หมวด พระกรุ เนื้อดิน - เนื้อผง

พระกรุบึงพระยาสุเรนทร์

ชื่อร้านค้า	โช ฉัตรแก้ว - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า	โชฉัตรแก้ว (65)
ชื่อพระเครื่อง	พระกรุบึงพระยาสุเรนทร์
อายุพระเครื่อง	-
หมวดพระ	พระกรุ เนื้อดิน - เนื้อผง
ราคาเช่า	-
เบอร์โทรติดต่อ	(ไม่แสดงเบอร์ เนื่องจากรายการนี้ไม่ได้ปล่อยเช่า)
อีเมล์ติดต่อ	cho.chatkaew@gmail.com
สถานะ
Facebook	Share
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่	อา. - 26 ก.ย. 2553 - 10:03.17
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ	จ. - 30 เม.ย. 2555 - 09:56.16

รายละเอียด
พระกรุบึงพระยาสุเรนทร์ พระกรุบึงพระยาสุเรนท์องค์นี้เห็นคราบกรุชัดเจน ผิววรรณะองค์พระออกสีน้ำตาลเข้ม เนื้อแห้งผิวยุบตัวจนเกิดชั้น คราบที่เกิดปกคลุมทั่ว มองเห็นพิมพ์ได้ยาก แต่ก็เนื้อหาองค์พระก็ชี้ชัดได้ว่าเป็นพระที่มาจากกรุบึงพระสุเรนทร์ ประวัิติ พระสมเด็จกรุวัดบึงพระยาสุเรนทร์ เป็นพระอีกกรุหนึ่งที่เหล่านักสะสมต่างคุ้นเคยกันดี เพราะมีชื่อเสียงมากมาแต่อดีตในเรื่องคงกระพันชาตรี และเป็นพระที่มีประวัติการสร้างชัดเจน มีหลักฐาน และพร้อมด้วยเจตนาที่ชัดเจน นั่นคือผู้สร้างเจตนานำไปแจกแก่ทหารหาญ และประชาชน หากว่าครั้งใดที่สยามประเทศตกอยู่ในศึกสงคราม มีศรัตรูเข้ารุกรานดินแดน ผู้สร้างสั่งเสียแก่ลูกหลานให้เปิดกรุพระกรุนี้โดยพลัน แลแจกจ่ายพระสมเด็จกรุนี้แด่ทหารหาญแลประชาชน เมื่อเข้าสู่รณรงค์สงครามด้วยอิทธิแห่งวิชาทั้งปวงที่ประสิทธิ์บรรจุอยู่ใน พระเครื่อง จะปรากฏเป็นกำแพงแก้วป้องกันจากภยันตรายนั้นได้ สยามประเทศจักมิต้องตกเป็นข้าแก่อาณาจักรใดๆเหล่านั้น สมเด็จกรุนี้จัดสร้างโดย พระยาสุเรนทร์ราชเสนา มีหลักฐานจากจดหมายเหตุ ของหอสมุดแห่งชาติ มีหลักฐานชัดเจนว่า ภายหลังการสร้างได้นำทูลเกล้าฯแด่ พระพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ จำนวนประมาณ ๑๕๐๐ องค์ แต่พระจำนวนมากที่จัดสร้างได้ถูกบรรจุไว้ในพระเจดีย์ในวัดบึงพระยาสุเรนทร์ นั้น สำหรับพิธีการสร้างนั้น กล่าวคือผู้สร้างได้สร้างพระตามพิธีโบราณ มวลสารศักดิ์สิทธิ์ผสมลงไปมากมาย โดยเฉพาะผสม น้ำมันแต่งคนออกรบ ที่มีอาณุภาพด้านคงกระพันที่ได้รับสืบทอดมาจากบรรพบุรุษ โดยเนื้อหาของพระนั้นเป็นพระผงผสมชีเมนต์และน้ำมัน พระมีวรรณะออกเขียว เขียวอมเทา เขียวอมเหลือง เป็นต้น หลังจากสร้างเสร็จพอได้ฤกษ์ยามอันดีก็ได้นิมนต์พระคณาจารย์ผู้ทรงคุณในสมัย นั้น ซึ่งก็ล้วนเป์นปรมาจารย์แห่งยุคเข้าร่วมมหาพุทธาภิเษก ประจุพระพุทธมนต์และสรรพศาสตร์อันวิเศษทั้งปวงก็ได้ประจุอยู่ในองค์พระชุด นี้แล้วทั้งสิ้น เมื่อกาลเวลาผ่านไปเกิดไฟกลียุคสงคราม มหาเอเซียบูรพา ท่านเจ้าอาวาสซึ่งสืบเชื้อสายมาแต่พระยาสุเรนทร์ราชเสนา ก็ได้ตระหนักถึงคำสั่งเสียของบรรพบุรุษและเห็นว่าเป็นเวลาอันควรที่จะได้ เปิดกรุพระที่ถูกบรรจุเมื่อครานั้นนำมาแจกจ่ายแก่ประชาชนแลพลหาญทั้งหลายนำ ไปเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวแห่งใจและกายในคราวเกิดสงครามรณรงค์เพื่อชัยชนะเพื่อ เป็นเกียรติแก่ตน และทดแทนคุณแห่งแผ่นดินประเทศสยามครามีภัย ต่อมาเข้าสู่ปี พ.ศ.๒๕๐๐ ทางวัดก้ได้เปิดกรุพระที่เหลือออกมาแจกจ่ายแก่ประชาชนทั้งปวงได้เก็บรักษา ไว้กับตัวตนและลุกหลานจนถึงว่าประมาณ ปี พ.ศ.๒๕๑๘ พระชุดนี้ก็หมดไปจากวัดไปจนสิ้น *ลงโชว์/แบ่งปันเืพื่อศึกษา*

