หมวด เหรียญปั๊ม ปี 2541 ถึง ปัจจุบัน

เหรียญมหาสิริมงคล หลวงพ่อเสถียร วัดใหม่พิเรนทร์ มีจาร

เหรียญมหาสิริมงคล หลวงพ่อเสถียร วัดใหม่พิเรนทร์ มีจาร - 3

เหรียญมหาสิริมงคล หลวงพ่อเสถียร วัดใหม่พิเรนทร์ มีจาร - 4

เหรียญมหาสิริมงคล หลวงพ่อเสถียร วัดใหม่พิเรนทร์ มีจาร - 5

ชื่อร้านค้า	จ่าจีระสิทธิ์ - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า	jeerasit (112)
ชื่อพระเครื่อง	เหรียญมหาสิริมงคล หลวงพ่อเสถียร วัดใหม่พิเรนทร์ มีจาร
อายุพระเครื่อง	13 ปี
หมวดพระ	เหรียญปั๊ม ปี 2541 ถึง ปัจจุบัน
ราคาเช่า	350 บาท
เบอร์โทรติดต่อ	08-6560-4037
อีเมล์ติดต่อ	Tayanrum@hotmail.com
LINE	(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
สถานะ
Facebook	Share
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่	อา. - 09 มิ.ย. 2562 - 20:48.53
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ	อา. - 09 มิ.ย. 2562 - 20:48.53

