เหรียญรุ่นแรกหลวงพ่อบุญมา วัดเทพพล ปี 2520 -จ่าจีระสิทธิ์ - webpra
VIP
  • 0 8 6 - 5 6 0 4 0 3 7
  • Page 1
  • Page 2
หน้าที่ และความรับผิดชอบ

หมวด เหรียญปั๊ม ก่อนปี 2520

เหรียญรุ่นแรกหลวงพ่อบุญมา วัดเทพพล ปี 2520

เหรียญรุ่นแรกหลวงพ่อบุญมา วัดเทพพล ปี 2520   - 1เหรียญรุ่นแรกหลวงพ่อบุญมา วัดเทพพล ปี 2520   - 2เหรียญรุ่นแรกหลวงพ่อบุญมา วัดเทพพล ปี 2520   - 5
ชื่อร้านค้า จ่าจีระสิทธิ์ - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า
ชื่อพระเครื่อง เหรียญรุ่นแรกหลวงพ่อบุญมา วัดเทพพล ปี 2520
อายุพระเครื่อง 46 ปี
หมวดพระ เหรียญปั๊ม ก่อนปี 2520
ราคาเช่า -
เบอร์โทรติดต่อ 08-6560-4037
อีเมล์ติดต่อ Tayanrum@hotmail.com
LINE
(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
สถานะ เช่าแล้ว
Facebook
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ จ. - 16 เม.ย. 2561 - 20:49.36
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ ศ. - 29 พ.ย. 2562 - 20:39.22
รายละเอียด
เหรียญ ปี 2520 หลวงพ่อบุญมา วัดเทพพล

เหรียญใหญ่ 4 ซ.ม. ครับ


ท่านอาจารย์ฆราวาสผู้เป็นดั่งตำนาน มีอาวุโสสูงในสายวิชายันต์เกราะเพชร ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค

-อาจารย์ปู่ท่านเคยบวชเรียนได้เป็นถึงพระครู สร้างวัด และบูรณะมาแล้วมากมายหลายวัด

-ขณะดำรงค์สมณะเพศ ได้เป็นพระอุปัชฌาย์บวชพระมามากกว่า 300รูป

-พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เคยทรงใส่บาตรอาจารย์ปู่(ขณะดำรงค์สมณะเพศ) เมื่อปีพ.ศ.2524 ที่วัดโพธิ์ และอาจารย์ปู่ก็ได้ทูลเกล้าถวายตะกรุดพระเจ้า16พระองค์ และเหรียญพระสามห่วงอันมากประสบการณ์

-ปี2518 อาจารย์ปู่(ขณะดำรงค์สมณะเพศ) ได้ขึ้นทูลเกล้าถวายผ้ายันต์ปัดที่นอนและตะกรุดพระเจ้า16พระองค์ แก่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ

-ปี2523 อาจารย์ปู่(ขณะดำรงค์สมณะเพศ) ได้ขึ้นทูลเกล้าถวายผ้ายันต์ปัดที่นอนและตะกรุดพระเจ้า16พระองค์ แก่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ

-นายเกรียงศักดิ์ ชมนันท์(อดีตนายก) นายสมัคร สุนทรเวศ(อดีตนายก) พลเอกสายหยุด เกิดผล) และนายทหารข้าราชการตำรวจระดับสูงหลายท่านสมัยนั้น ล้วนเคยเป็นลูกศิษย์ของท่าน


*ชีวิตอาจาร์ปู่ในวัยเยาว์**(ตอน 1)

ท่านอาจารย์ปู่บุญมา ถือกำเนิดเมื่อปี พ.ศ.2466 ในวัยเด็กของท่าน ตั้งแต่จำความได้ก็คลุกคลีผูกพันอยู่ในแวดวงไสยเวทย์ตั้งแต่ยังเล็ก ท่านเล่าว่าสมัยเด็กๆพอเริ่มจำความได้ ก็จะเห็นคุณปู่ คุณตา รักษาโรคให้คนทั่วไปที่เดือดร้อน คนที่ไม่มีสตางค์เรียกว่าแบกหามกันมาให้รักษาที่บ้านของท่านด้วยวิชาอาคม ตั้งแต่เป่าน้ำมนต์พ่นน้ำหมาก เสกปูน สูญฝีรักษาโรค ถากไม้ สับไม้รักษาเรื่องปวดต่างๆ พอท่านเห็นมากๆเข้าก็ยิ่งมีความสนใจว่าทำไมโรคต่างๆเหล่านี้ถึงหายได้จากการท่องคาถา ท่านจึงได้ขอเรียนวิชาเหล่านี้กับคุณพ่อ คุณตา และคุณปู่ของท่านเอง ทั้ง 3ท่านนี้จึงถือได้ว่าเป็นครูคนแรกของท่านทางไสยเวทย์