รายละเอียด

พระกรุบึงพระยาสุเรนทร์

พระกรุบึงพระยาสุเรนท์องค์นี้เห็นคราบกรุชัดเจน ผิววรรณะองค์พระออกสีน้ำตาลเข้ม เนื้อแห้งผิวยุบตัวจนเกิดชั้น คราบที่เกิดปกคลุมทั่ว มองเห็นพิมพ์ได้ยาก แต่ก็เนื้อหาองค์พระก็ชี้ชัดได้ว่าเป็นพระที่มาจากกรุบึงพระสุเรนทร์

ประวัิติ
พระสมเด็จกรุวัดบึงพระยาสุเรนทร์ เป็นพระอีกกรุหนึ่งที่เหล่านักสะสมต่างคุ้นเคยกันดี เพราะมีชื่อเสียงมากมาแต่อดีตในเรื่องคงกระพันชาตรี และเป็นพระที่มีประวัติการสร้างชัดเจน มีหลักฐาน และพร้อมด้วยเจตนาที่ชัดเจน นั่นคือผู้สร้างเจตนานำไปแจกแก่ทหารหาญ และประชาชน หากว่าครั้งใดที่สยามประเทศตกอยู่ในศึกสงคราม มีศรัตรูเข้ารุกรานดินแดน ผู้สร้างสั่งเสียแก่ลูกหลานให้เปิดกรุพระกรุนี้โดยพลัน แลแจกจ่ายพระสมเด็จกรุนี้แด่ทหารหาญแลประชาชน เมื่อเข้าสู่รณรงค์สงครามด้วยอิทธิแห่งวิชาทั้งปวงที่ประสิทธิ์บรรจุอยู่ใน พระเครื่อง จะปรากฏเป็นกำแพงแก้วป้องกันจากภยันตรายนั้นได้ สยามประเทศจักมิต้องตกเป็นข้าแก่อาณาจักรใดๆเหล่านั้น

สมเด็จกรุนี้จัดสร้างโดย พระยาสุเรนทร์ราชเสนา มีหลักฐานจากจดหมายเหตุ ของหอสมุดแห่งชาติ มีหลักฐานชัดเจนว่า ภายหลังการสร้างได้นำทูลเกล้าฯแด่ พระพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ จำนวนประมาณ ๑๕๐๐ องค์ แต่พระจำนวนมากที่จัดสร้างได้ถูกบรรจุไว้ในพระเจดีย์ในวัดบึงพระยาสุเรนทร์ นั้น

สำหรับพิธีการสร้างนั้น กล่าวคือผู้สร้างได้สร้างพระตามพิธีโบราณ มวลสารศักดิ์สิทธิ์ผสมลงไปมากมาย โดยเฉพาะผสม น้ำมันแต่งคนออกรบ ที่มีอาณุภาพด้านคงกระพันที่ได้รับสืบทอดมาจากบรรพบุรุษ โดยเนื้อหาของพระนั้นเป็นพระผงผสมชีเมนต์และน้ำมัน พระมีวรรณะออกเขียว เขียวอมเทา เขียวอมเหลือง เป็นต้น หลังจากสร้างเสร็จพอได้ฤกษ์ยามอันดีก็ได้นิมนต์พระคณาจารย์ผู้ทรงคุณในสมัย นั้น ซึ่งก็ล้วนเป์นปรมาจารย์แห่งยุคเข้าร่วมมหาพุทธาภิเษก ประจุพระพุทธมนต์และสรรพศาสตร์อันวิเศษทั้งปวงก็ได้ประจุอยู่ในองค์พระชุด นี้แล้วทั้งสิ้น

เมื่อกาลเวลาผ่านไปเกิดไฟกลียุคสงคราม มหาเอเซียบูรพา ท่านเจ้าอาวาสซึ่งสืบเชื้อสายมาแต่พระยาสุเรนทร์ราชเสนา ก็ได้ตระหนักถึงคำสั่งเสียของบรรพบุรุษและเห็นว่าเป็นเวลาอันควรที่จะได้ เปิดกรุพระที่ถูกบรรจุเมื่อครานั้นนำมาแจกจ่ายแก่ประชาชนแลพลหาญทั้งหลายนำ ไปเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวแห่งใจและกายในคราวเกิดสงครามรณรงค์เพื่อชัยชนะเพื่อ เป็นเกียรติแก่ตน และทดแทนคุณแห่งแผ่นดินประเทศสยามครามีภัย

ต่อมาเข้าสู่ปี พ.ศ.๒๕๐๐ ทางวัดก้ได้เปิดกรุพระที่เหลือออกมาแจกจ่ายแก่ประชาชนทั้งปวงได้เก็บรักษา ไว้กับตัวตนและลุกหลานจนถึงว่าประมาณ ปี พ.ศ.๒๕๑๘ พระชุดนี้ก็หมดไปจากวัดไปจนสิ้น

***ลงโชว์/แบ่งปันเืพื่อศึกษา***