พระขุนแผน รุ่นสากหัก วัดละหารไร่ ปี 2546 พิมพ์ใหญ่ นำฤกษ์ กดมือ ฝังยอดขุนพล-นำฤกษ์ พระเครื่อง - webpra
>>นำฤกษ์ พระเครื่อง : ซื่อสัตย์ จริงใจ มีจรรยาบรรณ รับประกันพระแท้มาตรฐานสากล>> id: 0648689066

หมวด หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

พระขุนแผน รุ่นสากหัก วัดละหารไร่ ปี 2546 พิมพ์ใหญ่ นำฤกษ์ กดมือ ฝังยอดขุนพล

พระขุนแผน รุ่นสากหัก วัดละหารไร่ ปี 2546 พิมพ์ใหญ่ นำฤกษ์ กดมือ ฝังยอดขุนพล - 1พระขุนแผน รุ่นสากหัก วัดละหารไร่ ปี 2546 พิมพ์ใหญ่ นำฤกษ์ กดมือ ฝังยอดขุนพล - 2พระขุนแผน รุ่นสากหัก วัดละหารไร่ ปี 2546 พิมพ์ใหญ่ นำฤกษ์ กดมือ ฝังยอดขุนพล - 3
ชื่อร้านค้า นำฤกษ์ พระเครื่อง - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า
ชื่อพระเครื่อง พระขุนแผน รุ่นสากหัก วัดละหารไร่ ปี 2546 พิมพ์ใหญ่ นำฤกษ์ กดมือ ฝังยอดขุนพล
อายุพระเครื่อง 2552 ปี
หมวดพระ หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่
ราคาเช่า -
เบอร์โทรติดต่อ 0648689066
อีเมล์ติดต่อ numlerk.amulet@gmail.com
LINE
(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
สถานะ พระโชว์
Facebook
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ พฤ. - 23 พ.ค. 2556 - 08:44.51
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ อ. - 26 เม.ย. 2559 - 12:03.52
รายละเอียด
....พิมพ์ใหญ่ นำฤกษ์ กดมือ ฝังยอดขุนพลเล็ก องค์นี้มีเส้นเกศา ด้วยครับ กดในพิธี มวลสารจัดจ้านมากกว่าพระปั้มโรงงาน พิมพ์กดมือ มีเสน่ห์ สวยงามเข้มขลัง........,,,,,,,หายากครับ หนึ่งในหลักร้อยองค์ครับ

...........พระอนาคตหลักแสนครับ................

พระขุนแผน (พรายกุมาร) รุ่นสากหัก พระขุนแผนพรายกุมารรุ่นที่เริ่มผงครกแรกแล้วสากหินที่เอามาตำผงเกิดหักขึ้นมา คงจะเป็นไปตามอาถรรพ์ของการสร้างผงพรายกุมารตามตำรับของหลวงปู่ทิม ที่เป็นมาแล้วถึง ๒ ครั้ง ครั้งแรกพอเริ่มตำผงพรายครกหินขนาดใหญ่ที่ใช้ตำก็แตกออกเป็นสองเสี่ยง, ครั้งที่สอง หลวงปู่ทิมให้นายครอก อัมฤทธิ์เอาไปทำที่บ้านพอตำผงได้ที่ไฟก็ลุกขึ้นในครก และครั้งที่ ๓ เกิดที่บ้านผมหรือสำนักงานมูลนิธิหลวงปู่ทิม อิสริโก ในซอยเฉลิมสุข เขตจตุจักร กรุงเทพฯ พอผงพรายกุมารที่ตำกำลังจะได้ที่สากหินที่ตำก็หักเป็นสองท่อน ก็คงเป็นเครื่องสำแดงให้เห็นถึงความศักดิ์สิทธิ์ของการสร้างพระขุนแผนในครั้งนี้เป็นแน่ เพราะก่อนจะสร้างพระขุนแผนรุ่นนี้ทั้งผมและลุงแมงต่างก็บอกกล่าวกับรูปหล่อหลวงปู่ทิม ทุกครั้งก็สวดมนต์ไหว้พระเพื่อขอให้บังเกิดความขลังความศักดิ์สิทธิ์ดุจเดียวกับที่หลวงปู่ทิมทำเมื่อครั้งยังมีชีวิต เพราะเราจะเอาพระขุนแผนพรายกุมารชุดนี้ไปทำบุญทำกุศล แจกแก่ผู้ร่วมทำบุญทอดกฐิน ณ วัดพงเสลี่ยง บ้านห้วยโป้ สุโขทัยในวันเสาร์ที่ ๒๕ ตุลาคม ๒๕๔๖

