หมวด พระเกจิภาคกลางตอนล่าง
หนุมานหลวงปู่สายวัดดอนกระต่ายทอง 1 กองทัพ
ชื่อร้านค้า | อิฐ สงขลา - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า) |
---|---|
ชื่อเจ้าของร้านค้า | |
ชื่อพระเครื่อง | หนุมานหลวงปู่สายวัดดอนกระต่ายทอง 1 กองทัพ |
อายุพระเครื่อง | 11 ปี |
หมวดพระ | พระเกจิภาคกลางตอนล่าง |
ราคาเช่า | - |
เบอร์โทรติดต่อ | (ไม่แสดงเบอร์ เนื่องจากรายการนี้ไม่ได้ปล่อยเช่า) |
อีเมล์ติดต่อ | itsda99@gmail.com |
LINE |
(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
|
สถานะ | |
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ | พ. - 21 เม.ย. 2553 - 15:11.00 |
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ | อ. - 28 มี.ค. 2566 - 19:01.15 |
รายละเอียด | |
---|---|
หลวงปู่สาย ขนฺติโก ท่านเกิด วันจันทร์ ขึ้น 6 ค่ำ เดือน 12 ปีขาล ตรงกับวันที่ 19 ตุลาคม 2457 ณ.บ้านไชโย อ.ไชโย จ.อ่างทอง ใกล้กับวัดสกุณารามหรือวัดนก วัดที่มีพระกรุวัดนกอันโด่งดัง หลวงปู่ท่านเป็นบุตรของคุณพ่อพลอย และคุณแม่สิน จีนขจร มีพี่น้อง 6 คน เป็นชาย 4 คน เป็นหญิง 2 คน คือ นายสาย จีนขจร (หลวงปู่สาย ขนฺติโก) นายวิสุทธิ จีนขจร นายอุทัย จีนขจร นายเตี้ยม จีนขจร (หลวงตาเตี้ยม พระน้องชาย) นางลูกอิน จีนขจร เมื่ออายุครบ 21 ปีบริบูรณ์ หลวงปู่สายท่านได้เข้าอุปสมบท ณ พัทธสีมา วัดสกุณารามหรือวัดนก อ.ไชโย จ.อ่างทอง ในวันที่ 20 กรกฎาคม 2477 โดยมีพระเจ้าอธิการบุญ วัดสามประชุม เป็นพระอุปัชฌาย์ พระบัว วัดสกุณาราม เป็นพระกรรมวาจารย์ และพระชม วัดดอนกระต่ายทอง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับสมยานามว่า “ขนฺติโก” คือ “พระผู้มีความอดทนยิ่ง” ซึ่งท่านพระอุปัชฌาย์ท่านคจะเห็นในอุปนิสัยในความอดทน มีความขยันหมั่นเพียรของหลวงปู่ท่านจึงได้มอบฉายานี้ให้แก่หลวงปู่สาย สำหรับพระอนุสาวนาจารย์ของท่านคือ หลวงพ่อชม แห่งวัดดอนกระต่ายทองนั้น ท่านเป็นพระวิปัสนาจารย์ที่มีศีลจริยวัตรเคร่งครัด และมีชื่อเสียงในสมัยนั้น หลวงพ่อชมท่านชอบออกธุดงค์เข้าป่าเป็นประจำในหน้าแล้งของทุกปี หลังจากอุปสมบทแล้วหลวงปู่สายท่านได้จำพรรษาอยู่ที่วัดนกเป็นเวลา 2 พรรษา เพื่อศึกษาเล่าเรียนอักขระขอม และด้านว่านยาสมุนไพร กับหลวงปู่เฟื่อง ท่านพระอาจารย์ปลั่ง ท่านเป็นพระที่แก่กล้าและแตกฉานในด้านวิชาไสยเวทย์และ ด้านว่านยาสมุนไพรว่านยาอาคมต่าง ๆ ท่านเป็นศิษย์ในสายพุทธาคมหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท หลวงปู่สายท่านเป็นที่ถูกอัธยาศัยของหลวงปู่เฟื่องและพระอาจารย์ปลั่งอย่างมาก เพราะเป็นพระผู้ที่มีความขยันและอดทนท่านพระอาจารย์ทั้งสองจึงได้ถ่ายทอดสรรพวิชาต่าง