หมวด พระเกจิภาคกลางตอนล่าง

ตะกรุดหลวงพ่อหยอด

ชื่อร้านค้า	อิฐ สงขลา - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า	อิฐ_สงขลา (27)
ชื่อพระเครื่อง	ตะกรุดหลวงพ่อหยอด
อายุพระเครื่อง	-
หมวดพระ	พระเกจิภาคกลางตอนล่าง
ราคาเช่า	5,500 บาท
เบอร์โทรติดต่อ	081-346-6638,081854-8799
อีเมล์ติดต่อ	itsda99@gmail.com
LINE	(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
สถานะ
Facebook	Share
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่	จ. - 07 มี.ค. 2559 - 20:19.27
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ	จ. - 07 มี.ค. 2559 - 20:20.13

รายละเอียด
หลวงปู่หยอดท่านเป็นอาจารย์เกจิที่เก่งมากเป็นที่นับถือ เคยได้ยินว่าท่านปลุกเสกตระกรุดวิ่งได้ และที่น่าตื่นเต้นตรงที่ท่านปลุกเสกตระกรุดลอยทวนน้ำได้ การเดินทางค่าขายของสมัยก่อนจะมีการเดินทางโดยเรือ และเรือสินค้าจะเยอะ พวกพ่อค้าแม่ค้าจะนำเรือมาให้เจิม ท่านไม่ต้องลงจากกุฏิเลยครับ แค่กำมือบริกรรมคาถาแล้วตบฝ่ามือไปเท่านั้น ท่านบอกว่าเสร็จแล้ว พอไปดูที่เรือที่หัวเรือมีรอยมือของหลวงพ่ออยู่ครับ ฯลฯ จากการบอกเล่าของคนในพื้นที่ แต่ที่เครื่องรางและพระเครื่องท่านไม่ค่อยได้รับความนิยม เพราะลูกศิษย์ท่านเวลาท่านสั่งทำพระเครื่องต่างๆ อย่างพระเหรียญ ท่านสั่ง 1000 แต่มีจำนวนจากผู้ไม่หวังดีเพิ่มขึ้นมาเองอีกเป็นเท่าตัว หรือมากกว่านั้น คนในพื้นที่เค้าจะศรัทธาในสิ่งที่ได้รับกับมือหลวงพ่อมากกว่าได้จากผู้อื่นครับ จะถือว่าพระเครื่องนั้นได้ผ่านการปลุกเสกจากหลวงพ่อ หลวงพ่อท่านเป็นที่รักและนับถือแก่คนในพื้นที่มาก แม้ท่านจะละสังขารไปนานแล้วอยู่อย่างสงบในตู้กระจกที่สังขารไม่เน่าเปลือยก็ยังมีคนแวะเวียนไปสักการะท่านอย่างไม่ขาดสาย และในพื้นที่ก็ยังมีการเล่นหาพระเครื่องท่านอย่างต่อเนื่องเช่นกัน...ถ้าเอ่ยถึงไหม 5 สี เชื่อว่าผู้ที่เคารพนับถือพระเกจิอาจารย์ชื่อดังหรือผู้ที่ชื่นชอบเครื่องรางประเภทเบาๆ ออกทางสวยงาม ต้องนึกถึง“หลวงพ่อหยอด” แห่งวัดแก้วเจริญ อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงครามกันดี วิชาไหมเบญจรงค์ 5 สี หรือไหม ๕ สี นี้ดังเดิมเป็นของ หลวงปู่ใจ วัดเสด็จ โดยในยุคของหลวงปู่ใจจะสร้างจากไหมญี่ปุ่นจำนวน ๕ สี ได้ความหมายว่าเป็นศีลห้า...