รายละเอียด
เหรียญมหาสิริมงคล พระราชปริยัติโกศล (หลวงพ่อเสถียร) วัดใหม่พิเรนทร์ มีจาร หลวงพ่อเสถียร ฉนฺทโก วัดใหม่พิเรนทร์ โพธ์สามต้น กรุงเทพมหานคร ประวัติหลวงพ่อเสถียร ฉนทโก เป็นชาวอำเภอระโนด จังหวัดสงขลา เป็นบุตรของคุณโยมพ่อห้อง โยมแม่จู่เลี่ยน รัตนสุวรรณ์ มีพี่น้อง 8 คน หลวงพ่อท่านเป็นลูกคนสุดท้อง เมื่อคลอดได้ 2 ขวบ โยมแม่ได้เสียชีวิต มีพี่สาวเป็นผู้เลี้ยงดูแทนแม่ต้องหาน้ำนมให้ดื่มถ้าครอบครัวใดเพิ่งจะคลอดลูกพี่สาวก็จะนำหนูน้อยเสถียรไปขอดื่มนมกินเพราะสมัยนั้นยังไม่มีนมผงสำหรับเลี้ยงทารก ช่วงสมัยวัยรุ่นหลวงพ่อเสถียรได้ทำนาตามอาชีพดั้งเดิมของครอบครัว เมื่อเสร็จฤดูทำนาหลวงพ่อก็ท่องเที่ยวไปตามหมู่บ้าน เช่น บ้านเชิงแส บ้านเจดีย์งาม บ้านสะทิ้งพระ บ้านพะโค๊ะ บ้านต้นเลียบซึ่งอยู่ใกล้วัดพะโค๊ะวัดสมเด็จหลวงพ่อทวด เพื่อเล่นการพนันคือ เล่นปอ ทอยลูกสะบ้า ทอยกอง เข้าขั้นนักเลงการพนัน เมื่อเข้าครบอายุที่จะบวชเรียนได้ พ.ศ. 2471 บิดาได้นำไปฝากกับท่านพระครูเมฆ ติสสโร แห่งวัดเอก และได้อุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดเอกหรือวัดเชิงแสใต้ โดยมีพ่อท่านพระครูเมฆ ติสฺโร เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์คง คงฺคสฺโร เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์วัฒน์ ปุญญมณี เป็นพระอนุสาวนาจารย์ กล่าวถึงพ่อท่านเมฆ ติสฺโร เป็นพระเกจิที่มีชื่อดังของภาคใต้เป็นผู้เชี่ยวชาญในการทำวิปัสสนากรรมฐาน เคร่งครัดในพระธรรมวินัยเพราะความศักดิ์สิทธิ์ของพลังจิตและวิชาอาคมของพ่อท่านเมฆเมื่อคณะมโนราห์และหนังตะลุงเดินทางไปแสดงหากเดินทางผ่านไปโดยไม่ได้ตีกลองถวายหรือไม่ได้หยุดแสดงไม่สามารถจะไปทำการแสดงได้ราบรื่นมีอุปสรรคเสมอต้องกลับมาแสดงที่วัดถวายพ่อท่านเมฆ เมื่อพ่อท่านเมฆมรณภาพและในงานปลงศพของท่านนั้นมีคณะหนังตะลุงและมโนราห์มาทำการแสดง 100 กว่าคณะเป็นการแสดงถวายต่อพ่อท่านเฆม ติสสโร แห่งวัดเอก หรือเชิงแสใต้ พระเกจิอาจารย์ผู้เรืองเวท เมื่อใกล้เวลาออกพรรษาหลวงพ่อเสถียรได้เดินทางไปศึกษานักธรรมและภาษาบาลีที่สำนักเรียนวัดราษฎร์บำรุงกับพระอาจารย์แก้ว พ่อท่านเมฆได้ทราบข่าวว่าพระเสถียรจะลาสึกขาบทเพราะโยมพ่อได้ตัดเสื้อกางเกงถวายแล้ว พ่อท่านเมฆได้ให้ลูกศิษย์พายเรือจากวัดเอกไปหาพระลูกศิษย์ที่วัดราษฎร์บำรุงโดยท่านได้ขอร้องให้พระเสถียรบวชอยู่ต่อไปเถอะ ในคืนวันนั้นหลวงพ่อเสถีรยได้พิจารณาตามคำขอร้องของพระอุปัชฌาย์ ในเช้าตรู่วันนั้นจึงตัดสินใจไม่ลาสิกขาบทจึงเกิดเหตุการณ์เสื้อกางเกงแลกกับผ้าสังฆาฎิ หลวงพ่อเสถียร์จึงมอบเสื้อผ้ากางเกงให้แก่เพื่อนโดยขอแลกกับสังฆาฎิของเพื่อนที่สึกหาลาเพศออกไป หลวงพ่อได้เรียนสวดมนต์สิบสองตำนาน เจ็ดตำนาน และจนจบการสวดภาณยักษ์ในป่าช้าวัดราษฎรบำรุง อำเภอระโนด และฝึกวิปัสสนากรรมฐานไปด้วยรวมทั้งศึกษาคาถาอาคมจากพ่อท่านเมฆ ซึ่งพระอาจารย์อุปัชฌาย์ของท่าน การรับปากกับพระอุปัชฌาย์แล้วว่าไม่ลาสึกขาบทหลวงพ่อเสถียรใช้เวลาเพียง 15 วันท่องพระปาติโมกข์จนจบ ด้วยความเป็นพระเคร่งครัดในพระธรรมวินัย และมีพลังจิตที่แก่กล้าสามารถจำวัดอยู่ป่าช้าได้ตั้งพรรษาแรก เพราะการเรียนสวดภาณยักษ์ เจ็ดตำนาน สิบสองตำนาน พระปาติโมกข์ และภาษาบาลีหลวงพ่อได้ไปท่องบ่นในป่าช้าวัดราษฎร์บำรุง หลวงพ่อกล่าวว่าป่าช้าสงบดีไม่มีใครรบกวนและสมาธิก็มั่นทรงจำได้รวดเร็ว เมื่อได้ศึกษานักธรรมจบแล้วและศึกษาภาษาลีไปพร้อมกันด้วยสองปีแรกก็เตรียมตัวสอบเป็นพระมหาเปรียญ ขณะเดียวกันมีความสามารถเป็นครูสอนภาษาบาลีได้แล้ว เมื่อเดินทางเข้ามาจำพรรษาที่วัดตีนเมรุ จังหวัดสงขลาเพื่อศึกษาภาษาบาลีเพิ่มเติมได้รับนิมนต์จากท่านเจ้าคุณวัดถ้ำ จังหวัดยะลา คู่กับท่านพระมหาประสิทธ์ ให้เดินทางไปสอนภาษาบาลีที่วัดคูหาภิมุขหรือวัดถ้ำ จังหวัดยะลา การเดินทางไปมาระหว่างวัดตีนเมรุและวัดถ้ำ จ.ยะลา เพื่อสอนภาษาบาลีให้แก่พระภิกษุสามเณรที่วัดถ้ำจังหวัดยะลา และตัวหลวงพ่อเสถียรก็ศึกษาภาษาบาลีด้วยตัวเองจึงสามารถสอบได้เป็นมหาเปรียญในปีนี้เอง หลวงพ่อเสถียร ฉนฺทโก มีพระเกจิอาจารย์สายหลวงพ่อทวดที่เป็นสหธรรมิกรุ่นพี่คือพ่อท่านฉิ้นหรือพระธรรมสิทธิมงคล แห่งวัดเมืองจังหวัดยะลา โดยมีภูมิลำเนาอยู่อำเภอระโนดเหมือนกัน ซึ่งเป็นสหธรรมิกกับพระอาจารย์ทิม วัดช้างให้ได้ศึกษาหาความรู้ในเรื่องศาสตร์การทำหลวงพ่อทวดมาโดยตลอดเวลา เมื่อไปเดินทางไปสอนภาษาบาลีที่วัดถ้ำยะลาได้พบกับพ่อท่านเขียว กิตติคุโณ วัดห้วยเงาะ จังหวัดปัตตานี ได้สนทนาธรรมและแลกเปลี่ยนวิชาความรู้กัน หลวงพ่อเสถียร ฉนทโก จึงเป็น “พระที่มีพลังจิตแก่กล้า เมตตามหานิยม เป็นพระสงฆ์ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความเมตตามากต่อประชาชน รับกิจนิมนต์ทั้งนั่งปรกปลุกเสก เจิมรถขึ้นบ้านใหม่ และทำน้ำมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ทุกคนที่มาหาไม่ได้ว่างเว้น ลูกศิษย์บางคนเมื่อนำผลไม้มาถวายมักจะจ้องมองว่าท่านฉันผลไม้ผลใดกี่ผลแล้วนำไปเป็นเลขโชคลาภ ได้โชคมีลาภไปก็หลายคน แม้หลวงพ่อบอกว่าเราไม่เคยบอกเลขหรอก เขาไปคิดกันเอง ด้วยความที่หลวงพ่อเป็นพระมีเมตตา