หมวด พระกรุ เนื้อดิน - เนื้อผง
พระกรุวัดสัมพันธวงศ์ ปี2504
ชื่อร้านค้า | จามเทวี52 - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า) |
---|---|
ชื่อเจ้าของร้านค้า | |
ชื่อพระเครื่อง | พระกรุวัดสัมพันธวงศ์ ปี2504 |
อายุพระเครื่อง | 63 ปี |
หมวดพระ | พระกรุ เนื้อดิน - เนื้อผง |
ราคาเช่า | - |
เบอร์โทรติดต่อ | 085-9891660 (ID Line....paopongs.r) |
อีเมล์ติดต่อ | paopongs.r@hotmail.com |
LINE |
(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
|
สถานะ | |
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ | พฤ. - 07 ก.ย. 2566 - 11:11.00 |
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ | พฤ. - 28 ก.ย. 2566 - 08:37.13 |
รายละเอียด | |
---|---|
พระกรุวัดสัมพันธวงศ์(เนื้อชินเงิน) ปี 2504 กรุงเทพมหานคร พระกรุวัดสัมพันธวงศ์(เนื้อชินเงิน) ปี 2504 ชุด 9 องค์-พร้อมกล่องเดิมจากวัด พระเก็บสภาพเดิมๆ..ปรอทอยู่เต็มทุกพิมพ์..พบหาชุดที่ครบทุกปาง-สมบูรณ์แบบนี้ หาได้ยากมากๆแล้วครับ..(พระกรุ..อายุกว่า 200 ปี) (พระชุดนี้สร้างในสมัยเดียวกันกับ "พระกรุ วัดราชบูรณะ") (รับประกันพระแท้...ตลอดชีวิต) ประวัติว่า ใน ร.ศ.๑๕ ตรงกับปีมะโรง อัฐศก จ.ศ. ๑๑๕๘ พ.ศ. ๒๓๓๙ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก รัชกาลที่ ๑ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯให้สมเด็จพระสัมพันธวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงพิทักษ์มนตรี ผู้มีศรัทธาใน พระพุทธศาสนาบูรณะปฏิสังขรณ์วัดเกาะซึ่งเป็นวัดโบราณ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา มีคูคลองรอบวัดสร้างมาก่อนกรุงเทพมหานคร ครั้นปฏิสังขรณ์ใหม่หมดทั้งอารามเสร็จแล้ว โปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาเป็นพระอารามหลวง พระราชทานนามใหม่ว่า “วัดเกาะแก้วลังการาม” ตามหลักฐานที่ปรากฏนี้ จึงพอประมาณได้ว่า เป็นวัดที่มีมาก่อนยุครัตนโกสินทร์ ต่อมา ในรัชกาลที่ ๓ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชศรัทธาให้ทำการปฏิสังขรณ์วัดเกาะแก้วลังการามอีก แต่ค้นหาหลักฐานไม่พบว่าได้ทรงปฏิสังขรณ์อะไรบ้าง ในรัชกาลที่ ๔ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชปรารภว่า วัดเกาะแก้วลังการาม เป็นวัดที่เจ้าฟ้ากรมหลวงพิทักษ์มนตรี ทรงบูรณะปฏิสังขรณ์ใหม่หมดทั้งอาราม