นำมาถักขวั้นกัน โดยใช้คาถาพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ และพระสังฆ์คุณ กำกับเวลาขวั้นไหม..วิชาไหม ๕ สีนี้เมื่อตกทอดมาสู่หลวงพ่อหยอด จึงได้เปลี่ยนมาใช้ไหมเทียม โดยโรงงานทำไหมเทียมซึ่งเป็นของลูกศิษย์ท่าน โดยวันหนึ่ง หลวงพ่อหยอด วัดแก้วเจริญ ได้มีโอกาสพบกับ หลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอมเกิดชอบใจในวิชาการขอดเชือกจึงได้ขอความเมตตาเรียนจากหลวงพ่อแช่ม และหลวงพ่อหยอดก็ได้นำ ตัวขอด นี้มาไว้เป็นส่วนหนึ่งในส่วนของไหม ๕ สี. ในยุคสมัยของหลวงพ่อหยอดรูปร่างหน้าตาของไหม ๕ สีจึงเป็นแบบตามรูปที่ผมลงให้ดู และเป็นปกาศิตจากหลวงพ่อหยอดว่า เมื่อใดที่เชือกขาด ให้เก็บตัวขอดนี้ไว้ เพราะนี่คือตะกรุดหนึ่งดอกครับ สายสิญจน์ ด้ายปริตร หรือทีหลวงพ่อเรียก ไหมสีขาว ถือได้ว่าเป็นด้ายศักดิ์สิทธ์ที่เกิดจากพระพุทธมนต์ที่หลวงพ่อท่านสวดสาธยายเสกเป่าปลุกเสกไว้ นับได้ว่าเป็นด้ายมงคลสามารถป้องกันอันตรายได้ ไหมสีขาวนี่คนพื่นทีรู้จักกันดีและหวงแหนมากกว่าไหม๕ สีอีกครับ อาจเป็นเพราะเชือว่าหลวงพ่อถักเองกับมือ ไม่เหมือนไหม ๕ สี ทีมีผู้ช่วยหลวงพ่อถักเป็นจำนวนมาก ในสมัยที่หลวงพ่อหยอดยังทรงสังขารอยู่เครื่องมงคลที่ดูจะสร้างชื่อเสียงให้กับองค์หลวงพ่อ นอกจากไหมเบญจรงค์ห้าสีแล้วหลวงพ่อสร้างตะกรุดไว้หลายแบบ ทั้งตะกรุดโทน ตะกรุดมหาปราบ ตะกรุดปราบหงสา ตะกรุดลูกอม และฯลฯ แต่ตะกรุดที่สร้างยุคต้นนั้น ส่วนใหญ่เป็นตะกรุดโทน และมหาปราบ สร้างก่อนตะกรุดชนิดอื่นๆ โดยมีการถักหรือพันด้วยไหมเบญจรงค์ห้าสีหรือสีเดียว แล้วร้อยใส่ตะกรุดด้วยด้ายไหมเบญจรงค์ห้าสี ตะกรุดโทนกับตะกรุดมหาปราบ หลวงพ่อหยอดจะดูความเเตกต่างกันที่ความยาวเท่านั้น ตะกรุดโทนจะยาวตั้ง แต่ 2.5 - 4.5 นิ้วเป็นส่วนใหญ่ ตะกรุดมหาปราบจะยาว 5-6.5 นิ้ว ส่วนตะกรุดปราบหงสาจะยาว 7 นิ้วขึ้นไป ตามสูตรต้นตำรับคือหลวงปู่ใจ วัดเสด็ด ตะกรุดมหาระงับปราบหงสา ในการสร้างตะกรุดมหาระงับปราบหงสาตำหรับหลวงปู่ใจนั้นท่านจะใช้แผ่นโลหะขนาดเดียวคือ 6x7 ซึ่งในเรื่องของความกว้างความยาวนี้ท่านถือว่าสําคัญมากจะใหญ่หรือเล็กไปกว่านี้ไม่ได้ มีทั้งเนื้อเงิน และทองแดง ขั้นตอนการสร้างตะกรุดมหาระงับปนราบหงสามีดังนี้ครับ 1.