ไม่ว่าใครมาขอพรกราบนมัสการจะทำอะไรสำเร็จสมความปรารถนาทุกประการ ถึงกับมีคำกล่าวว่าหลวงพ่อเป็นพระที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความเมตตาและพลังจิตแก่กล้า เมตตามหานิยม ” ด้วยบารมีธรรมของหลวงพ่อเสถียร ฉนฺทโก จึงทำให้ท่านสามารถสร้าง วัดเอก อำเภอกระแสสินธิ์ จังหวัดสงขลา สร้างอุโบสถ์วัดเอกเพื่อประดิษฐานหลวงพ่อเดิม เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ประจำวัดเอก และเป็นพระประธานในอุโบสถแห่งนี้ การจัดสร้างสำเร็จลุล่วงไปโดยใช้งบประมาณค่าก่อสร้างไป 120 ล้านบาท และในปัจจุบันได้จัดชื้อที่ดินขยายวัดเอกเป็นสถานที่ปฎิบัติวิปัสสนากรรมฐานเพื่อสืบสานปณิธานของพระอุปัชฌาย์ พระครูเมฆ ติสสโร สำหรับพระภิกษุและสามเณรและประชาชนทั่วไป เข้ามาศึกษาฝึกกรรมฐาน และวัดใหม่พิเรนทร์ก็มีการจัดตั้งสำนักปฎิบัตธรรมฝึกวิปัสสนากรรมฐาน และส่งพระไปศึกษาวิปัสนากรรมฐานที่ประเทศพม่าหลายรูปโดยมีพระจากวัดใหม่พิเรนทร์และวัดเอก สำหรับปัจจุบันพระราชปริยัติโกศล (หลวงพ่อเสถียร ฉนฺทโก ป.ธ.9) ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดใหม่พิเรนทร์ เป็นเจ้าคณะแขวงวัดอรุณ เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะแขวงวัดอรุณ วัดใหม่พิเรนทร์เป็นวัดเก่าแก่สมัยรัตนโกสินธิ์ตอนต้น ได้ทำพิธีมหาพุทธาภิเษกวัตถุมงคลอันโด่งดังคือสมเด็จอรหัง ปี พ.ศ.2511 โดยมีหลวงปู่อ๋อง ยโสธโร วัดใหม่พิเรนทร์ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดูฉิมพลี และพระเกจิดังแห่งยุคอีกหลายรูป และในการปลุกเสกครั้งนั้นหลวงพ่อเสถียร ฉนทโก ก็นั่งปรกปลุกเสกด้วย ต่อมาพระเกจิชื่อดังคือ “หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เทพเจ้าแห่งด่านขุนทดหรือเทพเจ้าของชาวอีสาน” ได้มาจำพรรษาที่วัดใหม่พิเรนทร์ร่วมกับหลวงพ่อเสถียรและได้ปลุกเสกวัตถุมงคลรูปเหมือนหลวงพ่อคูณปี 19 และปี 37 หลวงพ่อเสถียรได้นั่งปรกปลุกเสกวัตถุมงคลด้วยจนหลวงพ่อคูณเมื่อเจอหลวงพ่อเสถียรที่ไหนจะเรียกว่า “หลวงพ่อใหญ่หรือเจ้าคุณใหญ่” และหลวงพ่อเสถียรจะเดินทางไปถวายสักการะหลวงพ่อคูณเป็นประจำทุกปีหรือหลวงพ่อเดินทางไปกิจนิมนต์ในจังหวัดนครราชสีมา เพราะหลวงพ่อเสถียรได้ร่วมกับพระครูประวิตรวิหารการซึ่งเป็นสหธรรมิกของหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ได้ไปสร้างวัดใหม่โนนระเวียง ตำบลหนองบัวตะเกียด อำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งหลวงพ่อเสถียรได้นำญาติโยมไปทอดกฐินและผ้าป่าให้เป็นประจำทุกปี

