-
พระฯแท้ในราคาไม่แรงขายตามราคาที่ลงไว้ ถ้าเห็นว่าไม่ใช่ราคาที่รับได้
ผ่านเลยครับท่าน จะได้ไม่เสียเวลาทั้งสองฝ่าย -
ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยือนครับ*** พระฯมาใหม่จะลงไว้ช่วงหน้าต้นๆ
*** ค้นหาพระฯเฉพาะ เข้าดูตามหมวดหรือพิมพ์ชื่อที่ช่องค้นหา
หมวด พระเกจิภาคกลางตอนล่าง
พระพิมพ์พระผงสุพรรณ หลวงพ่อสนิท วัดลำบัวลอย จ.นครนายก
![พระพิมพ์พระผงสุพรรณ หลวงพ่อสนิท วัดลำบัวลอย จ.นครนายก - 1](/upload/shopItem2/1113/785273-1c632.jpg)
![พระพิมพ์พระผงสุพรรณ หลวงพ่อสนิท วัดลำบัวลอย จ.นครนายก - 2](/upload/shopItem2/1113/785273-2c353.jpg)
ชื่อร้านค้า | อัปสรา อมิวเลท - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า) |
---|---|
ชื่อเจ้าของร้านค้า | |
ชื่อพระเครื่อง | พระพิมพ์พระผงสุพรรณ หลวงพ่อสนิท วัดลำบัวลอย จ.นครนายก |
อายุพระเครื่อง | 59 ปี |
หมวดพระ | พระเกจิภาคกลางตอนล่าง |
ราคาเช่า | - |
เบอร์โทรติดต่อ | (ไม่แสดงเบอร์ เนื่องจากรายการนี้ไม่ได้ปล่อยเช่า) |
อีเมล์ติดต่อ | tociii2003@yahoo.com |
LINE |
(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
|
สถานะ |
![]() |
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ | พฤ. - 14 ก.พ. 2556 - 14:09.52 |
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ | พฤ. - 13 ก.พ. 2563 - 20:06.11 |
รายละเอียด | |
---|---|
+ จัดสร้างไว้ประมาณ ปี ๒๕๐๙ และมายุติการสร้างเมื่อ ปี ๒๕๑๖ +++ การติดต่อ +++ facebook : พระเครื่องร้านอัปสรา อมิวเลท โทร. : 089-7673123 e-mail : tociii2003@yahoo.com (9.9.5) ++ คัดลอกประวัติการจัดสร้างพระเครื่องฯรุ่นนี้ (บางส่วน) มาจาก www.watlumbualoy.com, ข้อมูลจาก หลวงพ่อประดิษฐ์ อนุตโร กรรมการวัดลำบัวลอย ในปัจจุบัน ขออนุญาตเผยแพร่และขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วย “ ... หลวงปู่สนิท ยสินธฺโร จึงได้จัดสร้าง พระเนื้อดิน ผสมว่าน และ ผงที่ท่านเพียรลบแบบโบราณ เพื่อ การปฎิบัติพระกรรมฐาน ตามใบจารึกลานทอง ที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ สุพรรณบุรี ระบุไว้นั้น โดยถอดแบบ พระพิมพ์ผงสุพรรณ แบ่งได้ ๒ พิมพ์ ๑. พระผงสุพรรณ พิมพ์ใหญ่ พระเศียร ออกมน และพิมพ์ ค่อนข้างตื้น วรรณะส่วนใหญ่สีดำ มีรอยมัดหวาย นิ้วมือกดที่ด้านหลังพระพิมพ์ ๒. พระผงสุพรรณ พิมพ์เล็ก พระเศียร ออกตัด และพิมพ์ค่นข้างลึก วรรณะส่วนใหญ่ สีแดง มีรอยมัดหวาย นิ้วมือกด ที่ด้านหลังพระพิมพ์ พระผงรุ่นนี้ หลวงปู่สนิท ท่านได้จัดสร้างไว้ ประมาณ ปี ๒๕๐๙ และมายุติการสร้าง เมื่อ ปี ๒๕๑๖ และ ท่านได้ทำการอธิษฐานจิตเรื่อยมา แต่แปลกตรงที่พระรุ่นนี้ ท่านได้นำไปไว้ในสวนว่าน บนดาดฟ้า กุฎิ ตากแดด ตากฝน มาเป็นเวลา ๓๐ กว่าปี โดยมาพบเจอ จากคนงานก่อสร้าง ขึ้นไปทำความสะอาด หลังจากที่หลวงปู่สนิท ได้มรณะภาพ แล้ว จำนวน ๓ บาตร เนื่อพระโดน แดด โดนฝน จึงมีความแกร่งพิเศษ หรือ อีก วาระหนึ่ง ท่านต้องการให้พระชุดนี้ ได้อาบแสงตะวัน และ แสงจันทรา ในทางศาสตร์โบราณที่หลวงปู่สนิท ท่านได้ศึกษามา จากครูบาอาจารย์ ก็เป็นได้ ประสบการณ์ พระพิมพ์ผงสุพรรณ จากผู้ที่ได้รับ นำกลับไปบูชา ต่างกล่าวถึง พุทธคุณ อันไม่ยิ่งหย่อน กว่า กรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ เมืองสุพรรณบุรี ทั้งทางด้านคงกะพันชาตรี และเมตตา บารมี แคล้วคลาดปลอดภัยจากภยันอันตรายต่างๆ ตามเจตนาที่หลวงปู่สนิท ยสินธฺโร ท่านตั้งใจสร้างพระรุ่นนี้ อีกรุ่นหนึ่ง เพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนา และ เป็นกำลังใจให้ญาติโยม ที่ปฎิบัติดี ปฎิบัติชอบ ได้มีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นที่ยึดมั่น ในการ ทำความดีต่อพระศาสนา สืบไป “ ++ คัดลอกประวัติของหลวงพ่อสนิท วัดลำบัวลอย มาจาก http://www.itti-patihan.com ขออนุญาตเผยแพร่และขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วย “ ประวัติหลวงพ่อสนิท วัดลำบัวลอย นามเดิมของท่านคือ สนิท นามสกุล มีพงษ์ เกิดเมื่อวันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2468 ( ในแผ่นดินรัชกาลที่ 6 ) ณ บ้านบางกุ้ง ต.บางกุ้ง อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี เมื่อครบอายุบวชท่านได้อุปสมบทที่วัดท่าเรือ เมื่อวันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2491 โดยมีท่านพระครูอุทัยธรรมธารี (หลวงพ่อตี่ สุริยวงศ์สวัสดี) วัดท้าวอู่ทอง จ.ปราจีนบุรี เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการจรูญ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอธิการทองพูนเป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “ยสินธโร” + ประวัติการศึกษาของหลวงพ่อสนิท เมื่ออุปสมบทแล้วท่านได้เดินทางกลับมายังวัดลำบัวลอย และเป็นยุคที่วัดเสื่อมโทรมที่สุด เพราะเจ้าอาวาสองค์เก่าได้ลาสิกขาไป เหลือแต่บรรดาพระภิกษุหนุ่ม และสามเณรน้อยดูแลความประพฤติกันเอง โดยมีภิกษุเพียง 2 พรรษาเป็นผู้ควบคุมดูแลหมู่คณะ เมื่อครั้งที่ท่านยังเป็นพระภิกษุหนุ่มท่านก็มิได้นิ่งนอน ทำวัตรสวดมนต์เสร็จกิจก็ท่องเจ็ดตำนาน สิบสองตำนาน ครบถ้วนกระบวนความเป็นเครื่องยังชีพ ที่ต้องไปสวดร้องท่องบ่นฉลองศรัทธาที่มานิมนต์ นอกจากท่านร่ำเรียนเจ็ดตำนาน สิบสองตำนานแล้ว หลวงพ่อท่านยังค้นคว้าร่ำเรียนพระธรรมวินัย อันเป็นคำสั่งสอนเวไนยสัตว์ให้หลุดพ้นจากกิเลส เครื่องตรึงรัดมัดใจ ให้หลงในลาภสักการะและยศถาบรรดาศักดิ์ต่างๆ และเรียนรู้กฏระเบียบแห่งการปกครอง และคำบัญญัติข้อห้ามของพระภิกษุ สามเณร แต่ว่าสอบนักธรรมในพรรษาแรกไม่ได้ + ประวัติด้านการศึกษาพระเวทย์ ในปี 2496 หลังจากหลวงพ่อสนิทอุปสมบทได้ 6 พรรษา ซึ่ง หลวงพ่อสนิท วัดลำบัวลอย ท่านได้สอนพระภิกษุ-สามเณรในวัด จนสอบนักธรรมตรีได้หลายองค์ ทางพระเถระชั้นผู้ใหญ่จึงให้หลวงพ่อสนิทท่านสอบนักธรรมสนามหลวง หลวงพ่อสนิทท่านจึงสอบนักธรรมสนามหลวงผ่านถึงนักธรรมชั้นโท ในปีหลังๆ ต่อมาท่านก็ไม่ได้ไปสอบอีกต่อไป คงรับหน้าที่อบรมสั่งสอน พระลูกศิษย์ลูกหาเสมอมา เกี่ยวกับทางด้านการศึกษาค้นค้าทางด้านพุทธาคม เนื่องจากหลวงพ่อสนิทท่านสนใจทางไสยศาสตร์และโหราศาสตร์ได้เสาะแสวงหาอาจารย์ร่ำเรียนคัมภีร์ เลขยันต์ เวทมนต์ คาถาอาคมขลังสรรพวิยาคุณต่างๆจนแตกฉาน ชำนิชำนาญด้านสรรพคุณไสยด้านถูกกระทำย่ำยีจากศัตรู รู้รอบด้านการแก้สรรพพิษ ยาเบื่อ ยาเมา และยาสั่ง จาก “ หลวงพ่อดำ วัดกุฎิ ” เกจิอาจารย์ ผู้เรืองวิทยาคม เป็นเจ้าตำรับผู้สร้าง พระปิดตา เนื้อตะกั่วดำ พิมพ์ปักเป้า อันลือชื่อด้านการป้องกันพิษยาสั่ง และคงกระพันชาตรี + ศิษย์อาจารย์เส็ง ซื่อสัตย์ วัดสันทรีย์ เมื่อครั้งสมัยหนุ่มแน่นนั้น หลวงพ่อสนิท ยสินธโร ได้เดินทางไปปราจีนบุรี เสาะหาอาจารย์ชื่อดังที่สร้างและปลุกเสก “ จระเข้โทน “ กับพระอาจารย์เส็ง แห่งวัดสันทรีย์ อดีตเจ้าอาวาสวัดสันทรีย์ ครั้งแรกในการสร้างและปลุกเสกจระเข้โทนเกิดขึ้นราวๆปี 2470 เป็นเนื้อตะกั่วสีดำ ขนาดลำตัวยาวราวๆ 4 เซนติเมตร หลวงพ่อสนิทท่านมีศักดิ์เป็นหลานของ พระอาจารย์เส็ง ซื่อสัตย์ ซึ่งพระอาจารย์เส็งท่านเป็นเจ้าอาวาสรูปแรกของวัดสันทรีย์ ตั้งแต่ปี 2435 จนถึง 2476 และท่านได้ลาสิกขาบท ซึ่งต่อมาเมื่อหลวงพ่อสนิท มาฝากตัวร่ำเรียนวิชาจระเข้โทนที่วัดสันทรีย์ ซึ่งหลังจากท่านได้ลาสิกขาบทแล้วท่านได้ประสิทธิ์ประสาทวิชาให้หลวงพ่อสนิทจนหมดสิ้น และท่านได้ถ่ายทอดวิชาจระเข้โทนจนสำเร็จ จนหลวงพ่อสนิทสามารถสร้างจระเข้โทน เนื้อชินตะกั่วสีดำ และสร้างจระเข้ปางนารายณ์อวตารหลังลูกศรนารายณ์ (จระเข้รุ่นจันทร์เพ็ญ) ในเวลาต่อมา นอกจากนี้ท่านยังได้เรียนวิชาแพทย์แผนโบราณจาก พระครูอุทัยธรรมธารี (หลวงพ่อตี่ สุริยวงศ์สวัสดี) วัดท้าวอู่ทอง จ.ปราจีนบุรี อีกด้วย และได้เดินทางไปศึกษาพระเวทย์จากหลวงพ่อพระอาจารย์ทองดำ วัดโคกหม้อ จ.นครสวรรค์ จนสำเร็จวิทยาคมต่างๆ ทั้งตำรายาโบราณการสูญฝี และโรคภัยต่างๆอย่างชำนาญ + หลวงพ่อสนิท มรณภาพเมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2542 สิริอายุรวม 74 ปี พรรษา 51 และได้มีการพระราชทานเพลิงศพ เมื่อวันที่ 18 มีนาคม พ.ศ.2544 ท่ามกลางศิษยานุศิษย์ และสาธุชนผู้เลื่อมใสศรัทธาในองค์หลวงพ่อสนิท ปรากฏว่าวันงาน ผู้คนแขกเหรื่อมากันจนแน่นขนัดวัด จนล้นออกมานอกวัด นับเป็นประวัติการณ์ และเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์ สรีระของท่านไม่เน่าเปื่อย และเส้นเกศาที่เคยปลงเก็บไว้ก็แปรสภาพเป็นพระธาตุอย่างน่าอัศจรรย์เป็นอย่างยิ่ง “ |
พระเครื่องที่เกี่ยวข้องในร้านค้านี้...
![](/upload/shopItem2/1113/669931-1c4c5.jpg)
![](/upload/shopItem2/1113/1083868-1037c.jpg)
![](/upload/shopItem3/1113/1272006-165f1.jpg)
![](/upload/shopItem3/1113/1345368-135a8.jpg)
![](/upload/shopItem2/1113/1191680-145a7.jpg)
![](/upload/shopItem2/1113/1192136-108fc.jpg)
![](/upload/shopItem3/1113/1281903-1f8d0.jpg)
![](/upload/shopItem2/1113/1059678-1933b.jpg)
![](/upload/shopItem2/1113/1169696-1de8a.jpg)
![](/upload/shopItem2/1113/1226903-16274.jpg)
อื่นๆ...
กำหลังโหลด Comments