่หลวงพ่อแต่งเคยแสดงให้ท่านเห็น ก็มีวิชานะปัดตลอด โดยเอาต้นกล้วยตัดเป็นท่อนๆกองสูงเป็นพะเนิน จากนั้นก็ใช้หมึกเขียนที่ต้นกล้วยท่อนบนสุดเป็นตัว นะ เมื่อยกท่อนกล้วยแต่ละท่อนออกตรวจดู ปรากฏว่า ทุก ท่อนจะมีตัวนะอยู่ด้วย ๒.ปรากฏกายใหญ่ผิดปกติจนหัวจรดเพดานกุฏิ นายเฟือม พลภักดี ครูโรงเรียนวัดนันทารามได้กรุณาเล่าให้ผู้เขียนฟังว่า ในงานฝังพัทธเสมา วัดนันทาราม เมื่อหลายปีมาแล้ว นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง ก้าน แก้วสุพรรณ ได้เปิดการแสดงในงานวัดด้วยปรากฏว่าในช่วงที่ก้าน แก้วสุพรรณ ขึ้นกุฏิไปนมัสการท่านนั้น ก้านได้เห็นตัวของหลวงพ่อแต่งขยายใหญ่จนหัวจรดเพดานกุฏิ ข่าวนี้จึงแพร่ขยายวงออกไปอย่างกว้างขวางเรื่องนี้ผู้เขียนไม่ยืนยัน เพราะไม่มีโอกาสสอบถามจากปากคำของก้าน แก้วสุพรรณเอง เรื่องนี้มีคนร่ำลือกันมาก เพราะมีข่าวคนพบเห็นว่าท่านแสดงหลายคน แต่ไม่สามารถสืบเอาต้นข่าวได้ วิชาขยายตัวนี้คาดว่า คงจะเรียนจากหลวงพ่อนุ้ย เพราะสมัยหลวงพ่อนุ้ยมีชีวิต วันไหนท่านสบายใจ ก็ฝึกวิชาขยายใหญ่จนตัวติดเพดานแล้วร้องบอกว่า ตัวใหญ่ออกประตูกุฏิไม่ได้แล้ว ๓. สร้างตะกรุดมากชนิดต่างก็อานุภาพแตกต่างกัน หลวงพ่อแต่งได้สร้างตะกรุดมากชนิด เช่น ตะกรุดคู่ชีพ ตะกรุดประจำวัน ตะกรุดพิชัยสงคราม อานุภาพแต่ละชนิดจะแตกต่างกัน ผู้เขียนได้เคยไปให้ท่านทำตะกรุดให้ขณะนั้นท่านป่วย ผู้เขียนได้ให้ท่านเขียนตะกรุดคู่ชีพให้ด้วยทราบว่าตะกรุดชนิดนี้อานุภาพสูงมากที่สุด ท่านบอกว่า ขณะนี้ป่วย กระแสจิตไปถึงขั้นที่จะปลุกเสกตะกรุดชนิดนี้ให้ได้ จิตขณะนี้ปลุกเสกได้เพียงแค่ตะกรุดพิชัยสงครามเท่านั้น เสร็จแล้วท่านก็หยิบตะกรุดพิชัยสงครามซึ่งท่านได้ปลุกเสกคืนก่อนวันผู้เขียนจะไปที่วัดในขณะนั้นมีคนป่วยมารับการรักษาอยู่กับท่านที่ในกุฏิ เพราะถูกคุณไสย์ ได้เล่าให้ผู้เขียนฟังว่า เมื่อคืนผมนั่งดูหลวงพ่อแต่งปลุกเสกตะกรุดชุดนี้เห็นกระเด็นเหมือนคั่วข้าวตอก กระเด็นลอยสูงประมาณเมตรเศษ ประสบการณ์ตะกรุดของท่าน เท่าที่ฟังมาจะปรากฏผลด้านมหาอุตม์เป็นหนึ่งตามด้วยคงกระพันชาตรี ทราบว่า พ.ต.ต.สลับ อนุฤทธิ์ อดีต สวญอำท่าฉาง ได้นำไปใช้ติดตัว ในคราวไปปราบฝิ่นในภาคเหนือ ปรากฏผลทางด้านแคล้วคลาดดีมาก จนมีหนังสือไปแนะนำให้ลูกน้องเก่าหาไว้ใช้ติดตัวกันบ้าง ๔. ปลุกเสกเขี้ยวเสือโดดจับเนื้อ เจ้าของและโชเฟอร์รถเมล์เบอร์๖๙สายพุนพินบ้านดอน ได้เล่าให้ผู้เขียนฟังว่า นายสุนทร ดัดศร โชเฟอร์คิวรถแทกซี่บ้านดอน-หลังสวนกับ นายต่วน โชติชุติ โชเฟอร์คิวรถแทกซี่บ้านดอน-ท่าข้าม ได้นำเขี้ยวเสือแกะแล้วทำพิธีปลุกเสกต่อหน้าที่ทันที ปรากฏว่าเขี้ยวเสือกระโดดขึ้นไปจับเนื้อ หลวงพ่อได้ออกวัตถุมงคลเครื่องรางของขลังต่างๆหลายชนิด เช่นตะกรุดแบบต่างๆสาลิกาหลงรัง ผู้หญิงนิยมใช้กันมาก รูปเหมือนและเหรียญรุ่นต่างๆดังนี้ ๑ รูปเหมือน เป็นรูปหลวงพ่อนั่งสมาธิเต็มองค์ ห่มจีวรพาดสังฆาฎิ ที่ฐานด้านหน้าจะปรากฏตัวหนังสือว่า หลวงพ่อแต่ง เนื้อทองเหลืองลงหิน ใต้ฐานจะมีรอยทองเหลืองอุด แล้วตะไปแต่ง จากนั้นก็จารยันต์นะอุณาโลมลงที่ก้อนทองเหลืองที่อุดก้นขนาดความสูงประมาณ๒.