และขอให้พระขุนแผนพรายกุมารที่ทำขึ้นมีความขลังความศักดิ์สิทธิ์เหมือนกับที่หลวงปู่ทิมทำเมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่
พระขุนแผนพรายกุมาร รุ่นสากหัก ที่ทำขึ้นครั้งนี้ ถ้าจะเรียกว่าเป็นการสร้างที่มีวัตถุมงคลมากที่สุดเท่าที่ได้เคยสร้างกันมาหลังจากหลวงปู่ทิม มรณะภาพแล้วก็เห็นจะไม่ผิด ลุงแมง อัมฤทธิ์ บุตรบุญธรรมหลวงปู่ทิม ซึ่งท่านตั้งชื่อให้ว่า นายสิงหราช อัมฤทธิ์ และเป็นผู้ที่หลวงปู่ทิมมอบหมายให้สร้างพระขุนแผนพรายกุมารให้ท่านเป็นคนแรก (ขุนแผนลองพิมพ์) อีกทั้งเป็นผู้ที่หลวงปู่ทิมใช้ให้ไปขุดโคกดินใต้ถุนศาลาภาวนาภิรัต เพื่อเอาน้ำมันพระเจ้าตากมาสร้างพระขุนแผนนั้นคงเป็นเพราะลุงแมงมีชื่อเป็นมหาอำนาจ ลุงแมงย้ายจากระยองไปอยู่สุโขทัยแล้วลงทุนซื้อไร่ปลูกส้มเขียวหวานออกจำหน่าย แกเห็นศาลาเอนกประสงค์ของวัดพงเสลี่ยงซึ่งใช้เป็นที่ประชุมชาวบ้านอยู่ในสภาพชำรุดทรุดโทรม ก็เลยมาปรึกษากับผมเพื่อขอให้ผมเป็นเจ้าภาพทอดกฐินในปีนี้ เพื่อนำปัจจัยที่จะได้มาสร้างศาลาให้วัดพงเสลี่ยง ผมก็รับปากและบอกว่าจะแจ้งข่าวบอกบุญไปยังบรรดาลูกศิษย์ของหลวงปู่ทิม ให้ช่วยกันเป็นเจ้าภาพเพื่อสร้างศาลา โดยให้ชื่อว่า “ศาลาศิษย์หลวงปู่ทิม ร่วมใจ”
เพื่อเป็นการตอบแทนน้ำใจของผู้ร่วมงานจึงคิดสร้างพระขุนแผนพรายกุมารเอาไว้แจกผู้ร่วมทำบุญ ลุงแมงและพระทอง สุขวงศ์จันทร์ ซึ่งทั้งสองคนเคยรับใช้ใกล้ชิดหลวงปู่ทิม โดยทั้งสองคนได้มอบผงพรายกุมารชนิดบริสุทธิ์ (เพียวๆ) หรือชนิดเข้มข้นที่ทั้งคู่เก็บไว้ครั้งสร้างพระขุนแผนให้หลวงปู่ แก่ผมหนึ่งขวดเนสกาแฟขนาดเล็ก แกบบอกว่าเก็บไว้ตั้งแต่สมัยหลวงพ่อ (หมายถึงหลวงปู่ทิม) ไม่กล้าเอาออกมาทำพระเพราะเกรงใจพระอาจารย์เชยเจ้าอาวาสวัดละหารไร่ เลยตัดสินใจมอบให้ผมเพื่อให้เอามาทำพระขุนแผนแจกงานกฐินในครั้งนี้

นอกจากนั้นลุงแมงยังไปแสวงหาว่านมงคลต่างๆตามตำราสร้างพระผงของหลวงปู่ทิมมาให้ผมอีกหลายชนิด สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ลุงแมงไปเสาะแสวงหามาให้ผมก็คือ ไม้หลงลืม หรือเถาวัลย์หลง เมื่อผมไปเยียนลุงแมงที่บ้านห้วยโป้ ภรรยาลุงแมงบอกกับผมว่า “พี่แมงอุตสาห์ไปหาไม้หลงลืม เอามาให้ผมทำพระขุนแผน ไปหาอยู่นานโขจึงจะได้” นอกจากวัตถุมงคลต่างๆแล้ว ทิดเย็น คำมี หรืออดีตหลวงพี่เย็น ซึ่งเคยช่วยหลวงปู่ทิมสร้างพระเครื่อง, ลงเลขยันต์ ตลอดจนการทำสีผึ้งก็ได้บอกเคล็ดลับต่างๆในวิธีการสร้างพระเครื่องของหลวงปู่ทิมแก่ผมด้วย