ระยะแรกลงอักขระเลขยันต์ในแผ่นเงินหรือทองแดง คาถาที่ลงในตะกรุดนั้นมีคาถาอิติปิโส8ทิศ(ใช้ทางป้องกันภัยแค้ลวคลาด คงกะพัน)...ส่วนสะกดทําให้งงงวยนั้นท่านลงด้วย(โอมมหาระงับ หลับสิ้นทั้งบ้าน โอมชิดมหาชิด โอมปิดมหาปิด สิทธิสวาหับ)และ เมตตาลงด้วยบท(อิติปาระมิตาติงสาระงับอินทรา อิติสัพพัญญูมาคะตาระงับพรหม อิติโพธิมะนุปปัตโตระงับมนุสลา อิติปิโสจะเตนะโมระงับปิศาจ)....และบทอื่นอีก 2.เอาด้ายดิบพันรอบตะกรุดทั้งดอก 3.เอายาพอกหุ้มด้ายไว้อีกชั้น (เครื่องยาที่พอกตะกรุดของท่านประกอบไปด้วยใบไม่รู้นอน ๗ ชนิด ดังนี้คือ หญ้าใต้ใบหญ้า กระทืบยอด ใบไมยราบ ใบผักกะเฉด ใบชุมเห้ดเทศ ใบสมี และผักบ้งขาวหรือแคขาวนำมาสุมไฟให้เป็นถ่าน แล้วบดให้ละเอียด เอารักคลุกผสมแล้วพอกลงไปด้านนอกตัวตะกรุด แล้วเสกด้วยคาถาบทพหูไสยาสน์ ท่านว่ามีอานุภาพทางสะกดโดยเฉพาะ) 5.ลงรักปิดทอง 6.ท่านจะปลุกเสกคาถาอีกครั้งหนึ่ง เรียกว่าดีนอกดีใน อุปเทห์การใช้ตะกรุดมหาระงับปราบหงสาครูบาอาจารย์ท่านว่าดีทุทาง ทังระงับดับภัย เปลี่ยนร้ายให้กลายเป็นดี ดับทุกษ์โศก แคล้วคลาด. สะกด.เมตาตา เวลาใช้ติดตัวให้อาราณา ด้วย(พาหุงบทแรก)หากเป็นความกันท่านให้นําตะกรุดมาทํานํามนต์เอารดบ้าง อาบบ้าง ไปว่าความก็จะชนะกลับมา ถ้าหากมีศัตรูคอยปองร้าย ให้อึดใจภาวนาคาถาว่า (มนุสสะตุณหิ...) เป็นมหาจังงัง ทําอันตรายเรามิได้เลย ถ้าจะปลอมตัวเข้าไปที่ใด ให้รุดตะกรุดไว้ข้างหน้าภาวนาว่า.....(นะโมพุทธายะ อะระหังบัง จิตตะเวพุสิ...) แล้วเข้าไปเถิดเป็นกําบัง ไม่อาจมองเห็นตัวเรา หากจะกันสัตว์ร้ายต่างและสัตว์มีพิษกันได้ทั้งสัตว์บนสัตว์นํา ท่านให้เอาตะกรุดแขวนคอ “ตะกรุดโลกธาตุ” หรือที่เรียกกันอย่างง่ายๆ ว่า “ตะกรุดลูกอม” เป็นตะกรุดขนาดเล็กใช้พกติดตัว ที่ดูจะเป็นวัตถุมงคลที่มีประสบการณ์อย่างมากชนิดที่เรียกว่า “ปากต่อปำก” กันเลยที่เดียว อุปเท่ห์วิธีการบูชาแต่โบราณท่านว่ามีอิทธิฤทธิ์มากโดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องแคล้วคลาหลวงพ่อหยอด วัดแก้วเจริญ จ.สมุทรสงคราม ได้รับการถ่ายทอดวิชา หัวใจโลกธาตุ ตำหรับของหลวงปู่ยิ้มแห่งวัดหนองบัวจากหลวงปู่ใจ วัดเสด็จ จ.