พออายุท่านได้ 6ปีท่านก็ได้ไปใช้ชีวิตเป็นเด็กวัดที่วัดประดู่ บางพรหม เริ่มเรียนอักขระวิถีต่างๆ พออายุได้ 9ปี พ.ศ.2475 ก็เริ่มเรียนพระคัมภีร์มูลกัจจายน์ และเรียนหนังสือที่วัดศาลาแดง ครั้นพออายุท่านได้ 16ปี ท่านก็ไปทำงานที่กรมอู่ทหารเรือ ทำงานรถไฟที่หัวลำโพง ในช่วงตอนนั้นถือได้ว่าท่านมีใจฝักใฝ่ด้านไสยเวทย์ยวิทยานมากๆ หากได้ยินว่ามีครูบาอาจารย์ที่ไหนดี ที่ไหนเก่ง ท่านก็จะตระเวนไปขอร่ำเรียนมา อย่างละตัว สองตัวบ้างตามแต่ครูบาอาจารย์ท่านนั้นจะถนัดทางไหนและให้วิชาอะไรท่านมา อาจารย์ปู่บุญมาท่านพูดกับผมว่าครูบาอาจารย์ของปู่มีเยอะมาก จำไม่หมดจริงๆ

หลังจากนั้นท่านก็ไปทำงานกรมชลประทาน ไปประจำอยู่ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นช่วงสงครามโลกครั้งที่2 ท่านเล่าว่าปู่ไปทำงานที่เมืองกาญนี่นะ สมัยนั้นไปทำอยู่กะพวกญี่ปุ่น ท่านเป็นคนงานเพียงคนเดียวที่ทหารญี่ปุ่นอนุญาติให้เข้าไปในค่ายทหารของเขาได้ตลอดเวลาตามที่ต้องการ แล้วเวลาเข้าไป ทหารญี่ปุ่นก็จะเลี้ยงดูหาข้าว หาปลาให้กินเป็นอย่างดี มาถึงตรงนี้ผมเรียนถามท่านว่าเพราะอะไร ทำไมทหารญี่ปุ่นจึงดีกับอาจารย์ปู่จัง? ท่านได้แต่ยิ้มแล้วพูดว่า คงโดนนะมหาละลวย มหานิยมของปู่ไปซะละมั๊งแล้วท่านก็หัวเราะ..หึหึ


**จะขอบวชจนสิ้นพ่อ-สิ้นแม่**(ตอน 2)

หลังจากท่านอาจารย์ปู่บุญมาไปทำงานอยู่ที่เมืองกาญจนบุรีได้หลายปี จนท่านมีอายุครบบวช ท่านจึงกลับมาภูมิลำเนาและเข้าอุปสมบทที่วัดโพธิ์ บางระมาด กรุงเทพฯ โดยมีหลวงพ่อวงศ์ วัดมะกอก เป็นพระอุปัชฌาย์ มีหลวงปู่นวล วัดโพธิ์ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “จันทูปโม” โดยท่านอาจารย์ปู่ ได้ตั้งสัจจะอธิษฐานในการบวชครั้งนี้ต่อครูบาอาจารย์และพระอุปัชฌาย์ว่า “จะขอบวชจนสิ้นพ่อ สิ้นแม่” เมื่อท่านบวชแล้ว ท่านก็ได้ฝากตัวเป็นลูกศิษย์พระคุณหลวงปู่นวล (หลวงปู่นวลรูปนี้ถือเป็นศิษย์ระดับหัวกะทิ ของหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค และหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอกก็ให้ความเมตตามาก ผู้เขียนจะกล่าวถึงในลำดับต่อไป)