รายละเอียด

เหรียญมหาสิริมงคล พระราชปริยัติโกศล (หลวงพ่อเสถียร) วัดใหม่พิเรนทร์ มีจาร

หลวงพ่อเสถียร ฉนฺทโก วัดใหม่พิเรนทร์ โพธ์สามต้น กรุงเทพมหานคร

ประวัติหลวงพ่อเสถียร ฉนทโก เป็นชาวอำเภอระโนด จังหวัดสงขลา เป็นบุตรของคุณโยมพ่อห้อง โยมแม่จู่เลี่ยน รัตนสุวรรณ์ มีพี่น้อง 8 คน หลวงพ่อท่านเป็นลูกคนสุดท้อง เมื่อคลอดได้ 2 ขวบ โยมแม่ได้เสียชีวิต มีพี่สาวเป็นผู้เลี้ยงดูแทนแม่ต้องหาน้ำนมให้ดื่มถ้าครอบครัวใดเพิ่งจะคลอดลูกพี่สาวก็จะนำหนูน้อยเสถียรไปขอดื่มนมกินเพราะสมัยนั้นยังไม่มีนมผงสำหรับเลี้ยงทารก ช่วงสมัยวัยรุ่นหลวงพ่อเสถียรได้ทำนาตามอาชีพดั้งเดิมของครอบครัว เมื่อเสร็จฤดูทำนาหลวงพ่อก็ท่องเที่ยวไปตามหมู่บ้าน เช่น บ้านเชิงแส บ้านเจดีย์งาม บ้านสะทิ้งพระ บ้านพะโค๊ะ บ้านต้นเลียบซึ่งอยู่ใกล้วัดพะโค๊ะวัดสมเด็จหลวงพ่อทวด เพื่อเล่นการพนันคือ เล่นปอ ทอยลูกสะบ้า ทอยกอง เข้าขั้นนักเลงการพนัน เมื่อเข้าครบอายุที่จะบวชเรียนได้ พ.ศ. 2471 บิดาได้นำไปฝากกับท่านพระครูเมฆ ติสสโร แห่งวัดเอก และได้อุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดเอกหรือวัดเชิงแสใต้ โดยมีพ่อท่านพระครูเมฆ ติสฺโร เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์คง คงฺคสฺโร เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์วัฒน์ ปุญญมณี เป็นพระอนุสาวนาจารย์ กล่าวถึงพ่อท่านเมฆ ติสฺโร เป็นพระเกจิที่มีชื่อดังของภาคใต้เป็นผู้เชี่ยวชาญในการทำวิปัสสนากรรมฐาน เคร่งครัดในพระธรรมวินัยเพราะความศักดิ์สิทธิ์ของพลังจิตและวิชาอาคมของพ่อท่านเมฆเมื่อคณะมโนราห์และหนังตะลุงเดินทางไปแสดงหากเดินทางผ่านไปโดยไม่ได้ตีกลองถวายหรือไม่ได้หยุดแสดงไม่สามารถจะไปทำการแสดงได้ราบรื่นมีอุปสรรคเสมอต้องกลับมาแสดงที่วัดถวายพ่อท่านเมฆ เมื่อพ่อท่านเมฆมรณภาพและในงานปลงศพของท่านนั้นมีคณะหนังตะลุงและมโนราห์มาทำการแสดง 100 กว่าคณะเป็นการแสดงถวายต่อพ่อท่านเฆม ติสสโร แห่งวัดเอก หรือเชิงแสใต้ พระเกจิอาจารย์ผู้เรืองเวท

เมื่อใกล้เวลาออกพรรษาหลวงพ่อเสถียรได้เดินทางไปศึกษานักธรรมและภาษาบาลีที่สำนักเรียนวัดราษฎร์บำรุงกับพระอาจารย์แก้ว พ่อท่านเมฆได้ทราบข่าวว่าพระเสถียรจะลาสึกขาบทเพราะโยมพ่อได้ตัดเสื้อกางเกงถวายแล้ว พ่อท่านเมฆได้ให้ลูกศิษย์พายเรือจากวัดเอกไปหาพระลูกศิษย์ที่วัดราษฎร์บำรุงโดยท่านได้ขอร้องให้พระเสถียรบวชอยู่ต่อไปเถอะ ในคืนวันนั้นหลวงพ่อเสถีรยได้พิจารณาตามคำขอร้องของพระอุปัชฌาย์ ในเช้าตรู่วันนั้นจึงตัดสินใจไม่ลาสิกขาบทจึงเกิดเหตุการณ์เสื้อกางเกงแลกกับผ้าสังฆาฎิ