๗ซม.ปีที่ สร้าง พ.ศ.๒๕0๕ ๒ เหรียญรุ่นต่างๆ เหรียญของท่านออกทั้งหมด๔รุ่นด้วยกันคือ รุ่นที่ ๑ ด้านหน้าเป็นรูปหลวงพ่อครึ่งองค์ หน้าตรงห่มจีวร พาดสังฆาฏิ ด้านล่างมีอักษรว่าหลวงพ่อพระสมุห์แต่ง นนทสโร ส่วนหลังเป็นยันต์มงกุฎพระพุทธเจ้า มีอักษรขอม นะ โม พุทธา ยะ แล้วชักยันต์พระภควัมบดี ๔ทิศ ล้อมรอบด้วยเลขไทยตั้งแต่1-9ส่วนด้านล่างมีอักษรปรากฏว่า วัดนันทาราม อ .ท่าฉาง จ. สุราษฎธานี บรรทัดล่างสุดเขียนไว้ว่า 1 มค 05 เป็นเหรียญหูในตัว เนื้อโลหะทองแดงรมน้ำตาลและอัลปาก้า รุ่นที่ ๒ เป็นรูปหลวงพ่อหันข้างครึ่งองค์ ด้านล่างปรากฏอักษรว่าหลวงพ่อพระสมุห์แต่ง นนทสโร ส่วนด้านหลังเป็นยันต์มงกุฎพระพุทธเจ้า มีอักขระขอมว่า นะ โม พุท ธา ยะ แล้วยันต์พระภควัมบดี๔ทิศ ล้อมรอบด้วยตัวเลขไทยตั้งแต่๑-๙ส่วนด้านล่างบรรทัดแรกเขียนว่า วัดนันทาราม บรรทัดที่๒เขียนว่า อ .ท่าฉาง จ. สุราษฎร์ธานี บรรทัดที่สามเขียนว่า๒๕๑๔ซึ่งเป้นพ.ศ.ที่สร้างเป็นเหรียญหูในตัว เนื้อโลหะอัลปาก้าและทองแดง รุ่นที่ ๓ มี ๒ บล็อก บล็อกแรก เป็นรูปหลวงปู่แต่งนั่งเต็มองค์ ใบหน้าของหลวงปู่ดูเกร็งจนใบหน้าและคางเบี้ยวเส้นคอตึง นั่งขัดสมาธิ เท้าขวาทับเท้าซ้าย มือขวาทับมือซ้าย หัวแม่มือทั้งสองจรดกัน หลวงปู่ห่มจีวรเฉียง พาดสังฆาฏิ ล้อมรอบด้วยอักษรขอม ทั้งด้านข้างซ้าย ขวา และล่าง ด้านล่างสุดปรากฏหนังสือว่าหลวงปู่แต่ง นนทสโร ขอบเหรียญยกนูนเป็นรูปเกลียวเชือก ส่วนด้านหลังเป็นยันต์มงกุฎพระพุทธเจ้า จารึกอังษรขอมว่า นะ โม พุทธ า ยะ ล้อมรอมด้วยตัวเลขไทย๑-๙ ส่วนด้านบนสุดก็เป็นหัวใจพระคาถาจารึกเป็นอักษรขอม ด้านล่างเขียนว่า รุ่นพิเศษหนึ่งวัดนันทาราม สุราษฎร์ธานี พร้อมทั้งดอกจัน ๒ดอก ด้านหนังและหลังข้อความ เนื้อทองแดงรมดำ บล็อกที่สอง เป็นรูปหลวงปู่นั่งตะแคงข้ามทั้งลำตัวและศีรษะ ในลักษณะเอียงซ้าย ไหล่ซ้ายสูงกว่าขวา เป็นรูปเต็มองค์ นั่งขัดสมาธิ มือวางในแบบชราธรรมทั้งสองข้าง พระคาถาเป็นอักขระขอมเหมือนกันกับบล็อกแรก ส่วนด้านล่างเขียนว่า หลวงปู่แต่ง นนทสโร ส่วนด้านหลังอักขระพระคาถาและเลขยันต์ต่างๆ ตลอดจนข้อความเหมือนบล็อกแรกทุกประการเนื้อโลหะ เท่าผู้เขียนพบเห็นก็มีเนื้อทองแดงรมน้ำตาล รุ่นที่ ๔ เหรียญรุ่นสุดท้ายของหลวงปู่ ลักษณะเหรียญเป็นรูปเสมา ขอบเหรียญยกเป็นเส้นนูน ประดับด้านลายกนกโดยรอบ ตรงกลางเป็นรูปหลวงพ่อหน้าตรง ฯลฯ |
พระเครื่องที่เกี่ยวข้องในร้านค้านี้...










อื่นๆ...
กำหลังโหลด Comments