สมุทรสงคราม กล่าวกันว่าผู้ที่จะเรียนวิชาการทำตะกรุดลูกอม ต้องผ่านการทดสอบอำนาจสมาธิจิตจากหลวงปู่ยิ้มทุกองค์ โดยท่านให้นั่งสมาธิเพ่งไส้เทียนให้ขาดก่อนถึงจะได้เรียนวิชานี้จากท่านได้ วัสดุที่ใช้ทำตะกรุดโลกธาตุมักทำด้วย ทองคำ เงิน นาค และทองแดง ต้องมีน้ำหนัก 1 สลึง ขนาดยาวประมาณ 7 ใบมะขามลงจารครบตามตำราหัวใจโลกธาตุ หรือเรียกอีกอย่างว่า คาถาพระพุทธเจ้าเดินจงกรมในพระครรภ์มารดา คือ “อิจฉันโต จิตโต อิจฉันโต โลกธาตุมหิ อัตตะภาเัวนัง นาทุยิ วาระวีสะติ สิทธังละอะ”และกลึงปิดหัวท้ายพระยันต์ดังกล่าวด้วยยันต์ใบพัดพร้อมสวดพระคาถา ม้วน แล้วรัดด้วยเส้นไหมห้าสีแท้ชุบน้ำข้าว. ตะกรุดลูกอมรุ่นแรกของหลวงพ่อหยอด จะมีโค๊ตภาษาขอม " เฑาะว์วงกลม " ที่ตะกรุดลูกอม ส่วนใหญ่โค๊ตของตะกรุดลูกอมรุ่นแรกจะติดไม่ค่อยชัด เนื่องจากใช้วิธีบีบโค๊ต ที่แผ่นเงิน (ไม่ใช่วิธีตอก) ทำให้น้ำหนักที่บีบโค๊ต ไม่แรงเหมือนกับการใช้วิธีตอก โค๊ตจึงติดไม่ชัดเจน ต่อมารุ่นสองก็จะเป็นโค๊ตตัวขอมตัว " ยะ" โค๊ตจะดูชัดเจนมาก รุ่นสามก็จะเป็นโค๊ต "เฑาะว์" แต่ไม่มีวงกลมล้อมรอบ ตะกรุดลูกอมเนี้อผงยา ล.พ.หยอด วัดแก้วเจริญ ท่านสร้างจำนวนไม่มากแจกแต่ศิษย์ใกลชิดเท่านั้นเแทบจะเป็น ตะกรุดลูกอมในตำนาน ของล.พ.หยอดเลยก็ว่าได้ ตะกรุดลูกอมนี้ท่าน สร้างจากผงยาเก่าที ลป.ใจ วัดเสด็จปลุกเสกให้ตั้งแต่พ.ศ. ๒๔๙๗ ภายในตัวตะกรุดลูกอมบรรจุด้วยกระดาษษาที่จารอักขรเลขะยันต์ด้วยดินสอ เมือผงยาแห่งดีแล้ว จึงพันด้วยไหมเบญจรงค์ ครับ ธรรมเนียมปฏิบัติในสมัยก่อน เวลาไปกราบครูบาอาจารย์ ต้องถวายหมากพลูและครูบาอาจารย์ ก่อนท่านจะฉันหมาก ท่านก็จะเสกหมากนั้น ชานหมากของหลวงพ่อหยอด วัดแก้วเจริญ จึงนับได้ว่าเป็นยอดวัตถุอาถรรพ์ อีกอย่างหนึ่งที่ศิษย์ และผู้ที่เคารพนับถือท่านต่างก็มีความต้องการมาก เพราะพวกเขาถือว่าขณะที่หลวงพ่อท่านกำลังเคี้ยวหมากพร้อมกับหลับตาอยู่นั้น หลวงพ่อกำลังเข้าฌาณและอธิษฐานจิต บริกรรมภาวนาคาถา พระเวทย์ไปด้วย ทำให้ชานหมากที่ท่านกำลังเคี้ยวอยู่นั้นพลอยศักดิ์สิทธิ์ไปด้วย ด้วยเหตุนี้ชานหมากจึงเป็นที่ต้องการของคนจำนวนมาก แต่อย่างว่าของดีมีน้อย ใครก็ตามที่ได้รับชานหมากและไหมขาวจากมือของหลวงพ่อพร้อมกันทั้งสองอย่างนี้ นับได้ว่าผู้นั้นเป็นผู้ที่มีบุญและวาสนาจริงๆ ส่วนมากแล้วชานหมากนี่ถ้าไม่ขอ ท่านก็จะกลืนหมด ถ้าท่านจะให้ลูกศิษย์เก็บไว้ ท่านก็จะคายออกมา ชานหมากของท่านได้สร้างปาฏิหาริย์ไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นทางด้านแคล้วคลาด คงกระพันชาตรี เขี้ยวงาไม่ได้กิน มหาอุด เมตตามหานิยม