ๆ ให้กับหลวงปู่สายอย่างไม่ปิดบังอำพรางตลอดแนะนำเคล็ดวิชาต่าง ๆ จนหมดภูมิความรู้ของท่าน หลังจากได้ศึกษาเล่าเรียนจากสำนักวัดนกแล้วหลวงปู่สายท่านมีความสนใจในการปฎิบัติพระกรรมฐานจึงได้ย้ายมาจำพรรษาที่วัดดอนกระต่ายทองเพื่อศึกษาด้านวิปัสสนากรรมฐานและปฏิบัติจิตภาวณากับหลวงพ่อชม วัดดอนกระต่ายทอง หลวงพ่อชมท่านก็ได้อบรมในเรื่องจิตภาวนาให้กับหลวงปู่อย่างใกล้ชิดและได้ร่วมออกธุดงค์ไปกับหลวงพ่อชมในหน้าแล้งของทุกปีเพื่อฝึกฝนปฎิบัติกรรมฐานสมาธิและจิตใจให้เข้มแข็งและแก่กล้า ปลายปี พ.ศ. 2481 หลวงปู่สายท่านได้เดินทางเข้ามาเล่าเรียนศึกษาด้านปริยัติธรรมและหัดท่องพระปาติโมกข์กับหลวงปู่ถม พุทธสโร วัดโพธิ์เรียง ซึ่งตั้งอยู่ในเขตบางกอกน้อย กทม. หลวงปู่ถมท่านไดอุปสมบทที่วัดดอนกระต่ายทอง ท่านเป็นพระคณาจารย์ทีมีชื่อเสียงรุ่นเดียวกับหลวงปูโต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ในสมัยนั้นไม่ว่าจะมีงานพิธีพุทธาภิเษกที่ใดย่อมต้องมีหลวงปู่ถมร่วมด้วยทุกครั้งไป หลวงปู่สายท่านได้จำพรรษาศึกษาเล่าเรียนด้วยความตั้งใจอย่างยิ่งจนกระทั่งท่านสามารถท่องพระปาติโมกข์ได้อย่างคล่องแคล่ว นอกจากนี้ท่านยังได้วิชาอาคมไสยเวทย์และด้านวิชาสมุนไพรซึ่งหลวงปู่ถมเองท่านมีความรู้ความเชี่ยวชาญ มีกิตติศัพธ์ เลื่องลือไปไกลซึ่งหลวงปู่ถมเองท่านก็ให้ความเอ็นดูเมตตาต่อท่านเป็นอย่างมาก หลวงปู่สายท่านได้จำพรรษาที่วัดโพธิ์เรียงเป็นเวลา 2 พรรษา จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2483 ท่านก็ได้เดินทางกลับมาจำพรรษาที่วัดดอนกระต่ายทองนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาจวบจนปัจจุบัน รูปหล่อล้มลุก หนุมานทรงฤทธิ์มหาปราบ รุ่นแรก ลพ.สาย วัดดอนกระต่ายทอง ลพ.สาย วัดดอนกระต่ายทอง พระเกจิอาจารย์พุทธาคมชั้นยอดแห่งจังหวัดอ่างทอง ผู้เป่าเสกอะไรเป็นขลังสิ้นทุกประการ อำนาจจิตท่านถึงขนาดนั่งปรกปลุกเสกทำให้สายสิญจน์ที่ถืออยู่เกิดไฟไหม้ ได้รับการยกย่องจากพระเกจิละแวกเดียวกันว่า "เป็นพระเกจิกสิณไฟ" “หนุมาน” เป็นพญาวานรเผือกทหารเอกของพระราม ถือกำเนิดเกิดจากพระอิศวรมีเทวบัญชาให้พระพายพัดเอากำลังแห่งพระองค์และเทพ ศาสตราวุธของพระองค์ เข้าสู่ท้องของนางสวาหะที่ถูกสาป อันได้แก่ คทาเพชรเป็นสันหลัง, ตรีเพชรเป็นกาย, จักรแก้วเป็นศรีษะ นางสวาหะตั้งท้องนาน ๓๐ เดือน คลอดลูกออกทางปากเป็นวานรเผือกคลอดมาก็อายุได้ ๑๖ ปี ตรงกับวันอังคารเดือนสามปีขาล ลักษณะพิเศษของหนุมาน คือ มีเขี้ยวแก้วอยู่กลางเพดานปาก มีกุณฑลขนเพชร สามารถแผลงฤทธิ์ให้มีสี่หน้าแปดมือ และหาวเป็นดาวเป็นเดือนได้ ใช้ตรีเพชร(สามง่าม) เป็นอาวุธประจำตัว(จะใช้เมื่อรบกับยักษ์ตัวสำคัญๆ) มีความเก่งกล้ามาก สามารถแปลงกายหายตัวได้ ทั้งยังอยู่ยงคงกระพัน แม้ถูกอาวุธของศัตรูจนตายเมื่อมีลมพัดมาก็จะฟื้นคืนได้อีก นอกจากนี้หนุมานยังเป็นลิงที่รูปงาม มีนิสัยเจ้าชู้ มีเมียมากถึง ๖ นาง ได้ทำงานที่ไหนก็ได้เมียเสมอ ด้วยคุณลักษณะอันวิเศษของหนุมาน โบราณาจารย์ท่านจึงนำมาจัดสร้างเป็นรูปหนุมานเครื่องรางของขลังที่มีคุณวิเศษอิทธิฤทธิ์ครอบจักรวาล เป็น มหาอุด อยู่ยงคงกระพันชาตรี มหาอำนาจ มหากำลัง เสน่ห์เมตตามหานิยม ในอดีตพระคณาจารย์ที่สร้างหนุมานที่มีชื่อเสียงมีหลายท่าน หลวงปู่สายท่านยังไม่เคยจัดสร้างหนุมานมาก่อน เคยถามท่านตอนที่อารมณ์ดีๆเกี่ยวกับการทำหนุมานท่านก็เล่าให้ฟังว่าเคยศึกษา ในตำราเก่าของหลวงปู่ศุขต้องทำให้มีตัวด้วยอาการ ๓๒ และธาตุ ต้องชุบตัวด้วยว่านยาแต่ก็ยังไม่เคยทำลองทำดูก็ดีเหมือนกัน ให้ทำเป็นรูปหนุมานนั่งขัดสมาธิเพชรลืมตาอ้าปาก หลวงปู่ท่านว่าเป็นตอนที่หนุมานลืมตาอ้าปากเมื่อออกจากญาณสมาบัติมาใหม่ๆ เวลานี้เป็นเวลาที่หนุมานมีกำลังมากที่สุดเพราะบำเพ็ญตบะทรงซึ่งมหิทธานุภาพ อิทธิฤทธิ์มหาเดชมหาอำนาจเรียกกำลังปลุกตัวอย่างบริบูรณ์เต็มที่แล้วมีฤทธิ์มีกำลังแก่กล้าเต็มเปี่ยมอย่างที่สุด เรียกว่า “ทรงฤทธิ์” และการที่ลืมตาอ้าปากนั้นก็เพื่อให้เป็นเคล็ดในด้านตั้งตนตั้งตัวมีโชคลาภหา เงินหาทองคล่องมีกินมีใช้ตลอดไม่ขาดแคลน นอกจากนี้ที่ก้นยังทำเป็นแบบก้นล้มลุกเหมือนกับพระกริ่งล้มลุกของท่านเจ้ามา วัดจักรวรรดิ์ (สามปลื้ม) โดยถือเคล็ดคำว่า “ล้มลุก” เป็น อมตะเหมือนกับหนุมานที่ไม่มีวันตายตราบใดที่มีลมพัดมาก็จะฟื้นคืนกำลังดัง เดิม นับเป็นครั้งแรกของการจัดสร้างหนุมานก้นล้มลุก เพื่อให้เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของหลวงปู่สายซึ่งยังไม่มีคณาจารย์องค์ใดจัด สร้างในรูปแบบนี้มาก่อน ที่ฐานได้บรรจุพระคาถา “หัวใจหนุมาน” คือ “หะนุมานะ ยะตะมะอะ” มีความงดงามอย่างยิ่ง คมชัดลึก เป็นงานที่ครบถ้วนทั้งศาสตร์และศิลป์ เมื่อมองดูราวกับหนุมานชีวิต ดูสงบสำรวมแต่มีพลังอย่างประหลาด ครั้งนี้หลวงปู่ท่านให้ใช้ “ยันต์อิติปิโสทรงฤทธิ์”จากตำราเก่าแก่สายวัดปากคลองมะขามเฒ่าที่หลวงปู่ได้เคยศึกษามา อันว่าพระคาถาอิติปิโสนั้นมีอยู่มากมายหลายแบบนักแต่ละแบบย่อมทรงอานุภาพแตกต่างกันไปตามกลบทที่โบราณจารย์ท่านบรรจงผูกเรียงขึ้นไว้สำหรับยันต์“อิติปิโสทรงฤทธิ์”นั้น เป็นยันต์ตาราง ๘๑ ช่อง ตรงกลางลงองค์พระ ชั้นนอกล้อมด้วยบทพระพุทธคุณ ๕๖ อักขระลงอักขระแบบม้าย่อง ชั้นในตรงกลางลงด้วย “พระไตรสรณคมน์” ด้านหลังลงยันต์ “ยอดมงกุฏพระพุทธคุณ” ทรงคุณานุภาพยิ่งนัก