บางคนก็นำผง และของอาถรรพ์ต่างๆมาให้ด้วย คุณอุกฤษ ดุลย์เกษม หัวหน้าไปรษณีย์ นำพระผงรูปหล่อขนาดใหญ่พิเศษหลวงพ่อพรหม วัดช่องแค ซึ่งสร้างขึ้นเพียง ๓ องค์ มาให้ผมตำผสมลงไปในเนื้อพระขุนแผน ลูกศิษย์สายตรงของหลวงพ่อพรหมเห็นพระผงรูปเหมือนองค์นี้แล้ว บอกให้ผมเก็บเอาไว้เพราะหายากมากทำจากผงล้วนๆของหลวงพ่อพรหม มีเพียง ๓ องค์เท่านั้น แต่ผมก็ได้นำไปป่นใส่ลงในเนื้อพระขุนแผนรุ่นสากหัก ทิดเย็น คำมีได้แนะนำให้ใส่วัสดุอาถรรพ์ต่างๆเหมือนครั้งที่หลวงปู่ทิมสร้างพระขุนแผน ซึ่งผมก็ทำตามทุกอย่าง แทบจะกล่าวได้ว่าพระขุนแผนพรายกุมารรุ่นสากหักนี้ มีผงพรายกุมาร และผงวิเศษต่างๆ ของหลวงปู่ทิม บรรจุมากที่สุดเท่าที่เคยสร้างกัน


องค์นี้เป็นพิมพ์กดมือ แก่ผงพราย เพราะได้กดที่มูลนิธินะครับ จะต่างจากพิมพ์อื่นที่จะแก่ปูนมากกว่า เนื้อจึงย่นๆ ตามแบบฉบับการแก่มวลสาร

ข้อมูล
พระขุนแผนผงพรายกุมาร "รุ่นสากหัก" แต่คนมักจะนิยมเรียกว่า "พระขุนแผนสากหัก" จัดสร้างปี 2546 จัดสร้างในนามมูลนิธิหลวงปู่ทิม อิสริโก โดยคุณชินพร สุขสถิตย์ เช่นกัน เพื่อมอบให้แก่ผู้ที่ร่วมทำบุญทอดกฐินสามัคคี ณ.วัดพงเสลี่ยง บ้านห้วยโป ต.แม่สิน อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย ตามคำชักชวนของลุงแมง (หนึ่งในศิษย์ผู้รับใช้ใกล้ชิดลป.ทิม และเป็นผู้กดพิมพ์พระขุนแผนผงพรายกุมารฯ ในยุคนั้น) เมื่อวันเสาร์ที่ 25 ตุลาคม 2546 เพื่อนำเงินที่ได้สมทบทุนสร้างศาลาอเนกประสงค์ ชื่อ "ศาลาศิษย์หลวงปู่ทิม ร่วมใจ" แบ่งออกเป็นพิมพ์ใหญ่และพิมพ์เล็กคราวนี้เราจะมาลงรายละเอียดถึงประวัติการ สร้างกันครับ

สำหรับชื่อ รุ่นสากหัก นั้นมาจากการที่ขณะตำผงครกแรกเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2546 พอผงกำลังเข้าที่พร้อมจะนำมากดพิมพ์ได้สากหินที่กำลังใช้ตำผงนั้นเกิดหัก กลางอย่างมหัศจรรย์ทันทีมีผู้เห็นกันหลายคน ผงพรายกุมารที่ใช้ทำพระขุนแผนรุ่นนี้ได้มาจากบรรดาศิษย์อาวุโสของหลวงปู่ทิม ซึ่งต่างเก็บไว้คนละเล็กคนละน้อยเพราะทุกคนรู้ดีว่าผงพรายกุมาร ของ หลวงปู่ทิม อาจารย์ของพวกตนนั้นเป็นผงที่หาผู้ทำให้ขลังและศักสิทธิ์จริง ๆ นั้นหายากมาก แต่หลวงปู่ทิมท่านก็ทำสำเร็จจนพระขุนแผนผงพรายของท่านโด่งดังไม่แพ้พระขุน แผนเก่า ๆ ที่ขุดออกมาจากกรุทั้งในด้านราคาและความศักสิทธิ์ พระขุนแผนสากหัก ถอดแบบจากเค้าโครงเดิมของพระขุนแผนรุ่นแรกของหลวงปู่ทิม แต่มีการแต่งพิมพ์เพิ่มเติม เพื่อให้เกิดความแตกต่าง และมีเอกลักษณ์ในตัวเอง โดยมีทั้งพิมพ์ใหญ่และพิมพ์เล็ก แบ่งตามวรรณะของสีเนื้อออกเป็น 3 สี คือ สีขาว สีแดง และสีดำ

