พญาเต่าเรือน หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน พิจิตร ปี 2451-2563-เต๋า พระเครื่อง - webpra
"คนซื่อถือสัตย์ปฏิบัติใจจำรัสซื่อสัตย์คนตรงยืนยงผลส่งให้ค่าส่งความป็นคนอยู่แห่งหนห้วงใดก็เจริญจำรัส"

หมวด หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน – หลวงพ่อเขียน วัดสำนักขุนเณร

พญาเต่าเรือน หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน พิจิตร ปี 2451-2563

พญาเต่าเรือน หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน พิจิตร ปี 2451-2563 - 1พญาเต่าเรือน หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน พิจิตร ปี 2451-2563 - 2พญาเต่าเรือน หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน พิจิตร ปี 2451-2563 - 3พญาเต่าเรือน หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน พิจิตร ปี 2451-2563 - 4พญาเต่าเรือน หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน พิจิตร ปี 2451-2563 - 5
ชื่อร้านค้า เต๋า พระเครื่อง - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า
ชื่อพระเครื่อง พญาเต่าเรือน หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน พิจิตร ปี 2451-2563
อายุพระเครื่อง 116 ปี
หมวดพระ หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน – หลวงพ่อเขียน วัดสำนักขุนเณร
ราคาเช่า 30,000 บาท
เบอร์โทรติดต่อ บ้าน,02-951-6724,มือถือ 094-101-9330
อีเมล์ติดต่อ sss.group1980@gmail.com
LINE
(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
สถานะ พระมาใหม่
Facebook
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ พ. - 25 ก.ย. 2567 - 16:15.23
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ พ. - 25 ก.ย. 2567 - 16:15.23
รายละเอียด
ประวัติความเป็นมาของ พญาเต่าเรือน
จากคติความเชื่อที่ว่า พญาเต่าเรือน เป็นภาคหนึ่งของพระพุทธเจ้า ที่กล่าวไว้ในพระเจ้า 500 ดังนี้เมื่อครั้งที่พระโพธิสัตว์เจ้าได้เสวยพระชาติเป็น พญาเต่าเรือน คือ มีตัวใหญ่เหมือนอย่างเรือนหรือบ้านเล็ก ๆ มีนามว่า “มหาจิbตรจุล” ได้อาศัยอยู่บนเกาะแห่งหนึ่ง ต่อมาไม่นานได้เกิดเหตุการณ์พายุเข้าบริเวณเกาะ เหตุให้เรือสำเภาที่ผ่านไปมาอับปางใกล้เกาะดังกล่าวนึ้น จึงมีผู้คนว่ายน้ำหนีตายมาอาศัยอยู่บนเกาะนี้เป็นจำนวนมาก เมื่อหมู่มนุษย์พากันขาดอาหารและน้ำ จึงพากันคิดที่จะทำร้ายพญาเต่าโพธิสัตว์
พญาเต่าเรือน หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน จ.พิจิตร ปี 2451-2562
พญาเต่าเรือน หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน จ.พิจิตร พญาเต่าเรือน หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน จ.พิจิตร ปี 2451-2562พญาเต่าเรือน หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน จ.พิจิตร ปี 2451-2562
Photo by ร้านพระเครื่อง “วังไทรกรุ๊ป”
ประวัติความเป็นมาของ พญาเต่าเรือน
จากคติความเชื่อที่ว่า พญาเต่าเรือน เป็นภาคหนึ่งของพระพุทธเจ้า ที่กล่าวไว้ในพระเจ้า 500 ชาติ ดังนี้

เมื่อครั้งที่พระโพธิสัตว์เจ้าได้เสวยพระชาติเป็น พญาเต่าเรือน คือ มีตัวใหญ่เหมือนอย่างเรือนหรือบ้านเล็ก ๆ มีนามว่า “มหาจิตรจุล” ได้อาศัยอยู่บนเกาะแห่งหนึ่ง ต่อมาไม่นานได้เกิดเหตุการณ์พายุเข้าบริเวณเกาะ เหตุให้เรือสำเภาที่ผ่านไปมาอับปางใกล้เกาะดังกล่าวนึ้น จึงมีผู้คนว่ายน้ำหนีตายมาอาศัยอยู่บนเกาะนี้เป็นจำนวนมาก เมื่อหมู่มนุษย์พากันขาดอาหารและน้ำ จึงพากันคิดที่จะทำร้ายพญาเต่าโพธิสัตว์
ในครั้งนั้นพญาเต่าโพธิสัตว์คิดว่า ในเมื่อชาวบ้านต่างเดือดร้อน จนถึงขั้นต้องมาคิดฆ่าเราเพื่อความอยู่รอด พญาเต่าโพธิสัตว์จึงได้มีจิตอนุเคราะห์ ขึ้นไปบนภูเขาแล้วกลิ้งตัวเองลงมาหมายที่จะบริจาคทานด้วยเลือดและเนื้อของตนเองเพื่อเป็นอาหารของเหล่ามนุษย์ ผู้คนเหล่านั้นจึงได้อาศัยเนื้อของพญาเต่าเรือนโพธิสัตว์บริโภคเป็นอาหาร แล้วจึงเอากระดองเต่านั้น ทำเป็นเรือพาหนะ กลับสู่บ้านเมืองของตนอย่างปลอดภัยเมื่อคนเหล่านั้นได้กลับถึงบ้านเมืองพบครอบครัวอันเป็นที่รักแล้ว ก็มาระลึกถึงบุญคุณของพญาเต่าเรือนโพธิสัตว์นั้น จึงได้พากันวาดภาพพญาเต่าเรือนไว้สักการบูชาเพื่อเป็นเครื่องระลึกถึง เพื่อความเป็นสิริมงคลแห่งตน ต่อมาจึงได้พาก็สร้างเป็นรูปวัตถุมงคลรูปเต่าลงอักขระเลขยันต์ปลุกเสกไว้บูชาสืบทอดกันมาถึงปัจจุบันด้วยอานุภาพแห่งมหาทานอันยิ่งใหญ่แห่งพญาเตาเรือนโพธิสัตว์นั้น