รายละเอียด

หลวงปู่หยอดท่านเป็นอาจารย์เกจิที่เก่งมากเป็นที่นับถือ เคยได้ยินว่าท่านปลุกเสกตระกรุดวิ่งได้ และที่น่าตื่นเต้นตรงที่ท่านปลุกเสกตระกรุดลอยทวนน้ำได้ การเดินทางค่าขายของสมัยก่อนจะมีการเดินทางโดยเรือ และเรือสินค้าจะเยอะ พวกพ่อค้าแม่ค้าจะนำเรือมาให้เจิม ท่านไม่ต้องลงจากกุฏิเลยครับ แค่กำมือบริกรรมคาถาแล้วตบฝ่ามือไปเท่านั้น ท่านบอกว่าเสร็จแล้ว พอไปดูที่เรือที่หัวเรือมีรอยมือของหลวงพ่ออยู่ครับ ฯลฯ จากการบอกเล่าของคนในพื้นที่ แต่ที่เครื่องรางและพระเครื่องท่านไม่ค่อยได้รับความนิยม เพราะลูกศิษย์ท่านเวลาท่านสั่งทำพระเครื่องต่างๆ อย่างพระเหรียญ ท่านสั่ง 1000 แต่มีจำนวนจากผู้ไม่หวังดีเพิ่มขึ้นมาเองอีกเป็นเท่าตัว หรือมากกว่านั้น คนในพื้นที่เค้าจะศรัทธาในสิ่งที่ได้รับกับมือหลวงพ่อมากกว่าได้จากผู้อื่นครับ จะถือว่าพระเครื่องนั้นได้ผ่านการปลุกเสกจากหลวงพ่อ หลวงพ่อท่านเป็นที่รักและนับถือแก่คนในพื้นที่มาก แม้ท่านจะละสังขารไปนานแล้วอยู่อย่างสงบในตู้กระจกที่สังขารไม่เน่าเปลือยก็ยังมีคนแวะเวียนไปสักการะท่านอย่างไม่ขาดสาย และในพื้นที่ก็ยังมีการเล่นหาพระเครื่องท่านอย่างต่อเนื่องเช่นกัน...ถ้าเอ่ยถึงไหม 5 สี เชื่อว่าผู้ที่เคารพนับถือพระเกจิอาจารย์ชื่อดังหรือผู้ที่ชื่นชอบเครื่องรางประเภทเบาๆ ออกทางสวยงาม ต้องนึกถึง“หลวงพ่อหยอด” แห่งวัดแก้วเจริญ อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงครามกันดี วิชาไหมเบญจรงค์ 5 สี หรือไหม ๕ สี นี้ดังเดิมเป็นของ หลวงปู่ใจ วัดเสด็จ โดยในยุคของหลวงปู่ใจจะสร้างจากไหมญี่ปุ่นจำนวน ๕ สี ได้ความหมายว่าเป็นศีลห้า...นำมาถักขวั้นกัน โดยใช้คาถาพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ และพระสังฆ์คุณ กำกับเวลาขวั้นไหม..วิชาไหม ๕ สีนี้เมื่อตกทอดมาสู่หลวงพ่อหยอด จึงได้เปลี่ยนมาใช้ไหมเทียม โดยโรงงานทำไหมเทียมซึ่งเป็นของลูกศิษย์ท่าน โดยวันหนึ่ง หลวงพ่อหยอด วัดแก้วเจริญ ได้มีโอกาสพบกับ หลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอมเกิดชอบใจในวิชาการขอดเชือกจึงได้ขอความเมตตาเรียนจากหลวงพ่อแช่ม และหลวงพ่อหยอดก็ได้นำ ตัวขอด นี้มาไว้เป็นส่วนหนึ่งในส่วนของไหม ๕ สี. ในยุคสมัยของหลวงพ่อหยอดรูปร่างหน้าตาของไหม ๕ สีจึงเป็นแบบตามรูปที่ผมลงให้ดู และเป็นปกาศิตจากหลวงพ่อหยอดว่า เมื่อใดที่เชือกขาด ให้เก็บตัวขอดนี้ไว้ เพราะนี่คือตะกรุดหนึ่งดอกครับ สายสิญจน์ ด้ายปริตร หรือทีหลวงพ่อเรียก ไหมสีขาว ถือได้ว่าเป็นด้ายศักดิ์สิทธ์ที่เกิดจากพระพุทธมนต์ที่หลวงพ่อท่านสวดสาธยายเสกเป่าปลุกเสกไว้ นับได้ว่าเป็นด้ายมงคลสามารถป้องกันอันตรายได้ ไหมสีขาวนี่คนพื่นทีรู้จักกันดีและหวงแหนมากกว่าไหม๕ สีอีกครับ อาจเป็นเพราะเชือว่าหลวงพ่อถักเองกับมือ ไม่เหมือนไหม ๕ สี ทีมีผู้ช่วยหลวงพ่อถักเป็นจำนวนมาก

ในสมัยที่หลวงพ่อหยอดยังทรงสังขารอยู่เครื่องมงคลที่ดูจะสร้างชื่อเสียงให้กับองค์หลวงพ่อ นอกจากไหมเบญจรงค์ห้าสีแล้วหลวงพ่อสร้างตะกรุดไว้หลายแบบ ทั้งตะกรุดโทน ตะกรุดมหาปราบ ตะกรุดปราบหงสา ตะกรุดลูกอม และฯลฯ แต่ตะกรุดที่สร้างยุคต้นนั้น ส่วนใหญ่เป็นตะกรุดโทน และมหาปราบ สร้างก่อนตะกรุดชนิดอื่นๆ โดยมีการถักหรือพันด้วยไหมเบญจรงค์ห้าสีหรือสีเดียว แล้วร้อยใส่ตะกรุดด้วยด้ายไหมเบญจรงค์ห้าสี ตะกรุดโทนกับตะกรุดมหาปราบ หลวงพ่อหยอดจะดูความเเตกต่างกันที่ความยาวเท่านั้น ตะกรุดโทนจะยาวตั้ง แต่ 2.5 - 4.5 นิ้วเป็นส่วนใหญ่ ตะกรุดมหาปราบจะยาว 5-6.5 นิ้ว ส่วนตะกรุดปราบหงสาจะยาว 7 นิ้วขึ้นไป ตามสูตรต้นตำรับคือหลวงปู่ใจ วัดเสด็ด ตะกรุดมหาระงับปราบหงสา ในการสร้างตะกรุดมหาระงับปราบหงสาตำหรับหลวงปู่ใจนั้นท่านจะใช้แผ่นโลหะขนาดเดียวคือ 6x7 ซึ่งในเรื่องของความกว้างความยาวนี้ท่านถือว่าสําคัญมากจะใหญ่หรือเล็กไปกว่านี้ไม่ได้ มีทั้งเนื้อเงิน และทองแดง ขั้นตอนการสร้างตะกรุดมหาระงับปนราบหงสามีดังนี้ครับ

1.ระยะแรกลงอักขระเลขยันต์ในแผ่นเงินหรือทองแดง คาถาที่ลงในตะกรุดนั้นมีคาถาอิติปิโส8ทิศ(ใช้ทางป้องกันภัยแค้ลวคลาด คงกะพัน)...ส่วนสะกดทําให้งงงวยนั้นท่านลงด้วย(โอมมหาระงับ หลับสิ้นทั้งบ้าน โอมชิดมหาชิด โอมปิดมหาปิด สิทธิสวาหับ)และ เมตตาลงด้วยบท(อิติปาระมิตาติงสาระงับอินทรา อิติสัพพัญญูมาคะตาระงับพรหม อิติโพธิมะนุปปัตโตระงับมนุสลา อิติปิโสจะเตนะโมระงับปิศาจ)....และบทอื่นอีก