สมควรที่จะเฉลิมพระเกียรติให้ปรากฏสืบต่อไปภายหน้า เพื่อให้เกิดปิติปราโมทย์แก่ผู้สืบสกุลในเมื่อได้ทราบว่าบรรพบุรุษของตนได้สร้างกุศลไว้เป็นเหตุเจริญศรัทธาให้บำเพ็ญกุศลตามสติกำลัง จึงโปรดเกล้า ฯ พระราชทานนามของวัดใหม่ว่า “วัดสัมพันธวงศาราม วรวิหาร” ดังกล่าวไว้ข้างต้น วัดสัมพันธวงศ์ หรือ วัดเกาะ เป็นวัดเก่าแก่ที่มีมาแต่ก่อนกรุงรัตนโกสินทร์เป็นราชธานี ทางวัดได้พบพระกรุหลายครั้งด้วยกัน ***พระกรุที่ค้นพบนี้ ไม่ปรากฏหลักฐานชัดเจนว่าใครเป็นผู้สร้างไว้แต่เมื่อไหร เพียงแต่สันนิษฐานว่า น่าจะสร้างขึ้นพร้อมกับการสร้างโบสถ์ วิหาร และกำแพงรอบโบสถ์วิหาร เพราะได้พบพระกรุมีอยู่ที่ซุ้มระหว่างโบสถ์กับวิหารเก่า ซุ้มประตูกำแพงรอบโบสถ์ วิหาร และพบท้ายสุดที่ฐานพระประธาน การค้นพบในอดีตมี ๓ ครั้ง คือ ครั้งที่ ๑ ซุ้มทางเดินติดต่อกันระหว่างโบสถ์กับวิหารเก่าพังลง ปราฏว่ามีพระเครื่องชนิดนี้ ตกกระจัดกระจายอยู่ทั่ว ทางวัดจึงได้รวบรวมสร้างเจดีย์บรรจุไว้ในระหว่างโบสถ์กับวิหาร และแจกให้ต้องการออกไปบ้าง ครั้งที่ ๒ ซุ้มประตูกำแพงโบสถ์วิหาร ด้านทิศตะวันตกพังลงปรากฏว่า มีพระเครื่องชนิดเดียวกันนี้ ตอนแรกไม่มีใครสนใจมากนัก เกิดแตกตื่นเล่าลือกันมาก เนื่องจากทหารเรือเอาไปทดลองยิงดูที่บางนาปรากฏว่ายิงไม่ออก จึงเป็นที่แสวงหากันมากในช่วงนั้น ครั้งที่ ๓ เมื่อได้รับพระบรมราชานุญาตให้รื้อพระอุโบสถ วิหาร และเจดีย์ พบพระเครื่องชนิดเดียวกันอีกที่ฐานพระประธาน ในส่วนที่อยู่ใต้ฐานของพระประธานนั้น เป็นการค้นพบโดยบังเอิญ โดยค้นพบคณะที่สกัดทำการเคลื่อนย้าย ได้พบพระเครื่องเนื้อชินเงินพิมพ์ต่างๆ ๆ บรรจุอยู่ในองค์พระและใต้ฐานพระเป็นจำนวนมากนับเป็นหมื่น ๆองค์ พระอุโบสถหลังเดิมของวัดสัมพันธวงศ์ องค์พระประธานในพระอุโบสถหลังเดิม พระพุทธรูปที่เป็นพระประธานในพระอุโบสถเดิมไม่ปรากฏพระนาม ต่อมา ท่านเจ้าคุณ พระมหารัชชมังคลาจารย์ นิทฺเทสกเถร อดีตเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ รูปที่ ๙ ได้ถวายพระนามว่า "พระพุทธนราสภะทศพล" บนฐานแท่นชุกชีที่พระพุทธรูปประทับนั่งลดหลั่นกันลงมาเป็น ๓ องค์ มีพระอัครสาวกยืนซ้ายขวา ๒ องค์ พระอัครสาวกนั่งซ้ายขวา ๔ องค์ รวมบนฐานชุกชีมีพระทั้งหมด ๙ องค์ สำหรับพระประธานองค์ใหญ่เป็นพระพุทธรูปทีสร้างด้วยไม้ เป็นซุงคว้านไส้กลวง ภายนอกถือปูนทับ พระพาหาเป็นไม้ทั้งลงรักปิดทอง ปางมารวิชัย