ประวัติการสร้าง พญาเต่าเรือน หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน
สำหรับพญาเต่าเรือน ว่ากันมาว่าหลวงพ่อเงินท่านได้สร้างเต่าเรือนขึ้นมาเพื่อทดสอบในการหลอมโลหะและทำการเทพิมพ์เพื่อเตรียมจะสร้างรูปหล่อและเหรียญจอบต่าง ๆ ของท่านขึ้นภายในวัด ประกอบกับด้วยเป็นการสร้างเต่าเรือนตามตำนานพระโพธิสัตว์เจ้า 500 พระชาติ เชื่อว่าท่านได้สร้างช่วงประมาณ ปี 2451-2562 จำนวนการสร้างนั้นไม่ชัดเจน
พุทธคุณ
พญาเต่าเรือน มีพุทธคุณโดดเด่นด้านเมตตามหานิยมโชคลาภ ทำการค้าเจริญก้าวหน้าตามลักษณะของเต่าที่มีแต่เดินหน้า ถอยหลังไม่เป็น ร่ำรวยและรุ่งเรืองแบบมั่นคงยาวนานตามเต่าซึ่งอายุยืน ปกป้องคุ้มครองป้องกันภัย เหมือนมีกระดองเต่ามาคลุมตัว
ลักษณะรูปร่างและขนาด
พญาเต่าเรือน หลวงพ่อเงิน มีหลายขนาด หลายแบบ และหลายทรง ขนาดตั้งแต่เหรียญ 25 สตางค์ถึงเหรียญห้าบาท บางองค์มีขนาดใกล้เคียงกับรูปหล่อหลวงพ่อเงิน บางองค์ก็มีขนาดเล็กกว่า เนื้อเป็นโลหะผสมแก่ทองเหลือง


หลวงพ่อเงิน พุทธโชติ
ประวัติ หลวงพ่อเงิน ผู้สร้างพญาเต่าเรือน
หลวงพ่อเงิน พุทธโชติ เป็นชาวบ้านบางคลานโดยกำเนิด เกิดเมื่อวันศุกร์ เดือน 10 ปีฉลู ตรงกับวันที่ 16 กันยายน 2353 เป็นบุตรคนที่ 4 ในจำนวน 6 คน ของนายอู๋ และ นางฟัก ในปี 2356 ลุงได้พาไปอยู่กรุงเทพฯ จนเติบโตเข้าศึกษาเล่าเรียนได้จึงได้นำไปฝากไว้ที่วัดตองปู (วัดชนะสงคราม) พออายุได้ 12 ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณร เมื่ออายุครบบวชได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุที่วัดชนะสงคราม ได้ฉายา “พุทธโชติ” ศึกษาร่ำเรียนพระธรรมวินัยและวิปัสสนากรรมฐาน ท่านยังได้ไปถวายตัวเป็นศิษย์ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒจารย์ (โต พรหมรังสี) วัดระฆังโฆสิตาราม และ หลวงพ่อโพธิ์ วัดวังหมาเน่า พระเกจิผู้เรืองวิทยาอาคม

ต่อเมื่อโยมปู่ของท่านป่วยหนัก ท่านจึงได้เดินทางกลับมายัง อ.โพทะเล จำพรรษาอยู่ที่วัดคงคาราม 1 พรรษา แล้วย้ายมาจำพรรษาอยู่ที่วัดท้ายน้ำ ต่อมาจึงย้ายไปอยู่หมู่บ้านวังตะโกซึ่งลึกเข้าไปทางลำน้ำเก่า โดยนำกิ่งโพธิ์จากวัดเดิมมาด้วย 1 กิ่ง ตั้งจิตอธิษฐานว่า “… ถ้าจะเจริญรุ่งเรือง ขอให้ต้นโพธิ์นี้เจริญงอกงามแผ่กิ่งก้านสาขากว้างใหญ่…” กาลต่อมาปรากฏว่าต้นโพธิ์ของท่านได้เจริญงอกงามดังคำอธิษฐาน นับตั้งแต่นั้นตลอดมา วัดวังตะโก หรือ วัดหิรัญญาราม ก็เจริญรุ่งเรืองตามลำดับ ชื่อเสียงของหลวงพ่อได้ขจรไปทั่วทุกทิศานุทิศ มีคนมาขอถวายตัวเป็นลูกศิษย์ด้วยความเคารพศรัทธามิได้ขาด มาขอเครื่องรางของขลัง, รักษาโรคภัยไข้เจ็บ, อาบนํ้ามนต์ ฯลฯ

อื่นๆ...

กำหลังโหลด Comments
Top