หมวด พระเกจิภาคอีสานใต้
รูปเหมือนเนื้อว่าน พระฤาษีปู่แก้วปฐมมุนี วัดป่าโพนพระ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี



ชื่อร้านค้า | Magnate - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า) |
---|---|
ชื่อเจ้าของร้านค้า | |
ชื่อพระเครื่อง | รูปเหมือนเนื้อว่าน พระฤาษีปู่แก้วปฐมมุนี วัดป่าโพนพระ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี |
อายุพระเครื่อง | - |
หมวดพระ | พระเกจิภาคอีสานใต้ |
ราคาเช่า | - |
เบอร์โทรติดต่อ | (ไม่แสดงเบอร์ เนื่องจากรายการนี้ไม่ได้ปล่อยเช่า) |
อีเมล์ติดต่อ | magnate458952@hotmail.com |
สถานะ |
![]() |
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ | พ. - 03 มิ.ย. 2558 - 18:18.52 |
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ | พฤ. - 04 ก.พ. 2559 - 10:34.16 |
รายละเอียด | |
---|---|
รูปเหมือนเนื้อว่าน อุดตะกรุด พระฤาษีปู่แก้วปฐมมุนี หลังยันต์ตรีโลกนาถ สร้างขึ้นเมื่อครั้งท่านยังห่มครองผ้าเหลือง ที่ วัดป่าโพนพระ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี ชาติภูมิของพระฤๅษีปู่แก้วปฐมมุนี ณ วันจันทร์ที่ 23 ตุลาคม 2521 ตรงกับแรม 7 ค่ำ เดือน 11 ที่ อ. เดชอุดม จ. อุบลราชธานี บิดาชื่อ นายวัฒนา อิ้มคำ อาชีพรับราชการครูเป็น ผู้อำนวยการโรงเรียนนิคมสร้างตนเองลำโดมใหญ่ มารดาชื่อ นางประคอง อิ้มคำ อาชีพรับราชการเป็นครู พระฤๅษีปู่แก้วปฐมมุนี ในภูมิกำเนิดแห่งครอบครัว อิ้มคำ มีพี่น้อง 3 คน คือ 1. นางสาววรางคณา อิ้มคำ ประกอบอาชีพ ธุรกิจส่วนตัว 2. นางสาวพักตร์วิภา อิ้มคำ ประกอบอาชีพ ธุรกิจส่วนตัว 3. นายปิยศักดิ์ อิ้มคำ (พ่อปู่ฤๅษีแก้วปฐมมุนี) ประธานอาศรมฤๅษีปู่แก้ว เลขที่ 9 บ้านโพธิ์ตรุ ต.บ้านเบิก อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี ชีวิตวัยเยาว์ การศึกษาและการก้าวเข้าสู่เส้นทางธรรม เมื่อแรกเกิดด้วยความที่เป็นเด็กไม่ธรรมดา เพราะมีหลายสิ่งหลายอย่างแตกต่างไปจากเด็กทั่ว ๆ ไป บิดาได้นำ แก้ว หรือหนูน้อย ปิยศักดิ์ อิ้มคำ ไปกราบครูบาอาจารย์ที่ท่านเคารพนับถือในสมัยนั้นคือหลวงปู่มั่น ทตฺตโต สุดยอดพระเกจิอาจารย์ แห่งวัดโนนสมบูรณ์ อำเภอนาจะหลวย จังหวัดอุบลราชธานี ชีวิตการศึกษาทางโลก ศึกษาโรงเรียนประจำอำเภอจนถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 เรียนที่โรงเรียนอัสสัมชัญอุบลสำเร็จชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เริ่มก้าวเข้าสู่เส้นทางธรรม มีคนชวนให้ไปกราบ หลวงปู่เทสก์ เทสก์รังสี ศิษย์หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต คงด้วยจิตสัมผัสหรือด้วยฌาณหยั่งรู้ของหลวงปู่เทสก์ ท่านมีเมตตาเป็นอย่างมากถึงกับชวนให้มาบวชเณรและปฏิบัติธรรมด้วยเป็นเวลา 1 เดือน หลวงปู่ชา สุภัทโท แห่ง วัดหนองป่าพง ก็เป็นพระอริยสงฆ์อีกรูปหนึ่งที่ได้มีโอกาสติดสอยห้อยตามคุณย่าไปกราบและรับฟังเทศนาธรรมคำสั่งสอนจากท่านด้วยความเมตตา เคยเดินทางไปกราบ หลวงปู่บุญมี โชติปาโล แห่ง วัดสระประสานสุข อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี พระเถระผู้ทรงอภิญญาสูงส่ง หลวงปู่พรหมมา เขมะจาโร แห่ง สวนหินผานางคอย ก็เป็นอีกสำนักหนึ่งที่ได้เข้าไปรับใช้และศึกษาเรียนรู้ เรียนรู้สรรพวิทยาการจากพระอริยสงฆ์แห่งแดนที่ราบสูงจนเกือบครบถ้วนแล้ว ช่วงเวลาพิเศษได้ไปกราบพระเกจิอาจารย์ผู้ทรงคุณวิเศษอีกรูปหนึ่ง นั่นคือ หลวงพ่อคล้อย แห่งวัดถ้ำเขาเงิน จังหวัดชุมพรพระเกจิอาจารย์ผู้เรืองวิทยาคมสายเขาอ้อ เป็นศิษย์ พ่อท่านแดง วัดถ้ำเขาเงิน, พ่อท่านคง วัดบ้าน ถ่ายทอดสรรพวิทยาคมตำรับเขาอ้อให้เป็นเวลาเกือบ 2 สัปดาห์ ในช่วงเวลาที่ไขว่คว้า แสวงหาครูบาอาจารย์อยู่นั้น จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมืองกรุงเก่า มี หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ แห่ง วัดสะแก การเข้าไปกราบหลวงปู่ดู่ครั้งนั้น ได้ถือโอกาสขออยู่ปรนนิบัติหลวงปู่เป็นเวลา 1 สัปดาห์ ในระหว่างนั้นก็ได้ศึกษาสรรพวิชาตำราต่าง ๆ โดยเฉพาะสายหลวงปู่กลั่น หลวงปู่สี ซึ่งถ่ายทอดโดยหลวงปู่ดู่ ไม่เพียงแต่พระอริยสงฆ์และพระเถราจารย์ผู้เรืองวิทยาคมและทรงคุณวิเศษสายต่าง ๆ ทั้ง สายสำเร็จลุน สายพระอาจารย์มั่น สายเขาอ้อ และสายวัดประดู่ทรงธรรม เท่านั้นที่เด็กหนุ่มผู้แสวงหาจากอำเภอเดชอุดม ได้ใช้ความเพียรพยายามเข้าไปกราบนมัสการขอปรนนิบัติรับใช้ใกล้ชิดและมอบกายใจถวายตัวเป็นศิษย์เพื่อศึกษาหาความรู้ ด้วยความมุ่งมั่นและจริงจัง อาทิ หลวงพ่อยิด วัดหนองจอก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หลวงปู่เมี้ยน วัดโพธิ์กบเจา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา หลวงปู่เกตุ วัดเกาะหลัก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ จังหวัดนครปฐม หลวงพ่อพุฒ วัดกลางบางพระ จังหวัดนครปฐม หลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม จังหวัดนครปฐมหลวงพ่อช่อ หรือฤๅษีลิงขาว ศิษย์หลวงพ่อปานวัดบางนมโค อยุธยา ฯลฯ ห้าปีใต้ร่มกาสาวพัสต์ก่อนผันชีวิต สู่เพศพระฤๅษี ด้วยความมุ่งมั่น และความตั้งใจจริงที่จะก้าวเดินไปในเส้นทางเดินสายนี้อย่างแน่วแน่ ดังนั้น เมื่อการศึกษาทางโลกได้ร่ำเรียนจนสำเร็จชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 แล้ว จึงขออนุญาตบิดามารดาบวชเป็นสามเณร วัดทองสวัสดิ์ อำเภอหนองอ้อม จังหวัดอุบลราชธานี คือแดนพุทธธรรมที่หนุ่มน้อยผู้แสวงหาได้บวชเป็นสามเณร และได้จำพรรษาอยู่แถบนั้นเป็นเวลา 2 พรรษา เทศนาโปรดพญานาคริมฝั่งแม่น้ำโขง :ถอดเกล็ดถวายบูชาแทนเครื่องกัณฑ์เทศน์ ในปี พ.ศ.2540 เณรน้อยบวชใหม่จากวัดทองสวัสดิ์ได้ออกธุดงค์ไปปักกลดแถวละแวกบ้านท่าอุเทน จังหวัดนครพนม ซึ่งอยู่ติดแม่น้ำโขง ถึงยามค่ำปรากฏมีชาวบ้านท่าอุเทน ทั้งชายหญิง ประมาณ 40 คนพากันมานมัสการและขอรับฟังพระธรรมเทศนา ซึ่งเณรน้อยก็ได้แสดงธรรมสนองศรัทธาจนจบในเวลาประมาณ 4 ทุ่มเศษ พอฟังจบต่างยกมือขึ้นสาธุแล้วพากันทยอยกลับ ภาพที่เห็นคือทุกคนเดินหายลงไปในน้ำเฉย ๆ จนคนสุดท้ายก็เอ่ยถามว่า “พ่อเณรต้องการอะไรเป็นค่ากัณฑ์เทศน์ เงินทองหรือสมบัติอันใด?” เณรน้อยตอบว่า“ไม่ได้ต้องการอะไร เพียงต้องการให้ ท่านทั้งหลายเข้าใจและพิทักษ์รักษาพระศาสนาให้ได้นานเท่านานก็พอแล้ว” ชายคนยกมือพนมก้มลงกราบแล้วก็ลาเดินหายลงไปในแม่น้ำ ครู่เดียว ก็ปรากฏมีงูเห่าตัวหนึ่งเลื้อยขึ้นมาจากแม่น้ำโขง งูเห่าดังกล่าวมีขนาดใหญ่มาก ลักษณะมีหงอนอยู่บนหัวได้ เลื้อยมาใกล้ ๆ กลดของเณรน้อยจากนั้นก็ทำการถอดเกล็ดแบบงูลอกคราบออกทั้งตัวเสร็จแล้วก็เลื้อยหายลงไปในแม่น้ำทางเดิมที่เลื้อยขึ้นมา คราวนี้พอมาถึงก็ส่งของสิ่งหนึ่งถวายให้กับเณรน้อย “ถวายให้เณรเป็นค่ากัณฑ์เทศน์ครับ สักวันหนึ่งสิ่งนี้จะช่วยท่านสร้างสรรค์พระศาสนาและถาวรวัตถุสมความปรารถนา” อนุสรณ์ที่เณรน้อยได้รับติดกัณฑ์เทศน์คืนนั้นคือ เกล็ดพญานาค http://www.pukaew.com/index.php?lay=show&ac=article&Ntype=5 |
พระเครื่องที่เกี่ยวข้องในร้านค้านี้...










อื่นๆ...
กำหลังโหลด Comments