129 ปี ชาตกาล หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล วัดบ้านจาน จังหวัดศรีสะเกษ-บูชาครู - webpra
VIP
ธรรมะ และ วัตถุมงคล คือของขวัญที่มอบไว้แทนความห่วงใยจากครู...ครูสิทธิ์ ครูธงค์ องอาจไม่ประมาทครู

หมวด หลวงปู่หมุน วัดบ้านจาน - หลวงพ่อมุม วัดปราสาทเยอร์เหนือ

129 ปี ชาตกาล หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล วัดบ้านจาน จังหวัดศรีสะเกษ

129 ปี ชาตกาล หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล วัดบ้านจาน จังหวัดศรีสะเกษ - 1129 ปี ชาตกาล หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล วัดบ้านจาน จังหวัดศรีสะเกษ - 2
ชื่อร้านค้า บูชาครู - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า
ชื่อพระเครื่อง 129 ปี ชาตกาล หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล วัดบ้านจาน จังหวัดศรีสะเกษ
อายุพระเครื่อง -
หมวดพระ หลวงปู่หมุน วัดบ้านจาน - หลวงพ่อมุม วัดปราสาทเยอร์เหนือ
ราคาเช่า -
เบอร์โทรติดต่อ 0888822123
อีเมล์ติดต่อ buchakru@gmail.com
สถานะ พระโชว์
Facebook
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ ส. - 15 เม.ย. 2566 - 11:45.30
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ ศ. - 16 มิ.ย. 2566 - 07:11.38
รายละเอียด
🌹🌹🌺🌺🌻🌻
ร่วมส่งความสุขในเทศกาลมหาสงกรานต์ ๒๕๖๖ ขอให้ทุกท่านมีสุขภาพแข็งแรง การงานรายได้คล่องตัวทุกคนครับ

กระดาษภาพหลวงปู่หมุน ปี 2543 ทางผู้สร้างได้ขออนุญาตหลวงปู่จัดสร้างเพื่อแจกทาน เป็นภาพที่หลวงปู่ตั้งใจกำหนดท่าทางนับประคำทำกรรมฐานช่วยเหลือค้ำคูณผู้คนและสรรพชีวิตทั้งหลาย หลวงปู่อธิษฐานจิตแผ่เมตตาให้เป็นอย่างดี....มีโอกาสจะนำมามอบให้กับผู้มีอุปการะคุณต่อไปครับ
🌸🌸🌸

📖 บันทึกอริยสงฆ์
129 ปี ชาตกาล หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล วัดบ้านจาน จ.ศรีสะเกษ
พระอริยเถราจารย์ หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล วัดบ้านจาน จ.ศรีสะเกษ ชาตะเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2437 (เดือน 5 นักกษัตรปีชวด) ณ บ้านจาน ต.จาน อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ และละสังขารในวันอังคารที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2546 บนกุฏิวัดบ้านจาน รวมสิริอายุ 109 ปี พรรษา 86


บูชาครู

✒ "เกล็ดบารมีหลวงปู่หมุน ฐิตสีโล" เนื่องในโอกาสครบรอบการละสังขารครบ 20 ปี และชาตกาลครบ 129 ปี

... วัตถุมงคลบางอย่างแพงยิ่งกว่าทองคำ และขึ้นทำเนียบพระหลักล้านไปแล้ว
... ย้อนยุค ออกรุ่นไหน กระแสประสบการณ์ยังปรากฏ กระแสความนิยมไม่เคยเปลี่ยน หลวงปู่ยังคอยส่งเสริมเสมือนเมื่อครั้งยังดำรงขันธ์อยู่
... ธุรกิจการค้าทั้งร้านใหญ่เล็ก น้อมนำแม้เพียงรูปที่ไม่ผ่านพิธีสักการะบูชา
... ประสบการณ์ผลิกผันชะตาชีวิต ขอให้เป็นคนดี “ประกอบสัมมาอาชีพใดก็รุ่งเรือง” (อมตะวาจาสิทธิ์ หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล)