2.เอาด้ายดิบพันรอบตะกรุดทั้งดอก 3.เอายาพอกหุ้มด้ายไว้อีกชั้น (เครื่องยาที่พอกตะกรุดของท่านประกอบไปด้วยใบไม่รู้นอน ๗ ชนิด ดังนี้คือ หญ้าใต้ใบหญ้า กระทืบยอด ใบไมยราบ ใบผักกะเฉด ใบชุมเห้ดเทศ ใบสมี และผักบ้งขาวหรือแคขาวนำมาสุมไฟให้เป็นถ่าน แล้วบดให้ละเอียด เอารักคลุกผสมแล้วพอกลงไปด้านนอกตัวตะกรุด แล้วเสกด้วยคาถาบทพหูไสยาสน์ ท่านว่ามีอานุภาพทางสะกดโดยเฉพาะ) 5.ลงรักปิดทอง 6.ท่านจะปลุกเสกคาถาอีกครั้งหนึ่ง เรียกว่าดีนอกดีใน อุปเทห์การใช้ตะกรุดมหาระงับปราบหงสาครูบาอาจารย์ท่านว่าดีทุทาง ทังระงับดับภัย เปลี่ยนร้ายให้กลายเป็นดี ดับทุกษ์โศก แคล้วคลาด. สะกด.เมตาตา เวลาใช้ติดตัวให้อาราณา ด้วย(พาหุงบทแรก)หากเป็นความกันท่านให้นําตะกรุดมาทํานํามนต์เอารดบ้าง อาบบ้าง ไปว่าความก็จะชนะกลับมา ถ้าหากมีศัตรูคอยปองร้าย ให้อึดใจภาวนาคาถาว่า (มนุสสะตุณหิ...) เป็นมหาจังงัง ทําอันตรายเรามิได้เลย ถ้าจะปลอมตัวเข้าไปที่ใด ให้รุดตะกรุดไว้ข้างหน้าภาวนาว่า.....(นะโมพุทธายะ อะระหังบัง จิตตะเวพุสิ...) แล้วเข้าไปเถิดเป็นกําบัง ไม่อาจมองเห็นตัวเรา หากจะกันสัตว์ร้ายต่างและสัตว์มีพิษกันได้ทั้งสัตว์บนสัตว์นํา ท่านให้เอาตะกรุดแขวนคอ
“ตะกรุดโลกธาตุ” หรือที่เรียกกันอย่างง่ายๆ ว่า “ตะกรุดลูกอม” เป็นตะกรุดขนาดเล็กใช้พกติดตัว ที่ดูจะเป็นวัตถุมงคลที่มีประสบการณ์อย่างมากชนิดที่เรียกว่า “ปากต่อปำก” กันเลยที่เดียว อุปเท่ห์วิธีการบูชาแต่โบราณท่านว่ามีอิทธิฤทธิ์มากโดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องแคล้วคลาหลวงพ่อหยอด วัดแก้วเจริญ จ.สมุทรสงคราม ได้รับการถ่ายทอดวิชา หัวใจโลกธาตุ ตำหรับของหลวงปู่ยิ้มแห่งวัดหนองบัวจากหลวงปู่ใจ วัดเสด็จ จ.สมุทรสงคราม กล่าวกันว่าผู้ที่จะเรียนวิชาการทำตะกรุดลูกอม ต้องผ่านการทดสอบอำนาจสมาธิจิตจากหลวงปู่ยิ้มทุกองค์ โดยท่านให้นั่งสมาธิเพ่งไส้เทียนให้ขาดก่อนถึงจะได้เรียนวิชานี้จากท่านได้
วัสดุที่ใช้ทำตะกรุดโลกธาตุมักทำด้วย ทองคำ เงิน นาค และทองแดง ต้องมีน้ำหนัก 1 สลึง ขนาดยาวประมาณ 7 ใบมะขามลงจารครบตามตำราหัวใจโลกธาตุ หรือเรียกอีกอย่างว่า คาถาพระพุทธเจ้าเดินจงกรมในพระครรภ์มารดา คือ “อิจฉันโต จิตโต อิจฉันโต โลกธาตุมหิ อัตตะภาเัวนัง นาทุยิ วาระวีสะติ สิทธังละอะ”และกลึงปิดหัวท้ายพระยันต์ดังกล่าวด้วยยันต์ใบพัดพร้อมสวดพระคาถา ม้วน แล้วรัดด้วยเส้นไหมห้าสีแท้ชุบน้ำข้าว.
