-
0 8 6 - 5 6 0 4 0 3 7
หมวด เครื่องรางของขลัง
เจ้าพ่อแก้ว บางมูลนาก ผงแปดเหลี่ยม รุ่นแรก





ชื่อร้านค้า | จ่าจีระสิทธิ์ - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า) |
---|---|
ชื่อเจ้าของร้านค้า | |
ชื่อพระเครื่อง | เจ้าพ่อแก้ว บางมูลนาก ผงแปดเหลี่ยม รุ่นแรก |
อายุพระเครื่อง | 31 ปี |
หมวดพระ | เครื่องรางของขลัง |
ราคาเช่า | - |
เบอร์โทรติดต่อ | 08-6560-4037 |
อีเมล์ติดต่อ | Tayanrum@hotmail.com |
LINE |
(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
|
สถานะ |
![]() |
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ | ส. - 31 ส.ค. 2562 - 21:51.55 |
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ | อ. - 14 ม.ค. 2568 - 17:54.34 |
รายละเอียด | |
---|---|
ปิดท้าย เจ้าพ่อแก้ว บางมูลนาก ผงแปดเหลี่ยม รุ่นแรก สวยเดิม ทุกองค์ มี 6 องค์ ๆ ละ 250บาท ครับ ... อำเภอบางมูลนาก จังหวัดพิจิตร · 6 กุมภาพันธ์ 2017 · ประวัติเจ้าพ่อแก้ว (โดยย่อ) เจ้าพ่อแก้ว เป็นเจ้าพ่อที่ชาวบางมูลนาก จังหวัดพิจิตร และชาวอำเภอใกล้เคียงนับถือมาเป็นเวลาหลายสิบปี ในแต่ละสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนธันวาคม จะมีการจัดงานประจำปีทุกปี มีคนในอำเภอและต่างอำเภอมาร่วมงานกันมากมาย ในงานวันเสาร์ตั้งแต่เช้าจะมีขบวนแห่ เจ้าพ่อแก้วจากศาลเจ้าพ่อ ซึ่งอยู่ริมแม่น้ำน่าน ไปจนรอบตลาด แล้วไปประดิษฐานที่สนามหน้าโรงเรียนอนุบาล เพื่อให้ประชาชนกราบไหว้ และมีงานฉลอง 6 คืน ในงานก็จะมีการละเล่น เช่น งิ้วแต้จิ๋ว,ลิเก, ดนตรี, การละเล่นอื่น ๆ ตลอดจนมีการขสยสินค้าอุปโภคบริโภค มีการประมูลสิ่งของที่มีผู้บริจาคให้เจ้าพ่อแก้ว และเงินที่ได้รวบรวมไว้ ซึ่งได้นำมาใช้ก่อสร้างศาลเจ้าใหม่ ในวันนี้ได้สร้างเสร็จแล้ว เป็นศาลเจ้าสองชั้นที่มีความงดงามยิ่งนัก และเป็นศาลเจ้าที่ไม่เหมือนศาลเจ้าที่อื่น คือ มีลิฟต์ เพื่อให้ผู้สูงอายุจะได้สามารถขึ้นไปกราบไหว้เจ้าพ่อแก้ว ซึ่งอยู่ชั้นสองได้สะดวก สำหรับประวัติเจ้าพ่อแก้วโดยสังเขป ได้ตัดตอนมาจากประวัติเจ้าพ่อแก้ว ซึ่งคุณเผ่าพงษ์ สมนิล ประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอบางมูลนาก ได้เรียบเรียงไว้ในหนังสือ “เจ้าพ่อแก้วบางมูลนาก” และคำบอกเล่าของผู้อาวุโสชาวบางมูลนากอีกหลายท่านดังนี้ จากประจักษ์พยานบุคคล คือ นายแก้ว แสงอินทร์ ได้เล่าให้ฟังว่า บิดาคือ นายห้อย แซ่ลี้ เจ้าของร้านลี้เต็กเส็ง อาชีพตีเหล็ก เป็นผู้พบเจ้าพ่อแก้วซึ่งแกะสลักด้วยไม้ลอยมาในแม่น้ำน่าน จึงได้นำขึ้นไว้ในศาล ศาลในสมัยแรก ๆ ก็ไม่ได้เป้นอย่างทุกวันนี้ เป็นเพียงศาลไม้เล็ก ๆ โกโรโกโส ขณะนั้นนายแก้วมีอายุราว 7 – 8 ขวบ ต่อมาอาแป๊ะห้อยได้นำรูปแกะสลักเจ้าพ่อลงไปวัด เล่งเน่ยยี่ (วัดมังกรกมลาวาส) กรุงเทพฯ เพื่อให้ช่างตกแต่งรูปเจ้าพ่อให้ดูเรียบร้อยสวยงามกว่าเดิม ใช้เวลาราว 3 เดือน จึงแล้วเสร็จ หลังจากทำพิธีกรรมแล้ว จึงได้เชิญเจ้าพ่อแก้วกลับมาประดิษฐานไว้ ณ ที่ศาลเดิม จากคำบอกเล่าของผู้เฒ่า ซึ่งเป็นอาแป๊ะชราอีกคนหนึ่ง ปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว มีนามว่า “อาแป๊ะหยู” เมื่ออายุท่านได้ 85 ปี (พ.ศ.2538) ได้เล่าให้ลูกหลานฟังว่า เจ้าพ่อซึ่งประดิษฐานอยู่ในศาลเจ้าริมแม่น้ำน่านฝั่งตรงข้ามวัดบางมูลนากนั้น แต่เดิมยังไม่มีใครรู้จักชื่อ ชาวจีนในตลาดก็ได้แต่บวงสรวงกราบไหว้กันตามประเพณีเรื่อยมา จนกระทั่งปี พ.ศ. 2498 ได้มีอาซิ้มชราคนหนึ่งมาจอดเรือตรงท่าหน้าศาลเจ้า เจ้าได้เข้าประทับทรง และได้บอกว่าท่านั้นมีชื่อเป็นภาษาจีน ซึ่งมีความหมายว่า “แก้ว” ตั้งแต่นั้นมาคนทั้งหลายจึงได้เรียนขานนามท่านว่า “เจ้าพ่อแก้ว” อาแป๊ะหยูได้เล่าให้ฟังอีกว่า เจ้าพ่อแก้วนั้นมีเทพที่นับถือกันเป็นพี่เป็นน้องมีด้วยกัน 3 องค์ คือ เจ้าพ่อแก้วเป็นตั้วเฮีย คือพี่คนโต น้องคนรองคือ “เจ้าพ่อชุมแสง” สิงสถิตอยู่ที่ศาล อำเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ และน้องคนเล็กคือ “เจ้าพ่อเกยชัย” สิงสถิตอยู่ที่ศาลตำบลเกยชัย อำเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าเจ้าพ่อแก้วนั้น ท่านไม่มีเจ้าแม่ หรือชาวจีนเรียกว่า “ปุนเถ่าม้า” เหมือนเจ้าพ่อองค์อื่นๆหรือถ้าจะพูดอีกนัยหนึ่งก็คือท่านเป็นโสดนั่นเอง *คัดลอกบทความจากหนังสือที่ระลึกฉลองเปิดศาลเจ้าพ่อแก้ว อำเภอบางมูลนาก จังหวัดพิจิตร 2 ธันวาคม พ.ศ. 2550 (หน้า 23- 24) |
พระเครื่องที่เกี่ยวข้องในร้านค้านี้...










อื่นๆ...
กำหลังโหลด Comments