ในโอกาสครบรอบ 20 ปี การละสังขารของ หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล วันจันทร์ที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2566 และครบรอบ 129 ปี ชาตกาล วันเสาร์ที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2566 ผู้เขียนขอนำเกล็ดประวัติบารมีของหลวงปู่ผู้เป็นพระอริยเถระ 5 แผ่นดิน ตำนานพระสุปฏิปันโนเมืองไทย และเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในต่างประเทศสำหรับผู้ที่นิยมพระเครื่องหรือวัตถุมงคลมากคุณค่าที่มีต้นกำเนิดจากผืนแผ่นดินแดนสุวรรณภูมิ มาเล่าสู่กันฟัง ชนิดประสบการณ์ตรงผสมมุมมองอันน่าคิดภายใต้เมตตาบารมี

เป็นที่น่ายินดีกับบารมีหลวงปู่หมุนและวัดบ้านจานครับว่า ตั้งแต่หลวงปู่ละสังขารเมื่อวันอังคารที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2546 ญาติโยมและคณะศรัทธานับวันจะมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ มีทั้งที่เป็นพระ พุทธศาสนิกชนคนไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงน้อง ๆ เยาวชนคนรุ่นใหม่ ต่างมีความศรัทธาต่อหลวงปู่และพระเครื่องของท่านเป็นอันมาก ภายหลังจากที่หลวงปู่ได้ละสังขารด้วยพลังศรัทธาเหล่านี้ ต่างเป็นกำลังสำคัญที่ช่วยพัฒนาวัดที่เกี่ยวข้องกับบารมีหลวงปู่ให้มีความเจริญมั่นคงตลอดมา เช่น วัดบ้านจาน วัดป่าหนองหล่ม วัดซับลำไย วัดป่าบึงกุ่ม วัดคลองทราย วัดหงส์รัตนาราม หรือแม้กระทั่งศิษยานุศิษย์ทางวัดสุทัศนเทพวรารามและวัดไตรมิตรวิทยารามในกรุงเทพมหานคร ก็ให้ความความเคารพและเผยแพร่บารมีของหลวงปู่มาโดยตลอด เพราะทุกคนต่างมีศรัทธาอยากทำบุญถวายหลวงปู่ในพื้นที่ใกล้ไกลตามที่ตนมีโอกาส โดยเฉพาะการบูชาวัตถุมงคลในนาม หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล

ปัจจุบันวัดบ้านจาน ต.จาน อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ ที่ผู้เขียนและภรรยามีโอกาสไป ๆ มา ๆ ล่าสุดในปลายปี 2561 นี้ ยังคงมีความเรียบร้อยสวยงามเสมือนตอนที่หลวงปู่ยังอยู่ และมีศาสนวัตถุต่าง ๆ เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เริ่มตั้งแต่ป้ายบอกทางที่มีอยู่เป็นระยะ ๆ จำนวนมากของถนนเส้นเมนก่อนถึงบ้านจาน ถนนทางเข้ากว่า 13 กิโลเมตร ที่อาจไม่สมบูรณ์ 100 % นัก เพราะเป็นถนนเส้นเก่าและมีรถวิ่งเข้าออกเป็นจำนวนมาก แต่ก็มีความเรียบร้อยสะดวกในการเดินทางมากขึ้น เมื่อเข้ามาในวัดก็จะได้เห็นความเจริญในด้านสิ่งก่อสร้างต่างๆ เช่น ศาลาทรงไทยหรือเรือนเอนกประสงค์ วิหารหลวงปู่หมุนองค์ใหญ่ จุดพักผ่อนชมวิว การจัดร้านค้าให้สวยงามและสอดรับกับความเป็นปัจจุบันยิ่งขึ้น รวมไปถึงการบูรณะปรับปรุงเจดีย์ที่ประดิษฐานสังขารหลวงปู่ให้มีความเรียบร้อยสวยงามตลอดเวลา ซึ่งขณะนี้กำลังดำเนินการสร้างศาลาการเปรียญหลังใหม่อีกส่วนหนึ่งด้วย นี่คือความเจริญที่เห็นได้ชัดทั้งในและนอกวัดบ้านจาน หากท่านที่ประสงค์จะร่วมทำบุญ สามารถติดต่อได้โดยตรงที่เจ้าอาวาสวัดบ้านจานครับ

