ผ้ายันต์จินดามณี หลวงปู่เงิน จันโท วัดศรีวิลัย บ้านว่าน อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย-พระลาวยอดนิยม - webpra
ພຣະເຄື່ອງພຣະບູຊາລາວຍອດນິຍົມ ( Lao Amulet Buddhist art of Laos )

หมวด พระเกจิภาคอีสานเหนือ

ผ้ายันต์จินดามณี หลวงปู่เงิน จันโท วัดศรีวิลัย บ้านว่าน อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย

ผ้ายันต์จินดามณี  หลวงปู่เงิน จันโท วัดศรีวิลัย บ้านว่าน อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย - 1
ชื่อร้านค้า พระลาวยอดนิยม - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า
tar (53)
ชื่อพระเครื่อง ผ้ายันต์จินดามณี หลวงปู่เงิน จันโท วัดศรีวิลัย บ้านว่าน อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย
อายุพระเครื่อง -
หมวดพระ พระเกจิภาคอีสานเหนือ
ราคาเช่า -
เบอร์โทรติดต่อ +66-8678-90968, 086-789-0968
อีเมล์ติดต่อ kamanit@gmail.com
LINE
(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
สถานะ เช่าแล้ว
Facebook
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ อา. - 30 พ.ย. 2557 - 01:35.52
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ อา. - 16 ต.ค. 2559 - 15:20.58
รายละเอียด
(โชว์ผืนที่2) ผ้ายันต์ หลวงปู่เงิน จันโท วัดศรีวิลัย ต.บ้านว่าน อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย (ผู้เป็นสหธรรมมิกกับยาคูคำดี วัดทาดหลวง แห่งสปป.ลาว)

####### ผ้ายันต์ของท่านเรียกว่าผ้ายันต์จินดามณีหรือมนต์เรียกทรัพย์เรียกเนื้อเรียกปลานั่นเอง เป็นวัตถุมงคลทางด้านโชคลาภ ##########


เกิดเมื่อ ปี พ.ศ. 2448 บวชเป็นสามเณรที่ วัดสร้อยพร้าว บ้านว่าน (เดิม ต.บ้านเดื่อ) ต.บ้านว่าน อ ท่าบ่อ จ.หนองคาย เป็นวัดเก่าแก อายุ ประมาณ 300 ปี

ปี พ.ศ.2464 อายุ 17 ปี และ ปี พ.ศ. 2468 อายุ 20 ปี บริบูรณ์ ได้เข้าอุปสมบท ที่วัดสร้อยพร้าว พระครูวุฒิพรหมจรรย์ (คำ) เป็นอุปัชฌาย์

ปี พ.ศ. 2469 -70 สอบได้นักธรรมตรี แล้วได้ศึกษาด้านไสยเวทย์ เวทย์มนต์ จากพระอาจย์ต่าง ๆ ศึกษาภาษาขอม ตัวธรรม ภาษาอื่น ๆ
เขียน อ่าน ได้อย่างถูกต้องชำนาญยิ่ง 5 ธันวาคม พ.ศ. 2511 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร ชั้นตรี พระครูจันทสมานคุณ (หลวงปู่เงิน จันโท )

ถอดจากหนังสือประวัติวัดศรีวิไล แต่งเป็นคำกลอนสำนวนอิสาณ โดยเจ้าอธิการเงิน จันโท ปี พ.ศ. 2507 แจกในงานฉลองอุโบสถ
(สร้าง ปี พ.ศ. 2491 เสร็จ ปี พ.ศ. 2507)

ปี พ.ศ. 2473 พระอาจารย์เงิน ได้เริ่มสร้างวัด โดยพ่อใหญ่ใบ เป็นหัวเรี่นวหัวแรง-ขุดร้างถางป่า วางแปลน ขุดสระน้ำ สร้างกุฏิ 2 หลัง
พื้นฟากไม้ไผ่ ฝาฟากไม้ไผ่ (ไม้ไผ่ป่าผ่าครึ่งแล้วทุบให้เป็นแผ่น ดูเหมือนเปลือกไม้ แต่ทนทนกว่า) หลังคามุงหญ้าแฝก

ปี พ.ศ. 2474 มีพระเณร 8 รูป สร้างกุฏิอีก 2 หลัง

ปี พ.ศ. 2475 สร้างศาลาไม้หลังใหญ่ ยกพื้นสูง ไม้เนื้อแข็ง มุงดินเผา (ดินขอ) ขนาดน่าจะประมาณ 30 คูณ 30 เมตร เคยไปนอนที่ศาลานี้ 1 คืน

ปี พ.ศ. 2477 สร้างแล้วเสร็จ ระหว่างนี้มีพระองค์เจ้านามว่าองค์เจ้าเฉลิมพล กับหม่อมเจ้าโสลถีผล จากเมืองกรุง พร้อมด้วยมหาดเล็ก ชี่งเดินทางมาเทียวชมภาคอิสาณ เดินทางจาก อ ท่าบ่อ มาแวะพักแรมนอนค้างคืนที่วัดนี้ 1 คืน พอรุ่งเช้ากินข้าวเสร็จก็ออกเดินทางไปที่ อ บ้านผือ ชาวบ้านถือว่าเป็นมงคลยิ่ง (ระยะทางระหว่าง อ ท่าบ่อ ถึง อ บ้านผือ ประมาณ 22 กม สมัยนั้น เป็นทางเกวียน ทางเดินเท้า ดินทราย ข้างทางเต็มไปด้วยต้นไม้ต่าง ๆและไผ่โจด

