เหรียญหลวงปู่มา ญาณวโร ( พระเศรษฐีนวโกฎ ) อายุ 88 ปี วัดสันติวิเวก จ.ร้อยเอ็ด-dd-team2005 - webpra
VIP
ซื่อตรง...จริงใจ...ไม่หลอกลวง ครับ..เงินท่านแท้...ท่านต้องได้ " พระแท้ " ครับ..

หมวด พระเกจิภาคอีสานเหนือ

เหรียญหลวงปู่มา ญาณวโร ( พระเศรษฐีนวโกฎ ) อายุ 88 ปี วัดสันติวิเวก จ.ร้อยเอ็ด

เหรียญหลวงปู่มา ญาณวโร ( พระเศรษฐีนวโกฎ ) อายุ 88 ปี วัดสันติวิเวก จ.ร้อยเอ็ด - 1เหรียญหลวงปู่มา ญาณวโร ( พระเศรษฐีนวโกฎ ) อายุ 88 ปี วัดสันติวิเวก จ.ร้อยเอ็ด - 2เหรียญหลวงปู่มา ญาณวโร ( พระเศรษฐีนวโกฎ ) อายุ 88 ปี วัดสันติวิเวก จ.ร้อยเอ็ด - 3
ชื่อร้านค้า dd-team2005 - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า
ชื่อพระเครื่อง เหรียญหลวงปู่มา ญาณวโร ( พระเศรษฐีนวโกฎ ) อายุ 88 ปี วัดสันติวิเวก จ.ร้อยเอ็ด
อายุพระเครื่อง 16 ปี
หมวดพระ พระเกจิภาคอีสานเหนือ
ราคาเช่า -
เบอร์โทรติดต่อ (ไม่แสดงเบอร์ เนื่องจากรายการนี้ไม่ได้ปล่อยเช่า)
อีเมล์ติดต่อ dd-team2005@hotmail.co.th
LINE
(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
สถานะ เช่าแล้ว
Facebook
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ อา. - 19 มิ.ย. 2554 - 12:35.20
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ จ. - 10 มี.ค. 2557 - 10:58.45
รายละเอียด

*** ประวัติและปฏิปทา หลวงปู่มา ญาณวโร ***

วัดสันติวิเวก
ต.เมืองไพร อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด


๏ อัตโนประวัติ......

“พระมงคลญาณเถร” หรือ “หลวงปู่มา ญาณวโร” อดีตประธานสงฆ์แห่งวัดสันติวิเวก บ้านโนนคำ ต.เมืองไพร อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด พระสายวิปัสสนากรรมฐานชื่อดังแห่งภาคอีสาน สายธรรมหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ที่สาธุชนทั่วไปต่างรู้จักดีถึงกับมีการขนานนามท่านว่า “เทพเจ้าแห่งลุ่มน้ำชี”

หลวงปู่มา ญาณวโร มีนามเดิมว่า มา วรรณภักดี เกิดเมื่อวันที่ ๑๔ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๔๕๖ ตรงกับวันอังคาร ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ ปีขาล ณ บ้านโนนคำ ต.เมืองไพร อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด โยมบิดาชื่อ นายคูณ วรรณภักดี โยมมารดาชื่อ นางตั้ว วรรณภักดี ครอบครัวประกอบอาชีพทำนาทำไร่ มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกันทั้งหมด ๕ คน ท่านเป็นบุตรคนที่ ๔ มีชื่อตามลำดับดังนี้

๑. นางโฮม วรรณภักดี
๒. นายสม วรรณภักดี
๓. นายทา วรรณภักดี
๔. หลวงปู่มา ญาณวโร
๕. นางสุดตา อุ่นทรวง


๏ การบรรพชา........

สาเหตุที่ทำให้ต้องบวช หลวงปู่ท่านเล่าให้ฟังว่า เมื่อวัยเยาว์ พอท่านอายุย่างเข้า ๘ ขวบ โยมมารดาของท่านก็มาเสียชีวิต ตามประเพณีแล้วเมื่อบิดามารดา ญาติพี่น้อง หรือผู้มีพระคุณเสียชีวิต จะต้องมีการบวชหน้าศพ โดยลูกหรือหลานๆ ของผู้ที่เสียชีวิต แล้วนำศพไปเผา