ในส่วนวัตถุมงคลของหลวงปู่ที่ได้อนุญาติให้จัดสร้างขึ้นอย่างถูกต้อง ล้วนมีความศักดิ์สิทธิ์ โดยเฉพาะทางด้านโชคลาภ และการผลิกผันชะตาชีวิต สนนราคาเช่าบูชาสูงขึ้นเรื่อย ๆ จนวัตถุมงคลบางอย่างแพงยิ่งกว่าทองคำ และขึ้นทำเนียบพระหลักล้านไปแล้ว ทั้งชื่อเสียงเกียรติคุณและพระเครื่องของหลวงปู่ได้โด่งดังไปถึงเมืองแมน (เมืองนอก) สมตามอมตะวาจาประกาศิตทุกอย่าง ต้องขอบอกครับว่านอกจากจะฉุดกระแสในวงการพระเครื่องที่สร้างมาไม่ถึง 20 ปี แล้ว ขณะนี้พระเครื่องของหลวงปู่กำลังทยอยออกนอกประเทศ ซึ่งที่เห็นได้ชัดนอกเหนือจากแรงศรัทธาของเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซีย ยังไปไกลถึงอเมริกากันทีเดียว ทั้งเนื้อทองคำที่เช่าหากันในประเทศมีค่าบูชาสูงถึง 7 - 8 ล้านบาท นี่ล่ะครับพลังศรัทธาส่วนหนึ่งที่ยืนยันถึงความเป็นจริงในบุญบารมีอันสูงยิ่งของ หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล วัดบ้านจาน จังหวัดศรีสะเกษ ได้เป็นอย่างดี

เชื่อว่าท่านที่ติดตามข่าวคราววงการพระเครื่องคงทราบดีว่าชาวต่างชาติหลาย ๆ ประเทศ ได้ให้ความนิยมกับพระเครื่องไทยกันเป็นอย่างมาก เช่น จีน ฮ่องกง สิงคโปร์ มาเลเซีย ญี่ปุ่น บรูไน ดูไบ สวิสเซอร์แลนด์ และอเมริกา โดยมีการเช่าบูชาทั้งที่เดินทางมาและผ่านผู้ค้าคนไทย ท่านเหล่านี้ส่วนหนึ่งเข้ามาหากันในโซนพระเครื่องตามห้างสรรพสินค้า ศูนย์พระเครื่องของวัด และสายตรงผ่านการเข้าชมในเว็บไซต์ หรือช่องทาง Social Network ต่าง ๆ ที่ลงพระเครื่องนั้นไว้ ซึ่งในส่วนของหลวงปู่หมุนผมเองได้เห็นกับตาตัวเองในโซนพระเครื่องต่าง ๆ และถูกทาบทามเหรียญมหาพรหมของหลวงปู่หมุน จากชาวมาเลย์เซียเมื่อหลาย ปีที่แล้วถึง 10,000 บาท !?!!!! ซึ่งถือเป็นค่าบูชาที่สูงมากในขณะนั้น ขนาดแค่บอกแบบทดลองใจนะครับ แต่ตัดใจเก็บไว้ในประเทศไทยก่อนดีกว่า