ในเวลากลางวันอาจารย์ปู่ท่านก็จะไปเรียนนักธรรม พอตกกลางคืนก็จะไปปรนนิบัติรับใช้หลวงปู่นวล ท่านว่านวดไป2-3ชั่วโมง พอหลวงปู่นวลอารมณ์ดี ท่านก็จะให้คาถามาท่อนนึง ซึ่งบางทีคาถาบทนึง ต้องใช้เวลาถึง 5 คืนหลวงปู่นวลถึงจะให้หมด บางครั้งหลวงปู่นวลก็จะให้คัมภีร์ ตำรับ ตำราอาจารย์ปู่ไปทีละเล่ม พอกลับมาจากกุฏิหลวงปู่นวล อาจารย์ปู่ท่านก็จะเร่งอ่าน เขียน ลอกตำราเหล่านั้น ด้วยความตั้งใจ และในวันถัดไปท่านก็จะไปท่อง เขียนให้หลวงปู่นวลดู จนหลวงปู่นวลเองท่านพอใจในความตั้งใจเรียนของอาจารย์ปู่มาก

**หลวงปู่นวล อาจารย์ผู้ประเสริฐ** (ตอน 3 )

และในคืนวันหนึ่ง อยู่ในช่วงพรรษาแรก ก็มีพระรูปนึงมาหาท่านอาจารย์ปู่ พร้อมกับขอให้ท่านสักยันต์ให้ ตัวท่านเองก็บ่ายเบี่ยงว่าสักไม่เป็น ไม่มีวิชาอะไร ตกคืนถัดมา พระรูปนั้นก็มาอีก พร้อมพระรูปอื่นและเณรอีก2-3คน คราวนี้ไม่มาเปล่า ถือทั้งเข็มสักและน้ำหมึกมาด้วย รบเร้าท่านให้สักให้ อาจารย์ปู่เห็นดังนั้นและทนการรบเร้าไม่ไหว จึงได้สักตัวเฑาะว์ ซึ่งเป็นยันต์ครูของหลวงปู่นวลให้ไป (ตรงนี้อาจารย์ปู่เล่าให้ฟังว่า ก็เอาเข็มแทงๆไปล่ะ ออกจะไม่สวยด้วย เพราะไม่เคยสัก)หลังจากสักเสร็จ พอพระรูปนั้นลากลับ ขณะที่เปิดกุฏิออกไป มีพระอีกรูปนึงรออยู่ข้างนอกจัดแจงเอามีดแทงเข้าสีข้างพระรูปที่เพิ่งสักไปทันทีดัง บึก! บึก! ปรากฏว่าแทงไม่เข้า เท่านั้นแหละคราวนี้พระเณรที่มาด้วยต่างพากันขอให้อาจารย์ปู่สักให้บ้างกันเป็นแถวเลย

พอย่างเข้าพรรษาที่ 3 ท่านก็รู้สึกว่าเริ่มผ้าเหลืองร้อน ใจอยากจะสึกออกไปช่วยพ่อ ช่วยแม่ที่บ้านและก็ท่องเที่ยวไปตามประสาวัยรุ่น ท่านเลยไปขอลาสึกกับหลวงปู่นวล แต่ทุกครั้งหลวงปู่นวลจะบอกปัดท่านว่า ไม่มีฤกษ์สึกบ้าง ไม่ว่างบ้าง สึกแล้วไม่ดีบ้าง จนอาจารย์ปู่ท่านรู้ดีว่าถ้าไปขอกับหลวงปู่นวลตรงๆท่านคงไม่ยอมให้สึกแน่ จึงได้ใช้วิธีแอบไปกับหมู่คณะที่จะสึก ซึ่งมีจำนวนหลายรูป โดยอาจารย์ปู่ท่านนั่งแอบอยู่แถวข้างหลัง ปรากฏว่าพอหลวงปู่นวลเห็นเท่านั้นแหละ ถึงกับเอ็ดตะโลว่าท่านทันที แถมไล่ไม่ให้สึกอีกด้วย

จนอยู่มาวันหนึ่งหลวงปู่นวลติดแขกที่มาหามากมาย เลยไม่ว่างไปอาบน้ำมนต์ให้กับโยมที่มารออยู่ จึงได้ให้เณรไปตามอาจารย์ปู่มาหา และก็บอกว่า “คุณมา คุณไปอาบน้ำมนต์ให้โยมที่รอแทนผมที” อาจารย์ปู่ได้แต่อึกอัก หลวงปู่นวลจึงบอกว่า คาถาอาคม พระเวทย์ต่างๆก็เรียนแล้ว เมื่อเรียนแล้วก็ต้องเอาจริง ทำให้จริง ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาอาจารย์ปู่เลยมีหน้าที่เพิ่มคือ คอยอาบน้ำมนต์ให้กับญาติโยมแทนหลวงปู่นวล

