หมวด พระกริ่ง พระชัยวัฒน์

พระกริ่งพิจิตร ออกวัดท่าฬ่อ ปี 2516

ชื่อร้านค้า	จ่าจีระสิทธิ์ - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า	jeerasit (112)
ชื่อพระเครื่อง	พระกริ่งพิจิตร ออกวัดท่าฬ่อ ปี 2516
อายุพระเครื่อง	52 ปี
หมวดพระ	พระกริ่ง พระชัยวัฒน์
ราคาเช่า	-
เบอร์โทรติดต่อ	08-6560-4037
อีเมล์ติดต่อ	Tayanrum@hotmail.com
LINE	(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
สถานะ
Facebook	Share
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่	ศ. - 07 มิ.ย. 2562 - 21:07.38
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ	พ. - 03 ก.ค. 2562 - 21:30.31

รายละเอียด
พระกริ่งพิจิตร ออกวัดท่าฬ่อ ปี 2516 เครดิต จาก (องค์นี้เป็น เนื้อทองคำ) https://www.web-pra.com/auction/show/7667453 แม้พระกริ่งพิจิตรรุ่นนี้ ประวัติการสร้างยังไม่ค่อยมีผู้ใดนำมาเผยแพร่ให้ทราบมากนัก แต่ก็ยังนับเป็นพระกริ่งรุ่นที่น่าสนใจกันอีกรุ่นหนึ่ง ของจังหวัดพิจิตร นักสะสมส่วนมากเข้าใจว่าพระสร้างขึ้นปี พ.ศ. 2516 ตามตัวเลขโค้ดใต้ฐาน หากแต่แท้ที่จริงแล้วพระรุ่นนี้สร้างขึ้นพร้อมกันกับพระพิมพ์ผงดำ และยอดพระกรุขนาดจิ๋วแห่งเมืองพิจิตรอีก 6 พิมพ์ รวมถึงเหรียญหางแมงป่อง ที่ด้านหน้าเป็นรูป "หลวงปู่ภู" และ พระบูชาพระพุทธศิลามหามุนี หรือหลวงพ่อหิน รุ่นแรก ซึ่งพระหลวงพ่อหินนี้ มีความศักดิ์สิทธ์เป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้านทั่วไป แต่เดิมพบเฉพาะเศียรแถวๆ วัดมหาธาตุ เมืองเก่าพิจิตร ต่อมาจึงอัญเชิญพระเศียรมายังวัดท่าฬ่อ แล้วจ้างช่างจังหวัดสุโขทัยมาประกอบ เป็นองค์พระจนสมบูรณ์งดงาม ตามกำหนดการสร้างวัตถุมงคลชุดดังกล่าว เจ้าประคุณสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (ปุ่น ปุณณสิริ) วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม มีเมตตาทรงเจิมและประทานเทียนชัยแก่พิธีกรรมในครั้งนั้นด้วย โดยมีพลโท.สำราญ แพทยกุล แม่ทัพภาคที่ 3 (ยศในขณะนั้น) ซึ่งต่อมาภายหลังได้รับพระราชทานยศชั้น พลเอก และได้รับพระมหหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งองคมนตรี จนถึงแก่อนิจกรรม เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พิธีพุทธาภิเษกครั้งยิ่งใหญ่นี้ จัดขึ้น ณ พระอุโบสถวัดท่าฬ่อ เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2515 ถึงแม้ข้อมูลไม่ชัดเจนว่าผู้ใดเป็นเจ้าพิธี ระหว่างพระอาจารย์ไสว สุมโน แห่ง วัดราชนัดดาฯ หรือ อาจารย์เชื้อ หนูเพชร แห่งวัดสะพานสูง ซึ่งมักฝากฝีมือร่วมกับนายช่างเกษม มงคลเจริญ ไม่ว่าจะเป็นท่านใดก็ตาม จัดได้ว่าทั้งสองท่านล้วนมีชื่อเสียงเลื่องลือในด้านวิชาอาคมและสามารถจัดพิธีการสร้างพระกริ่งและพระชัยวัฒน์ตลอดจนผสมเนื้อโลหะได้ถูกต้องตามตำรา ที่นับได้ว่าไม่เป็นรองผู้ใดในหลังยุคกึ่งพุทธกาลเลยทีเดียว แต่ข้อมูลที่สามารถยืนยันได้แน่นอน เท่าที่ปรากฏหลักฐาน ในพิธึพุทธาภิเษกครั้งนี้ มีพระคณาจารย์ชื่อเสียงโด่งดังรับนิมนต์เข้าร่วมปลุกเสกวัตถุมงคลมากมาย อาทิเช่น พระราชสังวราภิมณฑ์ หรือ หลวงปู่โต๊ะ แห่ง วัดประดู่ฉิมพลี . พระญาณโพธิ (เข็ม กุนฺตาโร) และ พระพุทธมนต์วราจารย์ (สุพจน์) แห่ง วัดสุทัศน์ฯ กรุงเทพฯ, พระครูศรีพรหมโสภิต หรือ หลวงพ่อแพ แห่ง วัดพิกุลทอง สิงห์บุรี, พระรักขิตวันมุนี หรือ หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลยก์ สุพรรณบุรี, พระครูประสาทวรคุณ หริอ หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โก่งธนู ลพบุรี, พระครูนนทกิจวิมล หรือ หลวงพ่อชื่น วัดตำหนักเหนือ นนทบุรี รวมถึงพระเกจิชื่อดังแห่งเมืองพิจิตรในยุคนั้น ได้แก่ พระครูพิพัฒน์ธรรมคุณ หรือหลวงพ่อเตียง วัดเขารูปช้าง, พระครูวิบูลธรรมเวท (เปรื่อง) วัดหิรัญญาราม หรือ วัดบางคลาน, พระครูพิลาสธรรมกิตติ์ (ทวี) วัดโรงช้าง . พระครูพิมลธรรมานุศิษฐ์ หรือ หลวงพ่อขวัญ วัดบ้าน ฯทั้งนี้ยังไม่นับพระคณาจารย์อีกหลายท่านที่เข้าร่วมในพิธีและมิได้มีการบันทึกเป็นหลักฐานชัดเจนอีกเป็นจำนวนมาก จึงนับได้ว่าพระกริ่งพิจิตร และพระเครื่องชุดนี้ มีพุทธคุณและเป็นมงคลสูงอย่างยิ่ง ที่นักสะสมทั่วไปนิยมแสวงหากันไว้เป็นกรรมสิทธิ์อีกรุ่นหนึ่งของเมืองพิจิตร อีกทั้งส่วนมากพระเครื่องที่สร้างขึ้นสร้างในปีพ.ศ.2515 เกือบทุกวัด ล้วนพระเครื่องดังพิธียิ่งใหญ่ ที่สาธุชนผู้ศรัทธาและนักสะสมทั่วไปยอมรับกันทั่วประเทศ จึงไม่น่าแปลกใจที่ไม่ค่อยได้ยลโฉมพระเครื่องและวัตถุมงคลของพิธีดังกล่าวนี้ในสนามพระทั่วไปมากนัก