คุ้มกันภยันตรายได้ทุกประการ จึงเป็นที่มาของคำว่า “รูปหล่อล้มลุกหนุมานทรงฤทธิ์มหาปราบ” ที่ก้นของหนุมานได้คว้านรูบรรจุอุดผงวิเศษนานับประการ อาทิเช่น เส้นเกศาและผ้าจีวรหลวงปู่สาย, ผงว่านยา ๑๐๘ , ผงพุทธคุณ, หินเขี้ยวหนุมาน, ตะกรุดนะธาตุ ฯลฯ ขอกล่าวถึงขั้น ตอนการสร้างหนุมานตามตำหรับหลวงปู่ศุขสักหน่อย ไม่ค่อยมีใครพูดถึงและเข้าใจว่าหลวงปู่ศุขเองท่านก็ไม่เคยทำไว้มีแต่เพียง กล่าวไว้ในตำราส่วนที่เกี่ยวกับเครื่องราง ขั้นตอนก็พิสดารยุ่งยากมากต้องหล่อหลอมชนวนและแผ่นยันต์หนุมานต่างๆก่อเกิด เป็นเลือดเป็นเนื้อแห่งหนุมานตามฤกษ์ยามที่กำหนดโดยถือเอาเพชฌฆาตฤกษ์และ โจโรฤกษ์ซึ่งดีในด้านทำของขลังอยู่ยงคงกระพัน มหาปราบ และบรรจุมวลสารว่านยาเสร็จเรียบร้อยแล้วจึงนำมาเสกโดยการตั้งรูปตั้งนาม เรียกอาการ ๓๒ ตั้งธาตุปลุกธาตุหนุนธาตุด้วย ดิน,น้ำ,ลม,ไฟ,วิญญาณธาตุ และ บรรจุหัวใจหนุมานลงในวัตถุมงคล จากนั้นจึงนำไปแช่ในน้ำว่านยา ๑๐๘ เพื่อชุบตัวหนุมานให้เป็นกายสิทธิ์ทรงฤทธิ์เสกให้ครบ ๗ วัน ตาม ตำราการสร้างหนุมานของสายวัดมะขามเฒ่า ให้มีชีวิตมีตัวตนครบถ้วนทั้งรูปและนาม หลวงปู่ท่านตั้งใจทำให้เป็นพิเศษ แผ่นยันต์ที่ลงทั้งสิ้นเฉพาะในการนี้ ๓๒ แผ่นยันต์ เปรียบเสมือนอาการ ๓๒ ของหนุมานได้แก่ ๑. แผ่นยันต์มหาอุดปืน ๒. แผ่นยันต์ปืนแตก ๓. แผ่นยันต์แคล้วคลาด ๔. แผ่นยันต์เพชรหลีก ๕. แผ่นยันต์เพชรกลับ ๖. แผ่นยันต์นะจังงัง ๗. แผ่นยันต์ฝนแสนห่า ๘. แผ่นยันต์กระทู้ ๗ แบก ๙. แผ่นยันต์พระเจ้าชุมนุมธาตุ ๑๐. แผ่นยันต์พุทธจักร ๑๑. แผ่นยันต์บารมี ๓๐ ทัศ ๑๒. แผ่นยันต์ตรีนิสิงเห ๑๓. แผ่นยันต์พิชัยสงคราม ๑๔. แผ่นยันต์หนุมานออกศึก ๑๕. แผ่นยันต์หนุมานยกธงรบ ๑๖. แผ่นยันต์หนุมานคลุกฝุ่น ๑๗. แผ่นยันต์ปถมัง ๑๘. แผ่นยันต์โสฬสมหามงคล ๑๙. แผ่นยันต์มหาทมึน ๒๐. แผ่นยันต์เกราะเพชร ๒๑.แผ่นยันต์อาการ ๓๒ ๒๒.แผ่นยันต์ปัญจอาวุธ ๒๓.แผ่นยันต์ประจำทิศทั้ง ๘ ๒๔.แผ่นยันต์บัวแก้วบัวขวัญ ๒๕.แผ่นยันต์ ๙ ยอด ๒๖.แผ่นยันต์พระเจ้าห้ามอาวุธ ๒๗.ยันต์เกศาผิด ๒๘.แผ่นยันต์อิติปิโสทรงฤทธิ์ ๒๙.แผ่นยันต์พญาหนุมาน ๓๐.แผ่นยันต์แสนสากเหล็ก๓๑.แผ่นยันต์มหาละลวย ๓๒.แผ่นยันต์ดวงชะตากำเนิดหนุมาน สำหรับ แผ่นดวงชะตากำเนิดหนุมานสำคัญอย่างยิ่ง ท่านว่าเป็นชะตากำเนิดของเขา จะทำรูปเขาจะต้องมีดวงชะตาเกิดของเขาด้วย มันถึงจะเป็นตัวเป็นตนที่แท้จริง เขาจะเกิดขึ้นได้อย่างสมบูรณ์ ท่านว่าดวงชะตาหนุมานนั้นเป็น “ตรีโกณ” ในทางโหราศาสตร์ ส่วนว่านยาที่นำมาชุบตัวหนุมานได้แบ่งประเภทออกเป็น๕กลุ่มดังนี้ ๑.) ว่านจำพวกคงกระพัน อาทิเช่น ว่านเฒ่าหนังเหนียว |
พระเครื่องที่เกี่ยวข้องในร้านค้านี้...
อื่นๆ...
กำหลังโหลด Comments