หลวงพ่อเสถียร์จึงมอบเสื้อผ้ากางเกงให้แก่เพื่อนโดยขอแลกกับสังฆาฎิของเพื่อนที่สึกหาลาเพศออกไป หลวงพ่อได้เรียนสวดมนต์สิบสองตำนาน เจ็ดตำนาน และจนจบการสวดภาณยักษ์ในป่าช้าวัดราษฎรบำรุง อำเภอระโนด และฝึกวิปัสสนากรรมฐานไปด้วยรวมทั้งศึกษาคาถาอาคมจากพ่อท่านเมฆ ซึ่งพระอาจารย์อุปัชฌาย์ของท่าน การรับปากกับพระอุปัชฌาย์แล้วว่าไม่ลาสึกขาบทหลวงพ่อเสถียรใช้เวลาเพียง 15 วันท่องพระปาติโมกข์จนจบ ด้วยความเป็นพระเคร่งครัดในพระธรรมวินัย และมีพลังจิตที่แก่กล้าสามารถจำวัดอยู่ป่าช้าได้ตั้งพรรษาแรก เพราะการเรียนสวดภาณยักษ์ เจ็ดตำนาน สิบสองตำนาน พระปาติโมกข์ และภาษาบาลีหลวงพ่อได้ไปท่องบ่นในป่าช้าวัดราษฎร์บำรุง หลวงพ่อกล่าวว่าป่าช้าสงบดีไม่มีใครรบกวนและสมาธิก็มั่นทรงจำได้รวดเร็ว

เมื่อได้ศึกษานักธรรมจบแล้วและศึกษาภาษาลีไปพร้อมกันด้วยสองปีแรกก็เตรียมตัวสอบเป็นพระมหาเปรียญ ขณะเดียวกันมีความสามารถเป็นครูสอนภาษาบาลีได้แล้ว เมื่อเดินทางเข้ามาจำพรรษาที่วัดตีนเมรุ จังหวัดสงขลาเพื่อศึกษาภาษาบาลีเพิ่มเติมได้รับนิมนต์จากท่านเจ้าคุณวัดถ้ำ จังหวัดยะลา คู่กับท่านพระมหาประสิทธ์ ให้เดินทางไปสอนภาษาบาลีที่วัดคูหาภิมุขหรือวัดถ้ำ จังหวัดยะลา การเดินทางไปมาระหว่างวัดตีนเมรุและวัดถ้ำ จ.ยะลา เพื่อสอนภาษาบาลีให้แก่พระภิกษุสามเณรที่วัดถ้ำจังหวัดยะลา และตัวหลวงพ่อเสถียรก็ศึกษาภาษาบาลีด้วยตัวเองจึงสามารถสอบได้เป็นมหาเปรียญในปีนี้เอง หลวงพ่อเสถียร ฉนฺทโก มีพระเกจิอาจารย์สายหลวงพ่อทวดที่เป็นสหธรรมิกรุ่นพี่คือพ่อท่านฉิ้นหรือพระธรรมสิทธิมงคล แห่งวัดเมืองจังหวัดยะลา โดยมีภูมิลำเนาอยู่อำเภอระโนดเหมือนกัน ซึ่งเป็นสหธรรมิกกับพระอาจารย์ทิม วัดช้างให้ได้ศึกษาหาความรู้ในเรื่องศาสตร์การทำหลวงพ่อทวดมาโดยตลอดเวลา เมื่อไปเดินทางไปสอนภาษาบาลีที่วัดถ้ำยะลาได้พบกับพ่อท่านเขียว กิตติคุโณ วัดห้วยเงาะ จังหวัดปัตตานี ได้สนทนาธรรมและแลกเปลี่ยนวิชาความรู้กัน หลวงพ่อเสถียร ฉนทโก จึงเป็น “พระที่มีพลังจิตแก่กล้า เมตตามหานิยม เป็นพระสงฆ์ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความเมตตามากต่อประชาชน รับกิจนิมนต์ทั้งนั่งปรกปลุกเสก เจิมรถขึ้นบ้านใหม่ และทำน้ำมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ทุกคนที่มาหาไม่ได้ว่างเว้น ลูกศิษย์บางคนเมื่อนำผลไม้มาถวายมักจะจ้องมองว่าท่านฉันผลไม้ผลใดกี่ผลแล้วนำไปเป็นเลขโชคลาภ ได้โชคมีลาภไปก็หลายคน แม้หลวงพ่อบอกว่าเราไม่เคยบอกเลขหรอก เขาไปคิดกันเอง ด้วยความที่หลวงพ่อเป็นพระมีเมตตา ไม่ว่าใครมาขอพรกราบนมัสการจะทำอะไรสำเร็จสมความปรารถนาทุกประการ ถึงกับมีคำกล่าวว่าหลวงพ่อเป็นพระที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความเมตตาและพลังจิตแก่กล้า เมตตามหานิยม ” ด้วยบารมีธรรมของหลวงพ่อเสถียร ฉนฺทโก จึงทำให้ท่านสามารถสร้าง วัดเอก อำเภอกระแสสินธิ์ จังหวัดสงขลา สร้างอุโบสถ์วัดเอกเพื่อประดิษฐานหลวงพ่อเดิม เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ประจำวัดเอก และเป็นพระประธานในอุโบสถแห่งนี้ การจัดสร้างสำเร็จลุล่วงไปโดยใช้งบประมาณค่าก่อสร้างไป 120 ล้านบาท และในปัจจุบันได้จัดชื้อที่ดินขยายวัดเอกเป็นสถานที่ปฎิบัติวิปัสสนากรรมฐานเพื่อสืบสานปณิธานของพระอุปัชฌาย์ พระครูเมฆ ติสสโร สำหรับพระภิกษุและสามเณรและประชาชนทั่วไป เข้ามาศึกษาฝึกกรรมฐาน และวัดใหม่พิเรนทร์ก็มีการจัดตั้งสำนักปฎิบัตธรรมฝึกวิปัสสนากรรมฐาน และส่งพระไปศึกษาวิปัสนากรรมฐานที่ประเทศพม่าหลายรูปโดยมีพระจากวัดใหม่พิเรนทร์และวัดเอก