รายละเอียด

พระกริ่งพิจิตร ออกวัดท่าฬ่อ ปี 2516

เครดิต จาก (องค์นี้เป็น เนื้อทองคำ)

https://www.web-pra.com/auction/show/7667453

แม้พระกริ่งพิจิตรรุ่นนี้ ประวัติการสร้างยังไม่ค่อยมีผู้ใดนำมาเผยแพร่ให้ทราบมากนัก แต่ก็ยังนับเป็นพระกริ่งรุ่นที่น่าสนใจกันอีกรุ่นหนึ่ง ของจังหวัดพิจิตร นักสะสมส่วนมากเข้าใจว่าพระสร้างขึ้นปี พ.ศ. 2516 ตามตัวเลขโค้ดใต้ฐาน หากแต่แท้ที่จริงแล้วพระรุ่นนี้สร้างขึ้นพร้อมกันกับพระพิมพ์ผงดำ และยอดพระกรุขนาดจิ๋วแห่งเมืองพิจิตรอีก 6 พิมพ์ รวมถึงเหรียญหางแมงป่อง ที่ด้านหน้าเป็นรูป "หลวงปู่ภู" และ พระบูชาพระพุทธศิลามหามุนี หรือหลวงพ่อหิน รุ่นแรก ซึ่งพระหลวงพ่อหินนี้ มีความศักดิ์สิทธ์เป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้านทั่วไป แต่เดิมพบเฉพาะเศียรแถวๆ วัดมหาธาตุ เมืองเก่าพิจิตร ต่อมาจึงอัญเชิญพระเศียรมายังวัดท่าฬ่อ แล้วจ้างช่างจังหวัดสุโขทัยมาประกอบ เป็นองค์พระจนสมบูรณ์งดงาม