หน้าพระเพลากว้าง ๒ ศอก ๑ คืบ ๑๑ นิ้ว สูงแต่ที่ประทับสุดพระรัศมี ๔ ศอก ๒ นิ้วครึ่ง พระพุทธรูปองค์รองลงมาซึ่งเป็นองค์กลาง ห้าพระเพลากว้าง ๒ ศอก ๕ นิ้ว ปางมาวิชัย ก่ออิฐถือปูน ลงรักปิดทอง องค์ล่าสุดเป็นพระพุทธรูปหล่อด้วยโลหะ หน้าพระเพลากว้าง ๑ ศอก ๕ นิ้ว ใต้ฐานองค์พระโปร่ง มีพระมงกุฎ เครื่องราชูปโภคเบญจราชกกุธภัณฑ์ จำลองเป็นส่วนเล็ก ทำด้วยทองคำ สำหรับพระมงกุฎภายในและบริเวณรอบๆบรรจุพระอังคารของสมเด็จพระสัมพันธวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงพิทักษ์มนตรี ยอดพระมงกุฎบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ๒ องค์ โดยมีผอบเป็นแก้วครอบอีกชั้นหนึ่ง เดิมที่เดียวทางวัดเองก็ไม่ทราบว่ามีสิ่งต่างๆ และพระองคารบรรจุอยู่ภายใน ต่อมาในวันที่ ๑๐ กันยายน พ.ศ. ๒๕๐๒ หม่อมหลวงต่วนศรี วรวรรณ (หม่อมมารดาของ พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นนราธิปพงษ์ประพันธ์) ผู้เป็นกุลทายาทในสมเด็จเจ้าฟ้า กรมหลวงพิทักษ์มนตรี ผู้สถาปนาวัดนี้ ได้มาบำเพ็ญกุศลฉลองชนมายุครบ ๗ รอบ ที่พระอุโบสถวัดสัมพันธวงศ ์ ก่อนที่พระสงฆ์จะเจริญพระพุทธมนต์ หม่อมหลวงต่วนศรี วรวรรณ ได้แจ้งแก่ทางวัดว่าประสงค์จะบำเพ็ญกุศลทักษิณานุปทานกิจ สดับปกรณ์พระอังคารสมเด็จเจ้าฟ้าฯ ผู้ทรงเป็ตนต้นราชสกุลของท่าน โดยให้พนักงานโยงผ้าภูษาโยงไปที่พระพุทธรูปองค์ล่างสุด โดยทานกล่าวยืนยันเป็นแม่นยำว่าพระพุทธรูปองค์นี้ภายในบรรจุพระอังคารของสมเด็จเจ้าฟ้า กรมหลวงพิทักษ์มนตรี ต้นราชสกุล "มนตรีกุล" สำหรับพระอัฐินั้นประดิษฐานอยู่ที่หอพระนาก ในพระบรมมหาราชวัง (ซึ่งแต่เดิมที่เดียวประดิษฐานอยู่ที่วังหน้าจนหอชำรุดรื้อลงในรัชกาลที่ ๕ จึงได้เชิญไปไว้ที่หอพระนาก) ในคราวอัญเชิญพระพุทธรูปจากพระอุโบสถหลังเดิม เพื่อนำขึ้นไปประดิษฐานบนพระอุโบสถหลังใหม่ ได้พบปูชนียวัตถุต่างๆ ดังกล่าวมาข้างต้น จึงนับว่าหม่อมหลวงต่วนศรี วรวรรณ ท่านมีความทรงจำในอดีตเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของต้นสกุลท่านเป็นเยี่ยม แม้จะมีอายุชราถึง ๘๔ พรรษา (ขณะที่มาบำเพ็ญกุศลในวันนั้น) ***พระกรุวัดสัมพันธวงศ์ หรือ พระกรุวัดเกาะ พระเครื่องชุดนี้ ตามที่ปรากฏหลักฐานจากท่านผู้มีความรู้ทางโบราณคดี แจ้งว่า พระชุดนี้สร้างในสมัยเดียวกันกับ "วัดราชบูรณะ" ค้นพบตามซุ้มกำแพงแก้ว พระเจดีย์ พระวิหาร และพระประธาน ของพระอุโบสถหลังเดิม ความเก่าแก่ของวัดสัมพันธวงศ์ (วัดเกาะ) การค้นพบพระกรุของวัดสัมพันธวงศ์ หรือ วัดเกาะ ส่วนที่บรรจุอยู่ในองค์พระประธานและฐานพระ แต่เดิมทางวัดเองก็ไม่ทราบว่ามีพระเครื่องบรรจุอยู่ มาเมื่อวันที่ ๑๕ เมษายน พ.