เช่นเดียวกันในงานศพของโยมมารดาของท่านนั้น พวกญาติๆ จึงเลือกให้หลวงปู่บวชหน้าศพ หลวงปู่บอกว่า ท่านยังจำคำพูดของโยมมารดาท่านได้ เมื่อโยมมารดากำลังป่วยอยู่ได้พูดกับท่านว่า “เมื่อแม่ตายแล้ว ให้บักน้อยบวชให้แม่เด้อ” ยังจำได้จนบัดนี้ ครั้นต่อมาเมื่อนางตั้ว วรรณภักดี โยมมารดาเสียชีวิตแล้ว ท่านก็ได้บรรพชาเป็นสามเณร ณ วัดดอนประดิษฐาราม บ้านดอนน้อย ต.เมืองไพร อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด เมื่อวันที่ ๑๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๖๔ โดยมีพระอธิการสอน อุตฺตโม เป็นพระอุปัชฌาย์

พอตอนบ่ายพวกญาติๆ และชาวบ้าน ก็ได้นำศพโยมมารดาไปสู่ป่าช้าดอนหมากเหลื่อม ซึ่งอยู่ทางทิศเหนือหมู่บ้าน ห่างประมาณกิโลเศษ หลวงปู่ก็ได้เดินนำหน้าศพโยมมารดา ตั้งแต่บ้านถึงป่าช้า เมื่อทำพิธีเผาเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็กลับบ้าน ตอนเย็นโยมบิดา พี่ชาย และพี่สาว ก็ออกมาหาที่วัด ถามว่า “จะสึกไหม” ท่านก็บอกว่า “ยังไม่สึก เพราะก่อนตายแม่สั่งไว้ว่าให้น้อยบวชให้แม่ น้อยจะอยู่ไปก่อน” ท่านว่าพอคิดจะสึก ก็ให้นึกถึงคำพูดของโยมมารดา ก็เลยไม่สึกอยู่มาจนทุกวันนี้

๏ การศึกษาพระเวทย์.....

พูดถึงการศึกษาเวทย์มนต์คาถาของครูบาอาจารย์ในสมัยก่อนนั้นเป็นที่นิยมกัน มาก หลวงปู่ก็เช่นกัน ท่านก็อยู่ในวัยหนุ่มที่อยากรู้ อยากเห็น อยากลอง อยากมีไว้กับเขาบ้าง ถ้าได้ข่าวว่าพระอาจารย์องค์ไหนโด่งดังทางเวทย์มนต์คาถา ท่านก็จะพยายามไปหาเพื่อศึกษาข้อวัตรของพระอาจารย์องค์นั้น ดูเห็นว่าดีก็จะฝากเนื้อฝากตัวเป็นลูกศิษย์

ท่านบอกว่า เรียนรู้เอาไว้ อันไหนดีก็เก็บไว้ อันไหนไม่ดีก็ทิ้งไปไม่ต้องเสียดาย ขึ้นชื่อว่าลูกผู้ชายมีไว้กับเขาบ้างก็ดี การที่จะได้เรียนวิชาเวทย์มนต์คาถากับครูบาอาจารย์ในสมัยก่อนนั้น จะต้องเรียนอักษรขอม (เขมร) ภาษาธรรม ภาษาไทยน้อย เรียนกัมมัฏฐาน ฝึกการนั่งสมาธิ เดินจงกรมภาวนา ทำจิตให้แน่วแน่เป็นหนึ่ง มีความเมตตาเป็นที่ตั้ง ออกเดินธุดงค์ติดตามครูบาอาจารย์ไปในที่ต่างๆ มีความอดทน มีข้อวัตรปฏิบัติดี ไม่เป็นที่หนักอกหนักใจของครูบาอาจารย์และเป็นที่ไว้วางใจของครูบาอาจารย์ จึงจะเรียนได้

ไม่ว่าจะยากลำบากสักเพียงใด หลวงปู่ท่านก็ไม่เคยหวั่น ถ้าได้ตั้งใจแล้วจะต้องเอาให้ได้ ครูบาอาจารย์ที่หลวงปู่ท่านได้ไปศึกษาด้วยเท่าที่ทราบจากท่านก็มี ดังนี้

๑. หลวงปู่สอน อุตฺตโม วัดดอนประดิษฐาราม บ้านดอนน้อย ต.เมืองไพร อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด

๒. พระครูอุตตรานุรักษ์ (อินทร์ อินฺทสาโร) หรือหลวงปู่เสือ วัดกลาง (วัดมิ่งเมือง) ต.กลาง อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด

๓. พระราชสิทธาจารย์ (บุญเรือง ปภสฺสโร) วัดกลาง (วัดมิ่งเมือง) ต.กลาง อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด

๔. หลวงปู่มหาดไทย วัดบ้านบัว ต.เหล่า อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด

๕. หลวงปู่พรหม ไม่ปรากฏว่าท่านอยู่วัดไหน ท่านเป็นพระที่ธุดงค์มา เป็นผู้มีปฏิปทาข้อวัตรอันดีเป็นที่น่าเลื่อมใส หลวงปู่ท่านจึงเข้าไปศึกษาข้อวัตรด้วย

ทั้งนี้ หลวงปู่ท่านก็ได้ใช้วิชาการความรู้ที่ได้ร่ำเรียนมาสร้างสาธารณประโยชน์อย่างมากมาย

๏ เทพเจ้าแห่งลุ่มน้ำชี.......