ปี พ.ศ. 2483 พระอาจารย์เงิน ได้พาคณะชาวบ้านฯ สร้างพระพุทธรูปทอง (น่าจะเป็นโลหะต่าง ๆ เช่่นทองเหลือง ทองแดง สัมฤทธิ์ ฯลฯ) ญาคูดี เป็นช่างปั้นเบ้าหล่อพระทอง จำนวน 7 องค์ หล่อเสร็จสวยงามจับใจ ทำพิธีมอบให้วัดเป็นที่สักการะบูชา (ญาคูดี น่าจะเป็นพระเกจิ ที่อยู่ ป ลาวตามประวัติญาคูดี เป็นชาว จ อุบลราชธานี ป ไทย เป็นสหมิกธรรมกับสมเด็จสังฆราชแพ แห่งวัดสุทัศน์วนาราม เรียนได้มหา เปรียญ 3 ประโยค และต้องการปลีกวิเวกหาความสงบชักพัก แล้งจึงจะกลับมาเรียนต่อ วางแผนว่าต้องการไปสัมผัสภูเขาควาย แห่ง ป ลาว ให้ได้ เพราะกิตติศัพย์ภูเขาควายน่าทึ่งมาก เช่น เป็นเมืองบังบด มีภูตผี ฤาษีคนธรรท์ เทวดา จึงชวนคณะได้ออกธุดงค์จาก ป ไทย ไป ป ลาว และท่านญาคูดี ก็ได้อยู่ ป ลาว จนละสังขาร สาเหตุที่ญาคูดีไม่ได้กลับ ป ไทย อาจจะมีเงือ่นไขกับอาจารย์ที่ยอมสอนวิชาให้
ก็เป็นได้ เท่าทราบยุคนั้นญาคูดี ท่านเป็นเกจิอันดับต้น ๆ ของป ลาว เห็นที่ปรึกษาของพระเจ้ามหาชีวิตลาว น่าจะเป็นสมเด็จสังฆราชด้วยหรือเปล่า อันนี้ไม่แน่ใจ เป็นสหมิกธรรมกับหลวงปู่เครื่อง-หลวงปู่เพชร เป็นพระอาจารย์ของนายพลกองมี นายพลกองแล คู่ปรับของ นายพลวังเปา หากท่านใดที่เกิดช่วงปี 2495- 2510 น่าจะได้ยินเรื่องราวของนายพลทั้ง 3 นี้บ้าง สร้างพระเสร็จแล้วพระอาจารย์ได้เดินธุดงค์ไปที่ สระบุรี ลพบุรี

ปี พ.ศ. 2485 ระหว่าง 2 ปีนี้ (พ.ศ.83-85 ) ชาวบ้านได้ส่งข่าว และตามหาหลวงปู่ให้กลับมาอยู่ที่วัด หลวงปู่จึงได้เดินทางกลับมาอยู่ประจำที่วัดศรีวิไล

ปี พ.ศ.2485 กลับมาอยู่ประจำที่วัด ได้พัฒนาวัดและหมู่บ้านให้น่าอยู่ จวบถึงปี พ.ศ.2491 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลโคกคอน เพิ่มอีกตำแหน่ง ปรึกษา ชักชวนชาวบ้าน หารือเรื่องสร้างอุโบสถวัดศรีวิไล ชาวว่านเห็นดีเห็นงามกันทั่วหน้า จึงได้ประกาศไปหลาย ๆ หมู่บ้าน แต่ละหมู่บ้านได้ส่งตัวแทนมาช่วยเป็นอย่างดี ได้จ้างช่างแกว(คนญวน)และช่างไทยพวน ชึ่งเป็นช่างที่มีฝีมือในการก่ออิฐดิน ช่างก่อสร้างเผาขั้นเทพทั้งชาวบ้านก็ได้ช่วยทั้งแรงกาย เงิน พระอาจารย์ ได้ควบคุม ดูแลตลอด จนแล้วเสร็จ ปี พ.ศ. 2507 ใช้เวลา 16 ปีสิ้นเงินทั้งหมด 150,000 บาท

นับได้ว้าเป็นอุโบสถที่ใหญ่โต สวยงามมาก ในเขต อ ท่าบ่อ นี้หารือกันฉลองฯ ปี พ.ศ. 2507 เดือน 3 แรม 3 ค่ำ ( น่าจะ ก.พ -มี ค) 3 วัน 3 คืน ป่าวประกาศ โฆษณา ออกไป ผู้คนต่างยินดี ที่จะมาร่วมงานนี้ ทั้พี่น้องฝั่งช้ายแม่น้ำโขง (สปป. ลาว) ทั้งพี่น้องชาวเขมร (กัมพูชา), ชาวกรุง คงหมายถึงลูกศิษย์ทาง กทมฯ ,สระบุรี ,สนามแกงบ้านหมี่-ลพบุรี มีมหรสพมาร่วมประชันหลายอย่าง อาทิ หมอลำกลอน (มีหมอลำฝ่ายชาย 1 หญิง 1 และหมอแคนเพศชาย 1 รวม 3 คน แสดงสดอยู่บนเวที ยกพื้นสูงขนาดประมาณ 5 คูณ 5 เมตร มีตะเกียงเจ้าพายุ 1 ดวง ห้อยอยู่เหนือหัว)มีลำเรื่องต่อกลอน , มีลิเก , มีรำวง ผู้คนมาเที่ยวงานอย่างสนุกสนาน มากมายทุกวันคืน

วัตถุมงคลต่าง ๆ เริ่มสร้างวัตถุมงคล ประมาณปี พ.ศ. 2490

##### หลวงปู่เงิน จันโท ได้ มรณะภาพอย่างสงบเมื่อ ปี พ.ศ. 2528 #####

พระเครื่องที่เกี่ยวข้องในร้านค้านี้...

อื่นๆ...

กำหลังโหลด Comments
Top