ศ. ๒๕๑๕ ทางวัดได้ดำเนินการอัญเชิญพระประธานจากพระอุโบสถเดิมขึ้นพระอุโบสถหลังใหม่ มีการสกัดฐานเพื่อใช้รถยกพระประธานขึ้น ตามเอกสารของวัดเกี่ยวกับองค์พระประธานองค์เก่าของวัดได้บันทึกไว้ ดังนี้ สำหรับแผ่นเงิน แผ่นนาก และแผ่นทองคำ ที่พบรวมอยู่กับพระมงกุฎ ได้จารึกอักษรขอม กล่าวถึงพระสูตร พระอภิธรรมต่างๆ ซึ่งบรรดาของมีค่าเหล่านั้น ทางวัดได้เก็บรักษาได้วเป็นอย่างดี เพื่อที่จะนำเข้าบรรจุไว้ในพระพุทธรูปองค์เดิมที่พบโดยจะได้บำเพ็ญกุศลถวายเป็นกรณีพิเศษ ตามพระประสงค์ของพระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นนราธิปพงษ์ประพันธ์ มีพระประสงค์ในคราวที่พระเทพปัญญามุนี (ปัจจุบันได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ที่ สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ ถาวรเถระ) เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน และคณะได้นำสิ่งต่างๆไปถวายที่วังเพื่อของพระวินิจฉัยในอันที่ปฏิบัติต่อปูชนียวัตถุนั้น ทั้งนี้โดยที่พระวรวงศ์บพิตร เสด็จในกรมฯ ทรงเป็นกุลทายาทผู้สูงศักดิ์ และทรงดำรงตำแหน่งเป็นองค์อุปถัมภ์ของวัดสัมพันธวงศ์มาเป็นเวลาช้านาน ส่วนพระประธานองค์ใหญ่ ขณะที่สกัดทากรเคลื่อนย้าย ได้พบพระเครื่องเนื้อชินเงินพิมพ์ต่างๆ บรรจุอยู่ในองค์พระและใต้ฐานพระเป็นจำนวนมากนับเป็นหมื่นองค์ พระเครื่องชุดนี้ตามที่ปรากฏหลักฐานจากท่านผู้มีความรูทางโบราณคดีแจ้งว่า พระชุดนี้สร้างในสมัยเดียวกันกับกรุวัดราชบูรณะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และเมื่อสร้างแล้วนำมาบรรจุไว้ตามซุ้มกำแพงแก้วบ้าง ในองค์พระเจดีย์บ้าง ในองค์พระประธานบ้าง พระกุรุที่บรรจุอยู่ตามซุ้มประตูกำแพงแก้ว และในพระเจดีย์ ทางวัดได้เคยเปิดกรุนำออกแจกจ่ายแก่ประชาชนสมัยสงครามโลกครั้งที่ ๒ อีกครั้งหนึ่ง และนำออกในคราวรื้อซุ้มประตูเมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๔ เป็นครั้งสุดท้าย การนำออกจากซุ้มประตูแต่ละคราวก็เจ้าเป็นซุ้มๆเฉพาะที่ต้องการ ซุ้มไหนยังไม่ได้เจาะก็ให้คงไว้ เหลือมาถึงในคราวสุดท้ายที่ทำการรื้อกำแพงแก้ว แต่เดิมทางวัดเองก็ไม่ทราบว่ามีพระเครื่องบรรจุอยู่ มาเมื่อวันที่ ๑๕ เมษายน พ.ศ. ๒๕๑๕ ทางวัดได้ดำเนินการอัญเชิญพระประธานจากพระอุโบสถเดินขึ้นสู่พระอุโบสถหลังใหม่มีการสกัดฐานเพื่อสกัดฐานเพื่อใช้รถยกพระประธานขึ้น จึงได้พบพระจำนวนมา มีพิมพ์ต่างๆ คือ ๑. พระทากระดาน เกศบัวตูม (มีทั้งพิมพ์ใหญ่-พิมพ์เล็ก) ๒. พระปางห้ามญาติ ยกพระหัตถ์ซ้ายบ้าง ยกพระหัตถ์ขวาบ้าง ๓. พระปางปรกโพธิ์ ๔. พระปางห้ามสมุทร ยกพระหัตถ์ทั้งสองข้าง ๕. พระปางไสยาสน์ ๖. พระปางทรงเครื่อง หรือที่นักสะสมพระเรียกว่า พระทรงธิเบต ๗.พิมพ์มารวิชัย ๘.พิมพ์สมาธิ พระเครื่องทั้งหมด มีชนิดปิดทองก็มี ชนิดอาบปรอทก็มี ทางวัดได้นำออกให้ประชาชนบูชาเพื่อนำทุนทรัพย์สมทบทุนในการสร้างพระอุโบสถหลังใหม่ ตั้งแต่เดือนเมษายน ๒๕๑๕ มีประชาชนสนใจบูชาไปเป็นจำนวนมาก รูปพระกรุที่มีการบันทึกภาพไว้ในอดีต พระกรุทั้งหมดนี้ โดยเฉพาะรุ่นที่พบเมื่อคราวยกพระประธานขึ้นสู่พระอุโบสถหลังใหม่ ขณะนี้ ยังสามารถบริจาคบูชาได้ที่วัดสัมพันธวงศ์ (หรือ วัดเกาะ เยาวราช)ู่ ชมวัตถุมงคลดังกล่าวได้ที่ห้องวัตถุมงคลของทางวัด ติดต่อสอบถามที่ ๑๒ - ๒๒๑ ๗๑๐๙ (คุณสมชาย) อภินิหารของพระกรุวัดเกาะ พระเครื่องเท่าที่ได้พบในสมัยต่าง ๆ ดังกล่าวข้างต้น ซึ่งผู้เฒ่าผู้แก่สูงอายุเล่าลือกันสืบมาว่า ไปตรงกับเหตุการณ์ของบ้านเมืองในลักษณะต่าง ๆ กัน เช่นครั้งแรกไปตรงกับกรณีพิพาทกับฝรั่งเศสเมืองจันทบุรี ถูกฝรั่งเศสยึดคราวนั้น พระเครื่องวัดเกาะไปมีชื่อเสียงปรากฏ ในหมู่ทหารเรือทางจันทบุรีเป็นส่วนมาก ครั้งที่สองไปตรงกับสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ทหารเรือเอาไปทดลองยิงที่บางนา ปรากฏว่ายิ่งไม่ออก ก็เล่าลืออภินิหารกันไปต่าง ๆ ถึงสงครามอินโดจีน จนเกิดสงครามโลกครั้งที่สอง ผู้ที่ได้พระเครื่องวัดเกาะไว้ตั้งแต่เมื่อครั้งก่อนนั้น กรุงเทพมหานครถูกโจมตีทางอากาศอย่างหนัก ก็ไม่เคยอพยพหนีไปอยู่ที่อื่นเลย เพราะเชือถือในอภินิหารและความศักดิ์สิทธิ์ของพระเครื่องวัดเกาะ แม้พวกที่ได้รับพระเครื่องชนิดนี้ไปใช้ในสนามรบก็ปลอดภัย แคล้วคลาดไม่เป็นอันตราย โดยเฉพาะอภินิหารทางแคล้วคลาดและป้องกันอัคคีภัย นับว่าเป็นเยี่ยม -ข้อมูลจากเว็บ คลิ๊กที่รูปบ้าน-(ดูหน้าร้าน) หรือตามลิ้งค์ http://www.web-pra.com/Shop/jamadevi52 เผื่อเจอพระที่ท่านถูกใจ..085-9891660 |
พระเครื่องที่เกี่ยวข้องในร้านค้านี้...
อื่นๆ...
กำหลังโหลด Comments