ชีวิตของพระเดชพระคุณหลวงปู่ท่านเจ้าคุณพระมงคลญาณเถร หรือหลวงปู่มา ญาณวโร นั้น เป็นชีวิตที่เต็มไปด้วยการอุทิศตนเพื่อประโยชน์สุข ประโยชน์เกื้อกูลแก่มวลมนุษย์ชาติ มีความโดดเด่นของเกียรติคุณชื่อเสียงและความพิเศษสุดในการบำเพ็ญทานบารมี รวมทั้งยังเป็นทั้งผู้รู้ รัตตัญญูเถระ ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของคณะสงฆ์ไทยว่าเป็นผู้ที่มีลักษณะงดงาม เป็นเผ่าพันธุ์ชาวอีสาน มีความเหมาะสมที่จะเป็นผู้ได้รับการเชิดชูเกียรติศักดิ์ในภูมิปัญญาพื้นบ้าน ของชาวอีสานโดยแท้จริง เป็นผู้ที่สามารถสร้างความเคารพและศรัทธาให้เกิดขึ้นในถิ่นแดนอีสาน อีกทั้ง ยังนำความเจริญที่กลมกลืนกับหลักพุทธธรรมหยิบยื่นให้กับชาวอีสาน จนทำให้ประชาชนดำรงชีพยืนหยัดอยู่ได้ด้วยลำแข้ง ประกอบสัมมาอาชีพบนความถูกต้องและชอบธรรม

ตลอดจน ท่านยังเป็นพระนักทำงาน และทำจริงๆ อะไรที่จะเป็นประโยชน์ก่อให้เกิดความเจริญก้าวหน้า ทั้งต่อมวลประชาและฝ่ายคณะสงฆ์ ท่านจะรีบเร่งทำอย่างรวดเร็วโดยมิรั้งรอ ทุกขณะทุกลมหายใจของท่านเปี่ยมล้นไปด้วยความดีที่จีรัง และไม่มีอะไรมาจำกัดขอบเขตคุณความดีที่แผ่กระจายออกไป ประจักษ์แจ้งในหมู่คณะสงฆ์ คงอยู่ในใจชาวลุ่มน้ำชีมาเกือบศตวรรษ

“หลวงปู่มา ญาณวโร” หรือหลวงปู่ท่านเจ้าคุณ “พระมงคลญาณเถร” สมณศักดิ์ใหม่ของหลวงปู่ท่าน จึงเป็นมงคล เป็นสายน้ำแห่งพระธรรมที่หล่อเลี้ยงชาวอีสานในเขตลุ่มน้ำชีทุกอณู เป็นสายธรรม สายทอง ของชาวไทยอีสานโดยแท้ ดั่งที่เราท่านทั้งหลายได้เห็นประจักษ์อยู่ในปัจจุบันนี้ ทั้งนี้ เป็นเพราะหลวงปู่ท่านเป็นพระมหาเถระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ผู้มีความเคร่งครัดในพระธรรมวินัย มีวัตรปฏิปทาสม่ำเสมอ จึงเป็นที่เคารพศรัทธาของพุทธศาสนิกชนทั่วไปถึงกับมีการขนานนามท่านว่า “เทพเจ้าแห่งลุ่มน้ำชี”


๏ การมรณภาพ........

หลวงปู่มา ญาณวโร ประธานสงฆ์แห่งวัดสันติวิเวก จ.ร้อยเอ็ด พระสายวิปัสสนากรรมฐานชื่อดังแห่งภาคอีสาน สายธรรมหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ซึ่งอาพาธมาหลายเดือน ได้มรณภาพแล้วด้วยอาการสงบ เมื่อเวลา ๑๐.๕๙ น. ของวันจันทร์ที่ ๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๒ ณ วัดสันติวิเวก สิริรวมอายุได้ ๙๗ ปี พรรษา ๗๗