อีกความประทับใจหนึ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเองโดยตรงคือ เนื่องจากผู้เขียนเป็นคนกรุงเทพฯ จึงมีโอกาสได้พบกับหลวงปู่หมุนอย่างเป็นทางการครั้งหนึ่งที่กุฏิ คณะ 7 วัดสุทัศนเทพวราราม เมื่อครั้งเดินทางไปถึง ประตูกุฏิรับรองหลวงปู่หมุนไม่ได้ปิด มองเข้าไปพบว่า หลวงปู่กำลังนอนพักผ่อนอยู่ เพียงช่วงสายตาที่กำลังจ้องมองอยู่ห่าง ๆ ยังไม่ทันจะได้เข้าไปในกุฏิ หลวงปู่ดีดหลังลุกขึ้นในลักษณะนั่งอย่างคล่องแคล่ว มองออกมายังผู้เขียน ????? จนเกิดความรู้สึกอิ่มใจและประหลาดใจมากครับ สุขภาพหลวงปู่ยังแข็งแรงดีจริงๆ (ประมาณช่วงปี 2544-2545) ขณะนั้นหลวงปู่ท่านอายุถึง 107 ปี แล้ว ผู้เขียนได้เข้าไปกราบ ถวายผลไม้พร้อมปัจจัย และยังได้สนทนากับหลวงปู่อยู่ครู่หนึ่ง เป็นแบบท่านถามก่อนล้วน ๆ เพราะตนเองนั้นมีความตื่นเต้นมากแบบไม่คาดคิดว่าจะมีโอกาสได้สนทนากับหลวงปู่ ซึ่งก่อนหน้านั้นได้เจอกับหลวงปู่อย่างไม่เป็นทางการ แต่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้เห็นหลวงปู่หมุนในพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคล รุ่นเสาร์ 5 บูชาครู ณ วัดสุทัศนเทพวราราม ปี 2543 ซึ่งผู้เขียนได้มีโอกาสร่วมสวดพระคาถาชินบัญชรถวายในพิธีนี้ด้วย ครั้งนั้นเมื่อมองผ่านเข้าไปในพระอุโบสถ อันเป็นสุดยอดศาสนสถานที่จัดพิธีพุทธาภิเษกมาแต่ครั้ง สมเด็จพระสังฆราชแพ สมัยรัชกาลที่ 5 รู้สึกดีใจมากครับ ที่ได้เห็นหลวงปู่เจริญกรรมฐานปรกในพิธีให้อย่างเข้มขลัง ซักพักเมื่อเสร็จพิธี หลวงปู่หมุน ได้เดินออกมาผ่านทางประตูพระอุโบสถไปทางบันไดด้านทางไปกุฏิรับรอง และมีหลวงปู่ละมัย สำนักสงฆ์สวนป่าสมุนไพร (สำนักสงฆ์คีรีนามทา) เดินตามออกมาด้วย นับเป็นภาพที่น่าประทับใจเป็นอย่างมากที่ได้เห็นและได้เข้าใจถึงคำว่า “พระคณาจารย์” ที่เป็นพระสุปฏิปันโนหรือพระอริยสงฆ์อย่างแท้จริง

ทิ้งท้ายไว้ด้วยเรื่องราวของจริยาอันน่ารักของหลวงปู่ ที่ขอนำมาเล่าสู่กันฟังในโอกาสครบรอบ 16 ปี ของการละสังขาร พร้อมนำภาพประกอบแห่งความเมตตา ซึ่งมองทีไรก็เป็นภาพที่น่ารักประทับใจกับญาติโยมที่ได้พบเห็นเป็นอย่างมาก จะสังเกตเห็นว่า การบูชาหลวงปู่ภายหลังการละสังขาร นอกจากความประพฤติที่ดีงาม มีความเพียรประกอบสัมมาชีพโดยสุจริตตามที่หลวงปู่เคยกล่าวไว้ (ปฏิบัติบูชา) ยังนิยมบูชาด้วยเครื่องสักการะอื่น ๆ เช่น ปลาดุกย่าง ข้าวเหนียว น้ำเป๊ปซี่ กันอีกด้วย (อามิสบูชา) ขนาดที่ว่าญาติโยมที่ศรัทธาหลวงปู่ท่านหนึ่ง ได้มีโอกาสไปกราบสังขารหลวงปู่หมุนที่วัดบ้านจานเป็นครั้งแรก เมื่อได้เดินไปซื้อ “เป๊บซี่” พร้อมน้ำดื่มเพื่อไปถวาย ร้านค้าบอกว่าถ้าจะถวายหลวงปู่ให้ซื้อ “โค๊ก” ?? แต่ท่านผู้นั้นก็ขอยืนยันว่า ต้องเป็นเป๊บซี่อย่างแน่นอน สุดท้าย จึงได้เป๊ปซี่ไปถวายหลวงปู่สมความตั้งใจ นี่ล่ะมั้งครับที่เค้าว่า "เป๊ปซี่ดีที่สุด"😁

เป๊ปซี่คือสิ่งที่หลวงปู่ชอบก็ยังคงเป็นเคล็ดการบูชาและกราบขอพรต่อหลวงปู่เสมอ ๆ ในปัจจุบัน โดยเฉพาะผู้คนที่มีความสำเร็จ โชคดี สมความปรารถนา มากบ้างน้อยบ้างตามบุญวาสนาที่ทำกันมา แต่สิ่งสำคัญที่หลวงปู่แสดงให้เห็นถึงที่มาของความสำเร็จด้วยตนเองนั้นก็คือ การรักษาสัจจะเท่าชีวิต ดังคำกล่าวของหลวงปู่ที่ว่า “สจฺจํ อมตํ หเว” สัจจะวาจาที่ตั้งมั่นเป็นสิ่งอมตะ

พระเครื่องที่เกี่ยวข้องในร้านค้านี้...

อื่นๆ...

กำหลังโหลด Comments
Top