ตามกำหนดการสร้างวัตถุมงคลชุดดังกล่าว เจ้าประคุณสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (ปุ่น ปุณณสิริ) วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม มีเมตตาทรงเจิมและประทานเทียนชัยแก่พิธีกรรมในครั้งนั้นด้วย โดยมีพลโท.สำราญ แพทยกุล แม่ทัพภาคที่ 3 (ยศในขณะนั้น) ซึ่งต่อมาภายหลังได้รับพระราชทานยศชั้น พลเอก และได้รับพระมหหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งองคมนตรี จนถึงแก่อนิจกรรม เป็นประธานฝ่ายฆราวาส

พิธีพุทธาภิเษกครั้งยิ่งใหญ่นี้ จัดขึ้น ณ พระอุโบสถวัดท่าฬ่อ เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2515 ถึงแม้ข้อมูลไม่ชัดเจนว่าผู้ใดเป็นเจ้าพิธี ระหว่างพระอาจารย์ไสว สุมโน แห่ง วัดราชนัดดาฯ หรือ อาจารย์เชื้อ หนูเพชร แห่งวัดสะพานสูง ซึ่งมักฝากฝีมือร่วมกับนายช่างเกษม มงคลเจริญ ไม่ว่าจะเป็นท่านใดก็ตาม จัดได้ว่าทั้งสองท่านล้วนมีชื่อเสียงเลื่องลือในด้านวิชาอาคมและสามารถจัดพิธีการสร้างพระกริ่งและพระชัยวัฒน์ตลอดจนผสมเนื้อโลหะได้ถูกต้องตามตำรา ที่นับได้ว่าไม่เป็นรองผู้ใดในหลังยุคกึ่งพุทธกาลเลยทีเดียว

แต่ข้อมูลที่สามารถยืนยันได้แน่นอน เท่าที่ปรากฏหลักฐาน ในพิธึพุทธาภิเษกครั้งนี้ มีพระคณาจารย์ชื่อเสียงโด่งดังรับนิมนต์เข้าร่วมปลุกเสกวัตถุมงคลมากมาย อาทิเช่น พระราชสังวราภิมณฑ์ หรือ หลวงปู่โต๊ะ แห่ง วัดประดู่ฉิมพลี . พระญาณโพธิ (เข็ม กุนฺตาโร) และ พระพุทธมนต์วราจารย์ (สุพจน์) แห่ง วัดสุทัศน์ฯ กรุงเทพฯ, พระครูศรีพรหมโสภิต หรือ หลวงพ่อแพ แห่ง วัดพิกุลทอง สิงห์บุรี, พระรักขิตวันมุนี หรือ หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลยก์ สุพรรณบุรี, พระครูประสาทวรคุณ หริอ หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โก่งธนู ลพบุรี, พระครูนนทกิจวิมล หรือ หลวงพ่อชื่น วัดตำหนักเหนือ นนทบุรี รวมถึงพระเกจิชื่อดังแห่งเมืองพิจิตรในยุคนั้น ได้แก่ พระครูพิพัฒน์ธรรมคุณ หรือหลวงพ่อเตียง วัดเขารูปช้าง, พระครูวิบูลธรรมเวท (เปรื่อง) วัดหิรัญญาราม หรือ วัดบางคลาน, พระครูพิลาสธรรมกิตติ์ (ทวี) วัดโรงช้าง . พระครูพิมลธรรมานุศิษฐ์ หรือ หลวงพ่อขวัญ วัดบ้าน ฯทั้งนี้ยังไม่นับพระคณาจารย์อีกหลายท่านที่เข้าร่วมในพิธีและมิได้มีการบันทึกเป็นหลักฐานชัดเจนอีกเป็นจำนวนมาก

จึงนับได้ว่าพระกริ่งพิจิตร และพระเครื่องชุดนี้ มีพุทธคุณและเป็นมงคลสูงอย่างยิ่ง ที่นักสะสมทั่วไปนิยมแสวงหากันไว้เป็นกรรมสิทธิ์อีกรุ่นหนึ่งของเมืองพิจิตร อีกทั้งส่วนมากพระเครื่องที่สร้างขึ้นสร้างในปีพ.ศ.2515 เกือบทุกวัด ล้วนพระเครื่องดังพิธียิ่งใหญ่ ที่สาธุชนผู้ศรัทธาและนักสะสมทั่วไปยอมรับกันทั่วประเทศ จึงไม่น่าแปลกใจที่ไม่ค่อยได้ยลโฉมพระเครื่องและวัตถุมงคลของพิธีดังกล่าวนี้ในสนามพระทั่วไปมากนัก