ตะกรุดลูกอมรุ่นแรกของหลวงพ่อหยอด จะมีโค๊ตภาษาขอม " เฑาะว์วงกลม " ที่ตะกรุดลูกอม ส่วนใหญ่โค๊ตของตะกรุดลูกอมรุ่นแรกจะติดไม่ค่อยชัด เนื่องจากใช้วิธีบีบโค๊ต ที่แผ่นเงิน (ไม่ใช่วิธีตอก) ทำให้น้ำหนักที่บีบโค๊ต ไม่แรงเหมือนกับการใช้วิธีตอก โค๊ตจึงติดไม่ชัดเจน ต่อมารุ่นสองก็จะเป็นโค๊ตตัวขอมตัว " ยะ" โค๊ตจะดูชัดเจนมาก รุ่นสามก็จะเป็นโค๊ต "เฑาะว์" แต่ไม่มีวงกลมล้อมรอบ
ตะกรุดลูกอมเนี้อผงยา ล.พ.หยอด วัดแก้วเจริญ ท่านสร้างจำนวนไม่มากแจกแต่ศิษย์ใกลชิดเท่านั้นเแทบจะเป็น ตะกรุดลูกอมในตำนาน ของล.พ.หยอดเลยก็ว่าได้ ตะกรุดลูกอมนี้ท่าน สร้างจากผงยาเก่าที ลป.ใจ วัดเสด็จปลุกเสกให้ตั้งแต่พ.ศ. ๒๔๙๗ ภายในตัวตะกรุดลูกอมบรรจุด้วยกระดาษษาที่จารอักขรเลขะยันต์ด้วยดินสอ เมือผงยาแห่งดีแล้ว จึงพันด้วยไหมเบญจรงค์ ครับ
ธรรมเนียมปฏิบัติในสมัยก่อน เวลาไปกราบครูบาอาจารย์ ต้องถวายหมากพลูและครูบาอาจารย์ ก่อนท่านจะฉันหมาก ท่านก็จะเสกหมากนั้น ชานหมากของหลวงพ่อหยอด วัดแก้วเจริญ จึงนับได้ว่าเป็นยอดวัตถุอาถรรพ์ อีกอย่างหนึ่งที่ศิษย์ และผู้ที่เคารพนับถือท่านต่างก็มีความต้องการมาก เพราะพวกเขาถือว่าขณะที่หลวงพ่อท่านกำลังเคี้ยวหมากพร้อมกับหลับตาอยู่นั้น หลวงพ่อกำลังเข้าฌาณและอธิษฐานจิต บริกรรมภาวนาคาถา พระเวทย์ไปด้วย ทำให้ชานหมากที่ท่านกำลังเคี้ยวอยู่นั้นพลอยศักดิ์สิทธิ์ไปด้วย ด้วยเหตุนี้ชานหมากจึงเป็นที่ต้องการของคนจำนวนมาก แต่อย่างว่าของดีมีน้อย ใครก็ตามที่ได้รับชานหมากและไหมขาวจากมือของหลวงพ่อพร้อมกันทั้งสองอย่างนี้ นับได้ว่าผู้นั้นเป็นผู้ที่มีบุญและวาสนาจริงๆ ส่วนมากแล้วชานหมากนี่ถ้าไม่ขอ ท่านก็จะกลืนหมด ถ้าท่านจะให้ลูกศิษย์เก็บไว้ ท่านก็จะคายออกมา ชานหมากของท่านได้สร้างปาฏิหาริย์ไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นทางด้านแคล้วคลาด คงกระพันชาตรี เขี้ยวงาไม่ได้กิน มหาอุด เมตตามหานิยม