อาจารย์ปู่มักจะพูดกับผู้เขียนเสมอว่า หลวงปู่นวลนั้นท่านเป็นครูบาอาจารย์ที่ประเสริฐที่สุด ท่านไม่เคยกดลูกศิษย์ไว้ คนไหนมีแววได้ดี ท่านจะส่งเสริมและบอกเสมอว่าต้องให้เก่งกว่าอาจารย์ เก่งกว่าหลวงปู่ให้ได้ ท่านอาจารย์ปู่บุญมาอยู่เรียนวิชากับหลวงปู่นวลได้ 8ปี 1เดือน 12วัน ท่านก็มีเหตุที่ต้องย้ายวัดไป

.....ยาวครับ ...ติดตามได้จาก เพจ คุ้มเทวา

ขอบพระคุณมากครับ


ประวัติโดยสังเขป อ.ปู่บุญมา พุ่มมาลี

อาจารย์ปู่ท่านเรียนอาคมครั้งแรกกับปู่และพ่อของท่านต่อมาก็ได้ศึกษากับบรรดาญาติ ปี๒๔๙๒ได้บวชพระอยู่ที่วัดโพธิ์ บางระมาด เรียนวิชาจากหลวงพ่อนิ่ม หลวงปู่นวล(พระครูโพธิสารคุณ อดีตเจ้าอาวาสวัดโพธิ์ บางระมาด) ได้เริ่มสักยันต์ให้แก่ลูกศิษย์ตั้งแต่พรรษาแรก จนหลวงสั่งห้ามสักเพราะสมัยนั้นโจรผู้ร้ายชุกชุม เมื่อโจรมีของดีทำให้ตำรวจจับลำบาก

พูดถึงหลวงปู่นวล หลวงปู่นวลท่านเป็นสหธรรมิกกับหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค และหลวงปู่นวลได้เดินทางไปแลกเปลี่ยนวิชากับหลวงปู่ปานอยู่หลายครั้ง

ปี๒๔๙๗ ปู่ได้ไปเรียนวิชาเพิ่มเติมกับหลวงพ่อโชติ วัดตะโน จากนั้นประมาณปี๒๔๙๘ ปู่ได้ย้ายจากวัดโพธิ์ บางระมาด มาเป็นเจ้าอาวาสวัดเทพพล บางพรม ตลิ่งชัน ได้เริ่มสักยันต์ให้แก่ลูกศิษย์อีกครั้งมีประสบการณ์มากมาย ตีไม่แตก ฟันไม่เข้า ท่านได้ทำตะกรุดโทน ตะกรุด ๑๖ ดอกตำรับหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก ซึ่งได้นำขึ้นถวายพระบรมโอรสาธิราช ทำผ้ายันต์ปัดที่นอนถวายพระบรมโอรสาธิราชและสมเด็จพระเทพ ในปี ๒๕๑๘ ซึ่งเป็นที่นิยมและโด่งดังมากในสมัยนั้น หลังจากที่ปู่มาเป็นเจ้าอาวาสวัดเทพพล ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ อยู่หลายครั้ง ตั้งแต่พระสมุห์ , พระอุปัชฌาย์ จนถึงพระครูวิศิฏฐ์บุญญาคม ในสมัยนั้นได้มีญาติโยมแถวพุทธมณฑลสาย๒ นำที่ดินมาถวายให้วัดเทพพล แต่ที่ดินอยู่ไกลจากวัดเทพพลมาก ปู่จึงนำที่ตรงนั้นสร้างวัดขึ้นมา โดยเอาสมณศักดิ์ของท่าน(พระครูวิศิฏฐ์บุญญาคม)มาตั้งเป็นชื่อวัด ให้ชื่อวัดว่า วัดวิศิฏฐ์บุญญาวาส

ต่อมาประมาณปี๒๕๒๖ ปู่ได้ลาสิกขามาใช้ชีวิตฆราวาส แต่ปู่ก็นำวิชาอาคมที่ศึกษาเล่าเรียนมา ช่วยเหลือลูกศิษย์มาถึงปัจจุบัน

ปัจจุบันปู่อายุ ๙๐ปี ปู่บอกว่า รายได้จากวัตถุมงคลที่ปู่สร้างขึ้นมา ปู่จะนำไปช่วยสร้างอุโบสถ์ วัดวิศิฏฐ์บุญญาวาส ในเมื่อปู่สร้างวัดนี้มาแล้ว ก็ต้องช่วยเหลือให้แล้วเสร็จ

พระเครื่องที่เกี่ยวข้องในร้านค้านี้...

อื่นๆ...

กำหลังโหลด Comments
Top