หมวด วัตถุมงคลของแผ่นดิน เชื้อพระวงศ์ บุคคลสำคัญ เหรียญกษาปณ์ เหรียญที่ระลึก ธนบัตร
เหรียญพระมหาชนก พ.ศ. ๒๕๔๒ เนื้อเงิน พิมพ์เล็ก พร้อมหนังสือพระราชนิพนธ์
ชื่อร้านค้า | จามเทวี53 - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า) |
---|---|
ชื่อเจ้าของร้านค้า | |
ชื่อพระเครื่อง | เหรียญพระมหาชนก พ.ศ. ๒๕๔๒ เนื้อเงิน พิมพ์เล็ก พร้อมหนังสือพระราชนิพนธ์ |
อายุพระเครื่อง | 23 ปี |
หมวดพระ | วัตถุมงคลของแผ่นดิน เชื้อพระวงศ์ บุคคลสำคัญ เหรียญกษาปณ์ เหรียญที่ระลึก ธนบัตร |
ราคาเช่า | - |
เบอร์โทรติดต่อ | 085-9891660 (ID Line....paopongs.r) |
อีเมล์ติดต่อ | paopongs.r@hotmail.com |
LINE |
(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
|
สถานะ | |
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ | พฤ. - 15 ก.ค. 2553 - 22:13.44 |
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ | อา. - 11 ธ.ค. 2559 - 15:59.24 |
รายละเอียด | |
---|---|
เหรียญพระมหาชนก พ.ศ. ๒๕๔๒ เนื้อเงิน พิมพ์เล็ก พร้อมหนังสือพระราชนิพนธ์ ++++ เหรียญสภาพสวยเดิมๆ..แชมป์ๆ.ไม่ได้ใช้งาน..อุปกรณ์+หนังสือ+กล่อง..ครบ..++++ เหรียญแห่งความเพียร เมื่อครั้งดำเนินการจัดทำหนังสือพระราชนิพนธ์ เรื่อง พระมหาชนกนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชประสงค์ ให้จัดสร้างเหรียญพระมหาชนกคู่เคียงกันไปด้วย ในวโรกาศปีมหามงคลเฉลิมพระชนม์พรรษา ๖ รอบ ปีพุทธศักราช ๒๕๔๒ และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯแทนพระองค์เป็นประทาน ในพระราชพิธีชัยมังคลาภิเษกเหรียญพระมหาชนก โดยมี สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ในวันเสาร์ที่ ๒๗ มิถุนายน ๒๕๔๑ เวลา ๑๖.๒๙ นาฬิกา ณ.พระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร จุดประสงค์ในการจัดสร้าง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชประสงค์ให้เหรียญพระมหาชนกและหนังสือพระราชนิพนธ์ แพร่หลายกว้างขวางที่สุด เพื่อส่งเสริมเป็นมิ่งขวัญ กำลังใจ และความมีมงคลในชีวิตของประชาชนทุกหมู่เหล่า เป็นพระวัตถุมงคลแผ่นดินที่น่าสะสม ๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙ เหรียญพระมหาชนก..เหรียญอันทรงคุณค่า... ประวัติความเป็นมาของ เหรียญพระมหาชนก หนังสือพระราชนิพนธ์ “พระมหาชนก” เป็นหนังสือพระราชนิพนธ์ใน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดพิมพ์ขึ้นในปีกาญจนาภิเษก ครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี ในปีพุทธศักราช 2539 แนวคิดสำคัญของเรื่องคือ มุ่งสอนให้ผู้อ่านตระหนักถึงความเพียรเพื่อที่จะฝ่าฝันทุกอุปสรรคให้ผ่านพ้น ซึ่งข้อคิดนี้เป็นประเด็นสำคัญที่ทำให้ทรงสนพระราชหฤทัย ในการนำเรื่องนี้มาทรงพระราชนิพนธ์ขึ้นใหม่ หลังจากที่ได้ทรงสดับ พระธรรมเทศนาของสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (วิน ธมมสาโรมหาเถร) วัดราชผาติการาม เมื่อ พ.