สำหรับที่มาของฉายา “เทพเจ้าแห่งลุ่มน้ำชี” นั้น พระครูอุดมธรรมานุกูล (สุนทร อุตฺตโม) เจ้าอาวาสวัดภูพานอุดมธรรม ต.นาแก อ.นาแก จ.นครพนม หนึ่งในพระลูกศิษย์ที่ใกล้ชิด บอกว่า หลวงปู่มา เป็นพระเถระผู้เปี่ยมล้นด้วยเมตตาธรรม เป็นที่เคารพนับถือของพุทธศาสนิกชนทั่วไป และทั่วทั้งภาคอีสาน เกียรติคุณของท่านเป็นที่ทราบโดยทั่วไป หน่วยงานราชการและประชาชนต่างหลั่งไหลเข้ามาขอให้ท่านช่วยเหลือเป็นจำนวนมาก ซึ่งท่านก็ได้บริจาคและให้ความช่วยเหลือด้วยดีมาโดยตลอด

*******************************

พระเศรษฐีนวโกฎ...

พระที่มีความศักดิ์สิทธิ์ มีฤทธานุภาพดลบันดาลประทานพร และความอุดมสมบูรณ์ ความร่ำรวย เงิน ทอง โภคสมบัติ มั่งมี ศรีสุข เป็นพระที่ดลบันดาลแห่งโชคลาภต่อผู้ให้ความเคารพศรัทธา และเป็นสัญลักษณ์แห่งตัวแทนของท่านมหาเศรษฐีทั้งเก้า ในสมัยพุทธกาล

ในสมัยพุทธกาล มหาเศรษฐีทั้งเก้าท่าน ได้เป็นพุทธอุปัฎฐากขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และยังเป็นผู้ที่ได้รับการยกย่องจากองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า "เป็นผู้เลิศในการทำบุญและเป็นยอดแห่งมหาเศรษฐีทั้งปวง"

ท่านมหาเศรษฐีทั้งเก้าท่าน มีรายนามดังนี้
1. ธนัญชัยมหาเศรษฐี
2. ยัสสะมหาเศรษฐี
3. สุมนะมหาเศรษฐี
4. ชฏิสัสสะมหาเศรษฐี
5. อนาถบิณฑิกะมหาเศรษฐี
6. เมณฑกะมหาเศรษฐี
7. โชติกะมหาเศรษฐี
8. สุมังคละมหาเศรษฐี
9. มหาอุบาสิกาวิสาขา (พระนางวิสาขา)

ท่านมหาเศรษฐีทั้งเก้าท่าน ล้วนแต่เป็นพระอริยโสดาบันทั้งสิ้น กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งคุณธรรม ความดีงาม

พระมหาเศรษฐีนวโกฏิ มีตำนานเล่าขานในราชอาณาจักรล้านช้างโบราณ ว่า ในยุคหนึ่งได้เกิดทุพภิกขภัยข้าวยากหมากแพง ฝนไม่ตกเจ็ดปี เกิดทุกข์เข็ญ ความเดือดร้อน ตลอดทั้งเกิดโรคอหิวาตกโรค ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนเป็นอันมาก

ในเวลาต่อมาได้มีพระอรัญญวาสี (พระผู้อยู่ในป่า) ผู้ทรงคุณในทางวิปัสสนากัมมัฏฐาน ได้มาบอกให้เจ้าพญาผู้ครองราชอาณาจักรว่า "ให้พากันสร้างพระมหาเศรษฐีนวโกฏิ หรือ พระเก้าเศรษฐีขึ้นมาทำการสักการบูชาเสียแล้วเหตุเภทภัยทั้งหลาย จะระงับดับไป"

พระอรัญญวาสี ยังได้บอกเคล็ดและวิธีการต่างๆ ตลอดถึงฤกษ์ยามอันเป็นมงคล สำหรับใช้ในการจัดสร้างพระมหาเศรษฐีนวโกฏิ

เจ้าพญาผู้ครองราชอาณาจักร ได้ทำตามวิธีการนั้น ไม่นานปรากฏผล เรื่องเลวร้ายต่างๆ ได้เกิดระงับดับไปตามที่พระอรัญญวาสีองค์นั้นได้บอกไว้ทุกประการ ตลอดทั้งเกิดความอุดมสมบูรณ์ ด้วยข้าวปลาอาหาร ร่มเย็นเป็นสุข.....


เหรียญนี้สร้างตอนหลวงปู่ท่านมีอายุ 88 ปี ประมาณปีพ.ศ.2544 ครับ

สภาพจัดว่าพอสวยครับ


A389


คุณอณุภา....กทม.

9/3/57

EK669859342TH

พระเครื่องที่เกี่ยวข้องในร้านค้านี้...

อื่นๆ...

กำหลังโหลด Comments
Top