สำหรับปัจจุบันพระราชปริยัติโกศล (หลวงพ่อเสถียร ฉนฺทโก ป.ธ.9) ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดใหม่พิเรนทร์ เป็นเจ้าคณะแขวงวัดอรุณ เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะแขวงวัดอรุณ วัดใหม่พิเรนทร์เป็นวัดเก่าแก่สมัยรัตนโกสินธิ์ตอนต้น ได้ทำพิธีมหาพุทธาภิเษกวัตถุมงคลอันโด่งดังคือสมเด็จอรหัง ปี พ.ศ.2511 โดยมีหลวงปู่อ๋อง ยโสธโร วัดใหม่พิเรนทร์ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดูฉิมพลี และพระเกจิดังแห่งยุคอีกหลายรูป และในการปลุกเสกครั้งนั้นหลวงพ่อเสถียร ฉนทโก ก็นั่งปรกปลุกเสกด้วย ต่อมาพระเกจิชื่อดังคือ “หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เทพเจ้าแห่งด่านขุนทดหรือเทพเจ้าของชาวอีสาน” ได้มาจำพรรษาที่วัดใหม่พิเรนทร์ร่วมกับหลวงพ่อเสถียรและได้ปลุกเสกวัตถุมงคลรูปเหมือนหลวงพ่อคูณปี 19 และปี 37 หลวงพ่อเสถียรได้นั่งปรกปลุกเสกวัตถุมงคลด้วยจนหลวงพ่อคูณเมื่อเจอหลวงพ่อเสถียรที่ไหนจะเรียกว่า “หลวงพ่อใหญ่หรือเจ้าคุณใหญ่” และหลวงพ่อเสถียรจะเดินทางไปถวายสักการะหลวงพ่อคูณเป็นประจำทุกปีหรือหลวงพ่อเดินทางไปกิจนิมนต์ในจังหวัดนครราชสีมา เพราะหลวงพ่อเสถียรได้ร่วมกับพระครูประวิตรวิหารการซึ่งเป็นสหธรรมิกของหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ได้ไปสร้างวัดใหม่โนนระเวียง ตำบลหนองบัวตะเกียด อำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งหลวงพ่อเสถียรได้นำญาติโยมไปทอดกฐินและผ้าป่าให้เป็นประจำทุกปี