ศ. 2520 โดยทรงแปลจากต้นฉบับในพระไตรปิกฏ (พระสุตตันตปิฏก ขุททกนิกาย ชาดกเล่มที่ 4 ภาคที่ 2 ) ทรงดัดแปลงเล็กๆ น้อยๆ ให้เข้าใจง่ายขึ้น และเสร็จสมบรูณ์ เมื่อ พ.ศ. 2531 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชประสงค์ ให้จัดสร้างเหรียญพระมหาชนกคู่เคียงกันไปด้วย ในครั้งนั้นศิลปินและประติมากรร่วมกันออกแบบถวาย เพื่อทรงวินิจฉัยหลายแบบด้วยกัน แต่ทรงมีพระราชปรารภว่า ควรเป็นรูปที่พระมหาชนกกำลังว่ายน้ำ และหันมาสนทนาธรรมกับนางมณีเมขลา ซึ่งแนวพระราชดำรินี้ สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัตติวงศ์ ได้เคยทรงร่างเป็นภาพลายเส้นไว้ จึงได้นำมาเป็นต้นแบบที่ด้านหนึ่งของเหรียญ พร้อมกำกับอักษรว่า”พระมหาชนก ” เป็นภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และภาษาเทวนาครีไว้ เหรียญพระมหาชนกจัดสร้างขึ้นพร้อมกับงานพิมพ์พระราชนิพนธ์ ด้วยนัยแห่งพระราชดำริ อันพ้องกับคติธรรม ซึ่งดำรงอยู่ในเรื่องราวแห่งพระชาดกนั้น “ ที่ต้องมีเหรียญนี่ เป็นพระราชดำริที่ลุ่มลึกมากนะครับ ” อาจารย์ นนทิวรรธน์ จันทนะผะลิน ประติมากรผู้ปั้นแบบเหรียญพระมหาชนกอธิบาย “ เพราะหนังสือ เมื่อเราอ่านแล้ว เราก็วางไว้กับบ้าน เวลาเราไปไหน บางครั้งอาจจะลืม เหรียญนี่เป็นขนาดเล็กติดตัวไปได้ ซึ่งเหรียญนี้ไม่ได้บรรยายความว่าเป็นเรื่องอะไร แต่ว่า ให้เป็นเหรียญที่ระลึกนึกถึงสิ่งที่เราได้เคยอ่านจากหนังสือ เวลาที่เราเกิดความท้อแท้ เหรียญนี้จะคอยเตือนเราว่า เราควรจะมีความเพียรนะ เพราะฉะนั้น หน้าที่ของเหรียญ ไม่ใช่เป็นหน้าที่ของการบรรยายความ แต่เป็นหน้าที่ ของการเตือนให้ผู้ที่มีเหรียญ ได้ระลึกถึง “ พร ” ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มอบให้เขาว่า "ทุกคนควรจะมีความเพียร ไม่ควรท้อแท้ ถึงแม้ว่า จะไม่เห็นจุดหมายปลายทางของความเพียร แต่เราก็ควรจะดำเนินต่อไป" งานจัดสร้างเหรียญผ่านกระบวนการปั้น แกะบล็อก หล่อ จนถึงการพิมพ์ออกเป็นเหรียญ แต่ทว่า ก็ยังไม่ใช่ขั้นตอนสุดท้ายดังเช่นงานจัดสร้างเหรียญทั่วไป ซึ่งอาจารย์นนทิวรรธน์ ได้เล่าให้ฟังว่า “ ใช้มือแฮน เมด (hand made) นี่ขัดลงไปบนพื้นผิว มีการรมให้คล้ำเล็กน้อย เพื่อจะให้เกิดน้ำหนักอ่อนแก่ขึ้นบนพื้นผิวของเหรียญ เราจะสังเกตเห็นว่า เหรียญของพระมหาชนก จะเป็นเหรียญที่มีความนุ่มนวลมากทั้งในเรื่องของผิวสัมผัส และน้ำหนักอ่อนแก่ที่เกิดขึ้น นอกเหนือไปจากแสงเงาในเหรียญแล้ว ” อีกด้านหนึ่งของเหรียญ ปรากฏพระบรมสาทิสลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในฉลองพระองค์ธรรมดา พระหัตถ์ทรงดินสอและแผนที่ ที่พระศอปรากฏสายสะพายกล้องถ่ายรูป อันเป็นภาพที่ชาวไทยคุ้นตามานานกว่า ๕๐ ปี “ รูปนี้ คณะกรรมการหรือพวกเราซึ่งเป็นผู้ที่ได้ช่วยกันเลือกนี่ เห็นว่าเป็นรูปที่จะได้แสดงความหมายของพระมหากษัตริย์ของเราชัดเจน” อาจารย์นนทิวรรธน์กล่าว “ เพราะจะเห็นว่าชีวิตเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ของพระองค์ อยู่ท่ามกลางพสกนิกรที่กำลังมีปัญหา และทรงช่วยแก้ปัญหานั้นทุกอย่างให้ลุล่วงไปได้…..” รูปแบบของเหรียญพระมหาชนก ไม่ปรากฏลวดลายประดับ เพื่อภาพวิจิตรในเชิงความงามอันตระการ แต่รูปลักษณ์ซึ่งสมถะ กลับสมบูรณ์ด้วยความงามแห่งธรรม “ จะเห็นว่ารูปนี้ เป็นเหรียญที่มีลักษณะเรียบง่าย และสื่อความหมาย ในเรื่องของความเพียรเป็นหลัก ” อาจารย์นนทิวรรธน์เสริม “ แล้วก็มีตัวหนังสือที่จะสื่อความหมายได้บ้าง มีตราพระปรมาภิไธยย่อ เพื่อแสดงว่าเป็นเหรียญของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ” ค่าแห่งเหรียญพระมหาชนกย่อมประมาณราคามิได้ เช่นเดียวกับพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พระราชทานพระราชนิพนธ์ เพื่อทรงบอกเล่าเรื่องราวแห่งความเพียร และเหรียญพระมหาชนก คือสิ่งอันเตือนความจำถึงความเป็นไปแห่งข้อธรรม จากบทพระราชนิพนธ์นั้น “ มีรับสั่งว่า เหรียญนี้แทบไม่จำเป็นต้องปลุกเสกเลย เพราะว่าขลัง แค่ความเพียรนี่ก็ขลังพอแล้ว ”ศาสตราจารย์ประหยัด พงษ์ดำ หนึ่งในศิลปินผู้ถวายงานวาดภาพประกอบพระราชนิพนธ์เล่าถึงความประทับใจ “ เหรียญนี้เกี่ยวกับความมานะ ความเพียร ความอุตสาหะ มันขลังยิ่งกว่าอะไรในโลก ขลังยิ่งกว่าพระเข้าไปสวดอีก นี่คือพระราชกระแสรับสั่งของพระองค์ท่าน ประทับใจผมมาก ผมรับจากพระหัตถ์ของพระองค์ท่าน ผมแขวนอยู่องค์เดียวเลยตลอดเวลา และนึกอยู่เสมอ อันนี้นะไม่ใช่แขวนแล้วพระจะช่วยอะไรเรา เรานึกถึงพระ ทำให้เรามีกำลังใจว่า เราจะทำอย่างนี้ เราจะทำให้สำเร็จ.” หนังสือพระราชนิพนธ์ พระมหาชนก มีการพิมพ์หลายครั้ง หลายรูปแบบ แต่มีเพียงสองครั้งเท่านั้นที่มาพร้อมกับ “เหรียญพระมหาชนก” หนังสือพระมหาชนกปกแข็งเล่มใหญ่ มาพร้อมกับ เหรียญพระมหาชนก พิมพ์ใหญ่ (บางคนก็เรียกว่า ชุดใหญ่) ออกจำหน่ายปี 2539 มีหน้าปก 2 สีคือ ปกสีน้ำเงิน ประกอบด้วย กล่องใส่หนังสือสีน้ำเงิน หนังสือพระมหาชนกปกสีน้ำเงิน กล่องหนังสีน้ำเงิน ด้านในบุกำมะหยี่ สำหรับใส่เหรียญพระมหาชนกพิมพ์ใหญ่ 3 เหรียญ เหรียญพระมหาชนกพิมพ์ใหญ่ 3 เหรียญ คือ เนื้อทองคำ หนัก 34 กรัม เนื้อเงินหนัก 23 กรัม เนื้อนากหนัก 24 กรัม อย่างละ 1 เหรียญ ปกสีแดง ประกอบด้วย (เหมือนกับปกสีนำ้เงินทุกประการ ต่างกันที่สีปก สีกล่อง และจำนวนเหรียญ) กล่องใส่หนังสือสีแดง หนังสือพระมหาชนกปกสีแดง กล่องหนังสีแดง บุกำมะหยี่ด้านในสำหรับใส่เหรียญพระมหาชนกพิมพ์ใหญ่ 1 เหรียญ เหรียญพระมหาชนกพิมพ์ใหญ่ 1 เหรียญ คือ เนื้อเงินหนัก 23 กรัม (แบบเดียวกับเหรียญเงินในชุดปกสีน้ำเงิน) หนังสือพระมหาชนกเล่มเล็ก มาพร้อมกับเหรียญพระมหาชนก พิมพ์เล็ก (หรือ ชุดเล็ก) จัดทำขึ้นหลังจากชุดใหญ่ออกไปแล้ว แต่ประชาชนส่วนมากไม่สามารถเป็นเจ้าของได้เนื่องจากราคาค่อนข้างสูง จึงมีพระราชดำริให้จัดทำชุดเล็ก ออกจำหน่ายในปี 2542 โดยมีราคาที่ย่อมเยาว์กว่าเดิม เพื่อให้ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของได้ ซึ่งเล่มเล็กมีปก 3 แบบคือ ปกแข็งสีชมพู ประกอบด้วย กล่องใส่หนังสือที่มีตัวอักษรและริบบิ้นสีน้ำเงิน หนังสือพระมหาชนกปกแข็งสีชมพู เล่มเล็ก ตลับพลาสติคใส่เหรียญหระมหาชนกพิมพ์เล็ก 3 เหรียญ เหรียญพระมหาชนกพิมพ์เล็ก 3 เหรียญ คือ เนื้อทองคำ หนัก 10 กรัม เนื้อเงิน หนัก 7 กรัม เนื้อนากหนัก 7 กรัม อย่างละ 1 เหรียญ ปกอ่อนสีชมพู (เหมือนกับปกแข็งสีชมพูทุกประการ ต่างกันที่สีปก สีตัวอักษรบนกล่อง และจำนวนเหรียญ) ประกอบด้วย กล่องใส่หนังสือ ที่มีตัวอักษรและริบบิ้นแดง หนังสือพระมหาชนกปกอ่อนสีชมพู เล่มเล็ก ตลับพลาสติคใส่เหรียญหระมหาชนกพิมพ์เล็ก 1 เหรียญ เหรียญพระมหาชนกพิมพ์เล็ก 1 เหรียญ คือ เนื้อเงิน หนัก 7 กรัม (เหมือนกับเรียญเงินในชุดปกแข็ง) ปกอ่อนสีฟ้า ซึ่งเหมือนกับปกสีชมพูปกอ่อนทุกประการ เพียงเปลี่ยนสีปกจากสีชมพูเป็นสีฟ้า ไม่มีกล่อง และ ไม่ได้มาพร้อมกับเหรียญพระมหาชนก เหรียญแท้ทุกรุ่นต้องมาพร้อมกับหนังสือที่ตรงรุ่นกัน เช่นเหรียญพระมหาชนกเนื้อเงินพิมพ์เล็กต้องมากับหนังสือเล่มเล็ก ชนิดปกอ่อน สีชมพู ----------------------------------------------------------------------------------------------------- ค่าแห่งเหรียญพระมหาชนกย่อมประมาณราคามิได้ เช่นเดียวกับพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พระราชทานพระราชนิพนธ์ เพื่อทรงบอกเล่าเรื่องราวแห่งความเพียร และเหรียญพระมหาชนก คือสิ่งอันเตือนความจำถึงความเป็นไปแห่งข้อธรรม จากบทพระราชนิพนธ์นั้น “ มีรับสั่งว่า เหรียญนี้แทบไม่จำเป็นต้องปลุกเสกเลย เพราะว่าขลัง แค่ความเพียรนี่ก็ขลังพอแล้ว ” ข้าพระพุทธเจ้า ขอน้อมเกล้าน้อมกระหม่อม รำลึกในพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ ขอบคุณข้อมูลจาก:http://nirundon.com/ คลิ๊กที่รูปบ้าน-(ดูหน้าร้าน) หรือตามลิ้งค์ http://www.web-pra.com SHOP/jamadevi53 เผื่อเจอพระที่ท่านถูกใจ..085-9891660 |
พระเครื่องที่เกี่ยวข้องในร้านค้านี้...
อื่นๆ...
กำหลังโหลด Comments