การอธิษฐานจิตนั้นได้รับการปลุกเสกเดี่ยวโดยพระครูธรรมรังษี (หลวงปู่ธรรมรังษี ) วัดพระบาทเขาพนมดิน จ.สุรินทร์ แล้วยังได้นำพระชุดนี้ทั้งหมดในส่วนที่เหลือจากการแจกผู้ร่วมงานทอดกฐินใน วันดังกล่าวแล้วเข้าพิธีพุทธาภิเษกในงานเททองหล่อพระกริ่งชินบัญชร มหาปราบ ที่วัดละหารไร่ จ.ระยอง เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2546 อีกวาระหนึ่ง เพื่อให้พระเกจิฯผู้ทรงคุณประจุพลังพุทธาคมให้เพิ่มขึ้นอีก โดยมีพระเกจิอาจารย์ผู้เรืองวิทยาคม นั่งปรกปลุกเสก คุมทิศทั้งสี่ มีดังนี้

1.หลวงปู่ธรรมรังษี วัดพระบาทเขาพนมดิน จ.สุรินทร์ พระผู้ทรงอภิญญาแห่งเมืองอีสานใต้
2.หลวงพ่อฟู วัดบางสมัคร จ.ฉะเชิงเทรา พระเกจิชื่อดังแห่งลุ่มน้ำบางปะกง
3.หลวงพ่อแจ่ม วัดเขาสำเภาทอง จ.ระยอง พระเกจิชื่อดังแห่งเมืองระยอง
4.หลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ จ.ระยอง พระเกจิชื่อดัง ศิษย์เอกรูปเดียวของหลวงปู่ทิม อิสริโก

และนำขึ้นไปทำพิธีพุทธาภิเษกในพระอุโบสถ วัดตาอี จังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมพุทธาภิเษกรูปหล่อพระเจ้าสุริยชัยวรมันซึ่งหลวงพ่อชื่น วัดตาอี สร้างขึ้น โดยมีพระที่แก่กล้าวิทยาคมอย่างเอกอุ ๓ องค์ร่วมปลุกเสก คือ หลวงปู่ผาด วัดบ้านกรวด จิตแก่กล้าถึงขนาดเรียกนก เรียกปลาได้, หลวงพ่อชื่น วัดตาอี ยอดเกจิสายเขมรต่ำผู้เชี่ยวชาญทางวิชาเชมรโบราณ และ หลวงพ่อธีร เทพเจ้า แห่งลำปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์ มีตบะเดชะกระแสจิตกล้า ภายในบริสุทธิ์เป็นแก้ว เกศาที่ปลงไว้ขดกันเป็นก้อนคล้ายก้นหอย ท่านมีสมญานาม อีกอย่างว่า หลวงพ่อย่ามบิน
และเมื่อพระจันทร์เต็มดวงโคจรมาอยู่ตรงประตูพระอุโบสถวัดตาอี ก็ได้อาราธนา หลวงปู่ธรรมรังษี วัดพระพุทธบาทเขาพนมดิน มาปลุกเสกเดี่ยวเป็นองค์สุดท้ายในเทวีฤกษ์ ฤกษ์เดียวกับการสร้างพระกริ่งชินบัญชรเมื่อ ๓๔ ปีมาแล้ว พร้อมทั้งอาราธนาอัญเชิญ หลวงปู่ทิม อิสริโก มาร่วมพิธีปลุกเสกเดี่ยวของธรรมรังษีด้วย

สำหรับประสบการณ์ แนะนำว่าลองเสิจกูเกิล แลยครับ เดียวจะหาว่าโม้

นานๆทีมีลงแบบกดมือ รับประกันความแท้ตลอดชีวิต """

พระเครื่องที่เกี่ยวข้องในร้านค้านี้...

อื่นๆ...

กำหลังโหลด Comments
Top